สภาพของเยี่ยนจ้าวเกอประหนึ่งเสือดุร้าย ระหว่างที่ส่งเสียงคำรามก็พุ่งไล่สังหารมาจนถึงเบื้องหน้าของเซียวเซิง!
เซียวเซิงรีบถอยหลัง ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ เพื่อดึงระยะห่างออกจากเยี่ยนจ้าวเกอ
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอสาวเท้าอย่างต่อเนื่อง และลอยตัวตามขึ้นไปเช่นกัน เพียงก้าวเท้าออกมาเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็ขึ้นไปเหยียบย่ำบนอากาศแล้ว!
มังกรน้ำแข็งและมังกรเพลิงที่ยึดครองอยู่ภายในจุดลมปราณทั่วทั้งร่างกาย สั่นสะท้านและคำรามลากเสียงยาวพร้อมกัน
ไอน้ำแข็งและสะเก็ดไฟมากมายลอยออกมาจากร่างกายของเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วรวมเข้ากับปราณจิตรา น้ำแข็งและเพลิงไฟผสานกันประหนึ่งเทพเซียน!
ออกหมัดพยัคฆ์คำราม ปราณดุจมังกรร้อง!
เทพยุทธ์ดาวไถ พลังของประตูเลือดซางฉวี่ก็ระเบิดออกมาดังสนั่น!
เยี่ยนจ้าวเกอพังทลายหัตถ์เงาสนธยาที่เซียวเซิงใช้ป้องกันตัวออกไป ภายในหมัดเดียว!
เซียวเซิงตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง จึงรีบใช้วิชาสุริยันทะยานบูรพาหลบเลี่ยงออกไป
“ฮ่า!”
เสียงตะโกนหนึ่งดังขึ้น กระดูกสันหลังของเยี่ยนจ้าวเกอพลันตั้งตรง ประหนึ่งกับมังกรที่กำลังยืดตัว!
การปล่อยพลังครั้งนี้หลอมรวมเข้ากับวิชากระบี่มังกรเขียวในชายเสื้อ กลายเป็นเพลงกระบี่มังกรลอดเมฆ!
เมฆมังกรหมื่นลี้ เหินบินโดยพลัน!
ขณะที่ร่างกายของเซียวเซิงกำลังจะขยับขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอที่ว่องไวยิ่งกว่าเขา ก็ลงมืออย่างเหี้ยมโหด!
เยี่ยนจ้าวเกอกางนิ้วที่เดิมกำหมัดเอาไว้แน่นทั้งสองข้าง แล้วงอลงเหมือนตะขอ จับไปที่ต้นแขนทั้งสองของเซียวเซิง!
ร่างของชายหนุ่มทั้งสองนิ่งค้างอยู่กลางอากาศด้วยกันในทันที
ฝ่ายเยี่ยนจ้าวเกอยกเท้าข้างหนึ่งขึ้น ถีบไปที่หน้าอกของเซียวเซิงตรงๆ!
ในขณะเดียวกันมือทั้งสองก็ออกแรงพร้อมๆ กัน พลังปราณมังกรน้ำแข็งกับพลังปราณมังกรเพลิงบิดเบือนยืดหด รุกล้ำปล่อยพลัง
พลังที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่กลายร่างเป็นภูเขาและแม่น้ำอันคดเคี้ยว สำแดงอิทธิฤทธิ์บนแขนทั้งสองข้างของเซียวเซิง
เท้าหนึ่งถีบจนร่างของเซียวเซิงกระเด็นไปข้างหลัง ทว่ามือทั้งสองกลับยังคงจับแขนทั้งสองข้างของเซียวเซิงเอาไว้แน่นไม่ปล่อย!
ทั้งถีบทั้งดึง พลังของทั้งสองตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ร่างกายของเซียวเซิงพลันบิดเบี้ยวราวกับผ้าขี้ริ้วที่ขาดวิ่นผืนหนึ่ง!
