พอหลิ่วหมิงใช้จิตกวาดดูบนตัวผู้อาวุโสผู้นี้ ดวงตาของเขาก็ฉายแววประหลาดใจออกมา
ผู้อาวุโสผอมแห้งผู้นี้รูปร่างหน้าตาก็พื้นๆ แต่กลับเป็นผู้ฝึกฝนระดับของเหลวขั้นปลายเหมือนกัน
“ผู้เฒ่าเกา ข้ามาแนะนำการค้าให้ท่านแล้ว” พอหลูเหยียนผิงเดินเข้าประตูมา ก็พูดกระซิบกระซาบเบาๆ ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกับเถ้าแก่มาก
เถ้าแก่ผู้นั้นเงยหน้ามองหลูเหยียนผิงด้วยความขี้เกียจ และมองดูหลิ่วหมิงที่อยู่ด้านหลัง ดูเหมือนเขาจะมองออกว่าหลิ่วหมิงมีพลังระดับของเหลวขั้นปลาย ถึงค่อยๆ เก็บสีหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
“ที่แท้ก็เจ้าหนูน้อยหลูนั่นเอง แขกที่เจ้าพามาในวันนี้ไม่เลว” ผู้เฒ่าเกาหัวเราะเฮ่อๆ! แล้วลุกขึ้นมา
“นั่นน่ะสิ! คนธรรมดาไหนเลยข้าจะ……” พอหลูเหยียนผิงได้ยินก็ได้สติขึ้นมา
“สหายผู้นี้ต้องการซื้อสิ่งของอันใดหรือ?” ผู้เฒ่าเกาไม่รอให้หลูเหยียนผิงพูดจบ เขาก็กล่าวกับหลิ่วหมิงด้วยรอยยิ้ม
“สหายหลิ่วผู้นี้ต้องการน้ำหยินโสมม ผลึกปีศาจอีกา และผงวิญญาณบริสุทธิ์ ที่นี่มีหรือไม่?” หลิ่วหมิงยังไม่ทันจะเอ่ยปาก หลูเหยียนผิงก็ชิงพูดออกมาก่อน
“น้ำหยินโสมมกับผลึกอีกาปีศาจยังมีเก็บกักไว้จำนวนหนึ่ง แต่ว่าผงวิญญาณบริสุทธิ์ไม่มีแล้ว วัสดุหลอมอาวุธระดับสุดยอดเช่นนี้ มีมูลค่าอย่างต่ำก็หลายแสนหินจิตวิญญาณ ร้านข้าซื้อไม่ไหวหรอก” ผู้อาวุโสร่างผอมแห้งจ้องหลูเหยียนผิงทีหนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วกล่าวออกมา
หลูเหยียนผิงได้ยินก็มองหลิ่วหมิงทีหนึ่ง และยักไหล่เล็กน้อย เพื่อบ่งบอกว่าช่วยไม่ได้เหมือนกัน
“เถ้าแก่เกานำวัสดุมาให้ดูหน่อยได้หรือไม่?” หลิ่วหมิงเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน้าสงบ
แม้ใบหน้าของเขาจะไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมา แต่ในใจกลับรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ถึงจะไม่มีผงวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ซื้อผลึกปีศาจอีกากับน้ำหยินโสมมมาได้ ก็ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่น้อยแล้ว
ผู้อาวุโสผอมแห้งหมุนตัวเดินเข้าไปด้านในโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาพลิกมือหยิบป้ายหยกขึ้นมาโบกไปทางผนัง
มีเสียงแตกหักดังขึ้นมาทันที ทางเข้าขนาดสูงเท่าคนหนึ่งคนปรากฏบนผนัง จากนั้นเขาก็ก้าวเข้าไป
หลิ่วหมิงตาเป็นประกายขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าร้านเล็กๆ แห่งนี้ จะมีช่องทางอื่นด้วย
และผู้อาวุโสผอมแห้งผู้นี้ไม่ปิดบังทางเข้าห้องลับกับคนภายนอก จักต้องมีที่พึ่งพาอย่างแน่นอน มันคงไม่ง่ายอย่างที่เห็นเช่นนี้
ไม่นานผู้อาวุโสก็เดินออกมา และมีห่อผ้าอยู่ในมือห่อหนึ่ง
“เชิญสหายดูได้เลย” ผู้อาวุโสผอมแห้งโบกมือปิดห้องลับ จากนั้นก็ยื่นห่อผ้าให้หลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงพยักหน้าและเปิดห่อผ้าออกมา เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นขวดหยกขาวเล็กๆ หนึ่งใบกับกล่องไม้รูปสี่เหลี่ยม
เขาหยิบขวดหยกขึ้นมาก่อน พอดึงจุกออก ไอดำจางๆ ก็ลอยออกจากปากขวด เมื่อมองเข้าไป จะเห็นว่าด้านในเป็นของเหลวสีดำเหนียวข้น มีไอเย็นซึมออกมาเล็กน้อย
หลิ่วหมิงสังเกตดูอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ปิดจุกไว้เหมือนเดิม และมาเปิดกล่องไม้ออกมาดู ด้านในเป็นผลึกสีม่วงก้อนหนึ่งที่มีขนาดเท่ากำปั้น
“ดี! ข้าเอาทั้งสองอย่างเลย เถ้าแก่เกาเสนอราคามาเถอะ!” หลิ่วหมิงตรวจสอบอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กล่าวด้วยความพอใจ
ผู้อาวุโสผอมแห้งกำลังจะอ้าปากพูดอะไรออกมา แต่หลูเหยียนผิงกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ผู้เฒ่าเกา ข้าว่าสหายหลิ่วเพิ่งมาร้านของท่านเป็นครั้งแรก ท่านอย่าได้เสนอราคามั่วซั่ว”
“เจ้าหนูน้อยหลู ข้ารู้ว่าควรจะทำการค้าอย่างไร เจ้าไม่ต้องมาสอน” ผู้อาวุโสผอมแห้งจ้องชายชุดเขียวอีกที และกล่าวออกมา
“สหายผู้นี้ ผลึกปีศาจอีกานี้ข้าจะไม่พูดแล้ว หนึ่งก้อนหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณ น้ำหยินโสมมนี้ข้าซื้อมาจากที่อื่นในราคาสูง ให้เจ้าหนึ่งแสนห้าหมื่นหินจิตวิญญาณก็แล้วกัน จะไม่มีราคาอื่นอย่างเด็ดขาด” ผู้เฒ่าเกากล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
หลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองเล็กน้อย ราคานี้แพงกว่าที่เขารู้มาจากในตลาดเล็กน้อย แต่พอนึกถึงความหายากของมัน ก็คุ้มค่ากับราคานี้อยู่
หลูเหยียนผิงกระแอมไอเบาๆ และเริ่มต่อรองราคากับผู้อาวุโสผอมแห้ง
หลังจากผ่านการต่อรองราคาไปแล้ว ในที่สุดวัสดุทั้งสองก็ถูกขายในราคาสองแสนสี่หมื่นหินจิตวิญญาณ
หลังจากนำวัสดุใส่เข้าไปในยันต์เก็บของแล้ว หลิ่วหมิงก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ยังขาดแค่ผงวิญญาณบริสุทธิ์ โล่เก้ากระดูกของเขาก็เริ่มปรับแต่งชั้นจำกัดที่สามสิบหกได้แล้ว
พอนึกถึงพลังของต้นแบบอาวุธเวท หลิ่วหมิงก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
หลังจากทำการแลกเปลี่ยนเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ไม่รีบออกไปจากร้านทันที
“ข้าว่านะผู้เฒ่าเกา เกี่ยวกับผงวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านไม่มีช่องทางในการหาจริงๆ หรือ?” หลูเหยียนผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะหลอกเจ้าทำไมกัน หากมีของไหนเลยข้าจะไม่เอาออกมาขาย” ผู้อาวุโสผอมแห้งได้ยินก็ทำตามองบน และกล่าวอย่างไม่เกรงใจ
“เฮ่อๆ! ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าอีกสองเดือนให้หลัง จะมีงานประมูลใหญ่ของตลาดหรอกหรือ? ท่านได้ข่าวอะไรมาบ้าง?” หลูเหยียนผิงหัวเราะก่อนกล่าวออกมา
“ไม่มี ทางด้านนี้ไม่ได้มีข่าวอะไรเป็นพิเศษ” ผู้เฒ่าเกาส่ายหน้า พอกล่าวมิงได้ยิน ก็มีประกายตาผิดหวังเล็กน้อย แต่พอนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ก็ลองถามดูด้วยความหวัง
“โลหิตบริสุทธิ์ของตะพาบน้ำจิตวิญญาณหมื่นปีเทียบกับของในก่อนหน้านั้นไม่ได้ อย่าว่าที่นี่ไม่มีเลย ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน” ผู้เฒ่าเกามองหลิ่วหมิงทีหนึ่ง และกล่าวออกมา
