หลิ่วหมิงรู้สึกว่าเบื้องหน้าดำมืด ก่อนที่ภาพรอบด้านจะเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทั้งร่างถูกลากเข้าไปในปากของอสูรเหอหม่ายักษ์ตัวนี้อย่างไม่อาจควบคุมได้
เสียง “ซ่า!” ดังขึ้นเบาๆ
ร่างกายมหึมาของอสูรเหอหม่ายักษ์พลิกตัวครั้งเดียวก็จมหายลงปในน้ำของแม่น้ำมืดที่สีดำสนิทดุจหมึกอีกครั้ง แล้วแหวกว่ายเอื่อยเฉื่อยลึกลงไปในแม่น้ำ
ในเวลาเดียวกันนั้นหลิ่วหมิงรู้สึกเหมือนตนเองกำลังจมลงไปในของเหลวเย็นยะเยือกที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง ร่างกายถูกแรงดึงดูดล่องหนอันแข็งแกร่งสายหนึ่งลากลงมาในลำคอของอสูรยักษ์
แม้รอบด้านมืดสนิทจนไม่อาจมองเห็นสิ่งใด แต่หลิ่วหมิงรู้ว่าของเหลวที่อยู่รอบตัวเขาคงจะเป็นน้ำจากแม่น้ำมืดอย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากเนื้อภายในร่างของอสูรตัวนี้นุ่มหยุ่นยิ่งนัก อีกทั้งยังลื่นผิดปกติ เขาจึงไม่อาจยืนตั้งหลักได้แม้แต่น้อย
ฟ้าดินโคลงเคลงสั่นไหวรุนแรงอยู่พักหนึ่ง หลิ่วหมิงก็ไหลลื่นลงไปลึกกว่าเดิมพร้อมกับน้ำของแม่น้ำมืดก้อนนั้น
ระหว่างทางเขาครุ่นคิดเร็วจี๋จากนั้นรีบกระตุ้นเคล็ดวิชา ปราณดำทะลักออกมารอบร่างหุ้มตนเองไว้ในรังไหมหมอกสีดำสนิทก้อนหนึ่ง ความหนาวเย็นที่เสียดแทงกระดูกจึงลดทอนลงบ้าง
ไม่ทันไรรังไหมหมอกที่หลิ่วหมิงสร้างขึ้นก็ไหลตามน้ำจากแม่น้ำมืดก้อนนั้นเข้ามาในพื้นที่แห่งหนึ่งก่อนจะไหลลงไปด้านล่างต่อ
ฉับพลันลมปราณหนาวยะเยือกสายแล้วสายเล่าที่ปะปนอยู่กับกลิ่นเหม็นแสบจมูกก็ลอยขึ้นมาจากด้านล่าง
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้พลันย่นจมูกแล้วกระตุ้นเคล็ดวิชาในมือทันใด พลังเวทที่รวบรวมไว้นานแล้วกระแทกน้ำจากแม่น้ำมืดที่ล้อมอยู่รอบตัวจนกระจาย ในเวลาเดียวกับที่พยัคฆ์หมอกยักษ์สีดำขนาดสิบกว่าจั้งสองตัวก่อตัวขึ้นบนผิวของรังไหมหมอกแล้วกระโจนลงไปด้านล่างพร้อมกัน
“บึ๊ม!”
