ตระกูลหลัวจากยอดเขาพยัคฆ์กระโจนจนปัญญายิ่ง
สำหรับพวกเขาแล้ว กระดานก่อนพิรุณมีความสำคัญต่อการเพิ่มความสามารถของตัวเอง ส่วนสากทำลายค่ายกลกลับทำลายและสะกดค่ายกลที่พวกเขาถนัด
เมื่อทั้งสองอย่างมีหนึ่งได้หนึ่งเสีย เกรงว่าตระกูลหลัวจะยังเสียเปรียบยิ่งกว่า
ถึงขั้นที่สากทำลายค่ายกลจะเป็นของที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญยิ่งกว่ากระดานก่อนพิรุณ ต้องใช้ความเป็นไปได้ทุกอย่างในการควบคุมจำนวนที่คนอื่นๆ จะได้สากทำลายค่ายกลไป อีกทั้งยังต้องป้องกันไม่ให้ขุมกำลังที่เป็นศัตรูกับตัวเองได้สากทำลายค่ายกลไป
อันตรายจากศัตรูที่ได้สากทำลายค่ายกลไปเป็นจำนวนมากนั้น น่ากลัวเสียยิ่งกว่าการที่ตนได้กระดานก่อนพิรุณไปเป็นจำนวนมากเสียอีก
ตัวแทนตระกูลหลัวทางหนึ่งร่ำร้องด่าทอในใจ ทางหนึ่งเร่งส่งคนกลับไปยังยอดเขาพยัคฆ์กระโจน แจ้งหลัวไป๋หยวนและหลัวเป่ยอย่างรวดเร็ว
การปรากฏขึ้นของสากทำลายค่ายกลก่อให้เกิดผลกระทบต่อโลกซ้อนโลกอย่างใหญ่หลวง แม้กระทั่งมีอิทธิพลเหนือกว่ากระดานก่อนพิรุณเสียอีก ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับตระกูลหลัว เมื่อเข้าใจถึงคุณค่าของมันแล้วต่างก็อยากได้มาครองทั้งสิ้น
ถึงแม้จะเป็นของวิเศษชนิดใช้แล้วทิ้ง แต่สากทำลายค่ายกลมีคุณค่าในด้านวางกลยุทธ์ระดับหนึ่งเหมือนกับเตาผลึกหินชั้นใน ดังนั้นของชิ้นนี้จึงกลายเป็นของวิเศษที่ขายดีและได้รับการตอบรับมากที่สุดในการเปิดตึกครั้งที่สี่ของตึกความลับฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ว่าตึกความลับฟ้ายังคงควบคุมจำนวนอย่างเคร่งครัด เพราะของยิ่งน้อย ผู้คนก็ยิ่งต้องการ
พอซื้อสากทำลายค่ายกลไม่ได้ ก็มีบางคนคิดสะสมทุนรอน รอคอยการเปิดตึกครั้งต่อไป มีบางคนซื้อของอย่างอื่นๆ เพื่อใช้เป็นการชดเชยทางจิตใจ
ตึกความลับฟ้าเล่นลวดลายใหม่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า คลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าซัดโหมจนทำให้ผู้คนเวียนศีรษะ จับทางไม่ถูก ยิ่งมายิ่งติดกับอยู่ด้านใน
โดยเฉพาะทุกๆ ระยะหนึ่ง ตึกความลับฟ้าจะเสนอของวิเศษอันใหม่ออกมา ซึ่งทำให้ผู้คนไม่อาจไม่โหยหา ไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วตึกความลับฟ้าจะมีไพ่ตายออยู่อีกเท่าไร
สิ่งที่ทำให้คนสนใจที่สุดก็คือ ของวิเศษของตึกความลับฟ้าในสิบส่วนมีอยู่เก้าส่วนเป็นของวิเศษที่โลกซ้อนโลกไม่เคยมีมาก่อน
วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ทำให้การสืบทอดวรยุทธ์จำนวนมากและของวิเศษล้ำค่ามากมายสูญหาย แม้จะมีของบางอย่างหลงเหลืออยู่ ทว่าก็เป็นของสำเร็จรูป ไม่มีวิธีหลอมสร้าง
ของสำเร็จรูปเมื่อใช้ไปหนึ่งก็หายไปหนึ่ง พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป หลายพันปีผันพ่าน ครั้นมาถึงปัจจุบันก็เท่ากับตกอยู่ในภาวะชะงักจากการการสูญหาย
ตึกความลับฟ้ากลับทำให้ของวิเศษที่สาบสูญไปหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง
ความยิ่งใหญ่ของจำนวน ทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยจินตนาการ
ตึกความลับฟ้าอาจจะไม่ใช่ไปได้ของสำเร็จรูปจำนวนหนึ่งมาโดยบังเอิญ แต่ครอบครองวิชาหลอมสร้างสากทำลายค่ายกล กระดานก่อนพิรุณ และเตาผลึกหินชั้นใน ดังนั้นขอแค่มีวัตถุดิบหลักมากพอ ก็อาจจะผลิดได้เป็นจำนวนมหาศาล
นี่ทำให้ผู้คนยิ่งมายิ่งตะลึงลาน
เป็นเพราะว่าสิ่งที่ตึกความลับฟ้าเผยออกมาในตอนนี้ อาจจะเผยแค่มุมหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งออกมาเท่านั้น
ใต้ทะเลลึก เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่แบบใดกันแน่
ยอดฝีมือระดับสูงส่วนหนึ่งไม่ได้สนใจหรือต้องการของวิเศษอย่างสากทำลายค่ายกลหรือกระดานก่อนพิรุณเป็นพิเศษ แต่พวกเขาก็มีของวิเศษที่ถวิลหา เพียงเคยเห็นบันทึกในเอกสาร หรือเคยได้ฟังถึงการดำรงอยู่ ทว่าเป็นของที่ตามหามาหลายปี แต่กลับไม่เคยเจอ
ความประหลาดใจนับไม่ถ้วนและศักยภาพอันน่าตกตะลึงของตึกความลับฟ้าทำให้พวกเขากระตือรือร้นและสนใจ
มาถึงภายหลังก็เริ่มมีคนมาขอให้ตึกความลับฟ้าทำของวิเศษบางอย่างเป็นการเฉพาะ!
“ท่านเหอต้องการยันต์คุ้มกันเก้าทบหรือ” เสี่ยวอ้ายกะพริบตาปริบๆ “ตึกเราไม่เคยจำหน่ายของชิ้นนี้ ไฉนท่านจึงมาหาพวกข้า”
ตอนนี้ไม่ใช่วันเปิดตึกของตึกความลับฟ้า เสี่ยวอ้ายจึงต้อนรับแขกที่โถงหลัง
คนที่อยู่ตรงข้ามกับนางคือลูกศิษย์ของจักรพรรดิแพรงาม ศิษย์พี่ของฟู่ถิง เหอซีสิง ‘โอบกอดไท่จี๋’
ถึงแม้ระดับพลังฝึกปรือของเหอซีสิงจะเหนือกว่าเสี่ยวอ้ายมากเหลือเกิน แต่ว่าบนใบหน้าของเขากลับไร้ความทะนงตน และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนยิ่งว่า “สิ่งของที่ตึกท่านจำหน่ายมีคุณภาพสูงยิ่ง ทั้งยังนำเสนอของใหม่มาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับมีไม่จำกัด ข้าผู้แซ่เหอย่อมต้องมาแสวงโชคที่นี่”
“ท่านเหอเกรงใจแล้ว ถ้าพูดถึงยันต์คุ้มกันเก้าทบแล้ว…” เสี่ยวอ้ายยิ้ม “ตึกเรามีจริงๆ แต่ว่าไม่มีของ หากท่านต้องการสั่งทำ เกรงว่าจะมีการใช้จ่ายส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเตรียมวัตถุดิบหลายอย่าง”
เหอซีสิงเพียงแค่มาลองแสวงโชคจริงๆ พอฟังดังนั้นตาก็พลันเป็นกระกาย “ในเมื่อสั่งทำก็ต้องจ่ายราคาสูงกว่าเดิม ย่อมเป็นการแลกเปลี่ยนที่สมควร”
ในร้านอื่นๆ แม้เหอซีสิงจะจ่ายเงินตามราคา กระนั้นก็ไม่จำเป็นต้องบวกราคาเพิ่ม
ไม่ใช่เพราะเขาทะนงตน แต่เป็นเพราะหน้าตาของผู้สืบทอดคนแรกแห่งยอดเขาอัศจรรย์เช่นเขาคุ้มค่ากับราคานี้แล้ว
การให้เขาติดค้างน้ำใจหรือการได้รับมิตรภาพจากขา เป็นเรื่องที่คนจำนวนมากต้องการแต่ทำไม่ได้ ทว่าตัวเหอซีสิงเองก็ต้องยอมรับว่าตึกความลับฟ้าเป็นข้อยกเว้น
เขาทราบว่าศักยภาพของตึกความลับฟ้าเป็นผู้ใดสร้างขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมีลูกศิษย์เขานครหยกเช่นพวกชิวเจียไห่คอยดูแล
“ต้องการวัตถุดิบอะไร ได้โปรดชี้แนะ ขอแค่ข้าผู้แซ่เหอหามาได้ ข้าจะหามาให้อย่างแน่นอน”
