เหล่าประมุขในหมู่คนผู้ยิ่งใหญ่ต่างลงมือ เข้าสู่การต่อสู้ดุเดือด ต่างฝ่ายล้วนเผชิญหน้ากับการโจมตีของอีกฝ่ายได้ทุกเวลา
ถึงแม้ว่าประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยจะกันประมุขประจิมหลางชิงไว้ได้ แต่ว่าสภาวะโจมตีของประมุขอิสานหลิวเจิงกู่ก็ยังคงถูกประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินขัดขวาง
แค่การเสียเวลาไปเล็กน้อยนี้ นักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาก็บรรลุถึงด้านหลัง แล้วต่อยหมัดหนึ่งใส่
ตอนนี้บนมือของนักพรตเทียนอี้มีสายฟ้าสีเขียวที่แตกต่างจากประกายอัสนีสีม่วงของหลิวเจิงกู่วนเวียนอยู่ เนื่องจากได้รับสืบทอดจากจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เหมือนกัน สายสืบทอดของอารามสูงส่งจึงฝึกฝนวิชาสายฟ้า
คัมภีร์อายุวัฒนามีความสามารถครอบจักรวาล นอกจากผู้ฝึกฝนจะมีพลังชีวิตมากมายแล้ว ยังใช้สายฟ้าเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย รับพลังงานที่แข็งแกร่งได้ มาตรแม้นว่าจะรุนแรงไม่เท่าวิชาเทพสายฟ้าของตำหนักขุยสายฟ้า ทว่าวรยุทธ์ของอารามสูงส่งก็ดุดันมากเช่นกัน
หมัดประกายอัสนีแดนเซียนนี้ เป็นท่าไม้ตายลับที่ถูกบันทึกอยู่บนคัมภีร์อายุวัฒนา
นักพรตเทียนอี้ใช้ปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตาย เปลี่ยนปราณชีวิตให้เป็นปราณความตาย จากนั้นก็กระตุ้นท่าหมัดประกายอัสนีแดนเซียน ลงมือสุดกำลัง มีอานุภาพสุดเปรียบปาน!
“เปิด!” หลิวเจิงกู่ถูกเขาลอบตีเข้ามาด้านหลัง แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อน สูดหายใจตวาดขึ้นราวกับสายฟ้า สั่นสะเทือนเขตตะวันอาคเนย์จนผืนดินสั่นภูเขาสะเทือน
ชายชราสวมมงกุฎม่วงไม่ได้หลบ ขณะเดียวกันบนร่างก็มีประกายอัสนีสีทองทะลักขึ้นมา การไหลของเวลาในมิติรอบๆ คล้ายกับกำลังจะหยุดนิ่งในชั่วพริบตา
ทุกอย่างราวกับไม่เปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์ คงอยู่ชั่วกาลนานไม่เสื่อมคลาย
หมัดประกายอัสนีแดนเซียนของนักพรตเทียนอี้พุ่งใส่ประกายอัสนีสีทอง ไม่มีการระเบิดสะเทือนฟ้าดิน ไม่มีกระแสอากาศที่ปั่นป่วนไปทั่ว
พริบตานี้เหมือนกับหยุดนิ่ง กลายเป็นชั่วนิรันดร์
สายฟ้านิรันดร์ สายฟ้าที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ห้าของสายฟ้าเซียนทั้งเก้า!
ชั่วนิรันดร์กับพริบตา ขั้วตรงข้ามแห่งเวลา
หากศึกษาความหมายของชั่วนิรันดร์และชั่วพริบตาได้ ย่อมเห็นถึงความลับของกาลเวลา
สายฟ้าเซียนทั้งเก้ามีความสามารถแตกต่างกัน สายฟ้านิรันดร์กับสายฟ้าชั่วพริบตาที่ถูกจัดอยู่ในอันดับห้าและอันดับหก เมื่อประสานกันแล้วจะก่อเกิดเป็นความหมายที่แท้จริงของกาลเวลา
วิธีต่อสู้ของหลิวงเจิงกู่ดุดัน บ้าคลั่ง และสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล แต่เมื่อมีสายฟ้านิรันดร์อยู่กับตัว ขอแค่ไม่ก้าวข้ามขีดจำกัด ลมปราณญาณจริงแท้ธาตุสายฟ้าของประมุขอิสานผู้นี้ก็แทบจะไร้ขีดจำกัด
วิชาสายฟ้าชนิดนี้ใช้ปกป้องร่างกาย ทั้งยังมีพลังป้องกันแข็งแกร่ง
หลิวเจิงกู่ใช้สายฟ้านิรันดร์ต้านทานหมัดของนักพรตเทียนอี้ ร่างกายส่ายไหว ใบหน้าสีบานเย็นซีดขาว จากนั้นก็กลับคืนสู่ลักษณะเดิมในชั่วอึดใจ
เขาสูญเสียโอกาสไปเพราะว่าเลี่ยนจู่หลิน แต่เขายกได้ก็วางได้ ไม่สนใจจวงเซินอีก ชักมือกลับมาแทงใส่จุดอ่อนตรงทรวงอกของนักพรตเทียนอี้!
