ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – ตอนที่ 513 แค่กระบวนท่าเดียว!

การต่อสู้ระหว่างจางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่งดึงดูดให้คนจำนวนมากมาชมการต่อสู้

ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณ แต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง การต่อสู้ระหว่างพวกเขาถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

นอกจากผู้อาวุโสในสำนักแล้ว ยังมีมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณมาด้วย

เพียงแต่ว่าคนเหล่านี้มาสายเกินไป โดยพื้นฐานแล้วถือว่ามาพร้อมกับคนของวังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร

กระนั้นทุกคนก็คาดไม่ถึงจริงๆ ว่า การต่อสู้นี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้

ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอที่นั่งตัวตรงอยู่ในประกายน้ำด้วยสีหน้าเงียบสงบ จิตใจของทุกคนล้วนเกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา

“หากเป็นผู้สืบทอดสำนักปราชญ์ปีศาจจริงๆ เกรงว่านี่จะเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักปราชญ์ปีศาจแล้ว!”

“ถึงแม้ใบวิญญาณสิบใบจะได้ดอกไม้วิญญาณสิบดอก ก็ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน แต่ว่าดูจากท่าทางสบายๆ ของเขาแล้ว จางฮ่าวเฉิงกับลี่เซิ่งเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ”

“พวกท่านว่าจางฮ่าวเฉิงกับลี่เซิ่งจะทนได้นานเท่าไร”

“บอกไม่ได้ แต่ว่าสมควรกดดันให้เขาเผยความสามารถที่แท้จริงออกมาได้”

“คนทั้งสองร่วมมือกันอาจจะชนะ แต่ว่าพวกเขาย่อมไม่ยอมทำเช่นนั้นแน่”

“นั่นย่อมแน่นอน”

คนอื่นต่างออกความเห็นมากมาย สีหน้าของจางฮ่าวเฉิงกับลี่เซิ่งล้วนเปลี่ยนเป็นเย็นชาและมีสมาธิ สลัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมด สงบจิตใจของตัวเอง

ในตอนนั้นเอง จางฮ่าวเฉิงที่ค่อนข้างเงียบงันกลับชิงลงมือก่อน!

เงาแสงเหนือศีรษะของเขาสั่นไหว ปรากฏดอกวิญญาณเก้าดอก ลวดลายอาคมสลักกลางทะเลลึก สั่นสะเทือนทั่วบริเวณ

พริบตาถัดมา จางฮ่าวเฉิงโค้งร่างเล็กน้อย จากนั้นก็ยืดตัวขึ้น หายไปจากที่เดิม

เยี่ยนจ้าวเกอมองแสงสว่างสีน้ำเงินทะลุทะเล พุ่งเข้ามาหาตนคล้ายกับมังกรแสงตัวหนึ่ง

จางฮ่าวเฉิงแสดงวิชาระดับสูงของวังผลึกวารี มังกรเปลี่ยนหกลักษณ์ กระบวนท่าแปลงลำแสงได้ถึงแก่นแท้อย่างหมดจด!

ครั้นเห็นจางฮ่าวเฉิงลงมือ ลี่เซิ่งก็หยุดเคลื่อนไหว จิตใจหนักอึ้งเล็กน้อย อย่างน้อยในระดับจิตใจ จางฮ่าวเฉิงเหนือกว่าเขาครึ่งส่วน

เยี่ยนจ้าวเกอมองมังกรแสงสีน้ำเงินพุ่งเข้ามาหาตนด้วยสีหน้าราบเรียบ รับรู้ได้ว่าท้องทะเลรอบๆ คำรามและสั่นสะเทือนพร้อมกัน

จางฮ่าวเฉิงในตอนนี้คล้ายกับกลายเป็นจ้าวสมุทร กระบวนท่าของเขาทำให้ท้องทะเลสั่นไหว ทำลายฟ้าดิน

มิติรอบๆ เหมือนกับแข็งตัว น้ำทะเลไร้สิ้นสุดรวมตัวกัน พลังเต็มเปี่ยมคล้ายกับกลายเป็นเหล็กกล้า แล่วกดดันเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน!

ทั่วสี่ทิศแปดทางเป็นพลังที่กดอัดหาตัวเอง ไร้ทางถอย ไร้ที่ให้หลบ

ในวินาทีนี้น้ำทะเลกลายเป็นมังกรแสงจำนวนนับไม่ถ้วน แผ่กระจายไปทั่วทิศทาง โจมตีมาทางเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

คนที่ชมดูการต่อสู้มีใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

เมื่อยอดฝีมือลงมือ ก็ทราบว่ามีหรือไม่มี[1]

จางฮ่าวเฉิงใช้พลังทั้งหมดในการเผชิญหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอ แค่กระบวนท่าแรกก็แสดงพลังของตนออกมาจนหมด คล้ายกับเป็นการบอกทุกคนว่า เหตุใดเขาถึงอยู่ในอันดับหนึ่งของจอมยุทธ์ระดับกำเนิดญาณสิบอันดับแรกในปัจจุบันได้ และเหตุใดเขาถึงได้ก้าวข้ามระดับ สังหารมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณเหลิ่งคุนได้!

จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรที่อยู่รอบๆ แม้แต่ผู้อาวุโสเยว่แห่งสำนักสังหารมังกร ต่างบอกกับตัวเองว่า ถ้าหากอยู่ในขั้นรูปญาณระยะต้น ก็อาจจะไม่มีทางเหนือกว่าจางฮ่าวเฉิง!

ในดวงตาของฟู่เอินซูเปล่งประกายเจิดจ้า ในใจเกิดความเข้าใจที่ได้สัมผัสกับจอมยุทธ์โลกผืนสมุทรโดยตรง ไม่มีความคิดดูแคลนแม้แต่น้อย ‘คนผู้นี้ต่อให้อยู่ในแปดพิภพก็ย่อมเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ เป็นหนึ่งในคนที่สุดยอดที่สุดในหมู่คนระดับเดียวกัน’

จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรมองจางฮ่าวเฉิงลงมือ ในใจเกิดความฮึกเหิม ‘บางทีเขาอาจจะชนะเยี่ยนจ้าวเกอนั่นได้…’

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบาง “กระบวนท่าล้ำลึกนัก”

ขณะพูด เขาก็ยกมือขวาขึ้น ผลักฝ่ามือไปด้านหน้า ใจกลางฝ่ามือคล้ายมีกลุ่มปราณที่อันโกลาหลยากจะบรรยาย และลี้ลับจนมิอาจหยั่งคาด

ชายหนุ่มผลักฝ่ามืออก มังกรแสงนับพันนับหมื่นที่เกิดจากน้ำทะเลรอบๆ พลันแหลกสลายเหมือนกับฟองน้ำ การปิดล้อมพลันพังทลายลง

มังกรแสงสีน้ำเงินที่เกิดจากจิตหมัดของจาวฮ่างเฉิงมีสภาวะยิ่งใหญ่ชนิดพลิกแม่น้ำพลิกสมุทรอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้กลับคล้ายถูกเยี่ยนจ้าวเกอบีบไว้กลางฝ่ามือ ถูกปิดล้อมอยู่ในพื้นที่อันน้อยนิด

ทุกคนรวมถึงลี่เซิ่งมองภาพนี้อย่างตกตะลึง

เยี่ยนจ้าวเกอมองจางฮ่าวเฉิง จากนั้นก็มองลี่เซิ่ง กล่าวว่า “พวกท่านเข้ามาสองคนพร้อมกันเถอะ”

“ข้ามิได้มีเจตนาจะดูถูกพวกท่าน ตรงกันข้าม ในฐานะที่เป็นการต่ออำลาระกับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณของข้า ข้าก็อยากจะสู้ให้เต็มที่”

เขาหัวเราะ “พวกท่านสองคนเกรงว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีเวลาจับมือกันต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นในอดีต หรือในอนาคต ตอนนี้อาจจะเป็นโอกาสเดียวแล้ว คิดจะลองดูหรือไม่? บางทีอาจจะน่าสนุกก็ได้”

ลี่เซิ่งมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอใช้มือขวาป้องกันจางฮ่าวเฉิง เพียงยิ้มเท่านั้น

“ได้! แค่กระบวนท่าเดียว!” ดวงตาของลี่เซิ่งเย็นเยียบ ส่งเสียงกู่ร้อง

พริบตาเดียว เขาก็หายไป ใช้ประกายดาบสีดำที่ดุดันสายหนึ่งฝ่าท้องทะเล ฟันไปใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!

มหาสมุทรถูกแบ่งเป็นสอง ประกายดาบผ่านไปที่ใด สรรพสิ่งล้วนถูกทำลาย!

น้ำทะเลมิได้ถูกดันออกไปทั้งสองฟาก แต่ว่าทุกอย่างที่ขวางอยู่ด้านหน้าประกายดาบล้วนถูกทำลายสิ้น

ท่าดาบท่าที่หกในท่าดาบเจ็ดทะเลสังหารมังกร ท่าดาบที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งจอมยุทธ์ระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ลงไปสามารถใช้ได้!

มิได้ยิ่งใหญ่ทรงพลัง ทั้งโจมตีทั้งปกปักษ์ ไม่เผยช่องโหว่เหมือนการลงมือของจางฮ่าวเฉิง

ทว่าดาบของลี่เซิ่งมีเพียงเป้าหมายเดียว

สังหารคู่ต่อสู้!

