อารมณ์เร่าร้อนที่อยู่ห้องข้างๆ ในที่สุดก็ถึงจุดสุดยอด
คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณกระตือรือร้นขึ้นเล็กน้อย ผุดกายขึ้นเดินไปยังด้านในห้องศิลาซึ่งอยู่ด้านข้าง
เฉินคุนหัวสีหน้าไร้อารมณ์ ติดตามอยู่ด้านหลังมายังห้องด้านข้างเช่นกัน
ภายในห้องมีสภาพเละเทะ ทั้งสองฝ่ายยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ ฝ่ายบุรุษคือชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าค่อนข้างน่าเกรงขาม เพียงแต่ตอนนี้บนใบหน้าล้วนฉายแววสิ้นหวังคับข้อง
ถ้าหากจอมยุทธ์เกาะสุมมรกตที่อยู่ด้านนอกเห็น เกรงว่าจะต้องแตกตื่นตกใจ เพราะบุรุษวัยกลางคนผู้นี้เป็นผู้ปกครองเกาะสุมมรกตของพวกเขาเอง
ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางคนหนึ่งเป็นผู้นำและผู้ปกครองอยู่ในบริเวณทะเลแหน ทว่าตอนนี้เขากลับเหมือนตุ๊กตาชักใย ควบคุมร่างไม่ได้
พอเห็นประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวสองพี่น้องเข้ามา ในดวงตาที่สับนของเขาก็ปรากฏเพลิงโทสะไร้สิ้นสุด แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เขาหันไปมองสตรีทางด้านนั้น ยิ่งอับอายแทบคลุ้มคลั่ง
สตรีนางนั้นตอนนี้ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่รูปร่างหน้าตาของนางกลับแตกต่างจากคนธรรมดา ถึงแม้ร่างกายจะสะโอดสะอง ทำให้ผู้คนเกิดความคิดคำนึง แต่ว่าบนผิวสีม่วงมีประกายโลหิตสีแดงหลายสายวนเวียน ลวดลายมารที่ละลานตาและแปลกประหลาดทำให้ยามมองดูเกิดความรู้สึกสั่นไหว
ในสองตาไม่เห็นตาขาวและม่านตา
ในเบ้าตาของนางเป็นสีดำขลับ
แต่ว่าดวงตาเช่นนี้กลับก่อให้เกิดเสน่ห์อันชั่วร้าย ล่อลวงคนให้ติดอยู่ด้านใน ไม่อาจควบคุมตัวเองได้
ทั่วทั้งร่างของสตรีนางนี้ไม่มีที่ไหนไม่ปรากฏความรัญจวน นั่นเป็นจิตที่สตรีซึ่งเป็นคนธรรมดาไม่อาจมีได้
ทั้งๆ ที่ไม่แสดงท่าทีขวยเขิน รูปลักษณ์ภายนอกกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์อันชั่วร้าย แต่กลับมีความกระสันไร้สิ้นสุด
แรงดึงดูที่ราวกับมีผลต่อวิญญาณของสตรีผู้นี้ ต่อให้ผู้คนคิดตั้งสมาธิ สงบสติอารมณ์ก็ยากจะทำได้
คุณชายดินเฉินคุนหัวมองสตรีนางนี้พร้อมกับลอบถอนใจ ‘มารจริงแท้จากนพยามโลกช่างประหลาดจริงๆ!’
ผู้ปกครองเกาะสุมมรกตในตอนนี้มีใบหน้าไร้ชีวิตชีวา อับอายแทบอยากตาย เพราะสตรีตรงหน้าคือจอมมารที่มาจากนพยมโลก!
นอกจากนี้ยังเป็นมารจริงแท้จากนพยมโลกที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดตนหนึ่งด้วย ต่อให้ไม่อาศัยพลังล่อลวงจิตใจ พลังของนางก็มากพอจะสู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนคนหนึ่งได้!