นักพรตเทียนอี้ตาเป็นประกาย สายฟ้าสีเขียวเต้นเร่าในม่านตาสองข้าง แต่ในส่วนลึกสุดกลับปรากฏสายฟ้าสีม่วง!
พลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง!
การระเบิดพลังนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
นั่นคือสายฟ้าชั่วพริบตา!
ในตอนที่ได้เศษชิ้นส่วนดวงตาของราชาสายฟ้ามาจากเซี่ยงอีหยาง ลูกศิษย์ของอารามสูงส่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาออก และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่านักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาจะบรรลุวิชาสายฟ้าชั่วพริบตา
ตอนนี้เมื่อเขาใช้ออกมาก็ไม่ธรรมดาอย่างที่คาดไว้ ด้วยเดิมทีเขาเป็นมนุษย์เซียน พลังในตอนนี้ลุกไหม้และระเบิดอย่างฉับพลัน เพียงชั่วอึดใจเดียวพลังระเบิดอันน่ากลัวก็ทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าประมุขอิสานหลิวเจิงกู่เสียอีก
เมื่อสองมือประสานกัน ก็กระแทกเข้าใส่หอกยาวสีดำอมเขียวที่เกิดจากประกายอัสนี หักทวนยาว บดขยี้แสงสายฟ้ามากมาย!
หอกยาวแหลกสลาย กลายเป็นแสงสายฟ้ากระจัดกระจายไปทั่วสี่ทิศ ทำให้ฟ้าดินรอบๆ อาบอยู่ในพายุสายฟ้าโดยสมบูรณ์
เสาสายฟ้าหยาบใหญ่หลายต้นผ่าลง พุ่งใส่ผิวทะเล จากนั้นก็เจาะทะลวงผืนสมุทร จากนั้นเสาสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนค่อยตั้งตรงแผ่กระจาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นนรกสายฟ้าโดยสิ้นเชิง
ขณะนี้น่านน้ำของดินแดนจิตคุณธรรมที่เขากว่างเฉิงอยู่อันตรายยิ่งกว่าดินแดนสุทธทัศน์ ที่มีพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดพัดโหมเสียอีก
จอมยุทธ์ที่ยังไม่สำเร็จถึงขั้นสะพานเซียน อย่าว่าแต่ถูกสายฟ้าผ่าโดน ต่อให้หลุดเข้าไปในอาณาเขตสายฟ้านี้ เพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็จะถูกระเบิดเป็นผุยผง ไม่อาจรอดออกไปได้
การระเบิดในครั้งนี้ทำลายหอกราชาเทพสายฟ้าของหลิวเจิงกู่ และทำให้ลมหายใจของนักพรตเทียนอี้เบาลงหลายส่วน แต่ว่าเขาก็ยังสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ไม่ทันไรก็กลับสู่สภาพเดิม
นักพรตเทียนอี้ศึกษาวิชาสายฟ้าชั่วพริบตาอยู่หลายปี เดิมทีมีระดับพลังฝึกปรือสูงล้ำอยู่แล้ว อีกทั้งยังบรรลุการควบคุมมัน จึงปรับระดับการระเบิดของสายฟ้าชั่วพริบตาได้ดั่งใจนึก ไม่ได้เผาไหม้พลังของตัวเองจนหมดสิ้นในครั้งเดียว
ตอนนี้เอง หลิวเจิงกู่จู่โจมมาอีก สายฟ้าระเบิดติดต่อกัน สภาวะเหมือนกับไม่มีสิ้นสุด
นักพรตเทียนอี้มีใบหน้าเคร่งเครียด เขาเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า ใช้อ่อนสยบแข็ง ถ่วงเวลาหลิวเจิงกู่อีกคน
เงาแสงสาดส่อง ภาพการต่อสู้ของประมุขผู้ยิ่งใหญ่ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ในเขตเพลิงทักษิณทางตะวันตกและเขตหยางเทียนทิศใต้ทางตะวันออก
จอมยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนถอนใจชมเชย
คิดถึงตอนนั้น ประมุขทักษิณจวงเซินใช้หนึ่งสู้สี่ เผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเช่นพวกแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์และหลงฮั่นหวาที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดพร้อมกัน ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง กลับเคลื่อนมีดเหลือที่ว่าง[1]
ในตอนนี้ เมื่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ยอดฝีมือระดับประมุขเหล่านี้จึงค่อยแสดงฝีมือของตนออกมาอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเหตุใดระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ กับขั้นเก้าจึงแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ทว่าในการต่อสู้ครั้งนี้กลับมีตัวตนที่ไม่สอดคล้อง ท้าทายความรู้ของผู้คนอยู่
สิ่งที่ท้าทายทัศนคติอันแข็งแกร่งของผู้คนคือ ตัวตนเช่นนี้มีไม่ต่ำกว่าหนึ่ง!
