บนร่างไห่เจิ้งเซินมีแสงวิญญาณสว่างขึ้น เกราะซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณชั้นกลางที่เขาพกติดตัวไว้เริ่มทำงาน ปกป้องร่างกายของเขาไว้
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจ บีบมือยักษ์ครอบคลุมท้องฟ้าสองข้างที่เกิดจากญาณจริงแท้เข้าหากันต่อ พลังอันน่ากลัวนั้นทำให้เกราะที่เกิดจากแสงวิญญาณสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ไห่เจิ้งเซินได้รับบาดเจ็บสาหัส ดีที่มีเกราะที่เป็นอาวุธวิญญาณคอยปกป้อง บัดนี้ตั้งสติ ใช้พลังของตัวเอง
ถึงแม้มังกรสีเลือดที่เกิดจากญาณจริงแท้ของเขาจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำลายไปแล้ว แต่ว่าวิชามังกรโลหิตพ่นไข่มุกยังคงทำงานอยู่
ญาณจริงแท้หลายสายสั่นไหว กลายเป็นแสงสีเลือด พรั่งพรูออกมาจากจุดลมปราณมากมายที่อยู่ทั่วร่างของไห่เจิ้งเซิน
กลายเป็นเกล็ดมังกรมากมายติดตัว ราวกับเลือดสดจับตัวกันบนร่างหลังจากแห้งกรัง
บัดนี้ไห่เจิ้งเซินซึ่งปล่อยพลังออกด้านนอก แตกต่างกับการกลายเป็นมังกรสีเลือดก่อนหน้า เขารวบรวมพลังทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเอง สร้างเป็นพลังป้องกันอันแข็งแกร่ง
ประกายแสงสีแดงฉานรวมตัวกันอย่างไม่หยุดยั้ง เกล็ดมังกรสีเลือดค่อยๆ กลายเป็นสีดำ ดูแข็งแกร่งหนักแน่นเหลือประมาณ
ทั่วทั้งร่างของไห่เจิ้งเซินครอบคลุมไว้ด้วยเกล็ดมังกรสีเลือด คนคล้ายเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็นมังกร เป็นวิชาป้องกันที่เอาไว้เสริมพลังและป้องกันร่างกาย ร่างเกล็ดมังกรเลือดทมิฬ
ร่างเกล็ดมังกรเลือดทมิฬ เชื่อมต่อกับพลังป้องกันของเกราะซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณชั้นกลางชิ้นนั้น ช่วยให้ไห่เจิ้งเซินป้องกันฝ่ามือยักษ์สองที่คล้ายกับบีบอัดฟ้าดินของเยี่ยนจ้าวเกอได้
มาถึงตอนนี้ ไห่เจิ้งเซินจึงค่อยระบายลมหายใจโล่งอก
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ เอ่ยถามอย่างยากลำบาก “ใต้เท้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดจึงต้องช่วยสองสามีภรรยาไป๋จิ่งคัง กลายเป็นศัตรูกับสำนักมังกรโลหิตของข้า?”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน แต่ว่าทางข้าเคยมีความสัมพันธ์เก่าก่อนกับเขาหงส์วิเศษอยู่ สำนักของข้าชื่อว่าเขากว่างเฉิง”
หากพูดถึงความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอ สิ่งของที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ก็คือแกนหยกแสงรุ้ง ของสิ่งนี้ผลิตขึ้นที่โลกผืนสมุทรหรือไม่ ไม่ว่าจะถามเขาหงส์วิเศษหรือถามสำนักมังกรโลหิต ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันอยู่ดี
ความจริงจะช่วยใครก็ได้ทั้งสิ้น จะเป็นฝั่งไหนก็ได้ แต่ว่าการลงมือของชายชราเสื้อคลุมดำทำให้เยี่ยนจ้าวเกอตัดสินใจ
ในเมื่ออีกฝ่ายคิดสู้ เช่นนั้นก็สู้
กระนั้นในเมื่อลงมือกับสำนักมังกรโลหิตแล้ว เพื่อจะได้สนทนากับสามีภรรยาจากเขาหงส์วิเศษคู่นั้นได้สะดวกขึ้นในภายหลัง เยี่ยนจ้าวเกอจึงต้องหาเหตุผลมา
“เขากว่างเฉิง…เขาหงส์วิเศษ…” ไห่เจิ้งเซินได้ยินดังนั้น เกือบจะสลบไป “ห้าบรรพตสำนักเต๋าเป็นแค่ตำนานก่อนมหาภัยพิบัติเท่านั้น หรือว่าใต้เท้าจะเป็นผู้สืบทอดของสำนักเขากว่างเฉิง?”
“แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น สำนักอย่างเขาหงส์วิเศษในโลกลอยน้ำของพวกเรา ก็ก่อตั้งขึ้นหลังจากมหาภัยพิบัติ เพียงยืมชื่อของเขาหงส์วิเศษ ไม่มีส่วนเกี่ยงข้องกับห้าบรรพตสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติแม้แต่น้อย!”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจ ‘บังเอิญนัก สำนักข้าก็เหมือนกัน อย่างมากวิชาวรยุทธ์ก็พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของสำนักเต๋าเท่านั้น’
ชายชราเสื้อคลุมสีดำกับจอมยุทธ์มังกรโลหิตสี่คนที่เหลือ ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เขียวคล้ำเล็กน้อย
ไป๋จิ่งคังและหวังปิง จอมยุทธ์เขาหงส์วิเศษ สามีภรรยาที่ขับเคลื่อนประกายกระบี่สีขาวดำคู่นั้น รู้สึกโชคดีเกินบรรยาย
กระนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของไห่เจิ้งเซิน ป๋ายจิ่งคังสองสามีภรรยาก็เกิดความวิตกกังวลขึ้นในใจ
เป็นตามที่ไห่เจิ้งเซินว่าจริง เขาหงส์วิเศษของพวกเขา เป็นสำนักที่เกิดและค่อยๆ พัฒนาในโลกผืนสมุทรหลังมหาภัยพิบัติ
เยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดมือ ยังคงใช้แรงบีบต่อ จนไห่เจิ้งเซินมิอาจขยับเขยื้อนได้
“ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสำนักเขาหงส์วิเศษก่อนมหาภัยพิบัติหรือไม่ อย่างน้อยชื่อนี้มันเพราะสำหรับข้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเหมือนไม่มีเรื่องราวใด
พวกไห่เจิ้งเซินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
เจอคนที่ชอบทำอะไรตามอารมณ์และความต้องการของตัวเอง จะพูดกันด้วยเหตุผลได้อย่างไร
ทองพันแท่งทำให้คนมีความสุขไม่ได้[1]แท้ๆ
ไห่เจิ้งเซินเอ่ยปากอย่างลำบาก “ช่างเถอะ วันนี้เป็นพวกข้าสู้ไม่ได้ ในเมื่อใต้เท้าปกป้องไป๋จิ่งคังสองสามีภรรยา พวกเราจะไม่สร้างความลำบากให้อีก”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขา พลางกล่าวอย่างราบเรียบ “ที่ลงมือเมื่อครู่ไม่เห็นพวกท่านเกรงใจเช่นนี้เลย การลงมือก่อนหน้านี้ของพวกท่าน ถ้าหากข้ามีพลังฝึกปรือต่ำอีกหน่อย คงจะตายด้วยน้ำมือของพวกท่านพร้อมสามีภรรยาคู่นั้นไปแล้ว”
“หากเปลี่ยนเป็นตอนอื่น ข้าอาจจะลองคิดดู” เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองประตูทางเชื่อมเขตแดนที่ไม่เสถียรบนท้องนภา “ตอนนี้เวลากระชั้นเข้ามาแล้ว ข้าไม่เวลาเล่นกับพวกท่าน เกิดมาจากดินก็กลับสู่ดินเถอะ”
ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอก็เพิ่มแรงขึ้นอีก
ไห่เจิ้งเซินตื่นตระหนก “ท่าน…”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ระหว่างฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอก็พลันเกิดความเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้มือทั้งสองข้างของเขาใช้วิชาฝ่ามือนภากว่างเฉิง พลังที่รุนแรงชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินรวมด้วยกัน กดอัดใส่ไห่เจิ้งเซิน
ทว่าในตอนนี้ พลังพลิกฟ้าพลิกดินพลันหายไป ฟ้าดินในตอนนี้คล้ายกลับไม่คงอยู่อีก
โลกเหมือนย้อนกลับไปยังก่อนกำเนิดฟ้าดิน ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในสภาวะโกลาหล
ไร้จันทรา ไร้อาทิตย์ ไร้อนาคต ไร้อดีต ไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดจบ ไร้การเคลื่อนไหว และไร้ความสงบนิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย บีบฝ่ามือทั้งสองเข้าหากันต่อ
อึดใจต่อมา ความโกลาหลก็กระเบิดยอย่างสะเทือนเลือนลั่น!