แม้หลิ่วหมิงจะรู้คำตอบตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอได้ยินเช่นนี้ ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ทั้งสองกล่าวลาผู้อาวุโสแล้ว ก็ออกไปจากร้านเล็กๆ แห่งนี้ในทันที ไม่นานก็กลับมาที่หอสุราเพียวเซียงอีกครั้ง
“ในตลาดฉางหยางแห่งนี้ หากพูดถึงวัสดุหลอมอาวุธ ผู้เฒ่าเกามีช่องทางมากที่สุด แต่ในเมื่อที่นั่นยังไม่สามารถหาซื้อผงวิญญาณบริสุทธิ์ที่สหายต้องการได้ คาดว่าร้านอื่นๆ ก็คงเป็นเหมือนกัน” หลูเหยียนผิงหยิบถุงที่หลิ่วหมิงยื่นมาให้ และใช้จิตกวาดดูทีหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ กล่าวออกมา
“สหายหลูทำเต็มความสามารถก็พอ หากสุดท้ายยังหาไม่ได้ ก็ไม่ต้องดึงดัน” หลิ่วหมิงยิ้มออกมาเล็กน้อย
“อืม! ข้าจะไปสอบถามคนอื่นๆ ดู อีกสองวันให้หลังจะต้องให้คำตอบสหายอย่างแน่นอน” หลังจากหลูเหยียนผิงคิดไตร่ตรองแล้ว ก็ค่อยๆ กล่าวออกมาอย่างจริงจัง
หลิ่วหมิงนัดหมายเวลาพบกันครั้งถัดไป จากนั้นก็ไปจากหอสุราอย่างรวดเร็ว
เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลิ่วหมิงมาถึงหอสุราเพียวเซียงตรงเวลาที่นัดหมาย และในสถานที่แห่งเดียวกัน หลูเหยียนผิงก็นั่งคอยอยู่ที่นั่นแล้ว
หลิ่วหมิงตาเป็นประกายขึ้นมา ที่โต๊ะตัวนั้นนอกจากจะมีหลูเหยียนผิงแล้ว ยังมีผู้ฝึกฝนวัยกลางคนรูปร่างอวบอ้วนอีกคน กำลังมองมาด้วยความงงงัน
“สหายหลิ่วมาแล้ว ตรงเวลาจริงๆ” พอหลูเหยียนผิงเห็นหลิ่วหมิง ก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“ให้พี่หลูรอนานแล้ว สหายขู่ซินก็อยู่ด้วย ช่างบังเอิญเสียจริง” หลิ่วหมิงหันไปพยักหน้าให้นักพรตวัยกลางคนโดยที่ไม่รอให้หลูเหยียนผิงพูดอะไรออกมา
“สหายหลิ่ว ไม่เจอกันนาน” นักพรตวัยกลางคนรีบลุกขึ้นมาประสานมือคารวะ
“ทั้งสองรู้จักกันด้วยหรือ?” ครั้งนี้ถึงตาหลูเหยียนผิงที่ต้องรู้สึกตะลึงแล้ว
หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อย
เขากับชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่คนคุ้นเคยแต่อย่างใด เพียงแค่เจอหน้ากันครั้งเดียวเท่านั้น
เรื่องมันเมื่อสองเดือนก่อนมาแล้ว ผู้ฝึกฝนวัยกลางคนกับผู้ฝึกฝนเผ่าค้างคาวถูกใจอาวุธจิตวิญญาณชิ้นหนึ่งเหมือนกัน จึงก่อให้เกิดการถกเถียงกันขึ้น เถ้าแก่เย่จึงเชิญหลิ่วหมิงมาออกหน้า หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว จึงได้ขายอาวุธจิตวิญญาณให้คนผู้นี้
พอขู่ซินพูดถึงการพบเจอของพวกเขาทั้งสอง ย่อมพูดถึงสถานะศิษย์ประจำการของหลิ่วหมิงออกมาด้วย
“ที่แท้สหายหลิ่วก็เป็นศิษย์สายนอกของนิกายยอดบริสุทธิ์ ข้าเสียมารยาทแล้ว” พอหลูเหยียนผิงได้ยินสถานะของหลิ่วหมิง เขาก็รู้สึกตกใจมาก และรีบประสานมือคารวะทันที
นิกายยอดบริสุทธิ์เป็นหนึ่งในนิกายใหญ่ของมนุษย์ ได้รับความเคารพเลื่อมใสในแผ่นดินจงเทียนเป็นอย่างมาก ต่อให้จะเป็นแค่ศิษย์ธรรมดา ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนอิสระทั่วไปสามารถเทียบได้
“สหายหลูเกรงเกินไปแล้ว” หลิ่วหมิงคารวะกลับ และกล่าวอย่างราบเรียบ
หลังจากพูดจาเป็นพิธีรีตองกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็นั่งลงพูดเรื่องงานหลักกัน
“สหายหลู ไม่ทราบว่ามีเบาะแสเรื่องวัสดุหรือยัง?” หลิ่วหมิงถามออกมาตามตรง
