ในนพยมโลก เยี่ยนจ้าวเกอทำให้จักรพรรดิแพรถูกธาตุไฟเข้าแทรกสาหัสกว่าเดิมผ่านสายฟ้าทันใจ
เฉินเฉียนหัวทั้งๆ ที่ไม่ได้เห็นวิชาก่อนหน้ามาก่อน แต่หลังจากเห็นจักรพรรดิแพรก็รู้ความสำคัญที่อยู่ด้านในทันที
นี่เป็นผลงานของคัมภีร์เกิดนภา
ในตอนที่ต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ กลับไม่ได้แสดงความสามารถของคัมภีร์เกิดนภาออกมา
นั่นไม่ใช่เพราะเฉินเฉียนหัวควบคุมตัวเอง แต่เป็นเพราะว่าเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต
“เคล็ดวิชาและวรยุทธ์ที่เฉินทิศบนบรรลุมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่แล้วเป็นวรยุทธ์ที่สาปสูญไปนาน แต่กลับปรากฏขึ้นในมือของเขา” หลงฮั่นหัวกล่าวอย่างใคร่ครวญ “ทั้งยังมีของวิเศษที่ยอดยี่ยมมากมาย ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมีการคาดเดาหลากหลาย ทว่าวันนี้พอคิดดูอีกที รากฐานของเขาถ้าหากเป็นคัมภีร์เกิดนภา ก็กล่าวได้ว่ามีเหตุผล”
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่
เรื่องราวมากมายยังไม่เกิดขึ้น กลับเห็นถึงผลลัพธ์
จะว่าไปก็เป็นปัจจัยที่สะดวกยิ่ง แต่ว่าในการปฏิบัติจริงกลับไม่แน่ว่าจะราบรื่น
การทราบถึงผลลัพธ์ไม่ได้หมายความว่ามีความสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ ต่อให้หยั่งรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้ หากรู้เยอะ เห็นเยอะ ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าชีวิตช่างน่าเบื่อ
กระนั้นก็ไม่ใช่คนทีฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภาทุกคนที่ฝึกฝนจนสำเร็จเช่นเฉินเฉียนหัว ความพิเศษและรากฐานของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเฉินอยู่ที่ตัวเขาเอง
“เฉินเฉียนหัวเก็บรวบรวมคัมภีร์นภาแรกเริ่มสายหยกพิสุทธิ์ได้มากเท่าไรแล้ว” เกาเสวี่ยโพโพล่งถาม
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่เขาเคยคิดเช่นกัน
“นอกจากคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตและคัมภีร์เกิดนภาแล้ว ที่เหลือเขาล้วนรวบรวมครบ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ
เกาเสวี่ยโพพยักหน้าอย่างแช่มช้า “คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าเป็นคัมภีร์เบิกนภา…”
คนที่อยู่รอบๆ สบตากัน สีหน้าฉายแววเหมือนนึกถึงอะไรออก
บนโลกซ้อนโลกมีการสืบทอดคัมภีร์เบิกนภา เพียงแต่ว่าอยู่ในมือของคนไม่กี่คน
“ความจริงเมื่อดูจากนิสัยของคุณชายใหญ่เฉินผู้นี้แล้ว ข้ากับรู้สึกว่าเขาไม่ได้ต้องการคัมภีร์เบิกนภา” เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วแตะริมฝีปาก
พวกหลงฮั่นหัวไม่เคยสัมผัสกับเฉินเฉียนหัว จึงไม่เข้าใจการรำพึงรำพันของเยี่ยนจ้าวเกอ
“ประมุขทิศบนต่อสู้กับจักรพรรดิแพรงาม…จ้าวเกอเจ้าไปเห็นที่ไหน” เกาเสวี่ยโพถาม
เรื่องของจักรพรรดิแพรงาม โดยเฉพาะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนทะเลสาบสะท้อนดารา โลกซ้อนโลกเก็บเป็นความลับในระดับสูง ทางมรกตท่องฟ้าจึงไม่ได้ข่าว
เยี่ยนจ้าวเกอเล่าให้ฟังคร่าวๆ สองสามประโยค เกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้สบตากัน ต่างฝ่ายต่างเห็นความประหลาดใจในดวงตาของอีกฝ่าย ‘ช่วงนี้ทางโลกซ้อนโลกมีแต่เรื่องน่ากังวลจริงๆ’
ถึงจะให้ความสนใจ แต่เห็นได้ชัดว่ามรกตท่องฟ้าไม่คิดจะสอดมือเข้าไปในเรื่องของโลกซ้อนโลก
พวกเกาเสวี่ยโพกลับรู้สึกสนใจต่อเรื่องในนพยมโลกมากกว่าเดิม
นพยมโลกเป็นศัตรูของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็เป็นเหมือนกัน
ที่เต๋าเซียนโถงนอกรีตยังรังเกียจยิ่งกว่ามรกตท่องฟ้าเสียอีก
กระนั้น ในตอนที่คุยกันเรื่องเหล่านี้ เกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้ก็คุยกันด้วยการส่งกระแสเสียง ไม่ให้หลงฮั่นหัวได้ยิน
“จ้าวเกอ เจ้ายังไม่ได้อยู่ในระดับประมุข และไม่ได้มีเมฆแปลงกำเนิดคอยคุ้มครองเหมือนบิดาเจ้า กลับได้ยินชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ เกรงว่า…” เกาเสวี่ยโพขมวดคิ้ว “ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโลกซ้อนโลกหรือมรกตท่องฟ้า ต่างยังไม่เจอวิธีแก้ไขที่เหมาะสม”
“ทำให้อาจารย์ลุงเกาเป็นห่วงเสียแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ข้ากลับไม่มีความรู้สึกพิเศษเหมือนกับแม่นางฟู่ถิง”
เกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้เลิกคิ้วเล็กน้อย “อ้อ?”
เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “ข้าเองก็ไม่แน่ใจสาเหตุอย่างเป็นรูปธรรม แต่ว่าข้าฝึกฝนสิบสองวิชาประกายกาฬ วิชาสุดท้ายในนี้เกี่ยวข้องกับความลับของการไร้ขอบเขต คิดว่าน่าจะมีส่วน”
“สิบสองวิชาประกายกาฬของจักรพรรดิประกายกาฬเกี่ยวข้องกับความลับของการไร้ขอบเขตจริงๆ แต่แค่นี้ยังไม่พอ” หลงเสวี่ยจี้พูด “เทวกษัตริย์ไร้ประมาณมีอิทธิพลต่อผู้สืบทอดของสำนักเต๋าเรา หมัดแปลงกำเนิดสายเอกพิสุทธิ์เกรงว่าไม่อาจป้องกันได้หมด”
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน “กงจักรมหาประกายกาฬถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้สมบูรณ์อย่างแท้จริง แต่เพราะข้าอาศัยการฝึกสิบสองวิชาประกายกาฬเพื่อหล่อเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด พอมาประสานกันแล้ว บางทีอาจก่อให้เกิดผลที่ต่างไปจากเดิม”
“นั่นก็ยากจะพูดจริงๆ” หลงเสวี่ยจี้พยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าผ่อนคลายลงมาก
เกาเสวี่ยโพมีสีหน้าเหมือนกัน “น่าเสียดายที่ต่อให้วิชานี้ใช้ได้ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนส่วนใหญ่”
อาวุธเซียนหายาก บนโลกใบนี้จะมีตัวอ่อนอาวุธเซียนที่แฝงความลี้ลับไร้สิ้นสุดเช่นกงจักรมหาประกายกาฬสักกี่ชิ้น
หลังจากทุกคนคุยกันสักพัก เกาเสวี่ยโพก็กล่าวว่า “จริงด้วย เจ้าอุตส่าห์มาทั้งที มีที่หนึ่งที่อยากจะให้ไปดู”
“เป็นที่อยู่เดิมของท่านย่าหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็เข้าใจทันที “ขอบคุณอาจารย์ลุงเกาที่ใส่ใจ ข้ากำลังมีความคิดนี้อยู่พอดี เพียงแต่กลัวว่าถ้าพูดออกมาตรงๆ จะเสียมารยาทไป”
ตี๋ชิงเหลียน จักรพรรดิหลินจือม่วงเป็นยอดฝีมือของมรกตท่องฟ้าที่มีจำนวนน้อยนิด เป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุด
เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะเป็นลูกหลานของนาง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ การเข้าไปในที่อยู่เดิมของตี๋ชิงเหลียน จะมากจะน้อยก็ต้องระวังข้อห้ามบางอย่าง
“จ้าวเกอไม่ต้องกังวลไป ที่อยู่เดิมของอาจารย์อาเล็ก เจ้าย่อมไปได้” หลงเสวี่ยจี้กล่าว “ตามข้ามา”
หลงเสวี่ยจี้นำทางด้วยตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มีความรู้สึกได้รับความเมตตาโดยไม่ได้คาดหมาย กลับลอบเกาศีรษะ
ดูท่าทางแล้ว ก็ยังเป็นการฝืนข้อห้ามบางอย่างอยู่ดี
ดังนั้นต่อให้หลงฮั่นหัวนำทาง ก็ใช่ว่าจะสะกดทัพด้วยตัวเองได้ หลงเสวี่ยจี้จึงไสม้าออกมาด้วยตัวเอง
ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของมรกตท่องฟ้าไม่ได้มีแค่ครอบครัวของกษัตริย์ลี้ลับเท่านั้น
ถึงแม้ว่ากษัตริย์ลี้ลับจะมีตำแหน่งสูงส่งในมรกตท่องฟ้า แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่ใต้หล้าของนาง
ตอนอยู่บนโลกซ้อนโลก เยี่ยนจ้าวเกอได้ทราบจากพวกหวังผู่ เนี่ยจิงเสิน และเฉาเจี๋ยแล้ว ว่าเทียบกับสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก ที่มรกตท่องฟ้าหากนับจักรพรรดิน้ำพุหลงด้วย จะเป็นสองกษัตริย์สี่จักรพรรดิ
กษัตริย์อีกคนหนึ่ง ก็คืออาจารย์ของกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนและตี๋ชิงเหลียนย่าของตน เป็นบูรพาจารย์ในตำนานของมรกตท่องฟ้า
ว่ากันว่าเขาได้รับบาดเจ็บ ปกติแล้วเก็บตัวเข้าฌาน ดังนั้นในตอนนี้มรกตท่องฟ้าจึงมีกษัตริย์ลี้ลับเป็นผู้ปกครอง
ทว่ากษัตริย์ลี้ลับกลับไม่อาจตัดสินทุกอย่างในมรกตท่องฟ้าได้
แน่นอนว่าเมื่อบูรพาจารย์เข้าฌานไม่ออกมา ในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของมรกตท่องฟ้าในปัจจุบัน กษัตริย์ลี้ลับจึงมีน้ำหนักในคำพูดสูงที่สุด
นอกจากนี้หลงเสวี่ยจี้ยังได้เลื่อนสู่ระดับเซียน ตอนนี้มรกตท่องฟ้าจึงมีสองกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ
เทพกระบี่น้อยผู้นี้แม้เพิ่งกลายเป็นเซียน แต่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ อย่าเห็นว่าเขาเพิ่งจะเลื่อนเป็นระดับเซียน เพราะด้วยพลังพรสวรรค์อันล้ำเลิศของเขา นอกจากคนไม่กี่คนแล้ว จักรพรรดิส่วนใหญ่ล้วนไม่มีความมั่นใจเวลาสู้กับเขา
ระหว่างทาง เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นรู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายสายกำลังแอบมองตนอยู่
หลงเสวี่ยจี้สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ
สายตาเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างกลายเป็นคลื่นลมสงบนิ่งอีกครั้ง
หลงเสวี่ยจี้ไม่ได้กล่าวอันใด เพียงออกเดินอีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้พูดคุย ติดตามอยู่ด้านหลังเขาด้วยรอยยิ้ม
ความกว้างใหญ่ของมรกตท่องฟ้าย่อมสุดที่คนธรรมดาจะจินตนาการออก ที่นี่มีจอมยุทธ์และคนทั่วไปจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่
กระนั้นที่อยู่เดิมของตี๋ชิงเหลียนจะต้องอยู่บนเขาแหนเขียวอย่างไม่ต้องสงสัย
ภูเขาเซียนลูกนี้มีลักษณะคล้ายกับเขาคุนหลุนบนโลกซ้อนโลก เป็นใจกลางของมรกตท่องฟ้า
ยอดเขาเมฆาสีชาดบนเขาแหนเขียว เป็นที่อยู่เดิมของจักรพรรดิกระบี่ตี๋ชิงเหลียน ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอติดตามหลงเสวี่ยจี้ขึ้นไปถึงยอดเขาเมฆาสีชาด สิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกคือสระบัวแห่งหนึ่ง
………………..