หมัดเทพขุนเขาขึ้นชื่อว่าเป็นเลิศด้านพละกำลังที่พุ่งชนปะทะเข้าโดยตรง บัดนี้กลับถูกคู่ต่อสู้สั่นคลอนอย่างคาดไม่ถึง
บนใบหน้าของจี้ฮั่นหรูที่มีความมั่นใจมาโดยตลอด บัดนี้ในที่สุดสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เริ่ม!”
พลังของจี้ฮั่นหรูเป็นไปตามใจนึก กระบวนท่าของเขาพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง
ปราณจิตราอันหนักแน่นทรงพลังนั้น เผยความรู้สึกที่มีชีวิตชีวาหลายส่วนออกมาอย่างคาดไม่ถึง ราวกับว่าบนภูเขาที่สูงตระหง่านและโดดเด่นนั้น มีต้นไม้ใบหญ้าแตกเป็นพุ่ม มวลดอกไม้บานสะพรั่ง
ในสายตาของคนอื่นๆ พลังหมัดดุจขุนเขาของจี้ฮั่นหรูนั้น ไม่ได้แข็งกระด้างว่างเปล่าเช่นนั้นอีกต่อไป แต่มีความรู้สึกราวกับว่ามีอยู่จริงอยู่หลายส่วน
จี้ฮั่นหรูปล่อยหมัดหนึ่งออกมา ทันใดนั้นราวกับมียอดเขาจริงๆ ลูกหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าผู้คน ยอดเขาเอนเอียงจนจะพังทลายลงมา อานุภาพของมันราวกับภูเขาไท่ซาน ทำให้ผู้คนจิตใจหวาดผวา!
เขาฝึกปราณจิตราทั่วกายจนเกิดสติปัญญา นี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะต้น!
จี้ฮั่นหรูก็เป็นคนหนึ่งที่ทะนงตนเช่นกัน เมื่อเผชิญหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้าย แม้ว่าจะได้ยินมาก่อนหน้าว่าอีกฝ่ายเอาชนะได้แม้กระทั่งเฉาหยวนหลงและเซียวเซิง ทว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ได้ขับเคลื่อนพลังทั้งหมด อีกทั้งไม่เชื่อเรื่องเหลวไหล จึงอยากจะประลองกับคุณชายกว่างเฉิงอย่างจริงจังสักตั้ง
ใครจะไปรู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอนั้นมุทะลุ ดุดัน และโหดร้ายอย่างแท้จริง พุ่งชนหมัดเหล็กของจี้ฮั่นหรูตรงๆ โดยไม่หลบหลีก
สิ่งที่ยิ่งทำให้จี้ฮั่นหรูยากจะยอมรับได้ก็คือ ผู้ที่ตกเป็นรองก็คือเขาเอง!
ปะทะซึ่งหน้า เยี่ยนจ้าวเกอได้เปรียบยิ่งกว่าอย่างชัดเจน!
วิถีวรยุทธ์แห่งเขาไร้พรมแดนของเขา ไม่ว่าจะโจมตีหรือตั้งรับ ล้วนแล้วแต่เชี่ยวชาญกับการพุ่งปะทะโดยตรงอย่างที่สุด!
จี้ฮั่นหรูคิดภายในใจอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าแลบ ไม่กล้าเก็บงำอะไรอีกต่อไป ดึงเอาความสามารถที่แท้จริงออกมาทันที
สติปัญญาของปราณจิตราเกิดความเปลี่ยนแปลง พลังหมัดอันยิ่งใหญ่และเป็นธรรมชาติ จี้ฮั่นหรู่หยุดยั้งแนวโน้มเสื่อมโทรมของหมัดเทพขุนเขาของตนลงอย่างต่อเนื่อง!
ทว่าขณะเดียวกันกับกระบวนท่านั้น บนใบหน้าเยี่ยนจ้าวเกอก็ส่องแสงสีแดงวาบขึ้น!
วิชาวายุอัคคี ภัยอัคคี!
หมัดเดียวของเยี่ยนจ้าวเกอส่งพลังต่อเนื่องถึงสามครั้ง พลังระลอกหนึ่งต่อด้วยอีกระลอกหนึ่งอย่างน่าตื่นตระหนก!
