“ข้าเคยได้ยินคนพูดว่า หอของท่านมีผู้เชี่ยวชาญการประเมินค่าอยู่ เขาสามารถมองออกว่าของล้ำค่าในใต้หล้านี้คือสิ่งใด ทั้งยังไม่เคยผิดพลาดมาก่อน ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” หลิ่วหมิงกวาดสายตามองร้านค้าที่กว้างขวางเป็นพิเศษแล้วกล่าวออกมาอย่างเรียบๆ
“อ๋อ! ที่แท้สหายก็มาหาผู้เชี่ยวชาญฉู่เพื่อประเมินสิ่งของ แต่ทุกครั้งที่ผู้เชี่ยวชาญฉู่ประเมินของหนึ่งอย่างจะต้องจ่ายสามร้อยหินจิตวิญญาณ และยังต้องเป็นสิ่งของที่ข้าน้อยไม่รู้จัก ผู้เชี่ยวชาญฉู่ถึงจะออกโรงเอง” ชายหนวดงอโง้งตอบกลับโดยไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
“ที่แท้ท่านก็เป็นผู้เชี่ยวชาญการประเมินค่าเช่นกัน!” หลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ก็มองชายวัยกลางด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“มิกล้า! ข้าน้อยเพียงแค่เคยเรียนกับผู้เชี่ยวชาญฉู่มาซักระยะเวลาหนึ่ง พอจะจำสิ่งของธรรมดาได้บ้างเล็กน้อย แน่นอนว่าสิ่งของที่ข้าน้อยประเมินย่อมมีราคาถูกมาก โดยทั่วไปจะเสียค่าใช้จ่ายแค่สามสิบหินจิตวิญญาณเท่านั้น ถ้าสหายไม่ว่าอะไรล่ะก็ ให้ข้าดูสักหน่อย แต่ถ้าข้าจำไม่ได้ ค่อยให้ผู้เชี่ยวชาญฉู่ดูทีหลังก็ยังไม่สาย” ชายหนวดงอโง้งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยมีสิ่งของอยู่หลายอย่าง เชิญท่านดูก่อนเถิด!” หลิ่วหมิงฟังมาถึงจุดนี้ ก็พยักหน้าราวกับคิดอะไรอยู่
“ได้! ถ้าอย่างนั้นเชิญสหายไปนั่งในห้องรับรองก่อน” ชายหนวดงอโง้งกล่าวด้วยความดีใจ
แม้ว่าการประเมินสิ่งของของเขา จะมีค่าใช้จ่ายไม่สูง แต่มันไม่เหมือนกับสิ่งของที่ขายออกไปในร้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับประเมินสิ่งของเหล่านี้จะตกเป็นของเขาทั้งหมด
สำหรับเขาแล้ว สามหมื่นหินจิตวิญญาณเป็นรายได้ที่ไม่เลว
ดังนั้นชายผู้นี้จึงหันไปสั่งกับผู้ร่วมงานอีกคน แล้วก็พาหลิ่วหมิงเข้าไปนั่งในห้องข้างๆ
ขณะนี้ หลิ่วหมิงพลิกมือข้างหนึ่งหยิบขวดเล็กสูงไม่กี่ชุ่นออกมาวางบนโต๊ะและกล่าวออกมาสั้นๆ
“นี่คือไอปีศาจบริสุทธิ์ไร้นามที่ข้าได้มาโดยไม่ตั้งใจ หวังว่าท่านจะสามารถช่วยข้าประเมินชนิดของมันได้”
“ไอปีศาจบริสุทธิ์!” พอชายหนวดงอโง้งได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ต่อให้เป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ที่ถูกที่สุด แต่มันแต่ละชุดยังมีมูลค่าหลายหมื่นหินจิตวิญญาณ เดิมทีเขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นแค่ผู้ฝึกฝนธรรมดาเท่านั้น ดูท่าตอนนี้คงจะคาดเดาผิดพลาดไปหน่อย
ชายหนวดงอโง้งคิดใคร่ครวญไปมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“คิดไม่ถึงว่าสิ่งของที่ท่านให้ประเมินจะเป็นสิ่งของล้ำค่าอย่างไอปีศาจบริสุทธิ์ ถ้าเป็นสิ่งของธรรมดาล่ะก็ ข้าน้อยยังจะพอมองออกได้ แต่ถ้าเป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ล่ะก็ ข้าน้อยคงไม่มีความสามารถ เอาอย่างนี้เถอะ! ข้าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญฉู่มาสักครา สิ่งของที่มีมูลค่าหลายหมื่นนี้ เพียงพอที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญฉู่ประเมินแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายนี้ย่อม……”
“เพียงแค่ประเมินสิ่งของได้ ค่าใช้จ่ายก็ตามที่คุยกันไว้ในก่อนหน้านั้น ย่อมไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แต่ถ้าประเมินไม่ได้ล่ะก็?” หลิ่วหมิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เฮ่อๆ! ถ้าท่านผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถประเมินสิ่งของของสหายได้ ทางหอเราก็จะไม่เก็บหินจิตวิญญาณใดๆ” ชายหนุ่มหนวดงอโง้งกล่าวออกมาโดยไม่ลังเล
“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็ยึดตามนี้” หลิ่วหมิงพยักหน้าโดยไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา
ดังนั้นชายหนวดงอโง้งจึงขอตัวแล้วออกไปจากห้องรับรอง
ผ่านไปไม่นาน มีหญิงข้ารับใช้ใบหน้างดงามเดินเข้ามา หลังจากยกชามาวางแล้วก็ก้มตัวถอยออกไป
ผ่านไปอีกเล็กน้อย ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเหลือง ตากลมจมูกบาน มีหนวดและเส้นผมสีขาวเต็มศีรษะก็เดินเข้ามา
ชายหนวดงอโง้งตามเข้ามาติดๆ และพอเห็นหลิ่วหมิงก็รีบแนะนำทันที
“ข้าขอแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือผู้เชี่ยวชาญฉู่!”
“นี่คือไอปีศาจบริสุทธิ์ที่ท่านจะให้ข้าประเมินหรือ?” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเหลืองไม่พูดจาไร้สาระ หลังจากกวาดตามองขวดเล็กบนโต๊ะแล้วก็กล่าวออกมาอย่างสงบ
“ไม่ผิด! ครั้งนี้คงต้องรบกวนท่านผู้เชี่ยวชาญแล้ว” หลิ่วหมิงลุกขึ้นโค้งคารวะ
ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเหลืองพยักหน้า และโบกมือออกไปดูดขวดเล็กมาไว้ในมือ
ผู้เชี่ยวชาญฉู่ผู้นี้มีพลังเวทย์ไม่เลว และมีการฝึกฝนในระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นกลาง
ผู้เชี่ยวชาญฉู่ลูบไล้ขวดในมืออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว
“ฟู่!”
ม่านแสงสีขาวขนาดใหญ่ฉื่อกว่าๆ ปรากฏออกมาปกคลุมขวดเล็กไว้ได้พอดี
ขณะนี้ ผู้อาวุโสถึงได้แตะนิ้วชี้ไปยังขวดเล็ก ทันใดนั้นจุกขวดก็กระเด็นออกมา ไหมเล็กละเอียดสีดำจำนวนมากลอยออกจากในนั้น
ไหมแต่ละเส้นเล็กละเอียดเป็นอย่างมาก มีสีดำแวววาวตลอดเส้น และค่อยๆ ลอยออกจากขวดใบเล็ก
ผู้เชี่ยวชาญฉู่หรี่ตาลง ไม่รู้ว่าเขาแสดงวิชาอะไรออกมา ในดวงตาถึงมีแสงสีเขียวเปล่งประกายอยู่รำไร และพอนิ้วมือทั้งสองเคลื่อนไหว ก็คีบเอาไหมดำเส้นหนึ่งไว้ได้ จากนั้นถึงค่อยดึงมันออกจากม่านแสง และนำมาดมเบาๆ ก่อนที่จะนำมันกลับไปที่เดิม
“ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังหยินแห้ง เป็นธาตุที่ค่อนไปทางพลังหยิน หลังจากควบแน่นเป็นปราณแกร่งแล้ว สามารถทำให้ร่างกายเยือกเย็นและแห้งอย่างถึงที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงช่วยเพิ่มพลังป้องกัน และยังมีผลลัพธ์ในการเพิ่มพลังของวิชาที่เกี่ยวข้องกับธาตุหยิน แต่จะถูกวิชาเกี่ยวกับธาตุไฟ หรือพลังของธาตุหยางควบคุมได้โดยง่าย จัดเป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ระดับต่ำ” ผู้อาวุโสดูดไหมสีดำทั้งหมดเข้าไปในขวดแล้วกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
“ที่แท้ก็เป็นไอปีศาจบริสุทธิ์พลังหยินแห้ง ต้องขอบคุณท่านผู้เชี่ยวชาญแล้ว” หลิ่วหมิงได้ยินก็แสดงสีหน้าออกมาราวกับคิดอะไรอยู่
“นอกจากไอปีศาจบริสุทธิ์นี้แล้ว ยังมีอย่างอื่นให้ข้าประเมินอีกหรือไม่?” ผู้อาวุโสโยนขวดเล็กกลับไป และกล่าวอย่างราบเรียบ ดูเหมือนเขาไม่ค่อยจะสนใจไอปีศาจบริสุทธิ์ระดับต่ำในมือมากนัก
“ผู้เชี่ยวชาญฉู่มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ ข้ายังมีสิ่งของสองอย่างให้ท่านประเมินดู แต่หนึ่งในนั้นมันค่อนข้างน่าตกใจไปหน่อย เกรงว่าสถานที่แห่งนี้คงไม่เหมาะที่จะแสดงให้ดูได้” หลิ่วหมิงรับขวดและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่อึดใจเดียวก็กล่าวออกมา
“ไม่เหมาะสมที่แสดงที่นี่? ข้าเข้าใจแล้ว ตามข้ามาเถอะ หอของเรามีสถานที่ที่วางชั้นจำกัดไว้แล้ว มันสามารถปิดกั้นกลิ่นไอทุกชนิดได้ และยังสามารถทนรับอานุภาพของล้ำค่าที่โผล่ออกมาได้ ผู้ดูแลเมิ่ง เจ้าไปเปิดห้องทดสอบสมบัติเถอะ” ตอนแรกผู้เชี่ยวชาญฉู่ก็รู้สึกตกตะลึง แต่ก็รีบยิ้มออกมาในทันที และหันไปกล่าวกับชายที่มีหนวดงอโง้ง
“ทราบ! สหาย ตามข้ามาเถิด!” ผู้ดูแลเมิ่งได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้ากล่าว
หลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ย่อมไม่มีข้อคัดค้านใดๆ เขารีบลุกขึ้น และเดินออกไปจากห้องรับรองในทันที หลังจากเดินทะลุห้องเล็กๆ ไป ก็มาถึงประตูที่เค็มไปด้วยอักขระสีขาวบานหนึ่ง
ชายหนวดงอโง้งทำท่ามือด้วยมือเดียวในทันที พอชี้นิ้วผ่านอากาศ ประตูหินก็ค่อยๆ เปิดออกมา
ทั้งสามเดินตามกันเข้าไป
หลิ่วหมิงกวาดสายตาดูข้างในเล็กน้อย ก็ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นห้องหินขนาดเล็กที่กว้างไม่กี่จั้ง นอกจากโต๊ะกลมสีขาวแวววาวตรงใจกลางห้องแล้ว ก็ไม่มีสิ่งของใดๆ อีกเลย แต่บนพื้นกับผนังหินรอบด้าน มีอักขระประทับอยู่เต็มไปหมด
หลิ่วหมิงจ้องมองอักขระเหล่านี้ทีหนึ่ง แล้วก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมามาก
แม้อักขระเหล่านี้จะมีมาก แต่ล้วนเป็นชั้นจำกัดง่ายๆ ที่พบได้บ่อย มันไม่ได้มีผลในการกักขังหรือทำร้ายศัตรูแต่อย่างใด
เช่นนี้แล้ว เขากลับไม่ต้องกังวลว่าคนในหอหมื่นหลอมจะอาศัยชั้นจำกัดนี้ ทำอะไรไม่ดีกับเขา
“สหายคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง ไม่ทราบว่าต้องใช้ชั้นจำกัดแบบใด ข้าจะค่อยๆ กระตุ้นมันออกมา” ผู้อาวุโสปราดตามองหลิ่วหมิงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนกับยิ้ม
“อย่างอื่นช่างมันเถอะ! ข้าหวังว่าบนพื้นน่าจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย” หลิ่วหมิงยกเท้าเหยียบพื้น แล้วกล่าวด้วยสีหน้าปกติ
“เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้น สิ่งนี้ย่อมไม่มีปัญหา” ผู้อาวุโสรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ต่อมาก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว ทันใดนั้นอักขระบนพื้นส่วนหนึ่งก็พากันเปล่งประกายออกมา และก่อเกิดเป็นแสงสีขาวแวววาว
แต่พอหลิ่วหมิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ กลับส่ายศีรษะ และหยิบยันต์ออกจากแขนเสื้อมาผืนหนึ่ง จากนั้นก็โยนออกไป
“ฟู่!”
พริบตาที่ยันต์สัมผัสกับพื้น มันก็ระเบิดออกมา อักขระสีเหลืองจำนวนมากพุ่งออกมาจากในนั้น และหายวับลงไปบนพื้น
ครู่ต่อมา แสงสีเหลืองจางๆ จำนวนหนึ่งก็โผล่ขึ้นจากพื้นบนห้องหิน
ผู้ดูแลเมิ่งกับผู้เชี่ยวชาญฉู่เห็นเช่นนี้ ก็สบตากันทีหนึ่ง และต่างก็มองเห็นสีหน้าแปลกใจของอีกฝ่าย
พวกเขาย่อมมองออกว่า อักขระสีเหลืองเหล่านี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้น
เวลานี้ หลิ่วหมิงคลำหาอะไรบางอย่างในแขนเสื้ออย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงสะบัดแขนเสื้อก่อนที่แสงสีขาวจะม้วนตัวออกไป
“ตู๊ม!” ห้องหินทั้งหลังสั่นสะเทือนขึ้นมา
เตาหลอมยักษ์สีเงินจางๆ ปรากฏออกมา และตกลงพื้นภายในพริบตาเดียว สุดท้ายขาทั้งสามของเตาหลอมก็แทงลงพื้นไปครึ่งหนึ่ง ทำให้พื้นหินบริเวณนั้นแตกร้าวออกมา
แม้ว่าอาวุโสชุดคลุมสีเหลืองกับผู้ดูแลเมิ่งจะคาดเดาไว้ในใจแล้ว แต่พอเห็นฉากเช่นนี้ก็รู้สึกตกใจอย่างอดไม่ได้ พวกเขาจ้องมองไปยังเตาหลอมสีเงินด้วยความตกตะลึง
“หรือว่าสหายจะให้ค่าประเมินเตาหลอมใบนี้!” ผู้เชี่ยวชาญฉู่จ้องมองเตาหลอมยักษ์สีเงินด้วยความตกใจเล็กน้อย
“แน่นอนว่าไม่ใช่ แม้จะนับเตาหลอมนี้เป็นของล้ำค่าเหมือนกัน แต่มันก็ไม่อาจเทียบกับสิ่งที่อยู่ด้านในได้” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ของที่อยู่ด้านใน?” พอผู้เชี่ยวชาญฉู่ได้ยินเช่นนี้ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป เขารีบก้าวไปข้างหน้าทันที เมื่อมาถึงข้างเตาหลอมยักษ์แล้วจึงยื่นหน้าเข้าไปดูด้านใน
“นี่คือ…” พอผู้อาวุโสเห็นหยดของเหลวสีดำที่ดูไม่เตะตาหยดหนึ่ง ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
……
ครึ่งชั่วยามผ่านไป เมื่อหลิ่วหมิงเดินออกจากประตูหอหมื่นหลอมนั้น ผู้ดูแลเมิ่งก็เดินตามติดเขาออกมา และกล่าววิงวอนอยู่ไม่หยุด
“สหาย ท่านไม่คิดที่จะขายของทั้งสองสิ่งนี้ให้หอหมื่นหลอมของเราจริงๆ หรือ เพียงแค่สหายยอมตกลงขาย ราคาของมันจะต้องทำให้สหายพอใจอย่างแน่นอน”
“ผู้ดูแลเมิ่ง ข้าแค่มาประเมินสิ่งของเท่านั้น ของทั้งสองอย่างนี้มีประโยชน์กับข้ามาก ข้าไม่ขายให้คนอื่นอย่างแน่นอน” หลิ่วหมิงตอบด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็จากไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
ชายหนวดงอโง้งมองดูแผ่นหลังหลิ่วหมิงที่เดินออกไปไกลๆ ด้วยความเสียดายเป็นอย่างมาก
เมื่อผู้ดูแลเมิ่งกลับเข้าไปในห้องรับรอง ผู้เชี่ยวชาญฉู่ก็นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่บนเก้าอี้
“ดูจากสภาพของเจ้า คนผู้นั้นคงไม่ได้ขายของให้ใช่ไหม” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
“ไม่ผิด คนผู้นั้นไม่ได้ขายให้จริงๆ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก ของล้ำค่าขนาดนี้อยู่ในมือศิษย์จิตวิญญาณคนหนึ่ง มันดูสิ้นเปลืองเกินไป หากหอของเราสามารถซื้อมาได้แล้วนำไปประมูลขายล่ะก็ เกรงว่าเฒ่าประหลาดในระดับผลึกทั้งหลายต่างก็ต้องรู้สึกใจเต้นขึ้นมา” ผู้ดูแลเมิ่งฝืนยิ้มแล้วกล่าวออกมา
……………………………………….