การที่ต้องทนนอนในโรงเตี๊ยมที่มีแต่ความแออัด วันนี้เป่าฮู่หลังจากที่ได้เปลี่ยนอาภรณ์เครื่องสวมกายใหม่ ใต้อาภรสีเขียวอ่อนสลับขาว ซึ่งเป็นสีที่โปรดปราน ทำให้แสดงถึงธรรมชาติอันแสนร่มเย็นเป็นสุข
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ชายหนุ่มได้เดินเข้ามาในย่านตลาด สิ่งที่ชายหนุ่มได้เห็นและพยายามเดินหาก็คือ เครื่องปรุง เพื่อนำไปทำเนื้ออสูรแดดเดียว
“ท่านป้า ท่านป้า ข้าขอถามหน่อยแถวนี้มีร้านขายเครื่องปรุงหรือเครื่องเทศหรือไม่?”
เมื่อเป่าฮู่ถามออกไป หญิงวัยชราคนนั้น ก็เอียงหูลงมาจากแผงขายของ โดยตัวนางก็ก้มลงมากล่าวถามอีกครั้ง แต่ในขณะนั้นกลับมีเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งทีเห็นว่าหญิงชรากำลังเผลอ พวกมันก็วิ่งเข้ามาคว้าเอาถังไม้ใส่เงินของนางไป
โดยนางเป็นเพียงหญิงชรา จะไปเอาแหวนมิติที่ไหนมา นางไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น แต่ขณะนั้นเป่าฮู่ทันสังเกตเห็นพอดี
การหันไปด้านหลังหวังใช้มือคว้าจับที่คอของเด็กน้อยผู้นั้น กลับใช้มือไปสัมผัสกับก้อนเนื้อนุ่มๆของหญิงนางหนึ่ง โดยหญิงนางนั้นไม่ใช่ใครอื่น อันนางก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลหงที่กำลังปลอมตัวมาในหาซื้อของเพื่อตบตาบิดานางในวันเลือกคู่
เพียงสัมผัสแรกที่คนทั้งคู่ได้เห็นและรับรู้ ((((มับ!!!!)))) เสียงสัมผัสของฝ่ามือที่บอบบางของเป่าฮู่ แม้ไม่ได้แข็งกร้านดั่งชายทั่วไป แต่ก็มีความมั่นคง โดยหญิงที่ถูกจับ (โน่มโน้ม) นั้นได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความลืมตัว จนคนทั่วทั้งตลาดหันมาทางต้นเสียง พริบตาเป่าฮู่ก็เห็นจุดที่ฝ่ามือของตนสัมผัส
“บัดซบ! เวรแล้วไง นี่ข้าทำอะไรลงไปแต่เช้า เวรแล้ว เวรแล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว”
ด้วยสิ่งที่เกิดทำให้ตัวของหญิงนางนั้นแหกปากตระโกนออกมาทันที
“ว๊าย!!!!! ไอ้โจรโรคจิต กล้าลวนลามข้ากลางตลาด ทุกท่านช่วยข้าจับเจ้าคนนั้นให้ได้ ใครจับได้ ตระกูลหงจะมีรางวัลให้อย่างงาม”
แย่เข้าให้แล้ว เป่าฮู่ที่บัดนี้ได้ใช้เคล็ดวิชาตัวเบาที่มีหนีตายจากเหล่าจอมยุทธทั่วทั้งเมืองด้วยความอลหม่าน
“หยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้ ไอ้โจรโรคจิต”
คำเรียกให้หยุดแต่มีหรือที่เป่าฮู่จะหยุด หากหยุดไปคงได้ตายเหมือนหมูถูกเชือดเป็นแน่ วันนี้เป็นวันที่ซวยของจริง
(ณ ยอดเขาของเมืองตระกูลหง)
ด้วยความสามารถในการหนีและอาศัยพลังของเต่าอักขระอำพรางลบตัวตน จึงหนีรอดจากเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างได้ แต่ฝีมือระดับราชาลมปราณเช่น เป่าฮู่ เดิมทีจะไม่คิดหนีก็ได้ แต่จากนี้ต่อไปจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ซวย! ซวยจริงๆ ทำไมแม่นางคนนั้นต้องมาอยู่ตรงนั้น แล้วทำไมตัวข้าต้องไปอยู่ตรงนั้น โอ๊ย!”
