เนื่องจากสนามรบอยู่ที่ชายขอบทะเลชั้นนอก พวกลูกศิษย์ที่เข้าร่วมการต่อสู้ส่วนใหญ่จึงมาจากเมืองทะเลมรกต ตำหนักอัสนีสวรรค์ และหอคลื่นโหม
เหล่าลูกศิษย์จากเขากว่างเฉิง สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และเขาไร้พรมแดนที่อยู่บนแผ่นดิน ส่วนใหญ่แล้วบังเอิญมาเฉกเช่นเยี่ยนจ้าวเกอกับซือคงจิงมากกว่า
พวกลูกศิษย์อายุน้อยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ที่ทะเลชั้นใน กำจัดปีศาจอัคคีที่เหลือรอด ไม่ได้ไปยังทะเลชั้นนอกที่เป็นสนามรบหลัก
แต่ก็มีข้อยกเว้น
แสงสายฟ้าสว่างวาบ ปีศาจอัคคีตัวหนึ่งถูกฆ่า
ร่างกายขอมันแยกออก ทันใดนั้นคล้ายกับท้องฟ้าสาดฝนอัคคีลงมา
ท่ามกลางฝนอัคคีร้อนแรง ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น กลับเป็นชายหนุ่มตาเดียว ปล่อยลมปราณเย็นเยียบกระจายออกมารอบตัว
ลูกศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์ คุณชายฟ้าคำรน หลินโจว
ด้านข้างเขามีจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์คนอื่นอยู่ด้วย ทุกคนล้วนมีใบหน้าถมึงทึง
หลินโจวมัดผ้าอยู่ในแนวขวางบนใบหน้า ปิดบังตาซ้ายเอาไว้
ตาข้างขวาที่ยังเหลือตอนนี้ กำลังมองน่านน้ำที่อยู่ไกลออกไป
ครู่ต่อมา หลินโจวละสายตา หันไปมองจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์คนอื่นๆ แล้วกล่าวอย่างเชื่องช้า “ขอบคุณที่ทุกท่านที่นึกถึงมิตรภาพระหว่างท่านพ่อ ยอมเสี่ยงอันตรายกับข้า”
“ศิษย์น้องหลินอย่าพูดเช่นนั้น การแก้แค้นให้อาจารย์เป็นหน้าที่ของลูกศิษย์อย่างพวกเราอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่ามีวิธีรับมือกับคนของเขากว่างเฉิง…” ชายฉกรรจ์วัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างหลินโจวกล่าวเสียงทุ้ม “เจ้าเลือกเยี่ยนจ้าวเกอเป็นเป้าหมาย พวกเราย่อมเห็นด้วย แต่ว่าตอนนี้ยังหาไม่พบแม้แต่เงาคน”
หลินโจวเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่จำเป็นต้องตามหาเขา หากพวกเราตั้งใจตามหาเขา รังแต่จะทำให้เขาระวังตัวยิ่งขึ้น”
“ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจเหตุผลบางอย่างนัก แต่มีคนอื่นช่วยพวกเราตามหาเขาได้”
ชายฉกรรจ์วัยกลางคนผู้นั้นถามต่อ “ผู้ใดหรือ”
ตาข้างขวาของหลินโจพลันเปล่งประกายอันเย็นเยียบ “ปีศาจอัคคี”
ทุกคนที่อยู่รอบตัวได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าครุ่นคิด
“เยี่ยนจ้าวเกอ…” หลินโจวพึมพำกับตัวเอง ในใจมีความคิดมากมาย ความทรงจำในอดีตทับซ้อนกับสภาพในปัจจุบัน ทำให้จิตใจยากจะสงบลง
ตอนที่ได้รับเบาะแสว่าปีศาจอัคคีบุกรุกมา ทั้งยังทราบว่าเจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงเข้าฌาน มิได้มายังทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกในทันที หลินโจวก็รู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ถูกต้อง
ต่อมาราชันปีศาจอัคคีเคลื่อนไหวอย่างลับๆ โจมตีเมือทะเลมรกต กลับเหมือนที่เขาคาดการณ์ไว้
ซ่งอู๋เลี่ยงถึงแม้จะอยู่ในเมืองทะเลมรกต แต่กลับไม่ปรากฏตัว คล้ายกับอยู่ในสภาวะปิดตาย ปล่อยให้ราชันปีศาจอัคคีสองตัวอาละวาด เกือบจะทำลายเมืองทะเลมรกตลงได้
