ทุกคนในเมืองทะเลมรกตปรึกษากันเสร็จ ผู้อาวุโสผู้หนึ่งยกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้น ฉับพลันนั้นเงาร่างของเยี่ยนจ้าวเกอก็พุ่งไปยังตำหนักใจกลางทันที
“ศิษย์น้องอวี๋โปรดเปิดประตูด้วย” ผู้อาวุโสท่านนี้พูดขึ้น ครู่ต่อมา ผนึกไร้รูปร่างที่ครอบคลุมตำหนักใหญ่ก็เปิดออกเป็นช่องว่างช่องหนึ่ง ก่อนที่ผู้อาวุโสท่านนี้จะพาเยี่ยนเจ้าเกอเข้าไปด้านใน
หลังจากเข้ามาในตำหนักแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เห็นเฒ่าอวี๋ ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทะเลมรกตกำลังใช้ค่ายกลอยู่
ที่ด้านข้าง มีผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทะเลมรกตอีกคนนั่งหลับตา ใบหน้าอิดโรยเหมือนกระดาษทอง
นั่นคือผู้อาวุโสเมืองทะเลมรกตที่ใช้ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดคนแรก เฒ่าอวี๋รับช่วงต่อมาจากเขา
ถ้าหากทำหน้าที่แทนไม่ทัน ผู้อาวุโสท่านนี้คงจะสิ้นแรงตายในค่ายกลเพราะปีศาจอัคคีที่อยู่ด้านนอกไปแล้ว
สถานการ์ณในตอนนี้ของเฒ่าอวี๋ย่ำแย่มากเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
เฒ่าอวี๋ได้รับรายงานจากผู้อาวุโสเมืองทะเลมรกตที่อยู่ด้านนอก จึงเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว เขาเพียงพยักหน้าให้เยี่ยนจ้าวเกอเล็กน้อย แต่มิอาจพูดคุย
เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้ใส่ใจนัก เดินทะลุไปยังตำหนัก
ณ ที่แห่งนั้น ปรากฏม่านน้ำสีมรกตไม่โปร่งใสชั้นหนึ่ง ทำให้มองไม่เห็นภาพอะไรภายในทั้งสิ้น แต่ว่าแสงสีทองละลานตาพุ่งออกมาจากในม่านน้ำนี้
นี่คือสถานที่ที่เจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงเข้าฌานหลอมสร้างกระบี่สัตยาทะเลมรกต
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองผู้อาวโสเมืองทะเลมรกตที่เข้ามากับเขา อีกฝ่ายเข้าไปในม่านน้ำสีมรกตก่อน ส่วนเขาตามติดอยู่ด้านหลัง
หลังจากเข้าไปในม่านน้ำแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็หยุดฝีเท้า สายน้ำสีเขียวมรกตครอบคลุมทั้งร่างของเขาไว้ด้านใน
ผู้อาวุโสเมืองทะเลมรกตผู้นั้นหยุดฝีเท้าเช่นกัน ก่อนจะยื่นมือเขียนตัวหนังสือหลายแถวกลางอากาศ
ตัวหนังสือคล้ายสลักลงในน้ำ ครู่ต่อมาก็กลายเป็นแสงจางหายไป
สักพักหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ว่ามีเจตจำนงอันแข็งแกร่งส่งมาจากด้านหน้า ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยง
ตัวของซ่งอู๋เลี่ยงขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่ก็มิใช่ไม่ทราบถึงสถานการณ์ภายนอก
เยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้ว่าภายในใจของเขาคิดอะไรอยู่ แต่ว่าเจ้าเมืองทะเลมรกตผู้นี้ไม่ได้เผยสีหน้าคัดค้านอันใด
ชายหนุ่มพยักหน้าทันที ก่อนจะลอยตัวไปด้านบน
มองจากภายนอก เหนือตำหนักใจกลางเมืองชั้นในของเมืองทะเลมรกต มีเสาน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่พุ่งขึ้นด้านบน เชื่อมต่อกับเพดานทะเลมรกตที่อยู่เหนือเมือง
ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎขึ้นในเสาน้ำ
เขาเงยหน้ามองดูอักขระค่ายกลที่เบาบางจนเกือบพังทลาย จากนั้นก็ก้มหน้ามองเมืองทะเลมรกตด้านล่าง เยี่ยนจ้าวเกอสูดหายใจลึก สายตาเย็นเยียบและเคร่งขรึม
ในตำหนักใจกลางเบื้องล่าง เฒ่าอวี๋ประคับประคองค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด จากนั้นค่ายกลก็หมุนวน ส่งข่าวให้แก่หยวนเจิ้งเฟิงกับอันชิงหลินที่กำลังสู้กับปีศาจอัคคีอยู่บนผิวทะเล
หยวนเจิ้งเฟิงถึงแม้ไม่เข้าใจเหตุผล แต่ขณะที่สู้กับปีศาจอัคคีก็รีบกระตุ้นให้เสื้อคลุมนภาปล่อยลมปราณนภาออกมาหลายสาย
ลำแสงสีดำสลับสีเหลืองเหมือนเมล็ดข้าวโพดจมๆ ลอยๆ อยู่ในปราณนภา คล้ายกับหมู่ดวงดาราแห่งทางช้างเผือก
ราชันปีศาจอัคคีไม่เข้าใจสาเหตุ แต่ก็ยังขัดขวางไว้
ปราณนภาที่หยวนเจิ้งเฟิงกระตุ้นขึ้นปะทะกับการโจมตีของราชันปีศาจอัคคีก่อนจะสลายไป เหลือเพียงแค่ปราณสายเดียวเท่านั้นที่พุ่งลงท้องทะเลได้
ในค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด เยี่ยนจ้าวเกอลอยนิ่งอยู่ในเสาน้ำ ตาจับจ้องเหนือศีรษะเขม็ง
ตอนที่ลมปราณซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันจากแก่นแท้พลังของเสื้อคลุมนภาพุ่งลงมา แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็ส่องประกาย
ปราณนภาวนเวียนรอบเสาน้ำสีมรกต ก่อนจะสลายเข้าไปด้านใน แล้วลอยวนอยู่เช่นนั้น
ในขณะเดียวกัน เฒ่าอวี๋ก็เปลี่ยนกลับค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดตามการนัดแนะก่อนหน้า
เกาะมังกรบูรพาที่ใหญ่เหมือนทวีปสั่นสะเทือน และลอยขึ้นสู่ผิวน้ำใหม่อีกครั้ง!
ม่านน้ำที่ครอบคลุมอยู่รอบเกาะมังกรตะวันออก เริ่มหุบเข้าใจกลางจากด้านบน
อักขระค่ายกลและค่ายกลวิญญาณหลายแห่งพังทลายติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำลายล้าง
น้ำสีมรกตทั้งหมดรวมตัวกันในท้องฟ้าเหนือตำหนักใกลางเมืองทะเลตะวันออกทั้งหมด กลายเป็นมวลน้ำทรงขนาดใหญ่
เมืองทะเลมรกตบนเกาะมังกรบูรพาเหมือนถือกำเนิดขึ้นใหม่ เบื้องหน้าทุกคนปรากฏประกายไฟละลานตา ทะเลไฟมากมายและพลังอันน่ากลัวครอบคลุมท้องฟ้า
ถ้ามิใช่เพราะหยวนเจิ้งเฟิงกับอันชิงหลิงปกป้องไว้ เกาะมังกรตะวันออกต้องกลายเป็นผืนแผ่นดินที่ไหม้เกรียมในชั่วพริบตา
มวลน้ำขนาดยักษ์นั้นเริ่มยุบตัวลง น้ำสีมรกตที่ไหลเชี่ยวไหลลงด้านล่างผ่านเสาน้ำ ซัดสาดสู่ตำหนักใจกลางเมืองทะเลมรกต
เยี่ยนจ้าวเกอซึ่งอยู่ในเสาน้ำ ได้รับแรงกดดันมหาศาล
สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา เป็นเตาผลึกหินชั้นในของตนเอง!
ลมปราณของเสื้อคลุมนภาอันบริสุทธิ์ กับพลังวิญญาณที่มารวมตัวกันจากค่ายกลย้อนกลับ ยังไม่พอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้
ไม่อย่างนั้นคนในเมืองทะเลมรกตคงไม่มีความกล้าและตัดสินใจ และอาจจะคิดวิธีคล้ายๆ กันไม่ออก
แต่พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์และค่ายกลย้อนกลับก็ยังมิอาจทำสำเร็จได้
เยี่ยนจ้าวเกอกำชับไว้สามเรื่อง เรื่องแรกคือให้เขาเข้าไปในใจกลางค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด เหตุผลอยู่ที่เตาผลึกหินชั้นใน!
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอและสำนักเขากว่างเฉิงพยายามศึกษาและปรับปรุงมันอย่างต่ำเนื่อง เตาผลึกหินชั้นในก็พัฒนาขึ้น
ชายหนุ่มมีพลังวรยุทธ์อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต อาศัยเพียงแค่เตาผลึกหินชั้นในหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังคงเป็นการกระทำที่เหนือบ่ากว่าแรง
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีแผนอยู่แล้ว
“เปิด!” เยี่ยนจ้าวเกอตบเตาหลอม ฝาเตาพลันเปิดออก ลมปราณจากเสื้อคลุมนภาพุ่งเข้าไปด้านใน
ฝาเตาปิดอีกครั้ง และเตาผลึกหินชั้นในก็สั่นสะเทือนในทันที
“จง…” เยี่ยนจ้าวเกอสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนขึ้น “…ระเบิด!”
จากนั้นเขาใช้สองมือตบลงบนเตาผลึกหินชั้นใน เตาขนาดยักษ์พุ่งไปยังตำหนักใจกลางเมืองทะเลมรกตเบื้องล่างราวกับดาวตก!
ทว่ายังไม่ทันถึงตัวตำหนัก ดาวตกละลานตาก็พลันแตกกระจาย!
แสงสว่างอันเจิดจ้าพุ่งออกมา กระทบกับพลังของค่ายกลที่ไหลกลับด้าน ก่อนจะพุ่งสู่ด้านในตำหนักใจกลาง สถานที่เข้าฌานของซ่งอู๋เลี่ยง
ฉับพลันนั้น เกาะมังกรบูรพาก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกคราหนึ่ง
แสงสีทองเจิดจรัสพุ่งขึ้นมาจากตำหนักใจกลางเมืองทะเลมรกต
วินาทีถัดมา คลื่นยักษ์อันน่ากลัวที่ไม่ด้อยกว่าตอนที่ค่ายกลถูกทำลายก็ซัดขึ้น โดยมีเกาะมังกรตะวันออกเป็นใจกลาง
เพียงแต่ครั้งนี้ คลื่นสูงเทียมฟ้ามิได้กระจายไปรอบๆ เพียงรวมตัวกันที่เมืองทะเลมรกตบนเกาะมังกรบูรพา
คลื่นคลั่งนับไม่ถ้วนกลบเกาะมังกรบูรพาในพริบตา แต่ไม่ทันไรก็ถูกเสาแสงสีทองที่ลอยขึ้นเหนือตำหนักใจกลางเมืองดูดซับไว้
พริบตานั้น เสาแสงสีทองก็ค่อยๆ กลายเป็นประกายกระบี่สีเขียวมรกต!
เจ็ดทะเลบังเกิด เจตจำนงกระบี่อันยิ่งใหญ่ไร้ขีดจำกัดถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว!
พวกเฒ่าอวี๋เห็นเหตุการณ์นี้จากในเมืองทะเลมรกต ต่างรู้สึกยินดีเกินบรรยาย ‘อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นของเมืองทะเลมรกต กระบี่สัตยาทะเลมรกตสร้างสำเร็จแล้ว!’
ในที่สุดความปรารถนาของสำนักก็สำเร็จ พอคิดถึงความลำบากที่เกือบจะล้มเหลวก่อนหน้า ทุกคนก็มีความรู้สึกหลายอย่างผสมผสาน ทว่าก็ลิงโลดจนแทบสะอื้นไห้
กลางท้องฟ้า พวกปีศาจอัคคีรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เบื้องล่าง ใบหน้าพลันเปลี่ยนไป
มีบางตัวคิดหนี มีบางตัวไม่สนใจหยวนเจิ้งเฟิงและอันชิงหลินอีก ชิงโจมตีเมืองทะเลมรกตก่อน และมีอีกหลายตัวที่โจมตีใส่ทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง คิดตายในการต่อสู้
ส่วนความสว่างจากกระบี่สีเขียวมรกตในเมืองทะเลมรกตเบื้องล่าง จู่ๆ ก็พลันริบหรี่ลง ราวกับจะหายไป
แต่เจตจำนงกระบี่อันน่าพรั่นพรึง ก็โจมตีใส่ปีศาจอัคคีด้านบนอย่างรุนแรงในทันที
เยี่ยนจ้าวเกอที่ผละออกมาแล้ว ยืนเอาสองมือไพล่หลังอยู่กลางอากาศ มองภาพนี้อย่างสบายอารมณ์
ทุกคนที่อยู่ในเมืองทะเลมรกตเบื้องล่างมองไปที่เขา
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ไม่ว่าจะมีศักดิ์ฐานะต่ำสูง อายุมากหรือน้อย ทุกคนล้วนทำความเคารพเยี่ยนจ้าวเกอทั้งสิ้น