ถึงแม้แต่ละคนจะพยายามปกปิดสายตาเต็มที่ แต่ไฉนเยี่ยนจ้าวเกอจะสัมผัสไม่ได้
กระนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากใช้สายตาส่งเสี่ยวอ้ายมุ่งหน้าไปทางตะวันออกด้วยความปีติยินดี ก็หมุนตัวมามองชิวเจียไห่ และหวังผู่ที่กลับมาบริเวณใกล้ๆ เมืองหยวนโจวเช่นกัน
“ครั้งนี้ขอบคุณศิษย์พี่หวังที่ลำบากให้ยืมกระบี่”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางแบมือ
กระบี่โบราณที่ทอแสงสีทองจางๆ เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเขา เป็นกระบี่เปิดกำเนิดอาวุธเซียน
ตอนนี้พลังไม่ได้ถูกกระตุ้นต่อ วัตถุเทพซ่อนความวิเศษ มองไปไม่มีอันใดผิดปรกติ
แต่ถ้าหากมีคนลองรวบรวมสมาธิเพ่งดูตัวกระบี่โบราณ จะดำดิ่งอยู่ด้านในจนไม่อาจถอนตัว จิตใจเกิดความลุ่มหลง ถูกเจตจำนงกระบี่ทำร้ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ถึงแม้ว่าเจตจำนงกระบี่ของกระบี่เปิดกำเนิดจะไม่อันตราย ทว่าสุดท้ายแล้วกระบี่ก็เป็นอาวุธสังหาร ความดุร้ายย่อมสุดที่ของวิเศษชิ้นอื่นจะเทียบเคียงได้
หวังผู่รับกระบี่โบราณ รอยยิ้มบนใบหน้าฝาดขมอยู่บ้าง “จ้าวเกอ ก่อนหน้านี้ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า ประมุขปฐวีจะถูกเจ้า…”
“ถึงจะเป็นศัตรู แต่ก็จำเป็นต้องยอมรับว่า ประมุขปฐวีเป็นคู่ต่อสู้ที่มีจิตใจแน่วแน่ ล้มเหลวหลายครั้งก็ยังไม่ยอมแพ้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ครั้งนี้หากปล่อยเขาไป เขาจะต้องใช้วิธีการอื่นต่อ ไม่บรรลุเป้าหมายไม่เลิกรา”
“เรื่องเกี่ยวพันถึงมารดา ข้าได้แต่ลงมือก่อนได้เปรียบ”
เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือให้แก่หวังผู่และชิวเจียไห่ “เพียงแต่เรื่องราวอาจกระทบถึงอาจารย์ลุงเยว่และศิษย์พี่ทุกท่านในเขานครหยก ต้องขออภัยจริงๆ”
หวังผู่กับชิวเจียไห่ต่างยิ้มหนักใจ ส่ายหน้าติดต่อกัน
“เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ มาคิดกันก่อนดีกว่าว่าจะจัดการปัญหาที่ตามมาอย่างไร” ชิวเจียไห่ถอนใจกล่าวว่า “ไม่ทราบว่ากษัตริย์เร้นลับจะออกฌานตอนไหน กษัตริย์ดินและท่านอาจารย์ก็ไม่ทราบว่าจะกลับโลกซ้อนโลกเวลาใด ไม่ทราบว่าใครจะกลับมาก่อน ความแตกต่างในนี้มีอยู่มากยิ่ง”
“ต่อจากนี้ข้าจะวางแผนจัดการเรื่องนี้” เยี่ยนจ้าวเกอพูดถึงเรื่องที่กษัตริย์ดาราบางทีอาจอยู่ในเขตราตรีอุดรอย่างรวบรัด “อาจจะออกจากโลกซ้อนโลกก็ได้ ถึงเวลาหากเกิดเรื่อง พวกศิษย์พี่สามารถร่วมมือกับบิดาข้าได้ทันกาล”
“ต่อจากนี้สำนักเราอาจมีสิ่งที่ต้องรบกวนทุกท่าน ขอขอบคุณทุกท่านไว้ก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างจริงใจ
ชิวเจียไห่มองหวังผู่ หวังผู่เงียบงันไม่กล่าววาจา
ที่แล้วมาเขามีนิสัยหนักแน่นมั่นคง กระทำเรื่องใดความจริงระวังตัวอยู่บ้าง ที่ให้เยี่ยนจ้าวเกอยืมกระบี่เปิดกำเนิด ก็เพื่อป้องกันศัตรูมีสภาวะยิ่งใหญ่ จนส่งผลต่อความปลอดภัยของเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋
คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายกลับเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้รับชัยชนะขั้นเด็ดขาด ถึงขั้นที่ยังสังหารประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงทิ้ง
นี่ไม่ใช่ความต้องการในตอนแรกสุดของหวังผู่ เขายินดีช่วยเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกต้านทานแรงกดดันของผากิเลน แต่ไม่อยากให้เขานครหยกกับผากิเลนแตกแยกกันโดยสมบูรณ์ และเริ่มเปิดศึกกันอย่างเป็นทางการ
แต่ก็พอนึกถึงปฏิกิริยาหลังจากเยว่เจิ้นเป่ยผู้เป็นอาจารย์ได้รับรู้เรื่องนี้ออก หวังผู่ได้แต่รำพึงรำพัน “จ้าวเกอทำให้เต็มที่ ข้าจะช่วยอาจารย์อาเยี่ยนควบคุมสถานการณ์เอง ถ้ากษัตริย์ดาราออกมาช่วยเกลี้ยกล่อมได้ เช่นนั้นย่อมประเสริฐสุด”
“ขอบคุณศิษย์พี่หวัง ศิษย์พี่ชิว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างรู้สึกผิด
เขานครหยกนับว่าถูกเขาลากขึ้นรถศึกในระดับหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเวลาเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานใครจะไม่เคยปรานี แต่ตอนนี้กลับรู้สึกผิดต่อพวกหวังผู่ยิ่ง
หากตอนนี้เขาพูดเรื่องอื่น ออกจะดัดจริตไป ได้แต่จดจำใส่ใจไว้
อีกด้านหนึ่ง เป็นเพราะทำตามข้อปฏิบัติที่เคยชิน หลังเกิดปัญหา ตัวเองก็เป็นคนแก้ไข
“จริงด้วย บุญคุณความแค้นระหว่างท่านแม่กับทะเลสีชาดทางตะวันตกเฉียงเหนือ ขอให้ศิษย์พี่ช่วยไกล่เกลี่ยด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ถ้าหากของวิเศษที่มารดาเคยได้ไปจากทะเลสีชาดยังอยู่ บิดาจะเกลี้ยกล่อมให้นางคืนเอง”
ประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินก่อนหน้านี้แม้ว่าจะไล่ล่าเสวี่ยชูฉิงเช่นกัน แต่ว่าหลังจากที่ได้ทราบความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกกับเขานครหยกในพิธีเปิดสำนักเขากว่างเฉิงเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เขตฟ้าสงัดพายัพก็ยกเลิกการประกาศจับ
“ถ้าของวิเศษไม่อยู่แล้ว สำนักเรายินดีชดใช้เต็มที่” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ
หวังผู่ส่ายหน้า เอ่ยว่า “ศิษย์น้องเยี่ยนอย่าเห็นเป็นคนอื่นคนไกล ตอนนี้เจ้าคิดจะไปยังเขตราตรีอุดรเลยหรือ”
“ข้าจะติดตามศิษย์พี่หวังท่านไปเขาคุนหลุนเที่ยวหนึ่ง จากนั้นค่อยขึ้นเหนือ” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย
หวังผู่พอฟังวาจานี้ ต้องใจเต้นระทึกในทันที
แต่พอคิดว่าหวังเจิ้งเฉิงได้ตายด้วยมือของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว แม้ว่าเรื่องอื่นๆ จะน่าตกใจสักเพียงใด ความจริงไม่สำคัญอีก
ในเมื่อเขาตัดสินใจจะเดินทางร่วมกับเยี่ยนจ้าวเกอ ก็สงบจิตใจ “เจ้าจะไปที่ไหน”
“แหะๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮิฮะ หัวเราะจนหวังผู่ที่สงบใจได้แล้วต้องขนลุกขนพอง