นี่ทำให้หลินโจวรู้สึกสบายใจอยู่บ้าง ดูเหมือนเรื่องจะกลับสู่ความคาดหมายของเขาแล้ว
แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นกลับเหนือความคาดคิด
ถึงแม้จะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ตอนนี้ที่ทะเลตะวันออกมีข่าวลือว่า เยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิงฝ่าวงล้อม ล่อราชันปีศาจอัคคีไปได้ตัวหนึ่ง ทำให้สถานการณ์อันตรายของเมืองทะเลมรกตผ่อนคลายลง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ เยี่ยนจ้าวเกอมิได้เสียสละตัวเอง แต่กลับรับมือกับราชันปีศาจอัคคีด้วยพลังฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์ซ่อนจิต สุดท้ายถอยหนีไปได้โดยปลอดภัย
แม้จะเป็นเพราะว่าราชันปีศาจอัคคีที่มีพลังฝึกปรือเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองจิ่งจงมาถึง ทำให้ราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงถูกเยี่ยนจ้าวเกอล่อกลับไปเมืองทะเลมรกต แต่เรื่องน่าอัศจรรย์ที่เขาทำได้ก็ทำให้คนทั้งหมดต้องตกตะลึงอยู่ดี
มาถึงตรงนี้ เหตุการณ์ไม่อยู่ในความคาดหมายของหลินโจวแม้แต่น้อย
สุดท้าย กระบี่สัตยาทะเลมรกตถือกำเนิดขึ้น หลินโจวก็รู้สึกด้านชาขึ้นมาบ้าง
‘อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทะเลมรกตสมควรขาดวัตถุดิบส่วนหนึ่ง ไม่มีทางเปิดเตาหลอมได้จึงจะถูก’ หลินโจวไตร่ตรองในใจ ‘แต่ไม่รู้ว่าเป็นวัตถุดิบอันใด หรือว่าการเปลี่ยนแปลงเมื่อก่อนหน้าทำให้ได้วัตถุดิบมาครบ’
เขาส่ายหน้า ตอนนี้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทะเลมรกตไม่มีความหมายอีกแล้ว
สิ่งที่หลินโจวสนใจกว่าก็คือ เยี่ยนจ้าวเกอล่อราชันปีศาจเฉิงฮวงได้อย่างไร
‘เย่จิงที่ตายไปแล้วผู้นั้น ถ้าหากมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ เมื่อพบปีศาจอัคคีบนทะเลตะวันออก จะต้องสร้างเรื่องราวใหญ่โต และดึงดูดความสนใจของปีศาจอัคคีแน่’ ดวงตาข้างขวาของหลินโจวตาเป็นประกาย ‘ว่ากันว่าเย่จิงถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหาร สิ่งของของเขาจะตกไปอยู่ในเมือของเยี่ยนจ้าวเกอหรือไม่’
หลินโจวพุ่งลงสู่ท้องทะเล จอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์คนอื่นมองหน้ากันเอง ก่อนจะตามหลังไปติดๆ
ทุกคนมุ่งตรงไปยังก้นทะเล
หลินโจวสังเกตไปพลาง มุ่งหน้าไปพลาง คล้ายกับกำลังหาอะไรอยู่
ครู่ต่อมา แนวเขาก้นทะเลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
เขาพุ่งลงไปบนภูเขาก้นทะเล ทันทีที่ประกายกระบี่สว่างวาบ ก็เสียบทะลุก้อนหิน
ลมปราณร้อนแรงสายหนึ่งพลันส่งมาจากข้างล่าง
ชายวัยกลางคนด้านข้างขมวดคิ้ว “ภูเขาไฟก้นทะเลหรือ”
“ศิษย์พี่ลั่ว นี่ไม่ใช่แค่ภูเขาไฟก้นทะเลเท่านั้น” หลินโจวอธิบาย “หากจะพูดให้ถูกต้อง นี่คือแกนไฟใต้ดิน เมื่อได้รับการรบกวน จะพุ่งออกสู่พื้นผิว”
“ตำแหน่งที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ก็คือจุดเชื่อมจุดหนึ่ง”
ชายวัยกลางคนแซ่ลั่วตกใจเล็กน้อย “ผู้ใดรบกวนแกนไฟใต้ดินที่นี่ หรือจะเป็น…ปีศาจอัคคี?!”
