บทที่120 แรงกระตุ้นนี้มีมากเกินไป (2)
หากปลายสายนี้ไม่ใช่ผู้ชายคนที่เขาเจอวันนั้น คำพูดเขานั้นก็กระตุ้นเขานิดหน่อย ให้เขาหึงๆบ้าง และร้อนรนบ้าง
ไม่แน่อาจมีเรื่องที่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้ แล้วที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อความสุขของฉิงฉิงของเขานั้นเอง
จุดประสงค์เดียวของเขาคือต้องการให้ฉิงฉิงของเขาเจอผู้ชายที่พึ่งพาได้ แล้วรีบแต่งงานซะ
แต่คุณปู่เวินคิดไม่ถึงว่า ขณะนี้คนในปลายสายนั้นได้เป็นหลานเขยเขาไปแล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณปู่เวินพูดในตอนนี้นั้นได้กระตุ้นไปอย่างแรง
“คุณปู่ คิดมากไปแล้ว ……”เวินลั่วฉิงนึกถึงตอนที่เรียนมหาลัยประเทศMนั้นปกติเธอไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลย เหตุการณ์ที่คุณปู่พูดมานั้น หนึ่งเดียวที่เป็นไปได้อาจเพราะเห็นเธอกับมู่หรงดัวหยาง
เธอกับมู่หรงดัวหยางนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คุณปู่คิดมาไปแล้วจริงๆ
“เธอกล้าพูดไหมล่ะว่าผู้ชายโทรมานั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเธอเลย” ทว่า จู่ๆคุณปู่เวินก็ขัดจังหวะในการพูดของเธอ แล้วถามคำถามที่โคตรตรงออกมา
เห็นได้ชัด ว่าคำถามของคุณปู่เวินนั้นเป็นการจงใจถาม
“ไม่……มี” อาจเป็นเพราะไม่มั่นใจเล็กน้อย ตอนเวินลั่วฉิงตอบนั้น เสียงถึงได้ติดขัดเล็กน้อย แต่นิดหน่อยเท่านั้นเอง อาจฟังไม่ออกมาก ติดขัดเล็กน้อยเท่านั้นแต่ไม่อาจกระทบความหมายของสองคำนี้ได้
ตอนเวินลั่วฉิงตอบคำถามนั้น ก็นำโทรศัพท์ในมือมาไว้ภายในกระเป๋า
มุมปากเย่ซือเฉินกระตุกขึ้นในทันที มุมปากที่กระตุกนั้นซ่อนความน่ากลัวประหลาดจนน่าขนพองสยองเกล้า
เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ
ดี ดีมาก
“ไม่ได้เป็นอะไรกันสักนิดเดียวเลยเหรอ” คุณปู่เวินชะงักเล็กน้อย แล้วสำหรับคำพูดเธอนั้น เขาไม่เชื่อแน่นอน
เมื่อกี้ฉิงฉิงเธอนั้นยังไม่ได้ตัดสายทิ้ง และฉิงฉิงยังไม่รู้สึกตัว และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้วางสายเช่นกัน ตอนฉิงฉิงนำโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋านั้น เขาเห็นได้ชัดเลยว่าในสายยังอยู่
เพราะฉะนั้น ผู้ชายคนนั้นก็ได้ฟังที่พวกเขาพูดทั้งหมด แค่นี้ก็บอกได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นสนใจ……
เพียงแค่สนใจ แผนกระตุ้นของเขานั้นถึงจะได้ผล
“ใช่ค่ะ” ครั้งนี้เวินลั่วฉิงดูไม่ลังเลใดๆ แล้วตอบยังรวดเร็ว กลัวว่าคุณปู่จะสงสัย แล้วจะถามไปเลยอีก ครั้งนี้เวินลั่วฉินตอบอย่างแนวแน่ เสียงดังฟังชัดขึ้นเป็นอย่างมาก
