เยี่ยนจ้าวเกออยู่ภายในทะเลแสงสว่าง
เหนือศีรษะของเขา ลวดลายอาคมมากมายรวมตัวกัน ประกอบกันกลายเป็นอาคมวิญญาณที่ลี้ลับ
อาคมวิญญาณนั้นดูแล้วธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง แต่คล้ายกับแฝงกฎเกณฑ์อันไร้สิ้นสุด ยากจะบรรยาย
ชายหนุ่มเงยหน้ามองไป นี่ก็คืออาคมจริงแท้อันเป็นญาณวรยุทธ์ของตนเอง
ครั้นอาคมนี้ประกอบกันเสร็จ ตนก็ก้าวเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณอย่างเป็นทางการ!
เขายิ้มเล็กน้อย นิมิตอันยิ่งใหญ่เหนือศีรษะพลันเปลี่ยนแปลงรูปร่าง มิได้ดูไม่ซับซ้อนและน่าอัศจรรย์อีกต่อไป เปลี่ยนเป็นเข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังยิ่งใหญ่บริสุทธิ์ดั่งเช่นฟ้ากว้าง
วินาทีถัดมา นิมิตก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง คล้ายกับมังกรเขียวตัวหนึ่งลุกล้ำสำเร็จ จากนั้นแสงสว่างก็สั่นไหว ราวกับมังกรกำลังเคลื่อนไปมาระหว่างชั้นเมฆ
นิมิตเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็กลายเป็นเปลวเพลิงสีม่วง แล้วรวมตัวกันเป็นเตาปรุงโอสถใบหนึ่ง
เกิดปรากฏการณ์มากมาย เปลี่ยนแปลงเป็นนับหมื่นนับพัน แสดงให้เห็นว่าเยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจแก่นแท้ของวรยุทธ์ทั้งหลาย
สุดท้ายหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสั่งความคิด ภาพนิมิตนี้ก็หายไปในศีรษะของเขา แสงสว่างมากมายรอบตัวก็ค่อยๆ หายไปเช่นกัน
หลังจากแสงสลายไป ในที่สุดคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านนอกก็เห็นเยี่ยนจ้าวเกอได้อย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะนั่งอยู่ที่นั่นเฉยๆ คล้ายกับไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันใด แต่ว่าทุกคนที่อยู่รอบๆ ล้วนทราบว่า คนหนุ่มที่ปรากฏตัวต่อหน้าตนผู้นี้ ได้กลายเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณแล้ว!
เป็นอย่างที่คิดไว้ก่อนหน้า สำหรับเขาแล้ว ธรณีประตูของมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณมิใช่ปัญหาว่าจะข้ามได้หรือไม่ แต่อยู่ที่ตนคิดจะข้ามหรือไม่ต่างหาก
อยากหยุดก็หยุด อยากไปก็ไป ช่างเป็นการทำตามใจโดยแท้
ในตอนนี้จอมยุทธ์แห่งโลกผืนสมุทรมองใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเยี่ยนจ้าวเกอ ในใจรู้สึกสั่นกลัว
นี่มิใช่คนที่มีพลังลี้ลับ มีวิชารักษาความอ่อนเยาว์ หรือใช้วิชาลี้ลับทำให้ตนเปลี่ยนจากชราเป็นหนุ่ม
แต่เป็นคนที่มีอายุภายนอกและอายุจริงๆ เหมือนกัน
ในช่วงเวลาอันยาวนานนับตั้งแต่มีโลกผืนสมุทรมาหลังจากมหาภัยพิบัติ เคยปรากฏมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่อายุน้อยแบบนี้เมื่อใดกัน?
มาถึงวินาทีนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง มองหน้ากันเอง ‘รอเดี๋ยว! อย่าว่าแต่มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณเลย มีมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณที่อายุน้อยเช่นนี้ด้วยหรือ?’
เมื่อลองคิดดูให้ดี ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก
ฟู่เอินซูมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเงียบงัน
ครู่ต่อมา นางจึงถอนใจเสียงเบา ‘เยี่ยนตี๋ อย่างอื่นมิต้องพูดถึง ในด้านความเร็วของการเพิ่มระดับ บุตรของเจ้าก้าวข้ามเจ้าไปแล้วจริงๆ’
‘ถึงแม้จะไม่ได้ทำลายสถิติมหาปรมาจารย์ที่มีอายุน้อยที่สุดของเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ได้เลื่อนเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณตั้งแต่อายุยี่สิบห้ากระมัง? จะว่าไป กว่าจ้าวเกอจะอายุยี่สิบห้า ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย บุตรของเจ้าเป็นคลื่นลูกหลังไล่คลื่นลูกหน้าโดยแท้’
การสำเร็จเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณยากลำบากถึงเพียงไหน ไม่ว่าจะเป็นในแปดพิภพ หรือเป็นในโลกผืนสมุทร มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณต่างก็เป็นบุคคลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเจดีย์ทอง
จอมยุทธ์หลายคนไม่อาจปีนป่ายมายังระดับนี้ได้ตลอดชีวิต สูญเสียอายุขัยเรื่อยๆ และแก่ชราอย่างต่อเนื่อง มิอาจเดินไปยังจุดหมายของชีวิตได้
เหตุการณ์ที่ลูกศิษย์หลานศิษย์ซึ่งมีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำของมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณเสียชีวิตไปก่อน เพราะอายุขัยเพิ่มมากขึ้น ก็มีไม่เห็นอยู่ไม่น้อย
เมื่อลูกศิษย์และหลานศิษย์ของพวกเขาย่างเข้าสู่วัยชรา พวกเขาถึงแม้จะมีอายุมากกว่า แต่เมื่อเทียบกับอายุขัยที่เพิ่มขึ้นมากแล้ว กลับยังอยู่ในวัยกลางคน หรือแม้แต่วัยหนุ่ม
เพียงแต่มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่อายุน้อยเหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ ยังคงทำให้คนที่ได้ยินตื่นตระหนกอยู่ดี
ไม่ว่าจะเป็นฟู่เอินซูที่มาจากแปดพิภพ หรือจอมยุทธ์แห่งโลกผืนสมุทร ในตอนนี้เมื่อมองเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว จิตใจก็ซับซ้อนอยู่ชั่วขณะ
จางฮ่าวเฉิงกับลี่เซิ่งที่พ่ายแพ้ภายใต้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอเมื่อครู่ ตกตะลึงพูดไม่ออกยิ่งกว่า
ครู่ต่อมาผู้อาวุโสเยว่แห่งสำนักสังหารมังกรได้สติขึ้น เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ‘เขาใช่ลูกศิษย์ของสำนักปราชญ์ปีศาจหรือไม่? ถ้าหากใช่ ก็เก็บเอาไว้ไม่ได้!’
‘ถ้าหากไม่ใช่ แล้วคนเช่นนี้โผล่มาจากไหนกัน? ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้กลับปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เป็นเพราะอะไรกันแน่? เป็นมิตรหรือเป็นศัตรู?’
ผู้อาวุโสต่งแห่งวังผลึกวารี รวมถึงยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณคนอื่นที่อยู่รอบๆ ในตอนนี้จิตใจล้วนเต็มไปด้วยความสงสัย
ฟู่เอินซู่ยืนมองดูทุกคนตรงหน้าอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกออย่างเฉยเมิน
ครั้งนี้ทุกคนสงเกตว่า ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะสำเร็จเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ออกมาจากสายน้ำที่เกิดจากหยดน้ำพิรุณสายนั้น
อีกทั้งในสายน้ำสายนั้น ยังมีร่างคนปรากฏอยู่เลือนรางด้วย
ในใจของคนส่วนใหญ่เกิดความสงสัยยิ่งกว่าเดิม
คนของสำนักสังหารมังกรและวังผลึกวารีมองเยี่ยนจ้าวเกอ รู้สึกเป็นปรปักษ์ยิ่งกว่าก่อนหน้า
