บทที่ 103 พ่อแท้ๆของลูก
เมื่อวานนี้ คุณแม่โทรหาเวินลั่วฉิง เมื่อเวินลั่วฉิงบอกว่าเธอได้แต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้ว ตอนนั้นเธอตกใจอย่างเห็นได้จัด
เวินลั่วฉิงแต่งงานกับเย่ซือเฉินได้อย่างไรกัน?
เธอรู้จักเวินลั่วฉิงดี มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะยอมแต่งงานกับผู้ชายอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
ดังนั้น เธอจึงนึกถึงคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ออกเพียงอย่างเดียว
แต่ว่า…
มู่หรงดัวหยางดูรายงานผลตรวจอีกครั้ง หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และต่อสายหาเวินลั่วฉิง
“สวัสดีค่ะ” ณ ตอนนี้เวินลั่วฉิงยังคงนอนอยู่บนเตียง เมื่อรับโทรศัพท์ เสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย
“เวินลั่วฉิง คุณอย่าบอกผมนะว่าคุณยังไม่ตื่นน่ะ?” เมื่อมู่หรงดัวหยางได้ยินเสียงของเธอ เขาก็รู้สึกประหลาดใจมาก เธอยังไม่ตื่นงั้นเหรอ?
ตื่นแล้วยังไม่ลุกออกจากเตียง อย่าบอกนะว่าเพราะอยู่กับเย่ซือเฉิน?!!
“รายงานผลการตรวจออกแล้วเหรอ?” เมื่อเวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเขา ก็รีบได้สติ และเด้งออกจากเตียงทันที
“ใช่ ผลออกมาแล้ว เธอเอาไปดูผลเองแล้วกัน” มู่หรงฟังเสียงการเคลื่อนไหวของเธอผ่านทางโทรศัพท์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมิด เขาไม่มีเจตนาที่จะบอกผลกับเธอโดยตรง
เขาอยากให้เธอมารับเอง เพราะว่าเขายังมีอีกหลายคำถามที่อยากจะถามเธอ
“แล้วคุณป้ามู่หรงล่ะ?” เวินลั่วฉิงจะไม่เข้าใจความหมายของเขาได้อย่างไร เธอรู้ดีว่าการที่เธอบอก คุณป้ามู่หรงเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินเมื่อวานนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
“ยังไงนะ? ตอนนี้เธอเพิ่งมารู้สึกกลัว แล้วตอนแรกทำไมเธอถึงทำลงไปล่ะ?” โกรธก็โกรธ ขำก็ขำ แท้จริงแล้วเธอก็รู้สึกกลัวเป็นด้วยงั้นเหรอ?
“แม่ผมเมื่อวานก็กลับไปแล้ว” อย่างไรก็ตาม มู่หรงดัวหยางได้เพิ่มอีกประโยคข้างหลังเข้าไปเพื่อบอกความจริงกับเธอ
“โอเค เดี๋ยวฉันไปเอา” เวินลั่วฉิงถอนหายใจ ขอแค่คุณป้ามู่หรงไม่อยู่ เธอก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวแล้ว
เวินลั่วฉิงงรีบไปที่ศูนย์การตรวจของมู่หรงดัวหยางโดยเร็วที่สุด
“เอกสารรายงานผลการตรวจล่ะ?” เวินลั่วฉิงตรงเข้าไปที่ห้องทำงานของมู่หรงดัวหยาง ไม่มีเรื่องไร้สาระมาแทรก และถามเขาถึงผลลตรวจอย่างตรงไปตรงมา
“คุณลองดูเอาเองแล้วกัน” มู่หรงดัวหยางนำเอกสารรายงานผลการตรวจไปไว้ตรงหน้าของเธอ
เวินลั่วฉิงรีบรับมาอย่างรวดเร็ว ดูแวบหนึ่งแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ผลปรากฏว่า เย่ซือเฉินไม่มีความเกี่ยวข้องกับลูกน้อยของเธอ ดูเหมือนว่า เธอจะคิดมากเกินไป
“ผลพิสูจน์ออกมาว่า เด็กทั้งสองไม่ใช่ลูกของเย่ซือเฉิน แล้วคุณวางแผนที่จะแก้ไขเรื่องการแต่งงานกับเย่ซือเฉินอย่างไร?” มู่หรงดัวหยางมองไปที่เธอ ขณะนี้ใบหน้าของเขาดูจริงจังมากขึ้น เขาเข้าใจว่าเวินลั่วฉิงสงสัยว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของเย่ซือเฉิน เธอถึงตัดสินใจแต่งงานกับเย่ซือเฉิน
“การที่ฉันยอมแต่งงานกับเย่ซือเฉิน มันไม่เกี่ยวอะไรกับเด็กสองคนนั้นเลย” เวินลั่วฉิงหันกลับไปมองมู่หรงดัวหยางเพื่อที่จะยืนยันกับเขาว่าเธอไม่ได้ปกปิดอะไร เพราะเธอรู้ดีกว่า ถ้าเกิดว่าเธอปกปิดอะไร มู่หรงดัวหยางต้องไปสืบหาข้อมูลด้วยตัวเองแน่นอน
“ไม่เกี่ยวกับเด็กทั้งสองงั้นเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงยอมแต่งงานกับเขาล่ะ?” มู่หรงดัวหยางตกตะลึง ดวงตาของเขากระพริบอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เหตุผลนี้ แล้วจะเป็นเหตุผลอะไร?
“ฉันทำข้อตกลงที่จะแต่งงานกับเย่ซือเฉิน ข้อตกลงนี้มีระยะเวลาหนึ่งปี ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะช่วยให้เขาได้รับส่วนแบ่งของตระกูลเย่ และแน่นอนว่า ถ้าเกิดว่าเขาได้รับส่วนแบ่งจากตระกูลเย่ก่อนกำหนด พวกเราก็สามารถที่หย่าก่อนกำหนดได้เช่นกัน” เวินลั่วฉิงตัดสินใจที่จะบอกเขา เหตุผลนี้ยังไงก็ปกปิดไม่ได้อยู่แล้ว
มู่หรงดัวหยางมองไปที่เธอ ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง และอ้าปากโดยไม่รู้ตัว เขาได้แค่จ้องมองไปที่เธออย่างว่างเปล่า เวลาผ่านไปพักหนึ่งสติก็ยังไม่กลับมา
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจเขาอีก เธอฉีกรายงานผลการตรวจนั้นเป็นชิ้น ๆ หลังจากนั้นก็ถือไปที่ห้องน้ำ และนำเศษไปล้างลงท่อน้ำทิ้ง
“ฉันไปก่อนนะ” หลังจากที่เวินลั่วฉิงเดินออกมาจากห้องน้ำ และตัดสินใจที่จะกลับ
รอบนี้ ในที่สุดสติของมู่หรงดัวหยางก็กลับมาจนได้ ดวงตาคู่นั้นของเขามองไปที่เวินลั่วฉิง “คุณรอแปบหนึ่ง ถ้าตามที่คุณว่า คุณโดนบังคับให้แต่งงานกับเย่ซือเฉินใช่ไหม?”
เวินลั่วฉิงชะงักฝีเท้า เธอมองไปที่เขาและไม่ได้ตอบอะไร แต่มันก็คือว่าเป็นการอนุมัติโดยปริยาย
ขณะนั้น มุมปากของ มู่หรงดัวหยางกระตุกอย่างรุนแรง
ดังนั้น การแต่งงานนี้เธอถูกเย่ซือเฉินบังคับจริงหรือ?
แค่เย่ซือเฉินบังคับเธอ เธอก็ยอมแต่งงั้นเหรอ?
เย่ซือเฉินทำได้อย่างไร?!
ไม่สิ เขาควรถามเวินลั่วฉิงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงยอมตกลงล่ะ?
เธอ เวินลั่วฉิง เป็นคนประเภทที่ยอมให้ถูกบังคับหรือ?
ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนเป็นคุณชายที่บังคับให้เธอแต่งงานด้วย เธอจะยอมไหม?