“สองวันมานี้ ข้าได้ไปสอบถามจากสหายมาไม่น้อย จึงได้ข้อมูลมาจำนวนหนึ่ง จะว่าไปแล้วที่มาของข้อมูลนี้ก็มาจากสหายขู่ ดังนั้นวันนี้จึงได้เชิญเขามาพบกับสหายหลิ่วด้วย คิดไม่ถึงว่าทั้งสองจะรู้จักกัน” หลูเหยียนผิงพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเองก็ฟังมาจากข่าวลือเท่านั้น คิดว่าสหายหลิ่วก็คงจะรู้ งานประมูลใหญ่ของตลาดฉางหยางที่หนึ่งปีมีครั้งนั้น อีกไม่ถึงสองเดือนก็จะจัดขึ้นแล้ว” ขู่ซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ผิด! ข้าได้ยินมาจริงๆ” หลิ่วหมิงกล่าวด้วยสีหน้าปกติ เรือนร้อยหลอมเป็นเขตอิทธิพลของนิกายยอดบริสุทธิ์ เขาย่อมรู้ข่าวเกี่ยวกับงานประมูลใหญ่ดี
“งานประมูลใหญ่ในครั้งนี้มีขนาดใหญ่โตเป็นประวัติการณ์ ผู้ดำเนินการประมูลเป็นร้านค้าตาข่ายสวรรค์ ที่จัดอยู่ในสิบอันดับแรกของหอการค้าเชียนเหมิง สิ่งของที่ประมูลเป็นของล้ำค่าจำนวนมาก ตามข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ผงวิญญาณบริสุทธิ์ที่สหายอยากได้ ก็มีปรากฏในงานประมูลด้วยขวดหนึ่ง” ขู่ซินหยุดไปครู่หนึ่งแล้วก็เล่าต่อ
“ท่านพูดจริงหรือ?” หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น
“แหล่งที่มาของข้อมูลของพี่ขู่เชื่อถือได้เป็นอย่างมาก พี่หลิ่ววางใจได้เลย แต่ว่าโลหิตบริสุทธิ์ของตะพาบน้ำจิตวิญญาณหมื่นปีที่พี่หลิ่วอยากได้ ข้าได้ถามสหายไปจำนวนมาก แต่ยังไม่อาจหาได้ ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง!” หลูเหยียนผิงกล่าวออกมา
“เกี่ยวกับงานประมูลใหญ่ในครั้งนี้ มีข่าวลือว่าลำพังแค่อาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอด ก็มีสิบกว่าชิ้นแล้ว โอสถและของล้ำค่าอื่นๆ ยิ่งมีมากกว่า แม้กระทั่งยังได้ยินมาว่ารายการประมูลรั้งท้ายเป็นต้นแบบอาวุธเวท นั่นเป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งระดับแก่นแท้ต่างก็จ้องกันตาเป็นมัน” ขู่ซินทำเสียงจุ๊ๆ และกล่าวชมเชยออกมา
“ต้นแบบอาวุธเวท!” หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ไม่ใช่ว่ามีหินจิตวิญญาณก็สามารถซื้อได้
“ตามกฎในปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกฝนในนิกายใหญ่ที่มาประจำการในตลาดอย่างพี่หลิ่ว จะต้องได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานประมูล แม้ผงวิญญาณบริสุทธิ์จะล้ำค่ามาก แต่ในงานประมูลนี้ก็เป็นแค่สมบัติธรรมดา ใช้หินจิตวิญญาณมากหน่อย เชื่อว่าคงจะประมูลมาได้อย่างง่ายดาย” หลูเหยียนผิงเอามือลูบๆ จมูกแล้วกล่าวด้วยความอิจฉาเล็กน้อย
หลิ่วหมิงพยักหน้าอย่างเงียบๆ และวางแผนไว้ในใจ
แม้ในมือเขาจะมีหนึ่งล้านกว่าหินจิตวิญญาณ เทียบกับผู้ฝึกฝนระดับของเหลวจำนวนมากแล้ว นับว่ามีสมบัติน่าตกใจมาก แต่หากเข้าร่วมงานประมูลใหญ่ของหอการค้าเชียนเหมิง ดูเหมือนว่ามันจะไม่พอ
ด้วยอิทธิพลของตลาดฉางหยางในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งระดับผลึก ต่อให้มีผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ปรากฏออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
และสำหรับผู้ฝึกฝนระดับของเหลวแล้ว หนึ่งล้านหินจิตวิญญาณอาจจะเป็นหินจิตวิญญาณจำนวนมหาศาล แต่สำหรับผู้ฝึกฝนระดับผลึกแล้ว ไม่ถือว่าเป็นเช่นนั้น
…………………………………