ตำนานเทพกู้จักรวาล – ตอนที่ 449 ระฆังสำริดใบใหญ่

ในทางกลับกัน กิเลนมังกรมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เขากลายเป็นขยันขันแข็งกว่าเดิมเมื่อวิ่งแบกฉินมู่ตะบึงไป เขานั้นวิ่งเร็วราวสายฟ้า เร็วยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในทะเลทราย

แม้ว่าความคิดอ่านของเขาจะแยบยลอยู่ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับของผู้คนอย่างเกอเคอ เมื่อเขาได้ยินฉินมู่กล่าวแก่บุตรชายของปรมาจารย์ว่าปรมาจารย์ยังไม่ตาย แต่ได้บรรลุเป็นเทพเจ้า เจ้าอ้วนนี่ก็อดไม่ได้ที่จะรื่นเริงเฉลิมฉลองและตัดสินใจที่จะขยันขันแข็งมากขึ้น

ฉินมู่พบว่าการโกหกเขานั้นช่างยากต่อหัวใจจริงๆ

ในทะเลหมอกแห่งแดนยมโลก นักพรตหลิงจิ่งได้กลายเป็นคนเรือ ฉินมู่คิดในใจ จากเรื่องนี้ ปรมาจารย์ก็น่าจะอยู่ในยมโลกเช่นกัน ผู้ใหญ่บ้านให้เหรียญยมโลกแก่ข้าแปดเหรียญ ดังนั้นข้าจะต้องไปที่นั่นสักครั้ง และค้นหาคำตอบด้วยตนเอง!

เขานำเอาแผนที่ภูมิประเทศที่เกอเคอมอบให้ขึ้นมาคลี่มองดูทั่วๆ สักพักหนึ่ง เขาก็พบตำแหน่งของตำหนักสวรรค์แท้และเมืองหอมเบ่งบาน เขาจึงเงยหน้าขึ้นกะตำแหน่งพิกัดของเขา จากนั้นรีบบอกกิเลนมังกรให้วิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ตรงหน้าพวกเขา ภูเขาใหญ่ยืดยาวไปสุดขอบฟ้า แต่มันค่อนข้างแปลกประหลาด มันเหมือนกับยักษ์ที่ยืนอยู่โดยมียอดเขาสองลูกอันห้อยตกลงมาเหมือนหัวไหล่ของมัน แต่ที่พิลึกกว่านั้นก็คือถัดจากยอดเขามาถึงตีนเขานั้นมันกลายเป็นแท่งกลมหนา ราวกับระฆังสองใบที่วางไว้เหนือพื้นดิน

เมื่อขี่ไปที่นั่น ฉินมู่ก็มีสองทางเลือก เขาสามารถเข้าไประหว่างระฆังสองใบ หรือเดินอ้อมภูเขารูปร่างประหลาดนี้ไป

เมื่อกิเลนมังกรวิ่งตะบึงเข้าไปใกล้ ฉินมู่ก็เงยศีรษะขึ้นและเห็นสตรีท่วงทีงามสง่าในชุดดำ ลอยเลื่อนอยู่เหนือภูเขา

นางลงเหยียบที่ยอดของมัน และมีกระดาษทองคำอันเหมือนยันต์ปิดผนึกใกล้ๆ นาง

ม่านตาของฉินมู่หรี่หด เมื่อเขาเห็นหญิงผู้นั้นฉีกกระดาษบนภูเขา!

“แย่แล้ว! มังกรอ้วน รีบวิ่งทะลุไป!”

ขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น กระบี่ไร้กังวลก็พลันพุ่งออกจากฝักข้างหลังเขา ตัวกระบี่พุ่งหวีดหวิวผ่าอากาศและยิงตรงไปยังสตรีบนยอดเขา!

จะจับโจรก็ต้องจับหัวหน้า ยักษ์ภูเขาตนนี้จะต้องอาศัยพลังวัตรของยอดฝีมือเพื่อให้มันยังคงทำงานอยู่ได้ ตราบเท่าที่หญิงผู้นั้นถูกสังหาร ฉินมู่ก็น่าจะสามารถหยุดการแปลงร่างของมันได้

สตรีนั้นหันกลับมามองเขาและยิ้มหยัน “ในเมื่อเจ้ากล้าสังหารศิษย์ตระกูลอวี้ของข้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นบิดาจักรพรรดิ ข้าก็ไม่สน! ข้าจะส่งเจ้าตามนางไป!”