พยัคฆ์หมอกสองตัวระเบิดส่งเสียงดังกึกก้องกลางอากาศ พลังมหาศาลที่มองไม่เห็นไหวกระเพื่อมหยุดร่างกายที่ร่วงหล่นลงไปของหลิ่วหมิงให้ลอยอยู่กลางอากาศได้อย่างหวุดหวิด
เวลานี้หลิ่วหมิงมีปราณสีดำวนเวียนอยู่รอบร่าง ขณะที่สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมาไม่หยุด
ภายในท้องของอสูรเหอหม่ายักษ์ตัวนี้คงสะสมน้ำจากแม่น้ำมืดไว้มากมายดุจทะเลสาบมืดขนาดเล็กแห่งหนึ่งเป็นแน่
ในเวลาเดียวกันนี้เขาสัมผัสได้ว่าร่างกายของอสูรเหอหม่ายักษ์ตัวนี้กำลังขยับอย่างรุนแรง คิดว่าอสูรตัวนี้คงกำลังดำลงไปที่ก้นแม่น้ำ
แต่ตอนนี้ตนเองไร้หนทาง ได้แต่รออสูรตัวนี้หยุดแล้วค่อยคิดหาวิธี
หลังจากวางแผนแล้ว เขาก็นั่งขัดสมาธิลอยอยู่ในท้องของอสูรเหอหม่ายักษ์ตัวนี้ สองมือกำหินจิตวิญญาณระดับสูงไว้ข้างละก้อน หลับตาสองข้าง ใช้สมาธิทำสองสิ่งในเวลาเดียงกัน พยายามตั้งร่างกายให้มั่นคง ขณะที่โคจรปราณฟื้นพลังไปด้วย
การโคลงเคลงดำเนินอยู่ราวเกือบครึ่งชั่วยาม
หลังจากเสียง “บึ๊ม” ดังสนั่น ในที่สุดภายในร่างของอสูรเหอหม่ายักษ์ก็หยุดส่ายไปมา
หลิ่วหมิงคิดขึ้นว่าน่าจะมาถึงก้นแม่น้ำมืดหรือที่อาศัยของอสูรยักษ์ตัวนี้แล้ว
เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ กำกระบี่ขู่หลุนไว้ในมือ ในเวลาเดียวกันมือข้างหนึ่งก็พลิกหงาย หินจันทราที่ทอแสงสีทองเรืองๆ ก้อนหนึ่งร่วงลงในมือ ทันใดนั้นแสงอ่อนๆ ผืนหนึ่งก็ส่องรอบด้านสว่างไสว
หลิ่วหมิงเพิ่งเห็นชัดว่าตนอยู่ในพื้นที่ว่างกว้างขวางยิ่งนักแห่งหนึ่ง รอบด้านคือกำแพงเนื้อสีดำสนิทเหนียวเหนอะที่กำลังขยับหยุกหยิกไม่หยุด บนกำแพงเนื้อมองเห็นลางๆ ว่าของเหลวสีดำเหนียวข้นสายแล้วสายเล่ากำลังไหลลงมาช้าๆ น่าขยะแขยงยิ่งนัก
ในตอนนี้เอง ด้านบนก็มีเสียงน้ำซู่ซ่าดังขึ้นอีกครั้ง
หลิ่วหมิงเห็นแล้ว แต่ยังไม่ทันตอบสนอง น้ำของแม่น้ำมืดสีดำลูกใหญ่ก็เทลงมาจากด้านบนท่วมหลิ่วหมิงจนมิดแล้วพาเขาไหลลงไปในตัวอสูรยักษ์อีกครั้ง
“ต๋อม” หลิ่วหมิงร่วงมาในบึงน้ำ
“เป็นน้ำของแม่น้ำมืดจริงๆ!”
หลิ่วหมิงลอบพึมพำกับตนเองประโยคหนึ่ง เขาเร่งเร้าพลังเวทในร่างต้านความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูกที่ถาโถมมาทั่วทุกสารทิศอย่างสุดกำลัง ในเวลาเดียวกันปราณดำทั่วร่างก็ทะลักออกมา ร่างกายกลายเป็นลำแสงสีดำเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากน้ำสีดำ เหาะเร็วรี่ขึ้นไปด้านบน
แต่ทุกครั้งที่เขาหนีออกมา เพิ่งจะออกห่างได้ไม่กี่สิบจั้งก็จะมีน้ำสีดำลูกใหญ่จู่โจมมาจากด้านบน เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำมืดหนักอย่างประหลาด แม้กายเนื้อของหลิ่วหมิงจะแข็งแกร่งก็ไม่อาจต้านทานยามมันโถมเข้ามาได้แม้แต่น้อย ทุกครั้งล้วนถูกซัดถอยหลังกลับไปช่วงใหญ่ก่อนจะตั้งหลักได้อย่างหวุดหวิด
แม้เป็นเช่นนี้ หลังจากเวลาราวจิบชาครึ่งถ้วย หลิ่วหมิงก็ยังกลับมาถึงในปากของอสูรยักษ์อย่างขลุกขลัก มองเห็นฟันแหลมคมสีดำสนิทที่เรียงอยู่สองแถวบนเหงือกของอสูรยักษ์อยู่รางๆ
ยังไม่ทันมองเท่าใดนัก ฉับพลันอสูรเหอหม่ายักษ์ก็อ้าปากมหึมาขึ้นอีกครั้ง
“ซู่” น้ำจากแม่น้ำมืดสีดำลูกใหญ่ทะลักเข้ามาจากด้านนอกอีกหน
“กระบี่ร่างเป็นหนึ่ง!”