แรงระเบิดอันน่าหวาดผวาราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด ทะลุจุดสูงสุดครั้งหนึ่งต่อด้วยอีกครั้งหนึ่งอย่างไม่หยุดยั้ง
บัดนี้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นสีม่วงแดง อันเกิดมาจากวิชาฝ่ามือดุสิต วิชาแห่งการทำลายอานุภาพปราณจิตราของศัตรู พลังของวิชานี้ทำลายปราณจิตราอันหนักแน่นของจี้ฮั่นหรูอย่างแข็งกร้าว ก่อนที่ฝ่ามือหนึ่งจะประทับลงบนหมัดของจี้ฮั่นหรู!
เสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศราวกับของหนักชนกัน
หมัดของจี้ฮั่นหรูสั่นคลอนเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุมได้
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะต้น ปฏิกิริยาตอบรับว่องไว เมื่อรวบรวมจิตตั้งมั่น เขาก็สัมผัสได้ถึงการปล่อยพลังอันดุเดือดหาใดเปรียบครั้งที่สามของเยี่ยนจ้าวเกอ
มือขวาของจี้ฮั่นหรูไม่ขยับเขยื้อน ส่วนมือซ้ายยกขึ้นมา ผ่าลงไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ!
ปราณจิตรารวมตัวกัน รุนแรงทรงพลังถึงขีดสุด ฝ่ามือหนึ่งของจี้ฮั่นหรูที่ผ่าไป ราวกับเทพอสูรโบกขวานยักษ์เบิกฟ้าก็ไม่ปาน
แม้เบื้องหน้าจะเป็นภูเขาสูงตระหง่าน แต่ขวานหนึ่งก็ผ่าลงไปได้โดยตรง
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นการเคลื่อนไหวของจี้ฮั่นหรูทั้งหมด พอเห็นเช่นนั้นเขาก็หัวเราะสียงดัง
ฝ่ามือดุสิตที่มือซ้ายยังคงไม่เปลี่ยน ประทับอยู่บนหมัดขวาของจี้ฮั่นหรู มือขวาของเยี่ยนจ้าวเกอตั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางสองนิ้วขึ้นตรงดุจกระบี่ จากนั้นเพลงกระบี่เจ็ดดาราก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง!
กระบวนอันยอดเยี่ยมจนถึงขั้นเป็นเครื่องชี้วัดดาวสะท้อนฟ้าอันสูงสุด กำลังชี้ไปทางตำแหน่งที่พลังของจี้ฮั่นหรูอ่อนแรงมากที่สุด
ฝ่ามือดุสิตที่มือซ้ายรุนแรงดั่งเพลิง เพลงกระบี่เจ็ดดารามือขวาอ่อนช้อยไม่หนักมือ
ชายหนุ่มแสดงวรยุทธ์วิชาวรทั้งสองพร้อมกัน วิชาหนึ่งแข็งกร้าว วิชาหนึ่งอ่อนโยน ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก!
เพียงกระบี่เดียว ขวานเทพจอมพลังของจี้ฮั่นหรูก็ชะงักอยู่กลางอากาศอย่างฉับพลัน
ขณะที่พลังของอีกฝ่ายชะงักงัน ฝ่ามือซ้ายเยี่ยนจ้าวเกอกลับปลดปล่อยพลังต่อเนื่อง!
ท่ามกลางเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ข้างหูของผู้คนโดยรอบคล้ายกับเกิดเสียงดังเป็นพักๆ เหมือนกับเสียงสิ่งของบางอย่างแตกกระจาย!
ร่างกายของจี้ฮั่นหรูพลันถอยพรวดและโซเซ!
เมื่อได้เปรียบขึ้นมาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ยั้งมือ ร่างกายเหินลอยขึ้นทันที นิ้วมือเสมือนคมกระบี่ ชี้ตรงไปยังจี้ฮั่นหรู
ปราณจิตรารวมตัวผนึกกันจนเป็นกระบี่ คล้ายกับว่ามีแสงสีเขียวสว่างวาบ เสียงมังกรคำรามดังขึ้น การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าหนึ่งของวิชามังกรเขียวในชายเสื้อแสดงออกมาประหนึ่งเมฆลอยมังกรเหิน ชั่วพริบตาเดียวก็ไปถึงตรงหน้าของจี้ฮั่นหรู
บัดนี้มือขวาของจี้ฮั่นหรูเกิดอาการชา เขาเสียโอกาสสำคัญไปแล้ว จึงลอบตัดสินใจอย่างฉับพลัน ฝ่ามือซ้ายวางขวางอยู่หน้าทรวงอก!