เมื่อยักษ์ภูเขายืนขึ้น ก้อนเมฆก็ลอยเรี่ยเอวมัน และยอดเขารูประฆังสองยอดก็ผงาดขึ้นไปด้วย ก้อนหินกลิ้งลงจากยอดเขาที่ลดหลั่นมา และเมื่อศิลาก้อนยักษ์พวกนี้โถมถล่มลงจากท้องฟ้า ไม่นานมันก็ถมทับขวางถนน

หญิงนั้นยังคงยืนอยู่บนหัวยักษ์ กระบี่ไร้กังวลพลันหมุนปั่นและแปรเปลี่ยนเป็นท่วงท่ากระบี่เจาะ เพื่อพุ่งทะลวงเข้าไปในเมฆ

หญิงตระกูลอวี้รู้ว่าสถานการณ์ของนางย่ำแย่ นางจึงกู่ร้องออกมา และห่วงเหินหาวก็พุ่งออกไป พวกมันเข้าไปรัดพันกระบี่ไร้กังวล อันกำลังพุ่งฉกเข้าหานางจากทางด้านใต้!

ติง ติง ติง ติง

เสียงระเบิดถี่ยิบดังออกมาราวฝนหนัก ห่วงเหินหาวเข้าไปรับพันกระบี่ไร้กังวลและหดเล็กอย่างรวดเร็ว ทว่าพวกมันพลันถูกสับเป็นชิ้นๆ จากกระบี่ที่หมุนเจาะ

วรยุทธของสตรีผู้นี้มิได้ต่ำต้อย แต่วิชาฝึกปรือของแผ่นดินตะวันตกมิได้เน้นไปในทางเสริมพละกำลังให้ตนเอง ในทางกลับกัน พวกเขาหยิบยืมทุกสิ่งทุกอย่างในฟ้าและดินเพื่อต่อสู้แทน ดังนั้นกำลังต่อสู้ส่วนตนของพวกเขาจึงอ่อนด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับผู้ฝึกวิชาเทวะแห่งจักรวรรดิสันตินิรันดร์ในขั้นวรยุทธเดียวกัน เมื่อเทียบกับฉินมู่ จ้าวลัทธิมารฟ้าผู้นี้ ที่สามารถบุกสังหารไปที่ใดก็ไร้ต่อต้าน นางก็ด้อยกว่ามากนัก

กระบี่ไร้กังวลเป็นกระบี่เทพเจ้า และความคมกล้าของมันนั้นไร้เทียมทาน หลังจากฉีกทึ้งห่วงทุกวงหมดแล้ว แรงถีบทะยานของมันก็ไม่ลดน้อยถอยลงไปสักนิด กระบี่แทงเข้าไปในขากรรไกรของนางและทะลวงออกมาที่หลังศีรษะ

รอยเลือดสายหนึ่งปรากฏบนยอดเขา

ฉินมู่เรียกกระบี่ไร้กังวลของเขากลับมา แต่ไม่ทันที่เขาจะถอนหายใจโล่งอก เขาก็เห็นหินภูเขากลิ้งลงมาจากยอดเขาลดหลั่นสองลูกนั้น มันเผยให้เห็นเนื้อสำริดของระฆัง ยอดเขาสองลูกนั้นเป็นระฆังจริงๆ และมิใช่ภูเขา มันเพียงแต่ถูกปกคลุมไว้ด้วยหินชั้นหนึ่ง!

แม้ว่าฉินมู่จะเคยเห็นอาวุธวิญญาณขนาดมหึมามาก็ไม่น้อย แต่พวกมันล้วนเป็นระดับสมบัติสืบทอดสำนักทั้งนั้น!

แม้ว่าอาวุธวิญญาณของแผ่นดินตะวันตกจะไม่ประณีตเพริศแพร้วเท่ากับอาวุธวิญญาณในจักรวรรดิสันตินิรันดร์ แต่สมบัติสืบทอดสำนักก็ยังนับว่าไม่ธรรมดา พวกมันคือสมบัติวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยความขะมักเขม้นใส่ใจของยอดยุทธฝีมือแกร่งตลอดทั้งชีวิตของเขา

กระดาษบนยอดเขานั้นน่าจะใช้ปิดผนึกยักษ์ภูเขานี้! มันน่าจะฟื้นตื่นมาเมื่อนานมา แต่แล้วก็ถูกเจ้าของสะกดข่มสมบัติล้ำค่าของตระกูลเอาไว้!