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินนั้นจะให้คุณปู่รู้ไม่ได้เด็ดขาด หากคุณปู่รู้เข้าว่าเธอกัยเย่ซือเฉินแต่งงานกันแล้ว เธอไม่กล้ารับประกันเลยว่าคุณปู่จะทำเรื่องบ้าบออะไรขึ้นมาอีก
เธอกับเย่ซือเฉินแต่งงานเพราะมีข้อตกลงกัน ถ้าหากคุณปู่บังคับให้เขาแต่งงานกับเธอจริง คงเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆแน่
ถึงแม้ตอนนี้เวินลั่วฉิวจะนำโทรศัพท์มาไว้ที่กระเป๋าแล้ว แต่เพราะเวินลั่วฉิงพูดเสียงด้วยระดับเสียงที่ดังขึ้น ปลายสายอย่างคุณชายสามเย่ก็ย่อมจะได้ยินด้วย
คุณชายสามเย่กระตุกมุมปากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าเยือกเย็นแค่ไหน ไม่มีอะไรกันเลยแค่น้อยเหรอ
ดี เธอช่างดีเสียจริง
“เอาล่ะ ไม่มีก็ไม่มี คุณปู่หาดีๆให้เอง “คุณปู่เวินเห็นท่าทางเวินลั่วฉิงแล้ว รู้ได้เลยว่าถามไปก็เท่านั้น คุณปู่เวินพูดคำนี้นั้นก็ตั้งใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นเหมือนกัน เพื่อให้ใครบางคนที่อยู่ในปลายสายนั้นได้ยิน
เมื่อได้ยินที่คุณปู่เวินพูดนั้น แววตาเย่ซือเฉินนั่นได้เปลี่ยนเป็นขุ่นถึงขีดสุด
“คุณปู่ หนูยังมีเรื่องต้องทำอีก ไปก่อนนะคะ”เวินลั่วฉิงไม่อยากพูดต่อถึงหัวข้อนี้อีก และเธอก็กังวลว่าเย่ซือเฉินจะมารับเธอ เพราะแบบนี้เวินลั่วผฉิงถึงได้อยากรีบไปนัก
“ฉิงฉิง เธอจะรีบไปไหนกัน แล้วตอนดึกจะกลับมาอีกไหม”คุณปู่เวินมองดูเธอที่รีบจากออกไปนั้น เขาก็เดาได้เลยว่าต้องเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนที่โทรมา
เพราะเหตุนี้ ใบหน้าของคุณปู่เวินตอนนี้นั้นได้แสดงออกถึงความดีอกดีใจขึ้นเล็กน้อย
ดูเหมือนละครให้ดู มีละครจริงๆด้วยสิ
แต่ไม่รู้ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่น
ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใน ขอแค่นิสัยใจคอไม่มีปัญหา และชอบเวินลั่วฉิงจากใจจริง เขาจะไม่คัดค้านใดๆเลย
เวินลั่วฉิงได้ยินความดีอกดีใจจากน้ำเสียงของคุณปู่เวิน ทำให้ร่างเธอแข็งทื่อขึ้นเล็กน้อย แต่เธอหยุดนิ่งได้ไม่นาน ก็รีบลงไปชั้นล่างทันที
ขณะที่เวินลั่วฉิงยือยู่หน้าบันไดนั่น ได้เห็นห้องโถงนั้นมีหญิงชราอายุราวๆหกสิบกำลังจัดโต๊ะอยู่
หญิงชราได้ยินเสียงจึงลุกขึ้นมา แล้วเดินมาทางเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิวตะลึงเล็กน้อย คนนี้คือใคร คนใช้ใหม่ที่บ้านตระกูลเวินหรือไง
แต่ตระกูลเวินจะจ้างคนใช้คงไม่จ้างอายุมากขนาดนี้