เลี่ยนจู่หลินเห็นหลิวเจิงกู่ถูกนักพรตเทียนอี้พัวพันไว้อีกครั้ง ก็ย้ายความสนใจไปที่เขากว่างเฉิงซึ่งอยู่ตรงหน้า
แต่ในตอนนั้นเอง ตรงหน้านางพลันมีประกายดาบสายหนึ่งสว่างขึ้น
ประกายดาบกระจัดกระจาย ธรรมชาติคล้ายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะมัน
จิตดาบอันแข็งแกร่งซึ่งเกรี้ยวกราดอหังการ กลายเป็นดาบผ่าฟ้า ฟันใส่ทะเลสีชาดและเจ้าของทะเลสีชาดอยู่เหนือเขากว่างเฉิง!
ทะเลสีชาดที่ยิ่งใหญ่รุนแรงซัดลงพร้อมพลิกตัว สุดท้ายถึงกับถูกประกายดาบแหวกออกตรงกลาง!
ประกายดาบทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นขั้นตอนการสร้างโลกตั้งแต่เปิดฟ้าผ่าดิน ไปจนถึงการทำลายฟ้าดิน
ไม่ใช่การเปิดฟ้าดินธรรมดา ไม่ใช่การสร้างสู่การทำลายธรรมดา แต่ว่าเป็นขั้นตอนที่สมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดจบ ดังนั้นจึงไม่อาจขัดขวาง!
การสร้างสรรค์แปรเปลี่ยน สภาวะยิ่งใหญ่ขึ้น ม้วนคลุมทุกสิ่ง บดขยี้ทุกอย่าง!
แม้จะเป็นทะเลสีชาดที่ประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินควบคุม ก็ยังถูกทำลายจากตรงกลาง น้ำทะเลพากันแหวกออกไปสองข้าง!
คนที่ออกดาบในตอนนี้ บนที่แห่งนี้มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น
เยี่ยนตี๋ เจ้าสำนักเขากว่างเฉิงคนปัจจุบัน!
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียระยะกลาง สู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คนตรงๆ!
สองตาของประมุขประจิมเลี่ยนจู่หลินสาดประกาย สีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นางพลันพลิกมือวูบหนึ่ง!
แสงสีขาวบังเกิดขึ้นบนท้องทะเลสีชาดพอย่างไร้เค้าลาง รวมตัวกัน ใสดุจดั่งผิวกระจก
เป็นวรยุทธ์ของสายทะเลสีชาด แสงสีชาดหยินหยางแปรเปลี่ยน
ประกายกระจกสีขาวสายหนึ่งสาดลง ดูเล็กละเอียด แต่บริเวณที่มันผ่านล้วนพาให้ชีวิตขาดสะบั้น
จิตสังหารและปราณปีศาจที่อยู่ด้านในแข็งแกร่งกว่าทะเลสีชาดเมื่อครู่ พลังงานรวมตัวกันเป็นเส้นเดียวโดยสมบูรณ์ เป้าหมายคือเยี่ยนตี๋เพียงคนเดียว!
เยี่ยนตี๋หาได้เกรงกลัวไม่ ทิศทางที่คมดาบมุ่งไปไม่สั่นไหว ฟันใส่เลี่ยนจู่หลินโดยตรง!
………………..
[1] เคลื่อนมีดเหลือที่ว่าง หมายถึง กระทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างเชี่ยวชาญจนดูง่ายดาย