หางตาของฉินมู่กระตุก เมื่อเขาพบว่าสถานการณ์ยิ่งคับขันร้ายกาจยักษ์ภูเขานี้เงื้อระฆังใหญ่สองลูกเหวี่ยงแกว่งพวกมันโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง พวกมันกระทบกันไปมา และปากระฆังก็หันมาทางฉินมู่!

ยักษ์ภูเขามิได้เพิ่งตื่น แต่มันถูกปิดผนึกเอาไว้ก่อนหน้า มันมีจิตวิญญาณมาโดยตลอด นั่นก็เป็นสาเหตุที่ตระกูลอวี้ผนึกมันเอาไว้ที่นี่ เมื่อต้องการใช้สอย พวกเขาก็เพียงแต่ฉีกยันต์ปิดผนึก และสามารถขับเคลื่อนยักษ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้!

ปัง!

ระฆังสองลูกกระทบกัน และคลื่นเสียงก็พวยพุ่งเข้ามา ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด ถนนก็จะกระเพื่อมนูนขึ้นและโถมซัดใส่กิเลนมังกร

แต่ทว่าภัยคุกคามที่ร้ายกาจที่สุดก็มิใช่ถนนอันโถมซัด หากแต่เป็นเสียงระฆังเอง พวกมันถูกสร้างขึ้นมาจากการฟาดกระทบสมบัติสืบทอดสำนักสองชิ้น!

“ตระกูลใหญ่แห่งแผ่นดินตะวันตกร้ายกาจจริงๆ มังกรอ้วน อย่าขยับ!”

ฉินมู่อดไม่ได้ที่จะกล่าวชมศัตรู เมื่อปราณชีวิตของเขาแผ่พุ่งออกไป อักษรรูนมากมายก็คลี่คลุมไปทั้งร่างเขา จากนั้นก็ไหลอาบรอบๆ กิเลนมังกร คลื่นเสียงทำลายล้างแผ่พุ่งมา แต่ไม่ทันที่พลังงานพิฆาตจะถึงตัวกิเลนมังกร รอยประทับอักษรรูนก็ก่อขึ้นมาเป็นวงจรพยุหะเคลื่อนย้ายระยะไกล ด้วยทักษะเทวะเคลื่อนย้ายระยะไกลทำงาน ฉินมู่ก็หายวับไปจากตรงนั้นพร้อมกับกิเลนมังกร

พริบตาถัดมา พวกเขาปรากฏที่อีกหนึ่งลี้ห่างออกไป หากว่าลำพังตัวฉินมู่ เขาคงเคลื่อนย้ายไปได้ไกลกว่าสามสิบลี้ หากว่าเขาพาคนไปด้วยหนึ่งคน เขาก็ยังไปได้ไกลสิบลี้ แต่ทว่า เมื่อนำสัตว์ยักษ์มหึมาอย่างกิเลนมังกรไปด้วย หนึ่งลี้นี่เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว

แต่ระยะหนึ่งลี้นี้นับว่าสั้นเกินไปสำหรับยักษ์ภูเขา เพียงแค่มันก้าวย่างไปหนึ่งก้าว ก็คงเดินทางได้เป็นสิบลี้!

ฉินมู่หันกลับไปมองและเห็นว่าจุดที่พวกเขาเคยยืนอยู่ปลิวกระจุย สะเทือนสะท้านอย่างรุนแรงราวกับผืนธงในพายุ ถัดไปนั้น ถนนก็แตกทำลายเป็นชิ้นๆ จากคลื่นเสียงอันรุนแรง

มันถึงกับทำลายถนนไปเป็นระยะยี่สิบลี้ กวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างจนเหี้ยนเตียน!

“ยักษ์ภูเขาไม่มีพลังวัตร แต่เพียงแค่มันแกว่งทุบระฆังสองใบเข้าด้วยกัน มันก็สามารถปลดปล่อยพลานุภาพเกินจินตนาการ นี่ช่างน่าอัศจรรย์!”