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ สองมือก็ใช้เคล็ดกระบี่อย่างรวดเร็ว แสงสีม่วงแสบตาสายหนึ่งพุ่งผ่านไป จากนั้นอสนีบาตก็ส่งเสียงดังเปรี้ยงปร้างไม่ขาด แสงกระบี่สีม่วงสายหนึ่งแหวกวงล้อมของน้ำสีดำชั้นแล้วชั้นเล่า ทะลวงออกมาจากปากของอสูรเหอหม่ายักษ์แล้วพุ่งเข้าไปในแม่น้ำมืดสีดำสนิทด้านนอก
ทว่าทันทีที่เขาเข้ามาในน้ำของแม่น้ำมืดก็รู้สึกว่าน้ำหนักบนร่างเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน เขากัดฟันกรอด แสงกระบี่สีม่วงที่หุ้มอยู่รอบร่างเพิ่มทวี จากนั้นพุ่งพรวดต้านพลังมหาศาลชั้นแล้วชั้นเล่าขึ้นไปด้านบน
ยังไม่ทันที่เขาจะหนีไปได้ไกลเท่าไร เสียงกรีดร้องดังสนั่นก็ดังขึ้น!
หลิ่วหมิงหนาวสันหลัง น้ำวนลูกใหญ่กำลังจะล้อมตัวเขาไว้แล้วลากเข้าไปในปากของอสูรแห่งความมืดร่างยักษ์อีกครั้ง
ดวงตาสองข้างของเขาทอประกายเย็นเยียบ เขารีบเคลื่อนพลังเวทมาที่ฝ่ามือแล้วตบอสูรสมุทรแปดขาตรงหน้าอก
พรึ่บ ปีกเนื้อสีเงินคู่หนึ่งก่อตัวขึ้นบนแผ่นหลังของเขา
แสงสีเงินพุ่งหายไป!
หลิ่วหมิงปรากฏตัวเหนือร่างของอสูรตัวนี้ พร้อมกับเปลี่ยนท่าเคล็ดกระบี่ที่มือของเขา เสียงใสกังวานดังออกมาครั้งหนึ่ง เงากระบี่สีม่วงขนาดยี่สิบถึงสามสิบจั้งสายหนึ่งที่กระบี่ขู่หลุนสร้างขึ้นร่วงลงมาพร้อมกับอสนีบาตสีม่วงขนาบข้างหลายเส้น
เสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง!
เสียงคำรามคลุ้มคลั่งดั่งจะขาดใจดังตามมาติดๆ
เขากวางข้างหนึ่งของอสูรเหอหม่ายักษ์ถูกเงากระบี่สีม่วงฟันสะบั้น โลหิตสีดำฉับพลันทะลักออกมาเป็นแถบ
การกระทำนี้ของหลิ่วหมิงเหมือนจะทำให้อสูรเหอหม่ายักษ์ตัวนี้โกรธจัด เกล็ดบนแผ่นหลังของมันตั้งชัน ในเวลาเดียวกันขาทั้งสี่ข้างก็กระทืบพื้นพุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิงประดุจภูเขายักษ์ลูกหนึ่ง
หลิ่วหมิงกวักมือข้างหนึ่งเก็บกระบี่ขู่หลุนกลับไป หลังจากนั้นร่างกายก็พร่าเลือนวูบหนึ่งกลายเป็นเงาดำสี่ร่างพุ่งไปสี่ทิศแปดทางทันที
ลูกตาสีเหลืองอร่ามทั้งสองดวงของอสูรเหอหม่ายักษ์กลอกกลิ้งอยู่ในเบ้าตาครู่หนึ่ง มันก็สูดลมหายใจ พายุหมุนลูกหนึ่งพาน้ำจากแม่น้ำมืดไม่น้อยพัดเข้าไปในร่างของมัน
ฉับพลันร่างกายของมันก็พองขึ้นหนึ่งเท่าจนมีขนาดเกือบสองร้อยจั้ง พุงบวมตุงเป็นลูกกลมในพริบตา
“เปรี้ยงๆๆๆ!”