ในท่าดาบนอกจากพลังทำลายล้างสูงสุด ก็ไม่มีสิ่งอื่นอีก!

นับเป็นขีดจำกัดพลังโจมตีของจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณในโลกผืนสมุทรจะไปถึงได้!

จางฮ่าวเฉิงคิดจะเก็บกระบวนท่า แต่พบว่าตนถูกฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอตรึงไว้ มิอาจถอยได้

เขาสูดลมหายใจลึก ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง กระตุ้นพลังทั้งหมด

มังกรแสงสีน้ำเงินคำราม เกล็ดทั่วร่างเปิดออก คล้ายกับมังกรถูกสะกิดเกล็ด จมดิ่งอยู่ในความโกรธ ต้องการทำลายทุกอย่าง และทำลายท้องนภาให้สิ้นซาก!

ท่าแปลงทำลายฟ้า ท่าที่มีพลังโจมตีรุนแรงที่สุดในกระบวนท่ามังกรเปลี่ยนหกลักษณ์!

พลังอันบ้าคลั่งสองสายพุ่งเข้ามาหาเยี่ยนจ้าวเกอในเวลาเดียวกัน

กระนั้น สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สภาวะของฝ่ามือขวาพลันเปลี่ยนแปลง

ความโกลาหลนั้นขยายใหญ่ขึ้น ทั้งยังทำลายทุกอย่างสิ้น

ในวินาทีนี้ โลกเหมือนถอยกลับไปอยู่ในยุคต้นกำเนิด ทุกสรรพสิ่งไม่คงอยู่

ไร้จันทรา ไร้อาทิตย์ ไร้อนาคต ไร้อดีต ไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดจบ ไร้การเคลื่อนไหว ไร้การสงบนิ่ง

อึดใจต่อมา ความโกลาหลก็กระเบิดอย่างสะเทือนเลือนลั่น!

คล้ายกับทุกสรรพสิ่งถูกเก็บอยู่ในความโกลาหล จากนั้นความโกลาหลก็ถูกทำลาย เกิดจักรวาลขึ้นมา!

ทุกสิ่งพลันสลายด้วยวฝ่ามือเดียว!

มังกรแสงสีน้ำเงิน ถูกทำลาย!

ประกายดาบสีดำ ถูกทำลาย!

จางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่ง ยอดอัจฉริยะแห่งยุคของโลกผืนสมุทรต่างกระเด็นออกไปด้านหลังพร้อมกัน!

ผู้อาวุโสต่งแห่งวังผลึกวารีตื่นตระหนก รีบรับจางฮ่าวเฉิงไว้ เขาเห็นจางฮ่าวเฉิงกระอักเลือด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง

เขาพลันเดือดดาล หันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ แต่กลับได้ยินจางฮ่าวเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน “เขายั้งมือไว้แล้ว!”

“ที่เขาสู้หนึ่งต่อสอง มิใช่เพราะโอหัง แต่เป็นพวกข้าไม่ประมาณตนต่างหาก”

อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเยว่ที่รับลี่เซิ่ง เขาถอนหายใจเสียงหนึ่ง “พวกข้าเพียงได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังฝึกปรือไม่ถูกทำลาย เขาทำให้พวกเราสมปรารถณา การได้ต่อสู้กับเขาช่างน่าอัศจรรย์นัก ข้าบอกไม่ถูก ไม่อาจบรรยายหรือพรรณนาได้ ได้แต่ต้องลองด้วยตัวเอง ถึงจะเข้าใจ”

“ระดับของพวกเรากับของเขาต่างกันเกินไป”

ทุกคนที่อยู่รอบๆ ล้วนงงงัน

จางฮ่าวเฉิงมองไปที่เยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อนเช่นกัน สุดท้ายได้แต่ถอนใจชมเชย

ทุกคนพลันมองเยี่ยนจ้าวเกอที่เอาชนะจางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่งด้วยกระบวนท่าเดียว

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

ดอกไม้วิญญาณสิบดอกเหนือศีรษะซึ่งกำลังบานออก ขั้นตอนที่หยุดไปก่อนหน้าเริ่มใหม่อีกครั้ง

ลวดลายอาคมมากมายผสมผสานกัน ค่อยๆ กลายเป็นแสงสว่างไร้ขอบเขต ส่องสว่างไปทั่วมหาสมุทร

………………………………………

[1] เมื่อยอดฝีมือลงมือ ก็ทราบว่ามีหรือไม่มี สุภาษิตจีน หมายถึง คนทั่วไปไม่อาจมองเรื่องราวที่ยากเย็นออก แต่ยอดฝีมือสามารถมองออกและแก้ไขได้อย่างสบายๆ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset