บนหุบเขาผีเสื้อมังกร เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่เหนือกระถางทั้งเก้า โบกมือคราหนึ่ง มีกลุ่มควันหลายสายไหลเวียน
พริบตาเดียวปราณสีม่วงกว้างใหญ่ก็แผ่พุ่งทั่วหุบเขา เพียงแต่ถูกจำกัดไว้ภายในหุบเขา
เตาวิเศษสามขาขนาดใหญ่โตเตาหนึ่งปรากฏขึ้นในกลุ่มควันสีม่วง เป็นเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับนั่นเอง
เตาวิเศษเตานี้เป็นเตาโอสถ เพราะว่าแปลกพิสดารและมีระดับสูงส่งเกินไป ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอจึงยังควบคุมไม่ได้ แต่เขาหาวิธีใช้ความน่าอัศจรรย์ของเตาวิเศษจนทำให้ความปรารถนาอื่นๆ ของตัวเองเป็นจริงได้
เตาผลึกหินชั้นในเก้าเตาด้านล่างตั้งอยู่ในลักษณะของวังทั้งเก้า จากนั้นก็รองรับแสงสว่างสีทองม่วงหลายสายซึ่งไหลทะลักออกมาจากเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ
หนึ่งใหญ่เก้าเล็ก เตากระถางทั้งสิบเตา เตาใหญ่อยู่บน เตาเล็กอยู่ล่าง
แสงสว่างหลายสายกอปรกันกลางอากาศ ถึงกับสะท้อนเป็นเตาวิเศษมายาที่โปร่งใส และใหญ่กว่าเดิมเตาหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอสะกิดนิ้วเบาๆ กลุ่มควันสีม่วงเติมเต็มด้านในอย่างเต็มที่ เตาวิเศษมายาที่ตอนแรกโปร่งแสง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว
หลังจากที่ควันสีม่วงเหล่านั้นเข้าไปในเตา ยังมีวัตถุดิบหลากหลายซึ่งครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมเปิดเตาหลอมอุปกรณ์
เตามายากลายเป็นสีม่วงบริสุทธิ์ จากนั้นละอองแสงสีม่วงทองก็เกิดขึ้นมา
ลวดลายอาคมอันวิจิตรมากมายสลักใส่อากาศ แล้วยื่นเหยียดออกไปรอบๆ ก่อนจะค่อยๆ ประกอบกันเป็นสภาวะค่ายกล ครอบคลุมหุบเขาผีเสื้อมังกร แล้วประสานกับลวดลายค่ายกลที่ประทับอยู่บนดินเมื่อก่อนหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอเหาะลงไป นั่งขัดสมาธิบนเตาที่เหมือนกับยอดเขา
อาหู่ยืนอยู่ด้านล่างเตา ทางหนึ่งจัดการวัตถุดิบหลักที่เหลือ ทางหนึ่งหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนยอดเตา
ละอองแสงกระจายอยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกร แต่ว่าไม่สลายไป กลับกระตุ้นให้ปราณวิญญาณทั่วทั้งบริเวณมารวมกันที่นี่
ไม่ว่าจะเป็นการหลอมอุปกรณ์หรือการหลอมโอสถ ที่แล้วมาต่างเป็นงานที่กินเวลานาน จำเป็นต้องมีทั้งความอดทน ความใส่ใจ และเวลา
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ความสามารถทุกอย่าง ประหยัดเวลาได้มหาศาล
กระนั้นความสิ้นเปลืองพื้นฐานจำนวนหนึ่งก็ไม่อาจขาดไปได้
ในภูเขาไม่ทราบผ่านไปนานเท่าไร เมื่อใช้พลังสมาธิไปกับเรื่องเรื่องหนึ่ง เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน เยี่ยนจ้าวเกอที่นั่งอยู่บนเตาก็พลันลืมตา กล่าวเสียงเนิบช้า “เปิด!”
ตัวเขาลอยขึ้น จากนั้นเตาวิเศษสีม่วงเริ่มแยกออกจากกันพร้อมกับการลอยขึ้นของเขา!
