และในระยะเวลาห้าปีมานี้เขาเป็นคนยังไง ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอแน่ เพราะฉะนั้นช่วงสุดท้ายในตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก
แต่ซือถูมู่หรงกลับไม่สนใจเธอเลย เขาไม่สนใจแม้กระทั่งการขัดขืนของเธอ เขาอุ้มเธอเดินลงบันไดไป
เธอสูง168เซนติเมตร แต่กลับตัวเบามาก
พอซือถูมู่หรงอุ้มเธอก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่อยู่ในอ้อมแขน เขากะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าเธอจะเบาไปหน่อย
เมื่อห้าปีก่อนตอนแรกๆที่เธออยู่กับเขาไม่เห็นจะเบาขนาดนี้เลย
ทว่าพอมาอยู่กับเขาตั้งห้าปี เขากลับเลี้ยงเธอให้ผอมลงหรอ?!
เมื่อหลิวหยิงเห็นว่าเขาเดินมาถึงบันไดแล้วก็ไม่พยายามยืนกรานและขัดขืนว่าจะลงอีก
เธอกลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ แล้วเขาจะโยนเธอลงมาจากบันได
เธอจำได้ว่าตอนที่เธอมาอยู่กับเขาตอนแรกเขาไม่เคยมีความสงสารใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนั้นเขาตั้งใจทำร้ายเธอ ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย
พอเห็นหลิวหยิงไม่ได้ขัดขืนอีก เขาจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น!!
เขาก้าวเดินลงมาอย่างช้าๆ ก้าวออกไปทีละก้าวอย่างมั่นคง ราวกับกลัวว่าจะล้ม
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เมื่อเดินลงบันไดมา หลิวหยิงก็เห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารเช้ามากมายวางเรียงรายไว้ เธอดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ที่เขาเรียกเธอลงมาทานอาหารเช้า เธอก็นึกว่ามากสุดจะมีแค่นมหนึ่งแก้วแล้วก็ขนมปังอีกสองสามแผ่นอะไรพวกนั้น
เพราะยังไงเธออยู่กับเขามาตั้งห้าปี เขาก็ไปเคยทำอะไรแบบนี้เลย เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่าเขาทำกับข้าวไม่เป็น
และแน่นอนว่าเธอก็ไม่เคยทำกับข้าวให้เขากิน ที่จริงเธอก็ทำกับข้าวเป็น และก็ทำอร่อยด้วย แต่เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้
เขาจ่ายเงินเพื่อซื้อเธอกลับมา ซื้อความสาวของเธอ ไม่ใช่แม่บ้านที่กับข้าวได้
หลิวหยิงรู้สถานะของตัวเองมาโดยตลอด
และในระยะเวลาห้าปีมานี้เขาเป็นคนยังไง ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอแน่ เพราะฉะนั้นช่วงสุดท้ายในตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก
แต่ซือถูมู่หรงกลับไม่สนใจเธอเลย เขาไม่สนใจแม้กระทั่งการขัดขืนของเธอ เขาอุ้มเธอเดินลงบันไดไป
เธอสูง168เซนติเมตร แต่กลับตัวเบามาก
พอซือถูมู่หรงอุ้มเธอก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่อยู่ในอ้อมแขน เขากะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าเธอจะเบาไปหน่อย
เมื่อห้าปีก่อนตอนแรกๆที่เธออยู่กับเขาไม่เห็นจะเบาขนาดนี้เลย
ทว่าพอมาอยู่กับเขาตั้งห้าปี เขากลับเลี้ยงเธอให้ผอมลงหรอ?!
เมื่อหลิวหยิงเห็นว่าเขาเดินมาถึงบันไดแล้วก็ไม่พยายามยืนกรานและขัดขืนว่าจะลงอีก
เธอกลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ แล้วเขาจะโยนเธอลงมาจากบันได
เธอจำได้ว่าตอนที่เธอมาอยู่กับเขาตอนแรกเขาไม่เคยมีความสงสารใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนั้นเขาตั้งใจทำร้ายเธอ ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย
พอเห็นหลิวหยิงไม่ได้ขัดขืนอีก เขาจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น!!
