เพียงการบุกรุกเข้ามาในสวนสมุนไพร ที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ปราชญ์โอสถเช่นตาเฒ่าหลางจงหรือจะเรียกอีกนามหนึ่งว่า มารฟ้าโอสถหลางจงก็ได้
ด้วยสิ่งที่หายากยิ่งกว่าสิ่งใดนี้ หลางจงจึงมีความหวงแหนในตัวดอกสมุนไพรนาม
ราตรีกลืนวิญญาณนี้เหลือสิ่งใดในโลกหล้า เพราะใันเป็นสิ่งเดีวที่จะนำมาเป็นตัวนำยาเพื่อรักษาบุตรสาวอันเป็นที่รัก
ณ สถานที่แห่งนี้เดิมทีก็ถูกเหล่าตระกุลใหญ่คุ้มครองไว้ แต่บัดนี้ด้วยตระกูลเหล่านั้นถูกเรียกกำลังพลกลับไปด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ด้วยสิ่งใดนั้นตัวเฒ่าหลางจงก็ไม่อาจทราบได้
แต่สำหรับชายหนุ่มที่กำลังมองดอกราตรีกลืนวิญญาณที่มีตรงหน้าหลุดมือไป เป่าฮู่ก็เสียดาย แต่ว่าเมื่อสิ่งของสิ่งนั้นไม่ใช่ของตนเอง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะยื้อแย่งมา
“ผู้น้อยเป่าฮู่ ขออภัยที่ล่วงเกินผู้อาวุโส ข้ามิรู้มาก่อนว่าดอกราตรีกลืนวิญญาณนี้เป็นของท่าน เช่นนั้นข้าน้อยก็ขอตัวลาไปก่อนแล้วกัน”
เมื่อเฒ่าชราได้ฟังก็หัวเราะออกมา เพราะดอกสมุนไพรชนิดนี้มีค่าก็จริง แต่ว่ามันก็จะเป็นความลับเช่นกันใครที่พบเห็นแล้วจะให้รอดไปก็เป็นไปไม่ได้
“เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นที่ใดกัน จะมาก็มาจะไปก็ไปได้หรือ สถานที่แห่งนี้เป็นของข้า
หลางจงผู้นี้ เข้ามาได้ออกไปไม่ได้”
เมื่อเป่าฮู่ได้เห็นวงแหวนสีม่วงทองอร่ามที่ทอประกายด้านหลังชายชรา ทำให้เป่าฮู่รู้ว่าชายผู้นี้คือชนชั้นราชาครึ่งก้าวราชัน แต่ว่าสำหรับเป่าฮู่นั้น ไม่ได้มีความเกรงกลัวหรืออะไรทำนองนั้นเลย
เป่าฮู่ได้เห็นท่าทีของเฒ่าหลางจง ทำให้เป่าฮู่รีบกล่าวตัดบทออกมา
“ช้าก่อน หยุดการกระทำนั้นของท่านเสียเถิดอาวุโส ข้าไม่ได้มีเวลามาทะเลาะกับท่านเช่นนี้
แม้ระดับท่านจัดว่าสูงส่งแต่สำหรับข้ามันไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก”
เฒ่าหลางจงไม่ฟังฟ้าฟังแผ่นดินอีกต่อไป ด้วยความโอหังที่เด็กหนุ่มแสดงออกมา ความลับของมันที่จะต้องทำให้มันเป็นความลับต่อไป มิเช่นนั้น สมบัติของมันเฝ้าเพียรพยายามดูแลมาจะต้องถูกริบรอนไปโดยตระกูลศักดิ์สิทธิ์เสียหมด
“อย่าพูดมากตายไปซะเจ้าหนุ่ม”
ด้านเป่าฮู่ได้เห็นที่เช่นนี้ทำให้ชายหนุ่ม ถึงกับหมดความรู้สึกที่เคยมีมา และด้วยท่าทีที่เหนื่อยหน่ายใจ เป่าฮู่ไม่แม้จะขยับไปที่ใดสักก้าว พร้อมฝ่ามือที่สะบักไปมา เพียงไม่กี่ครั้งอากาศเบื้องหน้าของเป่าฮู่ก็พลันปรากฏ กระบี่น้ำแข็งจำนวน 3 เล่มออกมา
เพื่อไม่ให้เสียเวลาและแสดงจุดที่อยู่ของมันออกมาให้เหล่าผู้ติดตามรับรู้ได้ จะต้องลงมือให้เด็ดขาด
เพียงมารฟ้าโอสถกำลังเยาะยิ้มที่ชายหนุ่มผู้ไม่เกรงกลัวความตายคนนี้ มิขยับตัวหรือหลบหนีทันทีที่เห็นวงแหวนสีม่วงทองของตนพร้อมด้านข้างกลับมีอสรพิษสีม่วงเขียวตัวใหญ่เลื้อยไปมา สายตาก็เหลือบไปเห็นกระบี่สีขาวนวล ทั้ง 3 เล่มลอยคว้างกลางอากาศ เบื้องหน้าเด็กหนุ่มเฒ่าชราถึงกลับละเมอออกมา ถึงตัวตนที่มันกำลังตามหาผู้ใช้ลมปราณหยินขั้นสูง
“เจ้ามีลมปราณหยิน!?”