ปราณสีม่วงเต็มฟ้าม้วนเป่ากระจายไปรอบๆ กลายเป็นชั้นเมฆหนาหนัก
สถานที่เดิมปรากฎเป็นสถานการณ์เตากระถางสิบเตา หนึ่งใหญ่ เก้าเล็ก
ในอากาศกลับมีแสงสีม่วงทองหลายสายหมุนเวียน ห่อคลุมวัตถุสิ่งของจำนวนหนึ่ง นั่นเป็นผลลัพธ์จากการเปิดเตาในครั้งนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ
อาหู่ที่ได้รับคำสั่งจากเยี่ยนจ้าวเกอแต่แรก รู้ว่าวันนี้จะมีการเปิดเตา เขาสะอึกกายเข้าไปอย่างกระตือรือร้น เห็นสิ่งของที่แสงสีม่วงทองห่อคลุม เป็นโลหะยาวเจ็ดท่อนที่งอโค้งในระดับหนึ่ง
บนผิวของโลหะเรียวยาวที่เหมือนกับจันทร์เสี้ยว สลักไว้ด้วยลวดบายอาคมหลายสาย
ลวดลายอาคมทุกสายล้วนเป็นค่ายกลอาคมที่แฝงหลักการที่ลี้ลับและมีความเฉพาะตัว
ค่ายกลอาคมมากมายเชื่อมต่อกัน ตระการตาเป็นอย่างยิ่ง
โลหะเรียวยาวเจ็ดท่อนเหมือนกับมีการเชื่อมต่อกันและกันอยู่
“คุณชาย ของสิ่งนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่” อาหู่วนดูโลหะเรียวยาวเจ็ดท่อนอยู่หลายรอบ ก่อนจะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมืออกมา กระดิกไปทางโลหะเรียวยาวเจ็ดท่อน
โลหะเรียวยาวที่บิดงอเจ็ดท่อนร่วงลงพร้อมกัน กลับล้อมอาหู่ไว้ จากนั้นก็หุบเข้าหากัน กลายเป็นกรงขังแบนยาว
“คุณชาย นี่คงไม่ใช่ทัณฑ์ทรมานอะไรสักอย่างกระมัง” อาหู่เห็นดังนั้นก็อดสยิวกายไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “ใช่แล้ว ช่วงนี้เจ้าไม่ขยันฝึกฝีมือ จำเป็นต้องมอบบทเรียนให้แก่เจ้า”
แสงสว่างขึ้นบนโลหะเรียวยาว จากนั้นก็กอปรกันเป็นพิธีกรรม
อาหู่ที่อยู่ด้านในกะพริบตาปริบๆ ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายใด
กลับเป็นปราณวิญญาณในกรงยาวเปลี่ยนเป็นเข้มข้นและบริสุทธิ์!
เขาคุนหลุนเดิมทีเป็นสถานที่ที่มีปราณวิญญาณเปี่ยมล้นที่สุดในโลกซ้อนโลก ถึงขั้นที่ทำให้จอมยุทธ์ที่มีระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำยากจะทานทนเพราะรับไม่ไหว
ถึงแม้ความเข้มข้นของปราณวิญญาณในหุบเขาผีเสื้อมังกรจะสู้สถานที่อย่างยอดเขาเป่ยเกา ยอดเขาหนานเกา หรือหุบเขาเซียนเร้นกายไม่ได้ แต่ก็นับว่ายอดเยี่ยม
ทว่าตอนนี้อาหู่อยู่ในพิธีกรรม กลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ปราญวิญญาณที่อยู่ด้านในบริสุทธิ์กว่าเดิม
ส่วนที่วิเศษยิ่งกว่าอยู่ที่ ด้วยระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้้นรวมรูปของเขา ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตัวอันใด
สภาพแบบนี้ อาหู่อย่าว่าแต่ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่ได้ฟังยังไม่เคยได้ฟัง
“คุณชาย นี่เป็นวิชาที่เอาไว้ช่วยดึงต้นอ่อนให้เติบโตหรือ” อาหู่ไม่ได้ลิงโลดจนคลุ้มคลั่ง มีแต่จะใจเต้นส่ำด้วยซ้ำ
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างไม่พอใจ “คิดให้มันดีๆ หน่อยได้หรือไม่”