คล้ายกับทุกสรรพสิ่งถูกเก็บอยู่ในความโกลาหล จากนั้นความโกลาหลก็ถูกทำลาย เกิดจักรวาลขึ้นมา!
พลังอันแข็งแกร่ง ยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุด และรุนแรงเหลือประมาณ ทำลายการป้องกันอันเข้มแข็งของไห่เจิ้งเซินอย่างเหี้ยมหาญ!
ระหว่างที่เยี่ยนจ้าวเกอหุบมือ พลังนั้นก็บดขยี้ร่างกายของไห่เจิ้งเซินท่ามกลางเสียโหยหวนที่เหมือนจะไม่มีวันจบสิ้นของเขา
พวกชายชราเสื้อคลุมสีดำและจอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตนิรนามเห็นดังนั้น ทั้งตกใจทั้งโมโห
หลังเยี่ยนจ้าวเกอจัดการไห่เจิ้งเซินเสร็จ ก็หันหน้ามองไป เห็นพวกชายชราเสื้อคลุมดำหนีไปทางประตูทางเชื่อมเขตแดนเหนือศีรษะ
เสียงซู่ดังขั้น เยี่ยนจ้าวเกอยืนนิ่งไม่ขยับ ในแขนเสื้อข้างขวา มีแสงสีเขียวสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
แสงสีเขียวคล้ายรวมกับฟากฟ้าเป็นหนึ่งเดียว แต่ว่าขอบของแสงสีเขียวปรากฏประกายคมสีแดงเส้นหนึ่ง ราวกับแหวกท้องฟ้ากลายเป็นร่องรอยน่ากลัวสายหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอถือกระบี่บึงมรกต อาวุธวิญญาณระดับสูง ประกายกระบี่ผ่านไปที่ใด ก็ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความตายที่นั่น
ไป๋จิ่งคังและหวังปิงสองสามีภรรยาแห่งเขาหงส์วิเศษ มองอยู่ด้านข้างอย่างตกตะลึง
คนทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง ในใจทั้งรู้สึกโชคดี และกริ่งเกรง “การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณในโลกฝั่งนี้ ไม่เหมาะกับการฝึกฝนของจอมยุทธ์ฝึกลมปราณเช่นพวกเรา คนหนุ่มผู้นี้มีพลังฝึกปรือสูงส่งเช่นนี้ได้อย่างไร”
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้กระซิบกับพวกเฟิงอวิ๋นเซิง “ระดับชั้นการฟื้นฟูของระดับวรยุทธ์ไม่ต่ำ เพียงแต่ที่สูงที่สุดไม่น่าจะเหนือกว่าโลกแปดพิภพของพวกเรา
“พรสวรรค์และพลังของมหาปรมาจารย์กำเนิดญาณผู้นี้ นับว่าเป็นคนที่โดดเด่นและมีระดับสูงสุดในหมู่คนทั่วไป ทว่าอาวุธติดตัวยังคงเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลาง ซึ่งอธิบลายได้ว่าโลกผืนสมุทรที่อยู่อีกฝั่งมีอาวุธวิญญาณน้อยเหมือนมหาอำนาจแปดพิภพของพวกเรา”
“อาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดของระดับในการสร้างอาวุธ หรือไม่ก็เป็นข้อจำกัดในการสะสมทรัพยากร แต่ข้อเด่นและข้อด้อยในอาวุธติดตัวของจอมยุทธ์ทางฝั่งนั้น อย่างมากสุดก็ไม่น่าจะเหนือกว่าโลกแปดพิภพของพวกเรา”
หลังจากจัดการคนจากสำนักมังกรโลหิตแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เหาะลงมาจากท้องฟ้า พาทุกคนมาถึงด้านข้างไป๋จิ่งคังสองสามีภรรยา “ขอคารวะทั้งสองท่าน”
ไป๋จิ่งคังสองสามีภรรยรีบร้อนบอกมิกล้า ในดวงตาที่มองเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏความกังวลอยู่เลือนราง
……………………………………….
[1] ทองพันแท่งทำให้คนมีความสุขไม่ได้ หมายถึง ต่อให้ใช้ของล้ำค่าแลกมา เรื่องราวก็ไม่อาจเป็นไปดั่งหวัง