ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – ตอนที่ 480 หนีตอนสงครามมาถึง!

ร้อนแรง เจ็บปวด

นี่คือความรู้สึกในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ภายนอกร่างกาย ญาณจริงแท้ปกป้องเสื้อผ้าของตัวเองไม่ได้มากแล้ว ทำให้อาภรณ์บนร่างคล้ายกับลุกไหม้ขึ้นมา

บนผิวหนังของเขามีความเจ็บปวดที่เหมือนเข็มนับไม่ถ้วนแทงใส่พร้อมกันเกิดขึ้น

ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกตอนที่เฟิงอวิ๋นเซิงรับเข็มแกนน้ำแข็งอย่างแจ่มแจ้งแล้ว เพียงมีความร้อนเย็นแตกต่างกันเท่านั้น

ความรู้สึกของเข็มแกนน้ำแข็งจะกระจายทั่วทุกส่วน ไม่เหลือช่องโหว่แม้แต่น้อย ทำให้คนรู้สึกถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสที่มิอาจหยุดยั้งได้ กระนั้นก็ยังสู้ความเจ็บปวดในตอนนี้ไม่ได้

ระหว่างที่หายใจ เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกเผาไหม้ ซึ่งถูกส่งมาจากจมูกจนถึงทรวงอก

ไม่ใช่แค่ผิวภายนอกเท่านั้นที่สัมผัสได้ถึงความร้อนแรงที่มิอาจป้องกัน บัดนี้ความร้อนแผ่กระจายไปทั่วกระดูก ในร่างกายเกิดความรู้สึกว่าอวัยวะภายในจะถูกเผาไปด้วยเช่นกัน

หลังจากพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอสูงขึ้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดเช่นนี้มานานแล้ว

ชายหนุ่มฝืนอดทน พลางสงบจิตใจ ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างแน่วแน่

ตราประทับลวดลายอาคมสีทองอันลี้ลับมากมายลอยออกมาจากร่างของเขา แล้วหลอมรวมกับแสงสว่างสีทองอร่ามรอบๆ

นี่คือสิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอศึกษา และได้มาจากคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ที่ไม่ยังสมบูรณ์

ต้องขอบคุณประโยชน์ครอบจักรวาลของคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัด ถึงแม้จะสายไปเหมือนขัดหอกตอนสงครามมาถึง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังฝืนกระตุ้นแก่นแท้ของคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์หลายส่วนได้

ตราประทับลวดลายอาคมสีทองเหล่านั้นหลอมรวมในแสงสีทองที่อยู่รอบๆ อย่างต่อเนื่อง เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกว่าความรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อนสลายไปบางส่วน

น่าเสียดายที่คัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ของเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่สมบูรณ์ สิ่งที่ตนเองศึกษาออกมาได้มีความแตกต่างจากจิตพลังของดวงอาทิตย์สีทองตรงหน้าอยู่บ้าง

แสงอาทิตย์อันน่ากลัวจึงยังก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บและการคุกคามอย่างใหญ่หลวง

เยี่ยนจ้าวเกอกัดฟันกรอด เท้าเหยียบอากาศ ก้าวไปด้านหน้าทีละก้าว คนคล้ายกับเดินเข้าไปในดวงอาทิตย์

ขณะนั้นฟ้าดินสั่นไหว ชายหนุ่มเพียงรู้สึกว่าตัวเองเข้ามาในโลกอีกใบหนึ่ง

ดวงอาทิตย์สีทองนี้คล้ายกับโลกขนาดเล็กที่เป็นเอกเทศ ขณะที่สะกดรอยแตกของยมโลก ก็ตัดขาดจากโลกด้านนอกด้วย

เมื่อเข้ามาในโลกแห่งนี้แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าเส้นแสงตรงหน้าพลันดับลงไป

ไม่ใช่เพราะแสดงอาทิตย์หายไปหรืออ่อนกำลัง ทว่าตรงกันข้าม เป็นเพราะสว่างถึงขีดสุด จึงเกิดปรากฏการณ์ความมืดและแสงสว่างพลิกกลับด้านกัน

เส้นแสงทั้งหมดระหว่างฟ้าดินคล้ายกับถูกกักเก็บ ในอากาศปรากฏความมืดขึ้นเลือนราง

แต่ว่าเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอมองไป ตรงหน้ามิใช่หน้าผาของเหวลึกอีก ด้านบนก็ไม่ใช่ท้องฟ้าสูงหมื่นลี้เช่นกัน

สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงเปลวไฟที่สว่างเรืองรองไปทั้งแถบ และในแสงสีทองเปล่งประกายปรากฏสีแดงฉานอีกแถบหนึ่ง