“พลั่ก!”
ทันทีที่เกิดเสียงดังสนั่น เลือดเนื้อก็พุ่งกระจาย!
ฝนโลหิตสาดไปทั่วท้องฟ้า อากาศปะทุกระจายออกไปรอบทิศ!
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอตะโกนคำรามเสียงทุ้มต่ำ แขนทั้งสองข้างของเซียวเซิงก็ถูกดึงขาดออกจากบ่า!
เซียวเซิงส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดด้วยเสียงแหลมเสียดแก้วหู “เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้ากล้า…”
เยี่ยนจ้าวเกอโยนแขนทั้งสองข้างที่ขาดออกของเซียวเซิงทิ้งไป ก่อนจะก้าวเท้าไปในอากาศ ไล่ตามเซียวเซิงที่ถูกตนเองถีบจนลอยออกไป แล้วยื่นมือทั้งสองออกไปอีกครั้ง!
“คนใกล้จะตายอยู่แล้ว อย่าพูดมากเลย”
จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ ก็ถูกจ้าวซื่อเฉิงและพลังของค่ายกลขนาดใหญ่ไล่ถอยออกไป จึงไปช่วยเซียวเซิงไม่ทัน ตอนนี้ต่างก็ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความโกรธ
เซียวเซิงโกรธจนลูกตาแทบหลุดออกมา “เยี่ยนจ้าวเกอ! เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป!”
“ต่อให้เจ้าสังหารข้า ก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องตายพร้อมข้า!”
“ข้าจะรอเจ้าอยู่ข้างล่าง!”
เยี่ยนจ้าวเกอทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะยกกรงเล็บหนึ่งออกมาคว้าหน้าอกของเซียวเซิงจนทะลุ!
มืออีกข้างหนึ่งก็กางห้านิ้วออก บดบังสายตาของเซียวเซิงเอาไว้ แล้วจึงครอบลงไปบนศีรษะของเขา!
ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอคว้าศีรษะของเซียวเซิงเอาไว้ เขายิ้มอย่างเยือกเย็นพลางกล่าวว่า “ข้ากลัวเสียเหลือเกิน”
ขณะที่กล่าว ทั้งห้านิ้วก็บีบเข้าหากันอย่างรุนแรงแล้วยกขึ้น!
กำลังกล้ามเนื้อที่บ้าคลั่งและปราณจิตราที่ดุดันทรงพลังระเบิดออกพร้อมกัน!
เยี่ยนจ้าวเกอบีบคอเซียวเซิงหัก แล้วดึงศีรษะของเขาจนหลุดออกมา ฝนโลหิตระเบิดกระจายอีกครั้ง!
ดวงตาทั้งสองของเซียวเซิงเบิกโพลง ตายตาไม่หลับ!
ทั่วทั้งหุบเขาวายุวิญญาณตกอยู่ในความเงียบสงัดทันที
ทุกคนล้วนมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างตกตะลึงตาค้าง ในมือถือศีรษะของเซียวเซิงเอาไว้ ยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศ
“เยี่ยนจ้าวเกอ!”
ครู่ถัดมา จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็พร้อมใจกันส่งเสียงตะโกนด้วยความโกรธ
กลุ่มคนพุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมๆ กัน โดยมีมหาปรมาจารย์คนนั้นเป็นผู้นำ
จ้าวซื่อเฉิงที่อยู่ภายในหุบเขามีสีหน้าเรียบนิ่ง มือซ้ายกำหมัดเอาไว้ มือขวาแบมือตั้งขึ้น แล้วฟาดออกไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน
มังกรแสงสีทองสาดส่องไปทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน แผ่นเกล็ดกระพือเปิดออก เสียงมังกรคำรามสนั่นท้องฟ้าราวกับมีมังกรจริงปรากฏขึ้นบนโลก
ราชันแห่งอาณาจักรถังตะวันออก จ้าวซื่อเฉิงขับเคลื่อนค่ายกลโจมตีจอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ จนพวกเขาพ่ายแพ้ถอยหลังออกไป ยากที่จะเข้าใกล้หุบเขาวายุวิญญาณได้แม้แต่ก้าวเดียว
สวีชวน ปรมาจารย์แห่งเขากว่างเฉิงและอาณาจักรถังตะวันออกคนอื่นๆ ก็เริ่มเปลี่ยนจากตั้งรับเป็นรุกโจมตี
“ถอย!” มหาปรมาจารย์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นส่งเสียงตะโกนด้วยความอัดอั้น จำต้องนำบรรดาคนของสำนักตนถอยออกไป
มุมปากของจ้าวซื่อเฉิงมีเลือดซึมออกมา ปราณสีเขียวและแดงบนใบหน้าสั่นกะพริบสลับไปมา
เขาเก็บหมัดกลับคืน คนอื่นๆ ก็หยุดการโจมตีลงเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอที่ถือศีรษะของเซียวเซิงลอยตัวลงมา แล้วหันหลังเดินกลับไปข้างกายอาหู่
อาหู่นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น ชุดเกราะทมิฬบนตัวพลันดับแสง ทำให้เห็นว่าบนเกราะเต็มไปด้วยเข็มทองจำนวนนับไม่ถ้วน
เข็มทองทุกเล่มล้วนปักลึกลงไปในเกราะ
สีหน้าของอาหู่ซีดเซียวอยู่บ้าง เคราะห์ดีที่ชุดเกราะทมิฬ อาวุธวิญญาณที่เขาติดกายเอาไว้ตลอดเป็นอาวุธป้องกัน ขณะที่ร่างกายกำลังจู่โจมและตั้งรับ มันก็แสดงพลังการป้องกันอันน่าทึ่ง
มิเช่นนั้นเมื่อครู่ตอนที่ต่อสู้กับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาทั้งสองคน ทั้งยังถูกฝนสุริยะของเซียวเซิงลอบทำร้าย เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าชุดเกราะทมิฬป้องกันเข็มสุริยันราวกับสายฝนไว้ได้ แต่ร่างกายภายในของอาหู่ก็ถูกพลังปราณของเข็มเหล่านั้นทะลุเข้าไปทำร้ายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เข็มสุริยันไม่ได้ทิ่มเข้าไปร่างกายโดยตรง ทว่าอาหู่ก็เหมือนแบกรับการโจมตีอันแสนสาหัสนับพันนับหมื่นเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านหลังของอาหู่ เขาก็วางฝ่ามือข้างหนึ่งลงไปกลางหลังของเขา เพื่อช่วยเขาปรับลมหายใจ
และในตอนนี้เอง คนอื่นๆ ก็ล้วนมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อน
เซียวเซิงลงมือโหดเหี้ยมราวกับนักฆ่า เยี่ยนจ้าวเกอฆ่าเขาตายไปก็สมควรแล้ว
แต่เมื่อได้เห็นเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าเซียวเซิงจริงๆ กับตาแล้ว สติของทุกคนก็ยังคงหลุดลอยไปเล็กน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยี่ยนจ้าวเกอใช้วิธีสังหารที่เลือดเย็นนัก
การประมือระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับเซียวเซิงก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มเล่นงานอีกฝ่ายจนไม่เหลือชิ้นดี ยังสามารถพูดได้ว่าการประลองฝีมือวรยุทธ์นั้น ทักษะของเซียวเซิงยังสู้เขาไม่ได้
แต่ว่า ทั้งสองต่างก็เป็นลูกศิษย์รุ่นหลังที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสำนักที่มีชื่อเสียงเช่นกัน เป็นต้นกล้าที่มีความสามารถด้วยกันทั้งคู่ การประลองฝีมือจนได้ผลแพ้ชนะ กับการฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย เป็นคุณสมบัติสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านตาของเซียวเซิงก็เป็นยอดฝีมือ ในบรรดายอดฝีมือไม่กี่คนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย!