ปราณจิตราเป็นชั้นๆ รวมตัวกัน หลอมรวมกันจนเป็นหนึ่ง ให้ความรู้สึกที่ไร้ข้อบกพร่อง
วิชาสืบทอดของเขาไร้พรมแดน กระบวนท่าฝ่ามือรวมศูนย์!
หากถกกันแค่เพียงวิชาตั้งรับ เขาไร้พรมแดนยอดเยี่ยมที่สุดในโลกแปดพิภพ กระบวนฝ่ามือรวมศูนย์เป็นวิชาสำคัญหนึ่งในนั้น
แม้ว่าจะเสียโอกาสสำคัญไปแล้ว และมือขวาจะไม่สามารถใช้การได้ แต่ขณะนี้จี้ฮั่นหรูตั้งมั่นจะตั้งรับป้องกัน กระบวนฝ่ามือคล้ายผนึกปิด ทำให้เมฆลอยมังกรเหินของเยี่ยนจ้าวเกอยากจะสร้างพลังโดยฉับพลัน
“ไม่มีวรยุทธ์วิชาใดที่ไร้เทียมทาน มีเพียงคนเท่านั้นที่ไร้เทียมทาน”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงดัง เพลงกระบี่พลันเปลี่ยนแปลง เงากระบี่เจ็ดดาราลอยอยู่กลางอากาศ เสมือนกับดาวเหนือเจ็ดดวง ก่อตัวกันเป็นกระบวนท่าเจ็ดดาราขึ้นเหนือ
เงากระบี่เชื่อมต่อกันเป็นเส้นเดียว พลังก็พลันหลอมรวมจนถึงขีดสุด รวมกันเป็นจุดเดียว!
แขนเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหวราวกับมังกรฟ้าพลิกกาย เจตจำนงกระบี่มังกรเขียวในชายเสื้อกับเจตจำนงกระบี่เจ็ดดารา ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งในชั่วขณะนี้
มังกรขี่เจ็ดดารา!
ค้อนโลหะตีหนังโคไม่แตก ทว่าหนังโคกลับสามารถถูกแทงทะลุได้ด้วยตะปูอันแหลมคม
กระบี่หนึ่งของเยี่ยนจ้าวเกอที่พลังนี้หลอมรวมจนถึงขั้นสูงสุด พลันทะลุการป้องกันด้วยกระบวนฝ่ามือรวมศูนย์ของจี้ฮั่นหรู!
ในที่สุดมือขวาของจี้ฮั่นหรูก็ฟื้นกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง เขาออกกระบวนท่าสกัดกั้นกระบี่นี้ของเยี่ยนจ้าวเกอได้ทันกาล
มือขวาของเขาที่แต่เดิมมีอาการบาดเจ็บอยู่บ้าง ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง!
จี้ฮั่นหรูถอยโซซัดโซเซไปข้างหลังทีละก้าวๆ
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอปล่อยกระบี่นี้ไปแล้ว เขาก็ไม่ได้โจมตีต่อไปอีก แต่กลับไพล่มือไว้ข้างหลัง แล้วยืนขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน พลางเงยศีรษะมองไปบนท้องฟ้า
อากาศพลันเกิดการสั่นสะเทือนในบริเวณนั้น เงาคนหลายคนเดินออกมาจากตรงกลาง ซึ่งนั่นก็คือฟู่เอินซูและบรรดาผู้อาวุโสแห่งเขาไร้พรมแดนทั้งหลาย
สีหน้าของจี้ฮั่นหรูซีดเขียวเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเขายังมีฝีมืออีกมากมายที่ยังไม่ได้แสดงออกมา ทว่าการประมือสั้นๆ หลายยกเมื่อครู่ เขาในฐานะปรมาจารย์ขั้นเคียงนภา ถูกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ระดับขั้นจิตราชั้นนอกโจมตีกดดันอย่างไม่คาดคิด!
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้ายกับขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลาง แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างขั้นเคียงนภาระยะต้นกับขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้าย
ความห่างชั้นระหว่างทั้งสองระดับชั้น มากยิ่งกว่าขั้นจิตราชั้นนอกระยะต้นถึงขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลาง หรือไม่ก็ขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลางถึงขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้ายเสียอีก!