ตัวเขาคล้ายกับยืนอยู่บนผิวดวงอาทิตย์อันสว่างไสว อันเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล

ครั้นทอดสายตามองไป เห็นกลุ่มอากาศธาตุที่ประกอบด้วยเปลวไฟ และพายุพระอาทิตย์ที่ส่งเสียงหวีดหวิว บางครั้งยังมีจุดดำปรากฏออกมาด้วย

มิติใกล้ผิวดวงอาทิตย์คล้ายบิดเบี้ยวพังทลาย เพราะถูกพลังงานอันน่ากลัวของดวงอาทิตย์สั่นไหว

เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในนี้รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณของฟ้าดินอันยิ่งใหญ่ เกิดความเข้าใจมากมาย

กลุ่มปราณโกลาหลหลายกลุ่มในร่างของเขาหมุนวนเหมือนแยกฟ้าแยกแผ่นดิน ก่อนจะมีแสงสีทองมากมายพุ่งออกมาจากด้านใน

แสงอาทิตย์สาดออกมาจากจุดลมปราณทั่วร่างบนผิวของเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็กลายเป็นตราประทับที่มีลวดลายลี้ลับมากมาย ทั้งยังให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและน่าหวาดหวั่น

ตราประทับเรียงรายอยู่กลางอากาศ ทว่าดูกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบอย่างเห็นได้ชัด

แต่ในบริเวณรอบๆ มีเส้นแสงสีทองหลายสาดสาดลงมา ประกอบกันกลายเป็นลวดลายอาคมที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และเสริมสิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอได้ร่ำเรียนมาอย่างต่อเนื่อง

ตำราธรรมต้นตำรับฉบับสมบูรณ์เล่มหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ

เพียงแต่ตำราเล่มนี้ยังคงดูลี้ลับเลือนราง อ่านแล้วยังคงทำให้รู้สึกลำบากอย่างยิ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอต่อยหมัดออกด้านหน้าช้าๆ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตัวหนังสืออาคมสีทองหลายสายเบื้องหน้าพลันลอยเข้าหาผิวดวงอาทิตย์

ดวงอาทิตย์พลันสั่นสะเทือนเลือนลั่น!

ประตูใหญ่บานหนึ่งคล้ายกับเปิดออก เส้นทางสายหนึ่งเหมือนโผล่ขึ้นด้านหน้า

ชายหนุ่มมอง ‘ประตู’ ลวงตาบนผิวดวงอาทิตย์บานนั้น ความสนใจของเขาอยู่ที่ภาพด้านในประตูโดยสิ้นเชิง

ไม่ใช่แค่สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแสงไร้สิ้นสุด หรือความร้อนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้ ล้วนถูกดูดเข้าไปด้านใน

ตราประทับขนาดใหญ่สีแดงฉานและเปล่งประกายสีทองระยิบระยับปรากฏขึ้นที่นั่น

มันลอยนิ่งอยู่ตรงหนั้น แต่กลับดึงดูดแสงสว่าง ความร้อน เปลวไฟ และปราณวิญญาณทั้งหมดให้รวมตัวกัน ราวกับเป็นใจกลางจักรวาล

จักรวาล ทางช้างเผือก ฟ้าดิน และความว่างเปล่า ในตอนนี้ต่างมืดสลัวลง ราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา

คล้ายกับมีเพียงแต่ตราประทับยักษ์นี้เท่านั้นที่เป็นความจริงแท้เพียงหนึ่งเดียว เป็นกฎเกณฑ์ที่สูงส่งที่สุด

จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหว เขาคิดจะเข้าใกล้ตราประทับยักษ์นี้

จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าฟ้าดินด้านที่ตัวเองอยู่เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง!

ดวงอาทิตย์ตรงหน้านี้คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้คนมิอาจเข้าใกล้ได้

ความมืดด้านล่างเหวลึกในปฐพีพิภพของโลกแปดพิภพที่อยู่ด้านนอก ผลักดวงอาทิตย์สีทองให้ลอยขึ้นด้านบนอย่างต่อเนื่อง

พลังของผนึกยิ่งเบาบางมากขึ้น สีหน้าของหยวนเจิ้งเฟิงกับเฉินลี่ล้วนบิดเบี้ยวถึงขีดสุด

หมอกดำที่อ้อมดวงอาทิตย์สีทองแผ่ขยายขึ้นข้างบนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนท้าย มิติสีดำด้านในนพยมโลกสีดำก็เริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

ในอากาศที่บิดเบี้ยวพลันมีมือฝ่ามือขนาดใหญ่สองข้างยื่นออกมา

“ยังไม่อาจออกมาได้ทั้งตัว แต่ว่ายื่นมืออกมาได้แล้วหรือ?” สีหน้าของของจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่อยู่รอบๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

มือมารอันใหญ่โตทั้งสองข้างมองดูแล้วสีดำเหมือนกับหมึก มีผิวมันวาว ดูไม่โดดเด่น แต่คล้ายมีความคิดชั่วร้ายกระจายออกมาล่อลวงจิตใจผู้คน ทำให้จอมยุทธ์จำนวนมากที่อยู่รอบๆ รับมือไม่ไหว

ทว่าความจริงแล้วมีมือมารข้างหนึ่งเป็นสีม่วงเข้ม โซ่สีดำหลายเส้นพันอยู่บนผิวของมือ ผิวโซ่มีลายแสงสีแดงฉานเปล่งประกายระยิบระยับ

มือมารทั้งสองข้างสลับกันบีบจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์ที่หลบไม่ทันจนเสียชีวิต!

มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่ก้าวข้ามโลกมนุษย์ มีพลังชนิดผลักภูเขาถมทะเล ในตอนนี้ดูอ่อนแอเหลือเกิน!

เสียงร้องของมารอันน่ากลัวดังไปทั่วเหวลึก ถึงกับส่งสะท้อนอยู่บนฟ้าดินอันกว้างใหญ่ของปฐพีพิภพภพ สั่นไหวท้องฟ้าของโลกแปดพิภพ

หยวนเจิ้งเฟิงและเฉินลี่ต่างมีสีหน้าเขียวคล้ำ รีบร้อนลงมือป้องกัน

ทั้งสองฝ่ายกระตุ้นพลังใส่ดวงอาทิตย์สีทอง

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สายฟ้าสีเขียว เฉินลี่กระอักเลือดคำหนึ่งออกมา ส่วนร่างของหยวนเจิ้งเฟิงสั่นไหวอย่างรุนแรง ไม่อาจเพิ่มพลังให้กับผนึกได้

วิญญาณร้ายจากยมโลกและดวงอาทิตย์สีทองลอยสู่ด้านบนเร็วขึ้นมาก เหมือนกับจะพุ่งไปยังฟากฟ้าในคราวเดียว!

มือมารสีม่วงสั่นไหวครั้งหนึ่ง โซ่สีดำที่พันอยู่บนมือข้างนั้นพลันขยายขนาด ตัดสลับกันหนาแน่นราวกับสานตาข่าย ประกอบกันเป็นเขตแดนความมืดอันน่าสะพรึง ครอบคลุมหยวนเจิ้งเฟิงและเฉินลี่เอาไว้

ส่วนมือมารสีดำอีกข้างพุ่งเข้าใส่เฉินลี่ก่อน!

เฉินลี่ปะทะกับมือข้างนั้นหนึ่งกระบวนท่า เขาเพียงรู้สึกว่าร่างกายคล้ายพังทลาย

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่บนระดับสูงสุดของโลกแปดพิภพ ในตอนนี้รู้สึกถึงเงามืดแห่งความตายที่กำลังจะครอบคลุมตัวเองได้อย่างชัดเจน!

หยวนเจิ้งเฟิงตวาดด้วยความโกรธ สองมือกดลงเบื้องล่าง โจมตีใส่ดวงอาทิตย์สีทอง โดยมีพลังของเสื้อคลุมนภาคอยส่งเสริม

ตราประทับที่ใกล้จะแตกสลายสั่นไหวอีกครั้งหนึ่ง แสงสีทองหลายสายทะลักอย่างบ้าคลั่ง กดอัดกลิ่นอายมารจากนพยมโลกที่อยู่ด้านล่าง

ดวงอาทิตย์สีทองลอยช้าลง มือมารขนาดยักษ์สองข้างนั้นชะงักเล็กน้อย

“ต้านไว้ไม่ไหวแล้ว หนีเถอะ!” เฉินลี่แผดเสียงคำราม ก่อนที่เขาจะกลายเป็นสายฟ้าสีเขียวสายหนึ่งพุ่งขึ้นด้านบน หลบหลีกโซ่สีดำมากมาย

หยวนเจิ้งเฟิงตวาดขึ้น “คิดว่าหนีไปแล้วจะหนีพ้นหรือ?”

“หากตายที่นี่ทุกอย่างก็สูญเปล่า!” เฉินลี่กลายเป็นสายฟ้าสีเขียว พุ่งออกมาจากเหวลึก ออกห่างไปไกลในชั่วพริบตา

หยวนเจิ้งเฟิงทั้งตกใจทั้งโมโห หลังจากมือมารขนาดยักษ์ทั้งสองข้างตรงหน้าชะงักเล็กน้อยแล้ว มันก็ขยับขึ้นมาอีกครั้ง!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset