นอกจากสี่ยอดนิกายใหญ่ ยามนี้นิกายอื่นก็เปิดเผยไพ่ตายก้นหีบของแต่ละคนออกมาทั้งสิ้น
กองทัพของหุบเขาปีศาจสวรรค์เทียบกับของนิกายเทียนกงและนิกายยอดบริสุทธิ์แม้จำนวนจะน้อยกว่าไม่น้อย แต่ในกองทัพมีผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจที่สวมเสื้อเกราะอสูรเป็นหลัก บนร่างของพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเหลือบางส่วนของปีศาจอสูรอยู่เล็กน้อย ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดก็คือปีศาจอสูรรูปร่างต่างๆ นานาจำนวนสองร้อยกว่าตัวที่อยู่ด้านหน้าสุดของขบวน พวกมันแต่ละตัวล้วนแผ่ลมปราณที่ไม่ด้อยกว่าระดับแก่นแท้
ปีศาจอสูรสี่ตัวที่อยู่ด้านหน้าสุดของเหล่าปีศาจอสูรรูปร่างยิ่งมหึมาจนเกือบร้อยจั้ง มีราชสีห์บินร่างยักษ์ที่มีปีกเนื้อสีเลือดสองคู่กับหางแมงป่องสีม่วงแดงตัวหนึ่ง ปีศาจพยัคฆ์สองหัวที่หัวหนึ่งสีแดงกับอีกหัวหนึ่งสีฟ้า วัวยักษ์ที่มีเกล็ดสีครามทั่วร่างและมังกรเขาเดียวที่มีดวงตาสามดวง ทั้งสี่ตัวล้วนมีพลังน่าหวาดกลัวไม่ต่ำกว่าระดับดาราพยากรณ์ ปีศาจอสูรตัวอื่นต่างยกให้ปีศาจอสูรร่างยักษ์สีตัวนี้เป็นหัวหน้าอยู่กลายๆ
หอเป๋ยโต่วมีผู้ฝึกฝนอยู่ราวสองสามร้อยคน มีเจ็ดคนตรงกลางเป็นแกนกลาง ตั้งแถวเป็นมหาค่ายกลเจ็ดดาวเหนือขนาดมหึมาค่ายกลหนึ่ง กล่าวถึงพลังไม่ด้อยกว่าสำนักอื่นสักนิด
แปดตระกูลใหญ่ของแผ่นดินจงเทียนก็จัดทัพออกรบเต็มที่เช่นกัน บางตระกูลตั้งแถวเป็นกระบวนทัพอันลึกลับบางอย่าง บางตระกูลเรียกอาวุธเวทที่ใช้เป็นชุดออกมา เห็นชัดว่าพวกเขาต่างหยิบลูกเล่นที่ต่างคนซ่อนไว้ออกมาหมดสิ้น
ผู้ฝึกฝนที่เหลืออีกส่วนอยู่รอบนอกของกระบวนทัพ เสื้อผ้าอาภรณ์ดูแตกต่างหลากหลาย เห็นชัดว่าพวกเขาเป็นศิษย์ของนิกายใหญ่หมื่นปีหรือตระกูลขนาดกลางกับขนาดเล็ก แม้สีหน้าจะตึงเครียดอยู่บ้าง แต่เมื่อมีผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้จำนวนหนึ่งบัญชาการแบ่งคนกระจายไปตามกระบวนทัพต่างๆ จำนวนที่มหาศาลอย่างยิ่งก็ทำให้ไม่อาจดูแคลนกำลังรบได้เช่นกัน
ชั่วขณะนั้นแสงจิตวิญญาณหลากสีของกองทัพพันธมิตรผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์หลายแสนคนเคลื่อนตามต่อกันไม่ขาดสาย แลดูยิ่งใหญ่อย่างที่สุด บรรยากาศเย็นยะเยือกลอยอ้อยอิ่ง
ตอนที่กองทัพพันธมิตรเผ่ามนุษย์เกือบจะบรรลุขอบยอดเขาสองโลกนั่นเอง ตรงกลางยอดเขาสองโลกพลันมีเมฆดำทะมึนทอดยาวนับพันลี้โถมมาประหนึ่งพายุสีดำลูกใหญ่ ทำให้ท้องนภาที่อยู่ไกลออกไปถูกสีดำบดบังด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เสียงกรีดร้องประหลาดเขย่าขวัญผู้คนดังออกมาจากด้านใน
เสียงแตรสัญญาณปลุกขวัญกำลังใจดังขึ้น!
กองทัพพันธมิตรเผ่ามนุษย์แผ่นดินจงเทียนหยุดอย่างพร้อมเพรียง ผู้ฝึกฝนทั้งหมดมองไปยังเมฆดำทะมึนเบื้องหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เสียงประหลาดยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เงาร่างของแมลงยักษ์เผ่าหนอนผีเสื้อรูปร่างประหลาดต่างๆ นานาใจกลางเมฆดำทะมึนค่อยๆ ปรากฏชัดเจนเบื้องหน้าผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์
เวลานี้หลิ่วหมิงอยู่ด้านหลังของเหล่าศิษย์จากนิกายยอดบริสุทธิ์ พวกศิษย์ลับอีกสิบเก้าคนอย่างฉิวหลงจื่อก็ปะปนอยู่ท่ามกลางศิษย์จากนิกายยยอดบริสุทธิ์อย่างไร้แบบแผนเช่นเดียวกัน
เขามองกองทัพใหญ่ด้านหน้าแล้วขมวดคิ้ว
เพียงจำนวนเผ่าหนอนผีเสื้อที่เห็นอยู่ตรงหน้าเหล่านี้อย่างน้อยก็มากถึงสี่ห้าล้านตัว พวกมันแบ่งออกเป็นกลุ่มนับไม่ถ้วน แต่ละกลุ่มมีแมลงอยู่นับพันตัวโดยมีแมลงระดับแก่นแท้ตัวหนึ่งเป็นหัวหน้า กองทัพเป็นระเบียบระบบไม่วุ่นวายสักนิด เคลื่อนเข้าใส่พันธมิตรเผ่ามนุษย์ประหนึ่งคลื่นสมุทรโถมกลบผืนนภา แลดูทรงพลังจนน่าตะลึง ชั่วขณะหนึ่งให้ความรู้สึกราวกับจะกลืนกลบกองทัพใหญ่ของเผ่ามนุษย์อยู่รางๆ
สิ่งที่เหมือนกันกับผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ก็คือแมลงระดับดาราพยากรณ์กับระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น พวกมันน่าจะอยู่ตรงใจกลางกองทัพเช่นเดียวกับผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์
เห็นชัดว่าเผ่าหนอนผีเสื้อเหล่านี้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีสำหรับศึกตัดสินครั้งนี้ไม่ต่างจากเผ่ามนุษย์!
ด้านหลังของกองทัพใหญ่เผ่ามนุษย์ อากาศบิดเบี้ยวอยู่ชั่วครู่หลังจากนั้นเงาคนสี่ร่างก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็คือสี่ผู้แข็งแกร่งระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ ปรมาจารย์มู่คงแห่งนิกายยอดบริสุทธิ์ ผู้อาวุโสซือถูแห่งนิกายปีศาจลี้ลับ บุรุษวัยกลางคนแซ่เซวียนแห่งสำนักเฮ่าหรานและฮูหยินเจินแห่งนิกายเทียนกง
“สหายซือถู เริ่มกันเถิด!” ฮูหยินเจินมองผู้อาวุโสซือถูแวบหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงเข้ม ปรมาจารย์มู่คงกับบุรุษวัยกลางคนแซ่เซวียนก็พยักหน้าเล็กน้อยให้ผู้อาวุโสซือถูด้วยเช่นกัน
ผู้อาวุโสซือถูยกแขนขึ้น แสงสีดำเส้นหนึ่งเปล่งแสงสว่างวูบหนึ่งแล้วพุ่งพรวดหายลงไปเบื้องล่าง
ด้านหลังของกองทัพใหญ่เผ่ามนุษย์เกิดเสียงแหวกอากาศดังขึ้น ชายฉกรรจ์ชุดดำจากนิกายปีศาจลี้ลับกลุ่มละแปดถึงสิบคนพุ่งออกมาจากตำแหน่งต่างๆ ชายฉกรรจ์แต่ละกลุ่มยกกลองยักษ์สีดำทะมึนมาหนึ่งใบ
กลองยักษ์แต่ละใบขนาดเท่าตึก หน้ากลองเหมือนทำจากหนังปีศาจอสูรชนิดพิเศษบางอย่าง ด้านบนสลักวงอักขระอันลี้ลับที่ราวกับกำลังแผ่แสงจิตวิญญาณประหลาดชนิดหนึ่งออกมาตลอดเวลา
ต่อจากนั้นชายร่างกำยำจากนิกายปีศาจลี้ลับสิบคนที่อยู่หน้ากลองยักษ์ก็ดึงค้อนยักษ์ที่สะพายไว้บนหลังของแต่ละคนลงมา จากนั้นตีลงบนกลองยักษ์อย่างแรงเกิดเป็นเสียงดังกังวานพร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ตึง ตึง ตึงตึงตึง…”
พริบตาเดียวเสียงกลองเร้าอารมณ์หลายครั้งก็ทำลายความเงียบสงัดบนสนามรบยามนี้ แล้วดังเข้าไปในหูของผู้ฝึกฝนทั้งหมดที่นั่นอย่างชัดเจนยิ่งนัก
ทันทีที่หูของผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ได้ยินเสียงกลอง หัวใจพลันสั่นสะท้าน ความฮึกเหิมลุกโชนในทันใด
ในสมองของทุกคนเกิดความกระหายสงครามอย่างที่บรรยายไม่ถูก ถึงขนาดรู้สึกว่าขอเพียงได้ต่อสู้เต็มที่ในศึกนี้ก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว!
ปีศาจอสูรโบราณสองร้อยกว่าตัวด้านหน้าของกองทัพหุบเขาปีศาจสวรรค์พากันกรีดร้องคำราม เสียงสะเทือนเลือนลั่นท้องนภา
เสียงกลองดังรัวขึ้นเรื่อยๆ จนประหนึ่งสียงหัวใจเต้น ทันทีที่มันดังเข้ามาในหูผู้คน การต่อสู้ก็เริ่มต้นในทันใด
ผู้ที่ส่งการโจมตีเป็นพวกแรกคือเรือรบนภาทมิฬร้อยลำด้านหน้าสุดของกองทัพ
ศิษย์นิกายเทียนกงบนเรือรบจับกลุ่มตั้งท่าเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เวลานี้พวกเขาพากันเหวี่ยงอาวุธจิตวิญญาณในมือพร้อมกับที่ปากท่องมนตร์เสียงดัง พลังเวททั่วร่างไหลเข้าไปในค่ายกลแต่ละค่ายกลบนลำเรือไม่ขาดสาย
ทันใดนั้นปากกระบอกปืนใหญ่สองฝั่งของเรือรบนภาทมิฬก็ปรากฏแสงสีทองแสบตาดวงแล้วดวงเล่า
บึ๊ม! เสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ลำแสงสีทองหนาเท่าไหน้ำหลายร้อยสายพาพลังอันไร้ที่สิ้นสุดพุ่งเข้าใส่กองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อสีดำทะมึนที่บีบเข้ามาใกล้ จากนั้นปะทะกลุ่มแมลงยั้วเยี้ยของเผ่าหนอนผีเสื้อแทบจะในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ ม่านแสงคุ้มกันร่างและการป้องกันต่างๆ ของเผ่าแมลงระดับล่างที่แนวหน้ากลับทลายลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เผ่าแมลงระดับแก่นแท้เองก็ต้านทานการโจมตีมากมายมหาศาลไม่ไหวสักนิดเช่นกัน
ดวงแสงสีทองที่สอดแทรกด้วยเสียงระเบิดสะเทือนแก้วหูแทบดับปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเหล่าแมลงอย่างน้อยหลายหมื่นตัวจมหายไปท่ามกลางแสงสีทองที่ถาโถมมาทันที กลางกองทัพเหล่าแมลงแหว่งเป็นช่องโหว่ในทันใด
ยังไม่ทันที่แมลงตัวอื่นจะเข้ามาเติมช่องว่างเหล่านี้ เสียงทุ้มเข้มของเทียนเกอเจินเหรินก็ดังขึ้นด้านบนของบรรดาศิษย์จากนิกายยอดบริสุทธิ์ เสียงดังชัดเจนเข้ามาในหูของศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ทั้งหลาย
“โจมตี!”
ผู้ฝึกฝนนิกายยอบดริสุทธิ์ที่ได้รับคำสั่งไม่ลังเลแม้แต่น้อย อาวุธจิตวิญญาณและอาวุธเวทนานาชนิดในมือเปล่งแสง แสงจิตวิญญาณหลากสีจนตาพร่าโถมมืดฟ้ามัวดินไปด้านหน้าในทันใด
ลูกบอลเพลิง ลิ่มน้ำแข็ง แสงอสนีบาต ก้อนอุกกาบาต ลำแสงหนาเท่าชามข้าว แสงดาบเงากระบี่มากมายและแสงจิตวิญญาณจากอาวุธจิตวิญญาณกับอาวุธเวทรูปร่างหน้าตาประหลาดนานา ก่อตัวเป็นม่านแสงแน่นขนัดผืนหนึ่งบนท้องฟ้าประสานลำแสงสีทองจากเรือรบนภาทมิฬของนิกายเทียนกงแผ่ปกคลุมกองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อที่เบียดเสียดอยู่เต็มผืนฟ้าและผืนดิน
ชั่วขณะนั้นแสงสว่างหลากสีฉายวูบวาบกลางผืนนภา แผ่นดินสะเทือนไหวเล็กน้อย ฝูงแมลงเผ่าหนอนผีเสื้อที่เพิ่งรวมตัวกันเมื่อครู่ถูกสังหารไปหลายหมื่น แนวหน้าที่บุกเข้ามาไม่อาจรุกต่อจนต้องถอยกลับไป ศพของเผ่าหนอนผีเสื้อที่ตกตายทอดกายเกลื่อนผืนดินกว้างหลายลี้
เวลานี้เองกองทัพของหุบเขาปีศาจสวรรค์กับนิกายปีศาจลี้ลับสองฝั่งก็โอบล้อมเข้าหากองทัพเผ่าหนอนผีเสื้ออย่างดุดันประหนึ่งกางกรงเล็บยักษ์สองข้าง
แม้ระยะทางระหว่างกันจะห่างหลายสิบลี้ แต่การบุกของสองกองทัพเร็วเป็นที่สุดจนใช้เวลาเพียงชั่วครู่ไพร่พลก็เข้าประชิด
ขณะที่เข้าใกล้จนเกือบจะถึงกองทัพใหญ่เผ่าหนอนผีเสื้อนั่นเอง เบื้องหน้ากองทัพของหุบเขาปีศาจสวรรค์พลันมีเสียงปีศาจอสูรคำรามสะเทือนฟ้าดังขึ้นเป็นระลอก
ทอดสายตามองไปก็เห็นปีศาจโบราณระดับแก่นแท้สองร้อยกว่าตัวเช่นวานรยักษ์ทองคำ งูยักษ์ลายแดง หมาป่าเคราขนเงิน เต่ามังกรเกราะเงินเป็นต้นทะยานเข้าใส่กองทัพใหญ่เผ่าหนอนผีเสื้อประดุจขบวนหมื่นอสูร
ปีศาจอสูรระดับดาราพยากรณ์สี่ตัวที่เป็นหัวหน้ายิ่งไม่ธรรมดา
ราชสีห์บินสีเลือดขนาดเกือบร้อยจั้งกระพือปีกสีเลือดสองข้างแผ่วเบาโถมเข้าไปในกองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อ ขาหน้าตวัดครั้งเดียว เงากรงเล็บสีเลือดเต็มฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาทันใด ในเวลาเดียวกันนั้นหางเหล็กไนสีม่วงแดงก็พร่าเลือนวูบหนึ่งกลายเป็นแสงสีหยกนับไม่ถ้วนทิ่มแทงแมลงระดับล่างร้อยกว่าตัวกระจุยเป็นชิ้นๆ ในชั่วพริบตา
หัวทั้งสองของปีศาจพยัคฆ์สองหัวแบ่งกันพ่นเปลวเพลิงร้อนระอุกับน้ำแข็งเย็นยะเยือกจนเกิดเป็นพายุเปลวเพลิงผสานน้ำแข็งสีฟ้าขนาบแดง จุดที่มันพัดผ่านเหล่าแมลงต่างกลายเป็นเถ้าดำเกรียมหรือไม่ก็เศษน้ำแข็ง
วัวยักษ์เกล็ดสีครามกับมังกรสามตา ตัวหนึ่งเกล็ดที่อยู่รอบร่างเผยอเปิดให้หมอกพิษที่ละลายเปลือกแข็งได้โถมทะลักออกมา ส่วนอีกตัวหนึ่งมีลำแสงประหลาดพุ่งออกมาจากดวงตาที่สามทำให้เหล่าแมลงกลายเป็นศพแห้งกรังในพริบตา
เมื่อมีการโจมตีของเหล่าปีศาจโบราณซึ่งมีปีศาจอสูรระดับดาราพยากรณ์สี่ตัวเป็นแกนนำคอยปกป้อง เหล่าผู้ฝึกฝนของหุบเขาปีศาจสวรรค์ก็บุกเข้ามากลางฝูงแมลงอย่างไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย ทำให้กองทัพใหญ่ของเผ่าแมลงบาดเจ็บล้มตายอย่างสาหัส