“ตาย ตาย ตาย มันต้องตาย ไอ้บ้าโรคจิต ไอ้บ้าตัณหากลับ ไอ้บ้า ไอ้บ้า กล้าลวนลามข้ากลางตลาดแล้วยังมีหน้ามาหนี เสี่ยวหง ไปตามช่างวาดภาพมา ข้า ข้าจะให้ประกาศตามล่ามันผู้นั้น ใครที่สามารถนำหัวของมันมาได้ ในวันประลองเลือกคู่”
หลังจากเหตุการณ์นั้น ภาพที่ปรากฏทั่วเมืองก็เป็นภาพสุดแสนจะภาคภูมิใจของเป่าฮู่ ถูกกระจายเป็นวงกว้าง ตลอดในเมืองจนถึงเขตนอกเมือง เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายได้เห็นประกาศนี้ก็พากันออกล่า ดั่งเป่าฮู่เป็นยอมสมบัติชั้นเยี่ยม
แต่ขณะที่ภาพเหมือนถูกประกาศไปทั่วเมืองชายหนุ่มกับมานั่งเป็นกังวลใจที่บนเขา ด้วยตัวมันตั้งใจจะเที่ยวที่เมืองหงสักระยะหนึ่ง แต่ขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็ได้ยินเสียงของคนกลุ่มหนึ่งที่ออกมาล่าอสูรได้พูดคุยกัน
“ฮ่าๆๆๆๆ ในเมืองตระกูลหง กำลังวุ่นวาย เพราะไอ้บ้าโรคจิต ดี ดี แบบนี้ก็เป็นการดีที่นายท่านของเราจะสามารถยืมมือเหตุการณ์โจรโรคจิตนั่น เข้าปล้นสุสานบรรพชนของตระกูลหง ที่ว่าด้านในมีปากทางเข้าไปยัง แดนอสูรลับแลที่มีพยัคฆ์ขาวอาศัยอยู่ หากนายท่านได้ครอบครองสัตว์อสูรชั้นสูงตนนี้จะยกระดับของพวกเรามากขนาดไหน”
ด้วยข่าวของตระกูลหงจะเปิดสุสานบรรพชนที่ด้านในมีทางเข้าแดนอสูรลับแล ทำให้หลายต่อหลายสำนักส่งศิษย์ชั้นนำมาร่วม หนึ่งในนั้นก็คือ นิกายอันดับหนึ่งนิกายเสือขาว ผู้ที่ครอบครองวิชาลมปราณที่แข็งแกร่งอีกชดหนึ่ง
“แย่แน่ หากเป็นแบบนี้ ข้าจาพลาดโอกาสหลายต่อหลายอย่างไป เพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้”
เป่าฮู่ได้พยายามติดตามกลุ่มคนกลุ่มนั้นไปจนได้พบว่า แผนการที่พวกมันวางไว้ก็ไม่อาจรอดพ้นหูตาของ นิกายใหญ่ได้ ด้วยเวลาไม่นาน ปากทางเข้าก็ถูกกลุ่มยอดฝีมือรักษาคุ้มกันเอาไว้ โดยภาพที่เป่าฮู่ได้เห็น ก็ชักจูงความต้องการของชายหนุ่ม
“อื่ม ดูแล้วคุ้มกันซะหนาแน่น แล้วแบบนี้ ข้าควรทำเช่นไรดี?”
ขณะที่ถามอยู่นั้น รถม้าจากตระกูลใหญ่ที่แสดงถึงความโอ่อ่าออกมาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ว่าอย่างไร สิ่งที่สั่งการไว้สำเร็จหรือไม่?”
กลุ่มศิษย์ที่สวมอาภรณ์ของนิกายเสือขาว โดยคนแซ่ลู่ได้ยกมือคาราวะ คุณชายที่ลงจากรถม้ามา
“ลู่จวิ้น คาราวะคุณชายเต้าเหล่ย งานที่ท่านสั่งไว้เสร็จแล้ว พยัคฆ์ขาวอยู่ด้านในสุสาน”
เมื่อเจ้าคุณชายเจ้าสำอางกล่าวเสียงแผ่วเบาออกมา
“แล้วตระกูลหง รู้เรื่องนี้หรือไม่?”
เมื่อความคิดที่จะปล้นสุสาน จากทางเข้าอีกทางทำให้การคุ้มกันของตระกูลหงลดน้อยลงไป จนทำให้กลุ่มของศิษย์นิกายเสือขาวที่ชั่วช้าทรยศต่อเกียรติของตนยื่นมือรับใช้ เหล่าคุณชายจากแดนศักดิ์สิทธิ์
“ดี ดี งานของเจ้าทำได้ดี เช่นนี้ ข้าฝากดูแลทางเข้าด้วย แล้วนี่ค่าจ้างของเจ้า และข้าให้คำมั่นว่า หากเจ้ากลับไปพร้อมกลับข้า เจ้าจะได้รับการต้อนรับจากนิกายเทพเมฆาของข้า”
เมื่อชายหนุ่มที่ได้ฟังความหวังสูงสุดของมัน ก็รีบก้มหัวคาราวะ เต้าเหล่ย ชายผู้เป็นศิษย์ฝ่ายในของนิกายเทพเมฆา ภาพที่ได้เห็นทำให้เป่าฮู่นึกถึงภาพที่ตนพบเจอศิษย์พี่ของตนในนิกายที่ทรยศพวกพ้อง และชักนำศัตรูเข้ามา
“มันคงเป็นเช่นนี้มานาน ไม่นานนิกายเสือขาวอาจพบจุดจบเช่นนิกายเสวียนอู่”
เมื่อคิดได้แบบนั้นเป่าฮู่จึงสนใจที่จะเข้าไปช่วงชิงเอา พยัคฆ์ขาวนั้นออกมาหรือไม่ก็นำมันออกมาแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่คุ้มค่าเช่นกล่องปริศนา เพราะอำนาจของนิกายเสือขาวคงมีมากพอที่จะสรรหามาให้แก่เป่าฮู่ได้