หลินโจวตอบ “ข้าคิดว่าคงไม่มีผู้อื่น”
ชายร่างผอมแห้ง แต่มีเค้าหน้าเฉียบแหลมกล่าว “ศิษย์น้องหลินเจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แจ้งผู้อาวุโสในสำนักแล้วหรือยัง”
“ก่อนหน้านี้ข้าพบเหตุการณ์คล้ายๆ กันโดยบังเอิญ ตอนแรกคิดว่าภูเขาไฟก้นทะเลกำลังจะปะทุเท่านั้น แต่ต่อมาพบว่ามีพลังงานบางอย่างจงใจปิดบังร่องรอย เลยนึกสงสัยขึ้นมา” หลินโจวตอบ
“ดังนั้นยังไม่ทันได้แจ้งผู้อาวุโสในสำนัก ศิษย์พี่จาง ศิษย์พี่ลั่ว พวกท่านรีบไปรายงานท่านอาจารย์เถอะ”
ศิษย์พี่จางที่มีร่างผอมแห้งตกใจ “ให้พวกเรารายงานหรือ”
นี่เป็นการแบ่งความชอบชัดๆ
หลินโจวกล่าวเรียบๆ “เรื่องที่ข้าคิดอยู่ตอนนี้ก็คือการฆ่าเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิง”
ศิษย์พี่ลั่วและศิษย์พี่จางมีสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าคิดจะทำอย่างไร”
“มีความเป็นไปได้ว่าปีศาจอัคคีจะยืมอานุภาพกรระเบิดของแกนไฟที่อยู่ใต้ดินเพื่อตอบโต้เขา” หลินโจวกล่าวตอบอีกครั้ง
ความจริงมันสมควรชนะเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่แรกแล้ว
ในความทรงจำของหลินโจว เนื่องจากการบุกโจมตีอย่างฉับพลันของราชันปีศาจอัคคีสองตัวที่เมืองทะเลมรกต ยอดฝีมือระดับสูงของเมืองทะเลมรกตอย่างพวกซ่งอู๋เลี่ยงที่ออกไปต่อสู้ล้วนต้องตายตกในสงครามครั้งนี้ เมืองทะเลมรกตจะเดินสู่จุดจบเพราะเหตุนี้ เช่นเดียวกับเขานิมิตทมิฬ
ตอนนี้เมื่อมีหยวนเจิ้งเฟิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ซ่งอู๋เลี่ยงเองก็มีกระบี่สัตยาทะเลมรกต สงครามของมหาอำนาจแปดพิภพจะรุนแรงยิ่งขึ้น
ปีศาจอัคคีสูญเสียราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงไป ฝ่ายหนึ่งสูญเสีย ฝ่ายหนึ่งได้รับ ปีศาจอัคคียากจะมีผลลัพธ์การต่อสู้เหมือนในความทรงจำของเขา
ทว่าหากตอนนี้จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่เริ่มยึดพื้นที่คืน และโต้กลับปีศาจอัคคีถูกลอบโจมตีอย่างฉับพลัน สถานการณ์ก็จะยิ่งซับซ้อนยิ่งขึ้น
หลินโจวเอ่ยอย่างเรียบเฉย “ถ้าหากผู้อาวุโสสำนักเราจับตาดูดีๆ สงครามครั้งนี้จะกลายเป็นโอกาสของสำนักเรา
“ส่วนพวกเรารออยู่ตรงนี้ก็ได้ ปีศาจอัคคีคล้ายกับกำลังพ่ายแพ้ แต่ความจริงกำลังหาโอกาสสวนกลับอยู่ ทว่าพวกเราต้องติดตามการไหลเวียนของแกนไฟอย่างระวัง แม้แกนใฟใต้ดินที่นี่จะระเบิดขึ้น พวกเราก็ยังปลอดภัย
“ต่อจากนี้ให้สังเกตว่าปีศาจอัคคีรวมตัวกันที่ไหน พวกเราก็จะไปที่นั่น เป็นไปได้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็จะอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
…
“คุณชาย นี่คือ…” อาหู่ที่เพิ่งได้รับเบาะแสกลับมา มองเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงตาค้าง
เยี่ยนจ้าวเกอพุ่งมาด้านหน้า ถามคล้ายไม่มีเรื่องราวใด “เกิดเรื่องหรือ”
อาหู่กล่าวอย่างงงัน “มีคนเห็นหลินโจวจากตำหนักอัสนีสวรรค์ออกจากน่านน้ำเมืองมหานที เข้าสู่ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก…”
ไม่รอให้เขาพูดจบ เยี่ยนจ้าวเกอก็จับเขาไว้ จากนั้นก็พากันดำลงไปในน้ำทะเลชั้นลึกกว่าเดิม
ร่างของคนทั้งสองจมลง แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน มีเปลวไฟระเหยน้ำทะเล พุ่งผ่านศีรษะไป