เสี่ยวอ้ายรายงานวัตถุดิบ ในบรรดาวัตถุดิบเหล่านั้นไม่ได้ใช้หลอมสร้างยันต์คุ้มกันเก้าทบทั้งหมด แต่ยังมีของจำนวนหนึ่งที่ตัวเยี่ยนจ้าวเกอต้องการด้วย
วัตถุดิบที่ให้เหอซีสิงตามหา ไม่ได้มีแค่วัตถุดิบที่เอาไว้ใช้กับยันต์คุ้มกันเก้าทบเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้เยี่ยนจ้าวเกอจะได้ประโยชน์ยิ่งกว่า ทั้งไม่เปิดเผยวิธีหลอมสร้างยันต์คุ้มกันเก้าทบ
เหอซีสิงก็พอจะรู้สึกได้ แต่ในเมื่อเป็นเขาขอให้ตึกความลับฟ้าทำให้ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมายเช่นนั้น
ดังนั้นบวกกับการเพิ่มราคาจากการสั่งทำ และค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการซื้อยันต์คุ้มกันเก้าทบ ตึกความลับฟ้าได้กำไรมาเป็นเงินถุงเงินถังในการทำธุรกิจแค่ครั้งเดียว
นี่ยังอยู่ในเงื่อนไขที่เยี่ยนจ้าวเกอเห็นแก่ยอดเขาอัศจรรย์มีไมตรีต่อตน อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์กับเหอซีสิงไม่เลว จึงไม่ได้รีดไถอะไรมากนั้น
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เยี่ยนจ้าวเกอจะยิ่งได้รายได้มากกว่าเดิม
คนที่สั่งทำก็ยินดี ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นของที่หาไม่ได้จากที่อื่นๆ บนโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน
แต่เป็นไปตามที่บรรยายก่อนหน้า ราคาของสิ่งของจะสูงต่ำ ต้องอยู่ที่ระดับความต้องการของฝ่ายซื้อ
หากฝ่ายซื้อต้องการเหลือเกิน นั่นย่อมได้เงินมาก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้องการให้ตึกความลับฟ้ารับทำของวิเศษเป็นการเฉพาะ นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อยู่ที่คุณสมบัติ และไม่ใช่คุณสมบัติที่ป้ายคำสั่งระดับต่ำจะใช้ได้
สามารถขอให้ตึกความลับฟ้ารับทำของวิเศษได้ ทั่วทั้งโลกซ้อนโลกมีอยู่แค่ไม่กี่กลุ่ม
หากต้องการคุณสมบัตินี้ ไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายและลำดับอาวุโสที่สูงส่งเท่านั้้น
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร เสี่ยวอ้ายก็ยิ่งเข้าใจคำสั่งในตอนแรกของเยี่ยนจ้าวเกอมากเท่านั้น ตอนนี้หญิงรับใช้ที่นับเงินจนปวดมือรู้สึกเป็นสุขยิ่ง
การเปิดตึกทุกวันที่หนึ่งของเดือนยังคงจำกัดจำนวนและชนิดในการจำน่ายสิ่งของ เพื่อรักษาความต้องการทางการตลาดไว้ ของวิเศษหลายชนิดถูกแทรกแซงการจำหน่ายเชิงการจัดการ ไม่ได้จำหน่ายของวิเศษชนิดเดียวกันติดต่อกันหลายๆ ครั้ง เหมือนกับมนุษย์กระดาษแทนตัวในตอนแรก
ดังนั้นการค้าขายของตึกความลับฟ้าจึงรุ่งเรืองเสมอ ส่วนความต้องการป้ายคำสั่งระดับต่างๆ ก็ยิ่งคลุ้มคลั่งกว่าเดิม
ถึงแม้ว่ารายได้จากการจัดจำหน่ายในการเปิดตึกทุกๆ เดือนจะคงที่แล้ว ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ ทว่ารายได้โดยรวมของตึกความลับฟ้ากลับทะยานขึ้นด้วยความเร็วที่ทำให้คนที่ทราบทั้งหมดอ้าปากตาค้าง!
………………..