ด้วยความตกใจนี้ก็ไม่ทันการเมื่อ เป่าอู่ไม่คิดให้อภัยคนที่คิดร้ายต่อตนเอง กระบี่ที่มีทั้ง 3 เล่มเบื้องหน้าพุ่งมา ไอเย็นที่แผ่ออกมา สายตาของเฒ่าชราหลางจงก็เริ่มวิตกกังวลใจ ด้วยกระบี่น้ำแข็งนั้นกลับส่งกลิ่นอายแห่งความตายออกมาอย่างน่ากลัว เพียงสัมผัสแรกที่เฒ่าชราผนึกลมปราณของตัวมันต้านแรงปะทะของกระบี่น้ำแข็ง
“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกน่า เด็กน้อย ฝ่ามือหยกสวรรค์หมุนวน”
ตรงๆแต่กลับมีบางอย่างแปลกออกไปทันทีที่เฒ่าชราสัมผัสถึงตัวกระบี่ทั้ง3 เล่ม ที่คิดว่าไร้ค่าในสายตาของมัน
“พิษ!”
เฒ่าหลางจงมารฟ้าโอสถ ผู้เรียกตนเองว่าคล่ำวงการยามานาน กลับพบการแฝงพิษมากับเคล็ดวิชาแบบนี้และพิษนั้นกลับเป็นพิษเย็นที่ร้ายกาจ แทนที่จะตกใจกลับดีใจ เพราะพิษร้อนในกายบุตรสาว หากได้รับพิษเย็นนี้เข้าต้านทานจะทำให้เกิดอะไรขึ้น
เมื่อคิดว่าพิษเจอพิษมันจะกลายเป็นผลที่ดีขึ้น ทันใดนั้นขณะที่ตัวเฒ่าชราหลางจงได้
รู้ตัวร่างอันเลือนรางของเป่าฮู่ก็ปรากฏเบื้องหน้า พร้อมฝ่ามือที่ผนึกลมปราณเอาไว้อย่างหนาแน่น
เพื่อที่จะปิดบัญชาในการต่อสู้ครั้งนี้ เสียงของเฒ่าชราหลางจงก็ร้องออกมาเพื่อขอให้ชายหนุ่มยั้งมือก่อน
“ช้าก่อนพ่อหนุ่ม ช้าก่อน ข้า ข้ายกดอกราตรีกลืนวิญญาณให้เจ้า แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”
เป่าฮู่ได้ฟังก็หยุดยั้งฝ่ามือของตัวมัน ด้วยความห่างของฝ่ามือกับหน้าอกของหลางจงเฒ่าชราผู้นั้น
“นับว่าสวรรค์ยังเมตตา หากข้าคิดลงมือเร็วกว่านี้ ท่านคงตกตายไปแล้ว
เมื่อข้าไว้ชีวิตท่าน ข้าก็ขอดอกราตรีกลืนวิญญาณไปละหนะ”
คำกล่าวนั้นทำให้ชายชรา รีบกล่าวทักห้ามออกมาทันที ด้วยสิ่งที่ชายหนุ่มทำจะทำให้ดอกราตรีกลืนวิญญาณสูญเสียสรรพคุณในตัวยาของมันไป
“ช้าก่อนคุณชาย ท่านนี้”
เป่าฮู่หรี่ตาลงมามองตาเฒ่าตรงหน้าด้วยสายตาที่ตำหนิ ต่อสัจจะวาจาที่เคยกล่วออกมา
“ท่านจะเปลี่ยนใจ เช่นนั้น”
คำกล่าวนั้นยังไม่ทันจะเสร็จ เฒ่าชราก็รีบกล่าวเล่าถึงเหตุผล และเชื้อเชิญชายหนุ่มเข้าไปพักในกระท่อมของตน เพื่อคุยเรื่องที่ตัวผู้เฒ่าหลางจงต้องการขอร้อง
ณ กระท่อมมารฟ้าโอสถ
เพียงเป่าฮู่ที่ติดตามเข้ามาในกระท่อมโดยง่าย ด้วยความอยากรู้ว่าชายชราคนนี้จะมาไม้ไหนกับตนกัน
เมื่อการเข้ามาถึงกระท่อม เป่าฮู่ก็เห็นทุกอย่างในกระท่อม และมีสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเด็กหนุ่ม เพราะนั่นคือกลิ่นอายที่ชายหนุ่มเคยสัมผัสมาก่อนในถ้ำมืดในส่วนลึกของสำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า
“กลิ่นนี้ พิษปราณร้อนแดนใต้นั้นอีกแล้ว”
เฒ่าชราได้ฟัง ก็ตกใจเพราะชายหนุ่มผู้นี้ช่างมีสัมผัสการรับรู้ที่ดียิ่งนัก และเฒ่าชราหลางจงก็กล่าวออกมา ด้วยสายตาที่เศร้าโศก
“ท่านกล่าวถูกแล้วคุณชาย ตัวข้านำพาท่านเข้ามา ก็เพื่ออยากให้ท่านช่วยข้าในการรักษาบุตรสาวของข้าคนนี้ นางถูกมารร้ายในสำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า ใช้วิธีชั่วช้า มอบยาพิษให้แก่บุตรสาวของข้า”
เมื่อภาพที่ย้อนไปในวันแรกการฟื้นคืนสติ เป่าฮู่ก็นึกถึงหญิงที่ตกตายเพราะช่วยเหลือตัวเป่าฮู่โดยบังเอิญนั้น
“พิษแห่งแดนใต้ สำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า อื่ม สำนักนั้นอีกแล้ว”
เฒ่าชราได้ฟังเช่นนั้นจึงพอจะเดาทางได้ว่า ชายหนุ่มคนนี้ต้องผ่านอะไรเช่นนี้มาก่อนถึงไม่ตกใจที่ได้พบชื่อของพิษร้อนที่น่ากลัวต่อคนฝึกปราณหยินในแดนเหนือ
“ท่านรู้จักมัน เจ้าพิษร้ายชนิดนี้ แล้วท่านรู้ได้อย่างไร?”