มู่หรงดัวหยางรู้ว่า ไม่มีทางที่เธอจะตอบตกลง ไม่อย่างงั้น ในตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณชายคงไม่ต้องมาลำบากที่รอเธอ
ไม่ใช่เพียงแค่คุณชาย ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นใครก็ตาม เธอจะไม่มีวันที่จะตอบตกลง
แต่ว่า ทำไมถึงเย่ซือเฉินบังคับ “เบา ๆ” แค่นี้ เธอก็ยอมตกลงแล้วล่ะ?
หลังจากที่มู่หรงดัวหยางตกอยู่ในความงุนงง จู่ ๆ เขาก็หัวเราะออกมา
บางครั้งเรื่องบางเรื่องในโลกใบนี้ก็ยากเกินกว่าที่จะอธิบายได้ สิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ แต่เขาเย่ซือเฉินสามารถทำได้สำเร็จ
หรือว่าบางสิ่งบางอย่าง มันถูกลิขิตไว้แล้ว
แต่เดิมเขาคิดว่า มันต้องมีสักวันที่คุณชายจะสามารถที่จะทำได้สำเร็จตามความฝันที่วาดไป แต่ตอนนี้มองดูแล้ว เกรงว่าน่าจะยาก
แต่ถึงอย่างงั้น เขาจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
“ฉิงฉิง ก่อนที่เย่ซือเฉินจะหลงรักแก ได้โปรดอย่าหวั่นไหวให้กับเย่ซือเฉิน” เขาไม่รู้ว่าเหตุผลที่เย่ซือเฉินแต่งงานกับเธอคืออะไร แต่เขารู้ว่ามันเป็นข้อสรุปที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแก้ไขและยุติมันลง
แต่ว่า เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอเป็นทุกข์ เขารู้ดีว่า ในเรื่องของความรู้สึก ใครที่หวั่นไหวก่อน คนนั้นก็จะมีแนวโน้มที่จะได้รับเจ็บปวดมากกว่า
เขารู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นคนเจ้าเหล่ ร้ายลึก แต่ฉิงฉิงของพวกเขาเป็นนักจิตวิทยา ดังนั้นในแง่อื่น ๆ เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเห็นห่วง เขากังวัลแค่ฉิงฉิงจะได้รับเจ็บปวดทางอารมณ์
“นี่คุณโง่หรือเปล่า? พวกเราแค่ทำข้อตกลงที่จะแต่งงาน ต่างคนต่างได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ และไม่พูดถึงความรู้สึก” เวินลั่วฉิงหันศีรษะและมองไปที่เขา
มู่หรงดัวหยางตะลึง แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขาลืมไปได้ยังไง ว่าฉิงฉิงของพวกเขาโง่เรื่องความรู้สึก
คนที่ถือว่าผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม และเป็นถึงนักออกแบบที่มีความสามารถสูง แต่เป็นคนโง่เรื่องความรู้สึก!!
หรือว่ามันจะจริงตามคำพูดเก่า ๆที่ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
หลายปีที่ผ่านมาคุณชายทำแบบนั้นกับเธอ เธอไม่เคยสังเกตเห็นอะไรเลยสักนิด และไม่เคยรู้เลยว่าคุณชายชอบเธอ
ตอนนี้ เธอมีข้อสัญญาแต่งงานกับเย่ซือเฉิน และด้วยสติปัญญาเหล่านี้ เธอก็ยิ่งไม่สามารถที่จะสร้างความรู้สึกต่อเย่ซือเฉิน
เดิมทีแล้วเธอเป็นคนโง่เรื่องความรู้สึก และยังคงเตือนตัวเองอย่างสมเหตุสมผล…
ดูเหมือนว่า หัวใจของเขาจะไร้ประโยชน์จริงๆ!!
จู่ ๆ เขาก็เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเย่ซือเฉิน ถ้าเกิดว่าเย่ซือเฉินไม่ได้ชอบเธอก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งเย่ซือเฉินชอบเธอขึ้นมาจริง ๆ มันก็…
“ฉิงฉิง ถ้าเกิดว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกแท้ ๆของเย่ซือเฉิน เธอจะทำอย่างไร?” มู่หรงดัวหยางนึกถึงเรื่องผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดา ก็อดที่จะถามไม่ได้
ที่จริงแล้ว ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เขานึกถึงความเป็นไปได้มากมาย และเขายังมีแผนอื่น ๆ…