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะไม่พูดอะไร หันไปพูดกับชิวเจียไห่ “ศิษย์พี่ชิวได้โปรดช่วยปลอบแขกที่ก่อนหน้ามาเข้าร่วมงานประมูลด้วย และประกาศกับทุกคนว่า การเปิดตึกทุกเดือนของตึกความลับฟ้าต่อจากนี้จะยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่บริการสั่งผลิตจะไม่จำกัดเวลาที่ทำเสร็จ ถ้าหากต้องใช้เร่งด่วน ขอให้อดทนก่อน”
ต่อจากนี้ตัวเขาต้องไปจัดการเรื่องอื่น เวลาไม่แน่นอน ไม่อาจอยู่หลอมอุปกรณ์ในหุบเขาผีเสื้อมังกรได้ตลอด
การเปิดตึกจำหน่ายของวิเศษในยามปกติยังมีของคงค้างคอยสนับสนุน บริการสั่งผลิตได้แต่ต้องรอเขามีเวลาจึงค่อยว่ากล่าว
หลังจากขอให้พวกชิวเจียไห่จัดการเรื่องราวต่อจากนี้ของตึกความลับฟ้าแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เดินทางไปยังเขาคุนหลุน
ในตอนที่หวังผู่เข้าไปในเขาคุนหลุนพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วเห็นยอดเขาสูงแห่งหนึ่งซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ สีหน้าก็พลันพังทลาย
“ข้าจะไปเอง ศิษย์พี่หวังส่งเท่านี้พอ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เหยียบย่างอากาศ เหาะเหินไปทางยอดเขาลูกนั้น
อาหู่รั้งอยู่ที่เดิม ถามหวังผู่ด้วยความสงสัย “ท่านหวัง ที่นั่นเป็นสถานที่ใด”
“ยอดเขาอนัตตา…”
หวังผู่แสดงสีหน้าเหมือนปวดฟัน “…ที่อยู่ของจักรพรรดิเอกภพ!”
ที่นี่เป็นยอดเขาอนัตตาในเขาคุนหลุน นิวาสสถานของจักรพรรดิเอกภพกำเนิด
ขณะมองเงาหลังของเยี่ยนจ้าวเกอ สีหน้าของหวังผู่ก็ค่อยๆ กลายเป็นเคร่งขรึม
ขบคิดเล็กน้อย เขาก็เข้าใจเจตนาของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่นนจ้าวเกอมาที่นี่ไม่ใช่เพราะต้องการระบายแค้นเท่านั้น แต่เป็นการประกาศต่อโลกซ้อนโลกทั้งใบ
การประกาศที่ไร้เสียง การประกาศที่สั่นคลอนสถานการณ์สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสังหารหวังเจิ้งเฉิง ทุกคนบนโลกซ้อนโลกก็ยากจะสงบจิตใจ ต่างคอยดูทิศทางต่อจากนี้
ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงได้มอบท่าทีที่ชัดเจนให้แก่คนที่คอยสังเกตการณ์เหล่านี้
พวกเขาไม่คิดจะก้มหัวขอรับการลงโทษจากผากิเลน
ที่อยู่ของเขากว่างเฉิงได้ย้ายไปยังเขตสุราลัยบูรพา กลายเป็นผู้ปกครองเขตตะวันออก ทำให้ชื่อบรรพตบูรพาสำนักเต๋ากลายเป็นจริง ถือเป็นขั้นแรก
ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกำลังก้าวเท้าก้าวที่สอง!
“จักรพรรดิเอกภพไปเยือนเขากว่างเฉิงของข้าถึงสองครั้ง รู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่กล้าลืมเลือน” เยี่ยนจ้าวเกอเหาะเหินอยู่กลางอากาศ บรรลุถึงด้านบนยอดเขาอนัตตา “วันนี้ตั้งใจมาคารวะ ไม่ทราบจักรพรรดิเอกภพอยู่ด้านในเขาหรือไม่”
เขายกฝ่ามือขึ้นด้านบน จากนั้นก็ครอบฝ่ามือลงไปยังยอดเขาอนัตตาที่อยู่ด้านล่าง
ยอดเขาที่ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นเล็กลง เหมือนกับถ้วยชาใต้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ
………………..