เขางอนิ้วดีดใส่โลหะเรียวยาวที่บิดงอท่อนหนึ่งเบาๆ “วิชานี้มีชื่อว่าพิธีเจ็ดแก่นโคจร เป็นวิชาโบราณก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ มาจาก…วังเทพ”
วังเทพเคยมียอดฝีมือมากมาย แต่สุดท้ายก็ได้รับความเสียหาย
เพื่อฟื้นฟู ทางหนึ่งรวบรวมคน เลือกยอดฝีมือที่อยู่นอกวังเทพให้ขึ้นมาบนสวรรค์ชั้นเก้า อีกทางหนึ่งก็ฟื้นฟูตัวเองจากภายใน
เมื่อได้ครอบครองทรัพยากรจำนวนมหาศาล นอกจากคัมภีร์วรยุทธ์และโอสถวิญญาณยาวิเศษมากมายแล้ว วังเทพก็ใช้พิธีกรรมมากมายฟูมฟักจอมยุทธ์ เพียงแต่ว่าวิชาส่วนใหญ่ มีเงื่อนไขจำเป็นโหดร้ายยิ่ง
ในปัจจุบัน หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ผ่านพ้น วิชามากมายยากจะเผยโฉมออกมาอีกครั้ง
กระนั้น ก็มีส่วนหนึ่งที่ยังคิดหาวิธีได้
อย่าเช่นพิธีเจ็ดแก่นโคจรนี้ เยี่ยนจ้าวเกอนึกถึงมาโดยตลอด
ประโยชน์ของมันก็รวบรัดยิ่ง คือสกัดปราณวิญญาณให้บริสุทธิ์ ช่วยคนฝึกปรือ ทว่าผลลัพธ์กลับสร้างความตกตะลึงให้แก่คนที่ได้ยิน
คนคนเดียวกันหากฝึกในพิธีเจ็ดแก่นโคจร จะwfhผลลัพธ์ดีกว่าอยู่ด้านนอกพิธีเจ็ดแก่นโคจรหลายเท่า!
ไม่พูดถึงการศึกษาหลักการ แค่ในสถานการณ์ที่ต้องการสั่งสมและขัดเกลา ก็เรียกได้ว่าเบาแรงไปครึ่งหนึ่ง โดยจะลดเวลาที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ซึ่งขาดไปไม่ได้ในการฝึกในระดับแทบจะสูงสุด
คำกล่าวฝึกฝนหนึ่งปีเท่ากับคนอื่นฝึกหลายปี ก็คือสถานการณ์อย่างที่ว่านี้
“คุณชาย ท่านกับประมุขตระกูลฝึกฝนเร็วก่วาคนปกติ แบบนี้ไยไม่ใช่เร็วกว่าเดิม” อาหู่ยินดีเหนือความคาดหมาย
เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วลูบโลหะเรียวยาวที่งอครึ่งหนึ่ง “ก่อนหน้านี้ขาดวัตถุดิบหลัก ตอนนี้อุตส่าห์ได้วัตถุดิบมาแล้วย่อมต้องใช้ให้คุ้ม ที่น่าเสียดายก็คือ วัตถุดิบหายากเกินไป ยากจะผลิตขึ้นมา”
เขาหุบฝ่ามือ พิธีกรรมแยกส่วน กลายเป็นโลหะเรียวยาวงอครึ่งเจ็ดท่อนเรียงรายกัน แล้วก็เก็บมาพร้อมกัน
“เมื่อประหยัดเวลาได้ก็ต้องประหยัดให้เต็มที่” เยี่ยนจ้าวเกอส่งโลหะเรียวยาวเหล่านั้นให้อาหู่ “ต่อจากนี้ข้าจะหลอมชุดที่สอง เจ้านำพิธีกรรมชุดแรกนี้ไปมอบให้บิดาข้าที่ฝั่งทิศใต้”
อาหู่รีบรับไว้ “ขอรับคุณชาย ข้าจะรีบไปรีบกลับ”
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตามองส่งอาหู่ จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิ หลับตาทำสมาธิ
อาศัยพลังของเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ค่อนข้างเปลืองพลังจิตไปบ้าง
วัตุดิบในมือมีน้อย จะใช้สิ้นเปลืองไม่ได้ หากเกิดการหลอมสร้างล้มเหลวย่อมทำให้ผู้คนปวดใจเกินไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ลืมตา เหาะร่างขึ้น เริ่มหลอมอุปกรณ์อีกครา
ในเขาคุนหลุน หากทอดสายตามองไป หุบเขาผีเสื้อมังกรยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม
มีไม่กี่คนที่ทราบว่า กำลังมีมรสุมพัดขึ้นที่นี่
………………..