เป่าฮู่เล่าถึงสิ่งที่ตัวมันพบเจอในสำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า ก่อนที่เฒ่าหลางจงจะเริ่มเข้าใจและหันไปมองใบหน้าของบุตรสาวของมันก่อนที่มันจะกล่าวออกมาว่า
“คุณชายหากท่านช่วยเหลือนางได้ ดอกราตรีกลืนวิญญาณจะเป็นของท่านในสภาพสมบูรณ์ที่สุดและข้าจะเก็บมันมาให้ท่านในอีก 3 วัน ส่วนนี้คือโอสถฟ้าเหมันต์ ข้าฝึกปรุงโอสถธาตุหยินมานานปีเพื่อจะรักษาบุตรสาวข้า แต่วันนี้หากคุณชายรับปากช่วยข้า ข้าจะมอบทุกสิ่งแก่ท่าน และตอนนี้ข้าขอร้องท่าน ท่านโปรดช่วยข้าด้วย”
ภาพที่ชายชราคุกเข่าลงต่อหน้าเป่าฮู่ โดยเป่าฮู่ได้เห็นก็รีบพุ่งไปพยุงร่างของชายชราให้ลุกขึ้นมา ก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าวบางสิ่งออกมา
“อื่ม ได้โปรดอย่าทำเช่นนี้ท่านอาวุโส ข้าจะช่วยท่าน”
การตบปากรับคำแล้วนั้นผู้เฒ่าหลางจงก็ลุกขึ้น และมองไปที่ร่างของบุตรสาวที่ตัวมันรักที่สุด และหันไปทางชายหนุ่มก่อนจะบอกให้ชายหนุ่มทำตามข้อแนะนำของ มารฟ้าโอสถหลางจงผู้นั้น
ตลอดเวลา 3 ชั่วยามของสองบุรุษต่างวัยที่ช่วยกอบกู้ชีวิตของหญิงสาวนางหนึ่ง ในที่สุดหลังจากที่เป่าฮู่สูญเสียพลังลมปราณไปส่วนหนึ่ง และความเหนื่อยล้าก็เข้ามาครอบงำ จนเป่าฮู่ต้องขอไปพักทันทีหลังจากที่ช่วยรักษา บุตรสาวของเฒ่าชราหลางจงเสร็จ
ส่วนเฒ่าชราที่สุดแสนจะดีใจ และมองดูร่างบุตรสาวที่ถูกชายหนุ่มที่สวรรค์ส่งมาให้พบตนในสถานน่ากลัวแบบนี้
แม้แรกเริ่มตัวเฒ่าชราคิดหลอกใช้เด็กหนุ่มผู้นี้ แต่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มสละพลังลมปราณและให้พลังเย็นนั้นเป็นตัวเดินยาในการรักษา จนบุตรสาวสุดรักผ่านพ้นช่วงเวลาที่แสนอันตรายนั้นมาได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้ชายชราคิดมอบ ดอกราตรีกลืนวิญญาณหนึ่งดอกให้แก่ชายหนุ่มไป ตามที่ตัวเฒ่าชราหลางจงหล่าวอออกไป
แต่ใต้การครุ่นคิดของเฒ่าชรา ชายหนุ่มที่หรี่สายตาลงมองร่างชายแก่ที่กำลังครุ่นคิดอย่างยากลำบากระหว่างเส้นแบ่งที่จะชักนำให้คนผู้นั้นทำถูกหรือเสียคำสัตย์
(ฮ่าๆๆๆ ท่านคงทรมานนะผู้เฒ่า ดอกราตรีกลืนวิญญาณ ฮ่าๆๆๆ ท่านคงเสียดายมันไม่น้อยฮ่าๆๆๆๆ)
เด็กหนุ่มครุ่นคิดขณะที่เฝ้ามองดูคนที่ต้องตัดสินใจ เพื่อทำตามความอยากหรือทำตามคำพูดที่ได้ลั่นวาจาไปแล้ว