เขาก้าวเดินลงมาอย่างช้าๆ ก้าวออกไปทีละก้าวอย่างมั่นคง ราวกับกลัวว่าจะล้ม
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เมื่อเดินลงบันไดมา หลิวหยิงก็เห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารเช้ามากมายวางเรียงรายไว้ เธอดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ที่เขาเรียกเธอลงมาทานอาหารเช้า เธอก็นึกว่ามากสุดจะมีแค่นมหนึ่งแก้วแล้วก็ขนมปังอีกสองสามแผ่นอะไรพวกนั้น
เพราะยังไงเธออยู่กับเขามาตั้งห้าปี เขาก็ไปเคยทำอะไรแบบนี้เลย เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่าเขาทำกับข้าวไม่เป็น
และแน่นอนว่าเธอก็ไม่เคยทำกับข้าวให้เขากิน ที่จริงเธอก็ทำกับข้าวเป็น และก็ทำอร่อยด้วย แต่เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้
เขาจ่ายเงินเพื่อซื้อเธอกลับมา ซื้อความสาวของเธอ ไม่ใช่แม่บ้านที่กับข้าวได้
หลิวหยิงรู้สถานะของตัวเองมาโดยตลอด
ซือถูมู่หรงไม่พูดอะไรต่ออีก เขาหยิบถ้วยกับตะเกียบขึ้นมาแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว
หลิวหยิงก็ไม่พูดอะไร เธอเริ่มกินอย่างเงียบๆ
ตอนนี้จิตใจของหลิวหยิงไม่ได้จดจ่ออยู่ที่อาหาร เพราะงั้นก็เลยไม่ได้ลิ้มรสอาหารอย่างละเมียดละไม แต่กับข้าวที่เขาทำถือว่ารสชาติไม่เลวเลย
ยากมากกว่าที่ทั้งสองจะได้อยู่ได้กันอย่างเงียบสงบและสันติ
พวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งห้าปี ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่เคยทานอาหารด้วยกันอย่างเงียบสงบแบบนี้มาก่อนเลย ซือถูมู่หรงกินช้ามาก เดิมหลิวหยิงก็กินได้ไม่เยอะอยู่แล้ว กินได้ไม่นานเธอก็อิ่ม
แต่พอเธอกินเสร็จ เธอก็ไม่ได้ลุกออกไป เธอนั่งเงียบๆเพื่อรอเขากินเสร็จ
ถึงจะรีบแต่ก็ไม่ใช่เวลานี้
ซือถูมู่หรงรู้ว่าเธอกำลังรอเขา และซือถูมู่หรงก็รู้ว่าพอเขากินเสร็จเธอก็จะต้องพูดว่าจะออกไปแล้ว
เพราะยังไงเธอก็เก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ เพราะยังไงเมื่อวานเธอก็พูดอย่างชัดเจน และท่าทางก็แน่วแน่มาก
เธอพูดว่าวันนี้จะออกไป!!
เขาตื่นมาตั้งแต่เช้าแล้วตั้งใจเตรียมอาหารมื้อนี้ แต่พอเขากลับไปที่ห้องกลับเห็นเธอกำลังเก็บกระเป๋าเดินทางเพื่อเตรียมตัวออกไป
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเขาในตอนนี้หรอก!!
และในระยะเวลาห้าปีมานี้เขาเป็นคนยังไง ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอแน่ เพราะฉะนั้นช่วงสุดท้ายในตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก
แต่ซือถูมู่หรงกลับไม่สนใจเธอเลย เขาไม่สนใจแม้กระทั่งการขัดขืนของเธอ เขาอุ้มเธอเดินลงบันไดไป
เธอสูง168เซนติเมตร แต่กลับตัวเบามาก
พอซือถูมู่หรงอุ้มเธอก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่อยู่ในอ้อมแขน เขากะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าเธอจะเบาไปหน่อย
เมื่อห้าปีก่อนตอนแรกๆที่เธออยู่กับเขาไม่เห็นจะเบาขนาดนี้เลย
ทว่าพอมาอยู่กับเขาตั้งห้าปี เขากลับเลี้ยงเธอให้ผอมลงหรอ?!
เมื่อหลิวหยิงเห็นว่าเขาเดินมาถึงบันไดแล้วก็ไม่พยายามยืนกรานและขัดขืนว่าจะลงอีก
เธอกลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ แล้วเขาจะโยนเธอลงมาจากบันได
เธอจำได้ว่าตอนที่เธอมาอยู่กับเขาตอนแรกเขาไม่เคยมีความสงสารใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนั้นเขาตั้งใจทำร้ายเธอ ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย
พอเห็นหลิวหยิงไม่ได้ขัดขืนอีก เขาจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น!!
เขาก้าวเดินลงมาอย่างช้าๆ ก้าวออกไปทีละก้าวอย่างมั่นคง ราวกับกลัวว่าจะล้ม
หลิวหยิงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เมื่อเดินลงบันไดมา หลิวหยิงก็เห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารเช้ามากมายวางเรียงรายไว้ เธอดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ที่เขาเรียกเธอลงมาทานอาหารเช้า เธอก็นึกว่ามากสุดจะมีแค่นมหนึ่งแก้วแล้วก็ขนมปังอีกสองสามแผ่นอะไรพวกนั้น
เพราะยังไงเธออยู่กับเขามาตั้งห้าปี เขาก็ไปเคยทำอะไรแบบนี้เลย เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่าเขาทำกับข้าวไม่เป็น
และแน่นอนว่าเธอก็ไม่เคยทำกับข้าวให้เขากิน ที่จริงเธอก็ทำกับข้าวเป็น และก็ทำอร่อยด้วย แต่เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้
เขาจ่ายเงินเพื่อซื้อเธอกลับมา ซื้อความสาวของเธอ ไม่ใช่แม่บ้านที่กับข้าวได้
หลิวหยิงรู้สถานะของตัวเองมาโดยตลอด