บรรดาศิษย์เขาไร้พรมแดนที่อยู่ด้านหลังเขา ล้วนแล้วแต่มองภาพเบื้องหน้านี้ด้วยความตกตะลึงเช่นกัน
ช่วงหนึ่งปีครึ่งนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับเยี่ยนจ้าวเกอมากมายยิ่งนัก ชื่อเสียงของเขาขจรขจายในโลกแปดพิภพขึ้นเรื่อยๆ ถึงกระนั้นการที่ได้ยินเรื่องเล่าด้วยหู กับการได้เห็นด้วยตาตัวเอง และการประสบกับตัวเองนั้น ย่อมให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่เบื้องหน้านี้ โหดร้ายเสียยิ่งกว่าในข่าวลือเสียอีก!
ใช้การโจมตีต่อหน้าอันแข็งแกร่งของระดับขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้าย กดอัดจี้ฮั่นหรู ผู้อยู่ในระดับขั้นเคียงนภาระยะต้น บุคคลสวรรค์โปรดปราณรุ่นเยาว์แห่งเขาไร้พรมแดนที่เชี่ยวชาญในการโจมตีอันแข็งกร้าวมากที่สุด!
ชัดเจนว่าจี้ฮั่นหรูลงมือโจมตีด้วยกำลังก่อน ทว่าในชั่วพริบตาเดียวกลับทำได้เพียงตั้งรับเท่านั้น และสิ่งที่ทำให้เขายิ่งรับไม่ได้ก็คือ เขายังไม่ทันได้เริ่มตั้งรับเลยด้วยซ้ำ!
ผู้อาวุโสจั่ว ผู้อาวุโสเสวียนสือ และคนอื่นๆ ของเขาไร้พรมแดน เห็นภาพฉากนี้แล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฟู่เอินซูกลับมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้า ชัดเจนว่านางอารมณ์ดีไม่น้อย แม้กระทั่งสายตาที่ทอดมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ ก็เผยให้เห็นความเมตตา อ่อนโยน และปลื้มอกปลื้มใจอย่างหาได้ยากยิ่ง
สีหน้าของผู้อาวุโสจั่วดูอ่อนโยน กำลังมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ
ผู้อาวุโสจั่วและมหาปรมาจารย์เขาไร้พรมแดนอีกท่าน กลับล้อมฟู่เอินซูเอาไว้ เหมือนว่าจะเจตนาแต่ก็ไม่เจตนา
จอมยุทธ์เขาไร้พรมแดนเห็นว่ายอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ของตนทั้งสามท่าน ยืนอยู่ด้วยกันกับฟู่เอินซูเพียงแค่คนเดียว ภายในใจก็พลันมั่นคงขึ้นมาก
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ภายในเขานิมิตเมฆแห่งนี้ก็มียอดฝีมือของสำนักตนมากกว่า!
ฟู่เอินซูไม่ใช่เยี่ยนตี๋
สถานการณ์ในตอนนี้ หากเยี่ยนจ้าวเกอเป็นมังกรก็ต้องหมอบ เป็นพยัคฆ์ก็ต้องคว่ำ!
น่าขันที่เมื่อครู่เขาโจมตีจนสบายอกสบายใจไปชั่วขณะหนึ่ง แต่มียอดฝีมือแห่งเขาไร้พรมแดนอยู่มากมายเช่นนี้ ไม่นานนักเขาจะต้องชดใช้!
สำหรับสายตาของบรรดาผู้คนนั้น เยี่ยนจ้าวเกอเห็นแต่ทำเหมือนไม่เห็น แม้เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสจั่วที่จ้องจะเขมือบตน เขาก็ไม่ร้อนรน ทั้งยังคารวะอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม
“ท่านผู้อาวุโสทุกท่าน โชคดีที่ข้าสามารถปฏิบัติตามคำสั่งจนสำเร็จ เพลิงถูกดับลงแล้ว ป้องกันไม่ให้ต้นเพลิงทำลายสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำไปมากกว่าได้สำเร็จแล้วขอรับ”
“หะ…หา?” ทุกๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินดังนั้น ต่างก็อดไม่ได้เบิกตาโพลงไม่ได้
………….