นิกายปีศาจลี้ลับที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับเกิดภาพอีกแบบ ผู้อาวุโสระดับดาราพยากรณ์หลายคนที่เป็นหัวหน้ามีธงผืนจิ๋วผืนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ พวกเขาอ้าปากเป่าธงผืนน้อยพร้อมกัน ธงน้อยลอยหลุดจากมือกลายเป็นแสงสีดำสายหนึ่งหมุนติ้วอยู่กลางท้องฟ้าก่อนจะขยายพรวดกลายเป็นธงมารผืนยักษ์สูงหลายสิบจั้ง
ต่อจากนั้นผู้ฝึกฝนนิกายปีศาจลี้ลับที่อยู่ด้านหลังจึงทยอยควบคุมอาวุธมารในมือส่งไอปีศาจสีดำขมุกขมัวเข้าไปในธงผืนยักษ์อย่างไม่เก็บออมไว้แม้แต่น้อย ธงมารผืนยักษ์ปล่อยไอปีศาจมากมายออกมาในพริบตา เปลวเพลิงมารสีดำผืนใหญ่ม้วนโถมออกมาจากด้านในแล้วล้อมเผ่าหนอนผีเสื้อระดับล่างแถบใหญ่ด้านหน้าเอาไว้
เสียงชี่ดังขึ้นหลายครั้ง แมลงนับหมื่นจมหายไปในเพลิงมารที่ถาโถมมา
แทบจะในเวลาเดียวกันตำแหน่งต่างๆ ของกองทัพเผ่ามนุษย์ก็พลันมีเสาแสงครึ่งขาวครึ่งดำหลายร้อยสายพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ภายในเสาแสงมียันต์มหึมาตัวแล้วตัวเล่าเต้นระริกไม่หยุด
ผู้ฝึกฝนจากสำนักเฮ่าหรานที่สวมชุดบัณฑิตสีขาวหลายร้อยคนกำลังถือแผ่นค่ายกลทรงกลมครึ่งขาวครึ่งดำชิ้นหนึ่งไว้ในมือ เสาแสงนั่นก็มาจากแผ่นค่ายกลเหล่านี้นั่นเอง
เสาแสงทั้งหมดถักทอเกี่ยวกระหวัดกันกลางท้องฟ้า คลื่นรุนแรงหลากหลายรูปแบบโถมคลั่งขึ้นรอบด้าน เงาแผนผังแปดทิศขนาดมหึมาหลายร้อยจั้งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แทบจะล้อมท้องนภาเกินกว่าครึ่งเหนือเหล่าผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์เอาไว้ทั้งหมด ขณะที่มันเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า
“ตั้ง”
ในเวลาเดียวกับที่บุรุษวัยกลางคนแซ่เซวียนปรมาจารย์ระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ของนิกายเทียนคงตวาดเบาๆ คำหนึ่งออกจากปาก นิ้วข้างหนึ่งก็ชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้า
เสียงแหวกอากาศดังสนั่น แสงเรืองรองขนาดยักษ์สีขาวกับสีดำสายหนึ่งพุ่งพรวดออกมาจากเงาแผนผังแปดทิศแล้วมุ่งไปหากองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อที่อยู่ด้านหน้า
เหล่าแมลงที่ถูกแสงเรืองรองสีขาวดำล้อม แสงจิตวิญญาณที่คุ้มกันรอบร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา พวกมันเผชิญการโจมตีจากกองทัพใหญ่ของเผ่ามนุษย์จนสับสนทำอันใดมิถูก
ด้านในมหาค่ายกลเจ็ดดาวเหนือของหอเป๋ยโต่ว แสงดาราเจ็ดดวงสว่างจ้า ลูกบอลแสงขนาดยักษ์ประหนึ่งดวงดารานับไม่ถ้วนลอยออกมาจากด้านในอย่างรวดเร็วจากนั้นพุ่งเข้าใส่กองทัพใหญ่ของเผ่าหนอนผีเสื้อประหนึ่งอุกกาบาต แล้วระเบิดแสงดวงยักษ์แสบตาดวงแล้วดวงเล่า
เวลานี้ผู้ฝึกฝนจากแปดตระกูลใหญ่และกลุ่มอำนาจขนาดกลางกับขนาดเล็กที่เหลือต่างก็ใช้วิชาของตนส่งการโจมตีใส่กองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อด้านหน้าเช่นกัน
กองทัพพันธมิตรแผ่นดินจงเทียนโหมโจมตีไม่ขาดสายจนครองความได้เปรียบอย่างมั่นคงอยู่ชั่วขณะ