จอมมารในนพยมโลกมีความประหลาดเหลือแสน กอปรกับมีความเปลี่ยนแปลงมากมาย บางพวกก็สะกิดความคลุ้มคลั่งของคน บางพวกก็ล่อลวงผู้คน มารสาวนางนี้สามารถลวงจิตใจของมนุษย์ได้ ล่อให้คนมาสมสู่กับนาง ช่วงชิงพลังของคนในชั่วพริบตา ทำให้ชีวิตโรยรา
เพียงแต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามารสาวนางนี้กำลังเดือดดาลยิ่ง ในลมหายใจที่น่าลุ่มหลง จิตที่ทรงเสน่ห์ชั่วร้ายเย็นซึ่งเยียบและปั่นป่วนปรากฏชัดมากขึ้น แทบจะกดวามรัญจวนสุดขีดนั้นลง แสดงให้เห็นว่านางในตอนนี้จิตใจไม่ปกติ
ในกระบวนการสมสู่เมื่อครู่ นางกลับถูกสะกดพลังไว้ ไม่อาจช่วงชิงพลังของบุรุษที่อยู่อีกด้านได้ นางได้แต่ยอมรับอย่างจนปัญญา เหมือนกับสามีภรรยาปฏิบัติหน้าที่ให้แก่กัน ตอนสุดท้ายยังต้องรับแก่นชีวิตของฝ่ายชายมาด้วย
พอคิดถึงตรงนี้ ผู้ปกครองเกาะสุมมรกตก็แทบอยากจะหาร่องแยกบนพื้นแล้วมุดเข้าไป
จอมยุทธ์ที่เหมือนกับเขา สกัดสารจำเป็นและหลอมปราณ ถ้าหากตนไม่ต้องการ ก็จะไม่มีทางเหลือทายาทหรือสายเลือดเอาไว้
แต่เมื่อครู่เขาถูกคนควบคุม สุดท้ายได้แต่มองสภาพทุลักทุเลของตัวเองตาปริบๆ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงตรงหน้ากระทำ!
เฉินเฉียนหัวราวกับไม่เห็นสายตาที่แทบจะพ่นไฟออกมาของผู้ปกครองเกาะสุมมรกต กลับมองไปยังมารสาว
เสน่ห์ล่อลวงของอีกฝ่ายไม่มีผลอะไรกับเขา หลังจากเขาสำรวจดู ก็เปลี่ยนเป็นไร้ความสนใจอีกครั้ง “ไม่ได้ตั้งครรภ์ ดูเหมือนการสมสู่ระหว่างมนุษย์กับมารจะไม่อาจให้กำเนิดตามปกติได้”
เฉินคุนหัว น้องชายของเขาถอนใจ “ก่อนหน้านี้ท่านพี่ไม่ได้นำจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอีกสองคนของเกาะสุมมรกตแห่งนี้มาทดลองแล้วหรือ”
เฉินเฉียนหัวมีสีหน้าผิดหวัง “ต้องลองหลายๆ ครั้งถึงจะใช้ได้”
“ท่านพี่เหตุใดจึงยึดติดกับเรื่องนี้นัก” เฉินคุนหัวถาม
“คนกับคนให้กำเนิดบุตรน่าอัศจรรย์ถึงขนาดไหน? คนกับมารสมสู่จนกำเนิดทายาท ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันก็มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งกรณี” เฉินเฉียนหัวเอ่ยอย่างไม่นำพา “แต่การสมสู่ระหว่างคนกับมารจากนพยมโลก ที่แล้วมาไม่เคยให้กำเนิดทายาท เรื่องนี้ทำให้ข้าสนใจ”
เฉินคุนหัวยิ้มขื่น ผู้คนล้วนทราบว่ามารจากนพยมโลกนอกจากมารเผ่าพันธ์อื่นแล้ว มารจริงแท้โดยกำเนิดล้วนเกิดจากการสืบพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติของปราณที่มีความเป็นหยินและชั่วร้ายถึงขีดสุดในนพยมโลก
ระหว่างมารด้วยกันก็ไม่มีทายาทที่ก่อกำเนิดขึ้นจากการผสานหยินหยางเช่นกัน
เขาอดกล่าวขึ้นไม่ได้ว่า “ท่านพี่ไฉนจึงชมชอบเรื่องที่ยุ่งยากแต่กลับไร้ความหมายเช่นนี้นัก”
เพิ่งพูดจบ เฉินคุนหัวก็รู้สึกเสียใจทันที
คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงด้านหน้าเขาคล้ายกลับไม่สนใจ ตอบเรื่อยเปื่อยว่า “เพระาข้ารู้สึกสนใจ เจ้าสมควรทราบว่าเรื่องที่น่าสนใจนั้นมีค่าขนาดไหน โลกน่าเบื่อหน่ายเช่นนี้ ก็ได้แต่ต้องหาความหรรษาให้แก่ตัวเอง”
เขาออกจากห้องสงบใจโดยไม่หันหน้ากลับ ผู้ปกครองเกาะสุมมรกตกับมารสาวตนนั้นถูกลืมไปจนหมดสิ้น เขาไม่จดจำใส่ใจอีกแล้ว อยากจะทำอะไรก็ตามใจ