“ฉิงฉิง นี่คือคุณย่าเหอของเธอ เธอเป็น……..” คุณปู่เวินที่เดินตามเวินลั่วฉิงไปได้หันมองหญิงชราในห้องโถง ภายในแววตานั้นมีความอ่อนโยนอยู่มากมาย
“คุณหนูใหญ่” คุณย่าเหอไม่รอให้คุณปู่เวินพูดเสร็จ ก็มองเวินลั่วฉิงแล้วเรียกเบาๆ
คุณปู่เวินจ้องมองเธอ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
คุณย่าเหอส่ายหัวเบาๆให้กับคุณปู่เวิน
ใบหน้าคุณปู่เวินแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วยเล็กน้อย แต่ด้วยท่าทางที่แน่วแน่ของเธอ ทำให้ไม่อาจพูดอะไรอีก
เวินลั่วฉิงคือนักจิตวิทยา ที่สังเกตได้ละเอียด มองแป๊บเดียวก็รู้ว่าคุณย่าเหอที่มาอยู่กับคุณปู่เวินนั้นต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมาดแน่นอน
ส่วนไม่ธรรมดายังไงนั้น
เวินลั่วฉิงอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ คนก็พากลับมาแล้ว เรื่องก็ควรชัดเจนได้แล้วมั้ง
เวินลั่วฉิงได้หันมา มองที่คุณปู่เวินแป๊บเดียว จากนั้นก็รีบเดินไปตรงหน้าของคุณย่าเหอ”สวัสดีค่ะคุณย่าเหอ คุณเรียกหนูเหมือนคุณปู่ฉิงฉิงก็พอค่ะ”
“หา อะไรนะ “คุณย่าเหอไม่คิดเลยว่าเวินลั่วฉิงจะมีท่าทีแบบนี้ ทำให้หยุดนิ่งไปชั่วคราว
“คุณย่าเหอ วันนี้หนูยังมีเรื่องด่วน วันหลังจะมาหาคุณกับคุณปู่นะคะ ฮ่าๆ”ใบหน้าเวินลั่วฉิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากไม่ใช่เพราะเธอกำลังกังวลเรื่องเย่ซือเฉิน เธอคงจะอยู่ให้รู้เรื่องมากกว่านี้แน่นอน
“คุณปู่ หนูไปก่อนนะคะ”เวินลั่วฉิงหันกลับมา แล้วโบกมือทักทายคุณปู่เวินด้วยดีใจ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่สดใสมากมาย
แต่ว่า เวินลั่วฉิงไม่เสียเวลาไปมากนัก ก็รีบออกไปจากที่นี่
“เด็กคนนี้นี่ บ้าๆบอๆทั้งวัน ” คุณปู่เวินมองดูเงาเวินลั่วฉิงที่เดินจากไป แล้วส่ายหัวเบาๆ แต่บนใบหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
“คุณทำไมไม่ให้ผมบอกฉิงฉิง”คุณปู่เวินหันไปมอง ผู้หญิงที่ตรงห้องโถง “ฉิงฉิงเป็นเด็กที่ดี”
“ฉันรู้ว่าฉิงฉิงเป็นเด็กที่ดี แต่พวกเราจะทำให้เด็กอัดอึดได้ไง” คุณย่าเหอถอนหายใจเบาๆ และใบหน้ามีความสับสนเล็กน้อย
คุณปู่เวินคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากที่เวินลั่วฉิงได้ออกจากบ้านตระกูลเวินแล้ว ก็นึกอยากจะโทรหาเย่ซือเฉินสักหน่อย เพื่อไม่ให้เย่ซือเฉินไม่มารับเธอ
เธอหยิบมือถือออกมา จึงเพื่อสังเกตเห็นว่าสายโทรศัพท์ยังอยู่
สายยังอยู่งั้นเหรอ
เวินลั่วฉิงเห็นเวลาโทรที่ปรากฏบนโทรศัพท์แล้ว ถึงกับสั่นกลัวด้วยความตกใจ