อย่างเช่นที่เซียวเซิงได้กล่าวไว้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่ให้เรื่องจบเพียงเท่านี้แน่นอน
แค้นนี้เมื่อเทียบกับการรับศิษย์ทรยศสำนักของอีกฝ่ายไว้แล้วนั้น ใหญ่หลวงกว่านัก!
แต่ในขณะเดียวกันกับที่จิตใจสับสน จอมยุทธ์ของเขากว่างเฉิงและอาณาจักรถังตะวันออกก็รู้สึกสะใจเช่นกัน ช่วงหลายปีมานี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์บีบบังคับไม่หยุด กำเริบเสิบสานมานานมากแล้ว
พวกเจ้าลงมือสังหารได้ตามใจชอบ แต่ไม่อนุญาตให้เขากว่างเฉิงโต้คืนอย่างนั้นหรือ?
ย่อมไม่มีกฏเกณฑ์นี้!
บัดนี้สีหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกลับมาสงบนิ่งเช่นเดิมแล้ว
กระบี่วิญญาณมังกรมรกตยังคงใช้เป็นศูนย์กลางของค่ายกลย้อนกลับ ซึ่งผสมโรงกับค่ายกลที่จ้าวซื่อเฉิงขับเคลื่อน
เยี่ยนจ้าวเกอยกมือขึ้น กงจักรเพลิงสุริยะพลันกลับเข้ามาอยู่ในมืออีกครั้ง
เมื่อมองเห็นกงจักรเพลิงสุริยะ จู่ๆ ทุกคนก็สะดุ้งเฮือก
“คุณชายแห่งเขากว่างเฉิงสังหารเซียวเซิงเมื่อครู่นี้ เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตาสั้นๆ เท่านั้น!”
แม้จะเป็นปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้ายเช่นเดียวกัน ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับบีบจนเซียวเซิงไม่เหลือแม้เศษซาก!
มีจอมยุทธ์ของถังตะวันออกกลืนน้ำลายลงไปอย่างช้าๆ “เซียวเซิงไม่ใช่คนที่ปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกระยะท้ายทั่วไปจะเทียบได้…”
จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่บุกโจมตีในครั้งนี้ มีแต่คนที่มีระดับวรยุทธ์สูงกว่าเขาอยู่
ทว่าในระดับวรยุทธ์เดียวกัน ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวว่าสามารถเอาชนะเขาได้!
“คุณชายจรัสแสงแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ กับคุณชายเยี่ยนจัดอยู่ในสี่คุณชายแห่งยุคเช่นเดียวกัน แต่เซียวเซิงและคุณชายจรัสแสงถูกขนานนามว่าเป็นรุ่งอรุณทั้งสี่ของสำนักเหมือนกัน ซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของรุ่นใหม่แห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์”
ทว่าคนหนึ่งที่ฟ้าโปรดปรานเช่นนี้ กลับถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหารอย่างง่ายดาย!
“ขนาดเซียวเซิงยังถูกคุณชายเยี่ยนโจมตีจนพ่ายแพ้ได้ง่ายเช่นนี้ เช่นนั้นคนอื่นๆ ก็คง…”
มีคนพูดด้วยเสียงตกตะลึงเบาๆ ว่า “เยี่ยนจ้าวเกอแกร่งกว่าในคำร่ำลือเสียอีก!”
ก่อนหน้านี้ลือกันว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ระดับปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลางนั้น เอาชนะเซียวเซิงข้ามขั้น ซึ่งไม่มีผู้ใดได้เห็นกับตา จึงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่บ้าง
ทว่าบัดนี้ก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีก!
คุณชายผู้ใสซื่อไร้เดียงสากับจอมยุทธ์โหดเหี้ยมเลือดเย็น บุคลิกทั้งสองแบบ บัดนี้ทับซ้อนกันอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
………….