เฉินคุนหัวที่อยู่ด้านหลังถอนใจอีกครั้ง
ท่านพี่ยังมีนิสัยอย่างเดิม แต่เขาก็ไม่อาจไม่ใส่ใจ
พร้อมกับพลังฝึกปรือที่เพิ่มขึ้น เรื่องราวเหลวไหลที่ท่านพี่ซึ่งชมชอบทำอะไรตามใจก็ยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิจะเสียดายคนมีความสามารถขนาดไหน ก็เกรงว่าจะเกิดความไม่พอใจแล้ว
ฉายาคุณชายฟ้ากับคุณชายดินเป็นสิ่งที่ควรเปล่งประกายอย่างเต็มที่ จึงจะได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าในนี้จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยภายนอกก็ต้องทำตัวให้สมกับฐานะถึงจะใช้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้คุณชายดินเช่นเขาก็ได้รับผลประโยชน์กว่าเดิม
เฉินคุนหัวส่ายหน้า ไม่ได้ตามออกไปในทันที แต่มาถึงด้านหน้าผู้ปกครองเกาะสุมมรกตและมารสาวนางนั้น
เขายกมือขึ้นและฟาดลงอย่างไร้สุ้มไร้เสียง หนึ่งคนหนึ่งมารล้วนสังเวยชีวิต
มารจะกำเนิดในนพยมโลกอีกครั้ง แต่กลับไม่สำคัญ
คนขอแค่ไม่อาจส่งเสียงได้อีกต่อไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เฉินคุนหัวค่อยออกจากห้องศิลา เห็นพี่ชายของตนกลับไปนั่งบนเก้าอี้ไม้โบราณด้วยท่าทีเกียจคร้านอีกครา
เฉินเฉียนหัวย่อมทราบเรื่องที่น้องชายของตัวเองทำ แต่กลับไม่ใส่ใจ จะฆ่าหรือไม่ฆ่าคน เขาล้วนไม่นำพา
“เจ้าไปเขากว่างเฉิงนั่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”
“แกร่งเหนือความคาดหมาย” เฉินคุนหัวตอบ ก่อนจะเล่าเรื่องที่ได้เข้าร่วมพิธีเปิดสำนักของเขากว่างเฉิงออกมาเที่ยวหนึ่ง
เฉินเฉียนหัวฟังด้วยท่าทีไม่สนใจ มีเพียงแต่ตอนได้ยินถึงพิธีบวงสรวงมรรคามารดรเอกภพ เมฆแปลงกำเนิด และชาติกำเนิดของเยี่ยนตี๋เท่านั้น ดวงตาถึงเป็นประกายเล็กน้อย
“น่าสนใจกว่าที่คิดไว้ ข้าชอบยิ่ง” คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงหัวเราะ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจครั้งหนึ่ง “ไม่ได้เจอคนที่น่าสนใจเช่นนี้มานานแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะยังมีเรื่องที่ข้าสนใจกว่าอยู่ ก็อยากจะไปเล่นกับพวกเขาจริงๆ”
เฉินคุนหัวได้ยินดังนั้นก็มองพี่ชายของตัวเอง เฉินเฉียนหัวหัวเราะอย่างมีลับลมคมนัย “เจ้าไม่ใช่แปลกใจอยู่หรอกหรือ ว่าเหตุใดสุดท้ายจักรพรรดิแพรไม่ไป”
“เป็นฝีมือของพี่ใหญ่ท่านหรือ” เฉินคุนหัวตกใจทีเดียว
“ไม่ เป็นฝีมือของจวงเซิน” เฉินเฉียนหัวจิตใจล่องลอยไปไกล “จวงเซินใช้ชีวิตน่าเบื่อมาโดยตลอด กลับคิดไม่ถึงว่าก่อนที่จะตายได้ทำเรื่องที่มีความหมายขนาดนี้ เสียดายที่ข้าไม่พบก่อน ไม่อย่างนั้นจะไปช่วยที่เขากว่างเฉิง ต่อจากนั้นไม่แน่ว่าจะประหลาดใจกว่าเดิม”
เฉินคุนหัวครั้งนี้สงสัย “จักรพรรดิแพรสุดท้ายเป็นอย่างไร”
เฉินเฉียนหัวยิ้ม “เขาเสียสติแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินคุนหัวก็ถึงกับตะลึงอยู่กับที่
“คิดไม่ถึงกระมัง?” เฉินเฉียนหัวหัวเราะร่า “ข้าเองก็คิดไม่ถึง ดังนั้นจึงมีความหมายนัก!”
“ท่านพูดเช่นนี้ ข้าจะไม่ไปดูได้อย่างไร”
ร่างของเฉินคุนหัวกลายเป็นรุ้งสายหนึ่งท่ามกลางเสียงหัวเราะของพี่ชาย ข้ามกลุ่มเขา หายไปจากเกาะสุมมรกต
………………..