ฉินมู่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมศัตรู กิเลนมังกรรีบถีบตัววิ่งต่อไปทันที ขณะที่ข้างหลังพวกเขาคือยักษ์ภูเขาที่หันกลับ และเงื้อเท้าก้าวไปก้าวแรก ฉินมู่พลันเห็นเหนือศีรษะมืดไปหมด เมื่อเขามองขึ้นไป เท้ามหึมาของยักษ์ภูเขาก็อยู่เหนือหัวพวกเขาแล้ว

ความเร็วของกิเลนมังกรพลันทวีทะยานออกไปอย่างบ้าคลั่ง ทะลุความเร็วเสียงภายในไม่กี่อึดใจ พัฒนาการของเจ้าอ้วนนี้ทำให้ฉินมู่แตกตื่นอ้าปากค้าง  เขาไม่รู้ว่ามังกรอ้วนมันไปกินยาวิญญาณอะไรมา ความเร็วของเขาถึงรุดหน้าเกินกว่าในอดีตไปหลายเท่าตัว!

ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ กิเลนมังกรไม่มีเวลาห่วงเรื่องการตบตาเจ้านายอาหารของเขาให้เพิ่มคุณภาพมื้ออาหาร เขาเพียงแต่คิดเรื่องจะหนีเอาชีวิตรอด และความเร็วที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

ตูม!

ข้างหลังพวกเขา เท้ามหึมาของยักษ์ภูเขาเหยียบลงไปบนพื้น สร้างทะเลสาบใหญ่ข้างใต้มัน ในพริบตาถัดมา มันก็เงื้อมือของมันขึ้นเพื่อฟาดเคาะระฆังสำริด

กิเลนมังกรโกยแน่บอย่างไม่คิดชีวิต และระฆังใหญ่ก็ร่วงลงมาข้างหลังเขา แต่ทว่า พลานุภาพของระฆังยักษ์นี้น่าสะพรึงกลัวอย่างสุดขีด เมื่อคลื่นเสียงชอนไชเข้าไปในดิน ความเร็วของมันก็ยิ่งเร็วกว่าในอากาศถึงห้าเท่า

ข้างหลังกิเลนมังกร พื้นดินระเบิดปังๆ และมันเป็นภาพอันชวนขนหัวลุก คลื่นเสียงมาจนถึงกิเลนมังกรและเป่าเขากระเด็นขึ้นไปบนอากาศ

เมฆอัคคีพลันพวยพุ่งขึ้นมาใต้เท้ากิเลนมังกร และเขาก็วิ่งตะบึงไปอีกครั้ง ข้างหลังเขา ยักษ์ภูเขาเหวี่ยงระฆังสำริดใหญ่อีกใบ และอีกอันนั้นก็เงื้อขึ้นสูงเพื่อให้พวกมันตีกระทบกันอีกครั้ง

หง่าง!

เสียงระฆังดังออกมา และมีคลื่นกระเพื่อมสองคลื่นออกมาจากคลื่นเสียงที่บีบอัดห้วงมิติให้กลายเป็นวัตถุสสาร เมื่อคลื่นเสียงเคลื่อนที่ไป ความเร็วของมันก็ยิ่งเร็วมากขึ้น

ฉินมู่ขนหัวลุกชูชัน และเขารีบตีลังกากลับหลังและนำเนตรหยกจันทราออกมา มันจุดแสงและลำแสงก็ยิงตรงไปยังคลื่นเสียง

หวึ่ง

คลื่นเสียงทำลายล้างถูกผ่าแยกออกเป็นสองซีกจากลำแสง และสองคลื่นพลังงานอันน่าหวาดผวาก็พุ่งเฉียดผ่านกิเลนมังกรไป แรงสั่นสะเทือนที่หลงมาทำเอาหนังหัวฉินมู่ชาดิกไปหมด และเขาก็ตัวสั่นเทิ้มโดยที่อากาศไม่เย็น

หากว่าพวกเขาถูกคลื่นเสียงนั้นกระแทกเข้าใส่ เขา เสียงฉีเอ๋อ และแม้กระทั่งกิเลนมังกรก็คงแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และสาบสูญไปจากโลก

“แผ่นดินตะวันตกก็มีความรู้ของมัน แต่ความรู้ชนิดนี้ไม่เหมาะแก่การฝึกฝนฝึกปรือ”