เกล็ดบนร่างของอสูรเหอหม่ายักษ์พุ่งพรวดออกไปรอบทิศราวกับสายฝนกระทบใบตอง ในเวลาเดียวกันมันก็อ้าปากอันใหญ่โต น้ำสีดำสายหนึ่งพุ่งออกมากลายเป็นกระแสน้ำสีดำสายหนึ่งล้อมพื้นที่รอบด้านเอาไว้
“ฟู่” “ฟู่” ร่างเงาสามร่างที่หลิ่วหมิงสร้างขึ้นพังทลายทันที!
ฉับพลันร่างต้นของหลิ่วหมิงก็รู้สึกว่าทั้งร่างหนักอึ้ง เกล็ดสีดำหลายสิบแผ่นปรากฏห่างไปเบื้องหน้าไม่กี่จั้งในพริบตา
เวลานี้เขาเพิ่งมองเห็นเกล็ดบนร่างของอสูรเหอหม่ายักษ์เหล่านี้ชัดเจน ไม่เพียงดำขลับ ด้านบนยังมีลวดลายพิเศษสลักไว้อีกด้วย ขอบเกล็ดเป็นฟันเลื่อยซี่แล้วซี่เล่าคมกริบอย่างยิ่ง
หลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขายกแขนข้างหนึ่งขึ้นอย่างไม่พูดพร่ำ แสงสีเหลืองส่องสว่างออกมาจากในแขนเสื้อ มุกกลมสีเหลืองหม่นลูกหนึ่งพุ่งออกมา มันหมุนติ้วรอบหนึ่ง เพียงพริบตาก็กลายเป็นเงาภูเขาน้อยสีเหลืองลูกหนึ่งประจันหน้ากับเกล็ดของอสูรยักษ์เหล่านั้น
“ปังๆ” เสียงพุ่งชนดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า สายน้ำรอบด้านกระเพื่อมอย่างรุนแรง แสงสีดำสาดส่องไปรอบด้าน เกล็ดที่เหลืออยู่จำนวนหนึ่งกระเด็นออกไป
เกล็ดเหล่านี้ของอสูรยักษ์คมกริบยิ่งนัก จำนวนก็มากมายไล่หลังกันมาไม่หยุดหย่อน ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองฝ่ายเผด็จศึกกันไม่ได้ เสียงระเบิดดังกึกก้องเกิดขึ้นกลางท้องฟ้าไม่จบไม่สิ้น
ขณะที่เกล็ดระเบิดตัวเองไปเรื่อยๆ เงาภูเขาน้อยที่มุกบรรพตธาราสร้างขึ้นก็ลอยขึ้นๆ ลงๆ เริ่มไม่มั่นคงแล้ว
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ใบหน้าพลันปรากฏสีหน้าหวาดหวั่นเล็กน้อย เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งใส่ภูเขาน้อยสีเหลืองทันที
เสียงครวญทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับที่น้ำจากแม่น้ำมืดรอบด้านรวมตัวกันกลางอากาศไม่หยุด ภูเขาน้อยสีเหลืองทั้งลูกขยายพรวดพราดตาม พริบตาเดียวกลายเป็นภูเขายักษ์ขนาดเท่าตึกลูกหนึ่ง
เกล็ดสีเทาดำเหล่านั้นไม่อาจสั่นคลอนมุกบรรพตธาราได้อีกต่อไป พวกมันกลายเป็นละอองแสงสีดำจุดแล้วจุดเล่าจมหายเข้าไปในน้ำจากแม่น้ำมืดที่อยู่บนผิวของมุกบรรพตธารา
อสูรเหอหม่ายักษ์เห็นสถานการณ์ ดวงตาสีทองอร่ามทั้งสองข้างพลันทอประกายเจิดจ้า มันพ่นฟองอากาศสีเทาสองแถวออกมาจากรูจมูก จากนั้นอ้าปากมหึมาขึ้นอีกครั้ง
เสาน้ำสีดำที่หมุนเป็นเกลียวต้นหนึ่งพุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิงอย่างรวดเร็ว
หลิ่วหมิงทำหน้าเหี้ยม ยิงเคล็ดวิชาสองสายใส่เงาภูเขาน้อยอย่างต่อเนื่อง
“ซ่า” เสียงสายน้ำไหลดังสนั่น เงาแม่น้ำสายยาวสีดำสนิทดุจหมึกปรากฏออกมาในทันใด
ภาพอันแปลกประหลาดบังเกิดขึ้นแล้ว!
น้ำจากแม่น้ำมืดที่อยู่ในเสาน้ำสีดำราวกับถูกแม่น้ำสีดำดึงดูด บางส่วนแยกออกมาไหลเข้าไปในเงาแม่น้ำสีดำ
พริบตาเดียวเงาแม่น้ำสีดำก็ขยายขนาดขึ้นจนยาวถึงหลายสิบจั้ง
ทว่าสถานการณ์ดีอยู่ได้ไม่นาน มุกบรรพตธาราที่เสร็จสมบูรณ์เพียงครึ่งเดียวเม็ดนี้เหมือนจะดึงน้ำจากแม่น้ำมืดมาจนถึงขีดจำกัด ส่วนน้ำของแม่น้ำมืดที่เก็บสะสมอยู่ในร่างของอสูรตัวนี้กลับไหลไม่ขาดสายราวกับไม่มีวันหมดสิ้น พริบตาเดียวเกิดเป็นสายน้ำสองสายพุ่งปะทะกัน
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง!”
หลิ่วหมิงพึมพำแผ่วเบาประโยคหนึ่ง จากนั้นร่างกายก็เลือนรางหายไปจากที่เดิม
อึดใจต่อมาเงาแม่น้ำสีดำที่มุกบรรพตธาราสร้างขึ้นก็มลายหายไป เงาสีดำร่างหนึ่งโผล่มาอยู่เหนือศีรษะของอสูรเหอหม่ายักษ์ ก่อนที่มือของเขาจะเปล่งแสงสีเหลืองสว่างจ้า
หลิ่วหมิงอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์ออกมาติดกันสามคำ หลังจากนั้นสิบนิ้วที่สองมือก็แปรเปลี่ยนดุจกงล้อ ถ่ายเทพลังเวทของตนเข้าไปในมุกบรรพตธาราจนหมดไม่เหลือเก็บไว้แม้แต่น้อย
ครืน เงาภูเขายักษ์ที่ทอแสงสีเหลืองหม่นขนาดเกือบร้อยจั้งลูกหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
อสูรเหอหม่ายักษ์เหมือนจะรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว ร่างกายมหึมาเทอะทะของมันขยับโคลงเคลงคิดจะหมุนตัวหนี แต่ตอนนี้สายไปแล้ว
“วาบ” แสงเรืองรองสีเหลืองผืนใหญ่พุ่งออกจากฐานของเงาภูเขายักษ์อาบทั่วผืนนภา ชั่วพริบตาก็ทะลุโล่วารีสีดำสนิทแล้วครอบทับอสูรเหอหม่ายักษ์ ตรึงมันนิ่งสนิทอยู่กับที่
“ไป!”
หลิ่วหมิงแค่นเสียงหยันอีกครั้ง จากนั้นภูเขายักษ์สีเหลืองก็พาคลื่นพลังอันรุนแรงพร้อมกับพลังอันไร้ที่สิ้นสุดกดทับลงไป
ภูเขาลูกนี้ยังไม่ทันร่วงลงมาจริงๆ น้ำสีดำสนิทบริเวณใกล้ๆ ก็ซัดออกไปเป็นวงราวกับถูกคลื่นล่องหนระเบิด
บึ๊ม! เสียงดังสนั่น
ด้านล่างของภูเขายักษ์สีเหลืองมีเสียงครวญครางดังออกมาครั้งหนึ่งจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดดังขึ้นอีก