ผู้สืบทอดที่โดดเด่นที่สุดของตนพ่ายแพ้ให้กับเยี่ยนจ้าวเกอ กลายเป็นหินรองเท้าให้ชายหนุ่มสร้างชื่อบนโลกผืนสมุทร บารมีของสำนักตนได้รับความเสียหาย นี่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจมาก
แต่ว่าจางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่งซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องสองคนกลับไม่ได้โกรธแค้น แม้กระทั่งยอมศิโรราบ บอกให้ศิษย์ร่วมสำนักของตนเองไม่ต้องทำอะไร
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย มองทุกคนพลางกล่าวเรียบๆ “ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกแล้วว่ามาที่นี่เพราะต้องจัดการธุระ หลังจากจัดการเสร็จแล้วย่อมจากไป”
“การท้าสู้ระหว่างทั้งสองท่าน ตอนนี้ดูเหมือนจะดำเนินต่อไปไม่ได้แล้ว ข้าเองก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ว่าด้วยคุณสมบัติและพลังของพวกท่านสองคน เชื่อว่าพวกได้จะได้สิ่งที่ต้องการแน่”
“ทุกท่านจากวังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร ถ้าหากอยากลงมืออีกข้าก็ไม่ถือสา มีแต่จะรับไว้”
“แต่จะว่าไป คนที่ตั้งใจจะตอแยข้า คาดว่าคงใกล้มาถึงแล้วกระมัง?” เยี่ยนจ้าวเกอแค่นหัวเราะขณะพูด สายตากวาดผ่านทุกคนในสำนักจิตประสาน อีกฝ่ายพลันสั่นกลัวขึ้นมา
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่รู้จักสำนักปราชญ์ปีศาจที่พวกท่านพูดถึง ข้ากับท่านป้ามาจากโพ้นทะเล มิได้อยู่ในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมมะ หรือหกพรรคมารของพวกท่าน”
“การเดินทางในครั้งนี้มีเป้าหมายจริงๆ แต่ว่าคนที่ข้าต้องการตามหามิใช่วังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร แต่เป็นเขาหงส์วิเศษ”
ทุกคนที่อยู่รอบๆ จิตใจสั่นไหว ต่างจมลงสู่ห้วงความคิด
หลังจากผู้อาวุโสต่งแห่งวังผลึกวารีสนทนากับสำนักคืนวิญญาณ ก็มองคนจากเกาะจิตประสานแวบหนึ่ง ครุ่นคิดในใจ
เขาหงส์วิเศษกับวังผลึกวารีมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี ผู้อาวุโสต่งขมวดคิ้วถาม “แล้วท่านกับเขาหงส์วิเศษเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู การไปทะเลไร้ขอบเขตในครั้งนี้เพื่อล้างแค้นหรือ”
เยี่ยนจ้าเวกอแบมือ พูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นต้องรอข้าถึงเขาหงส์วิเศษก่อนจึงค่อยทราบ แต่ถ้าไม่เหนือความคาดหมาย สมควรเป็นมิตรมิใช่ศัตรู”
ฝ่ายธรรมมะที่อยู่รอบๆ ได้ยินดังนั้น ก็คลายใจลงโดยสัญชาตญาณ
ส่วนคนในพรรคมาร ต่างก็อดรู้สึกตึงเครียดไม่ได้ สายตาที่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ พลันเพิ่มความระมัดระวังขึ้น
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ นั่งขัดสมาธิอยู่ในรัศมีแสงที่เกิดจากหยดน้ำพิรุณ
ผู้อาวุโสเยว่แห่งสำนักสังหารมังกรมองเยี่ยนจ้าวเกอ ก่อนจะหรี่ตา แล้วโพล่งถามออกมาว่า “คนที่ท่านต้องการตามหาคือเขาหงส์วิเศษ เช่นนั้นคนที่ต้องการตามหาท่าน เป็นเกาะจิตประสานอย่างนั้น”
“ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเหมือนไม่มีเรื่องราวใด
ผู้อาวุโสสำนักต่งแห่งวังผลึกวารีถาม “เหตุใดต้องตามหาท่าน”
ขณะที่พูด จิตใจของจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ระดับรูปญาณที่อยู่รอบๆ ล้วนสั่นไหวเล็กน้อย หันไปมองที่ไกลออกไป
“อ้าว คนมาแล้ว ให้เขาพูดเองเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะร่า
การสั่นไหวของพลังงานที่รุนแรงสุดขีด ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ รู้สึกได้ถึงความตั้งใจอันเย็นเยียบที่ปรากฏขึ้นยังที่ไกลออกไป!