ฉินมู่มองกลับไปข้างหลังและเห็นยักษ์ภูเขาถูกผ่าด้วยลำแสงจากเนตรหยกจันทรา ไหล่ของมันครึ่งหนึ่งร่วงหักลงมา และกิเลนมังกรก็เคลื่อนที่ไปไกลขึ้นและไกลขึ้นทุกทีจากมัน ด้วยความสามารถของยักษ์ภูเขา มันไม่มีทางโจมตีพวกเขาได้ด้วยคลื่นเสียงอีกต่อไป

ในตอนนั้นเอง ยักษ์ภูเขาก็พลันย่อตัวลงมา เมื่อฉินมู่เห็นเช่นนั้น หัวใจเขาก็เต้นโครมครามอย่างรุนแรง ยักษ์ภูเขาวิ่งตะบึงมาจริงๆ และความเร็วของมันก็เหลือเชื่อ!

“สวรรค์…นั่นไม่ใช่แล้ว มันจะต้องมีใครสักคนควบควบคุมยักษ์ภูเขา มิเช่นนั้นมันคงไม่สามารถเจาะจงไล่ตามข้าและกิเลนมังกรมาได้ ไล่ล่าอย่างกับคลุ้มคลั่ง!”

ฉินมู่พลันตระหนักขึ้นมา หญิงตระกูลอวี้ที่ขึ้นไปฉีกยันต์ผนึกนั้นถูกสังหารไปแล้ว ดังนั้นย่อมไม่ใช่นางเป็นแน่ ก็แปลว่าจะต้องมีอีกคนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ไม่ไกล และวรยุทธของคนผู้นั้นก็สูงล้ำเช่นกัน มิเช่นนั้นพวกเขาจะควบคุมยักษ์ภูเขาที่ใหญ่มหึมาขนาดนี้ได้อย่างไร

ขณะที่เขาคิดอยู่นั้น แสงกระบี่หนึ่งก็พลันพุ่งมาจากฟ้า และศีรษะมนุษย์หนึ่งก็ร่วงลงมาจากอากาศ ตามมาด้วยเศษชิ้นส่วนศพจำนวนหนึ่ง มันเป็นหญิงเฒ่าผมสีเทาเงินผู้ซึ่งถือไม้เท้าอยู่ในมือ ไม้เท้าของนางก็ถูกตัดออกเป็นสองซีก

ฉินมู่อึ้งไปเล็กน้อย เขามองไปที่ยักษ์ภูเขาอีกครั้ง และพบว่ามันพลันชะงักค้างอยู่กับที่ ไม่ไล่ล่าพวกเขาอีกต่อไป

ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่าจะต้องเป็นหญิงแก่ผมขาวผู้นี้ที่ได้ควบคุมยักษ์ภูเขาอยู่ในที่ลับเพื่อโจมตีพวกเขา มิเช่นนั้นยักษ์ภูเขาจะโจมตีพวกเขาในทันทีที่ฟื้นตื่นขึ้นมาได้อย่างไร

“มังกรอ้วน หยุดก่อน!”

กิเลนมังกรหยุดวิ่งทันที แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ฉินมู่เปิดเนตรสวรรค์ชาด เพื่อมองดูยังยักษ์ภูเขา และเห็นเงาร่างหนึ่งยืนอยู่บนหัวของมัน นั่นก็คือเกอเคอ

แสงกระบี่พุ่งกลับลงมาจากก้อนเมฆและบินวนรอบเขาสองรอบ

เกอเคอโค้งคารวะเพื่อกล่าวลาพวกเขา “เดินทางโดยสวัสดิภาพ!”

ฉินมู่เองก็โค้งคารวะร่ำลา “ขอบคุณสำหรับคำอวยพร”

เงาร่างนั้นพลันยกธงขึ้นคลี่สะบัด และหายวับไปจากยอดเขา

“ธงเคลื่อนย้ายระยะไกล ปรมาจารย์ก็ให้เขาไว้หนึ่งอัน” ฉินมู่แย้มยิ้ม “เขาเหมือนกับปรมาจารย์เลย ทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจไยดีกับโลกหล้า แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีหัวใจอันอบอุ่น เกอเคอนี่เป็นบุตรชายของปรมาจารย์ไม่ผิดแน่ มังกรอ้วน ปรมาจารย์มีผู้สืบทอดแล้ว”

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่ ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ! ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่ ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา… เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่ นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก! ‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Comment

Options

not work with dark mode
Reset