“และยังต้องประกาศถึงสถานะของฉิงฉิงด้วย ฉันไม่อยากให้ฉิงฉิงของเราถูกคนอื่นพูดว่าน่าเกลียด พูดว่าโง่อีก ทั้งๆที่ฉิงฉิงของพวกเราสวยแล้วก็ฉลาดที่สุด!!” จนถึงตอนนี้แล้วท่านย่าถังก็ยังเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ตลอด
“แล้วก็ยังมีสถานะของเด็กสองด้วย เย่ซือเฉินกับฉิงฉิงแต่งงานกัน สถานะของเด็กทั้งสองคนก็จะต้องเปิดเผยออกมาด้วยอยู่แล้ว!!”
“วันนี้จื่อโม่ได้ปรากฏตัวเจอหน้าที่โรงพยาบาลแล้ว จื่อโม่ก็เคยพูดถึงสถานะของตัวเองกับคุณย่าเย่ว่ามีสายเลือดของตระกูลเย่อยู่ด้วย เพราะฉะนั้นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อาจจะเดาถึงสถานะของจื่อโม่ได้แล้ว ในใจของทั้งคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ที่คิดอยากจะผูกสัมพันธ์กับองค์กรโกสต์ซิตี้เพื่อหวังผลประโยชน์ จะต้องคิดหาวิธีปิดบังเรื่องเด็กทั้งสองคนอย่างแน่นอน แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะทำอะไรกับเด็กสองคนนี้ ดังนั้น เปิดเผยออกมาให้เร็วหน่อยจะดีกว่า แบบนั้นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็จะสามารถล้มเลิกความตั้งใจได้เร็วหน่อย” ท่านปู่ถังเมื่อนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ทำแล้ว สีหน้าก็อดที่จะดูหนักหน่วงลงไม่ได้
“พ่อพูดถูกครับ วันนี้จะต้องไม่ทันแล้วแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผมจะนัดนักข่าวมา แล้วเปิดเผยสถานะของฉิงฉิงด้วยตัวผมเอง แล้วก็สถานะของเด็กสองคนนั้นด้วย” ถังหยุนเฉิงเข้าใจความกังวลนี้ของท่านปู่ถังอยู่แล้ว ตอนนี้เขาเป็นคนดูแลตระกูลถัง เรื่องนี้ให้เขาเป็นคนทำจะเหมาะสมที่สุด
“จะมีผลกระทบกับตระกูลถังหรือเปล่าคะ? จะมีผลกระทบต่อเรื่องของคุณลุงหรือเปล่า?” เวินลั่วฉิงรู้ว่าทุกคนหวังดีกับเธอ แต่เธอก็ไม่อยากจะหาเรื่องให้กับทุกคนเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้ความยุ่งยากของตระกูลถังก็มีมากพอแล้ว!!
“เมื่อก่อนตอนที่เธอยังไม่ได้คบกับซือเฉิน บางทีอาจจะมีผลกระทบ แต่ตอนนี้เธอคบกับซือเฉินแล้ว เด็กก็คือลูกของเธอกับซือเฉิน นี่ก็เป็นเรื่องที่ถูกจังหวะเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว ไม่ส่งผลกระทบหรอก เธอวางใจได้ เรื่องนี้ลุงจะจัดการเอง” ถังหยุนเฉิงยิ้มให้เวินลั่วฉิง น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่ฉิงฉิงกลับมายังตระกูลถัง ก็จะคิดแทนพวกเขาตระกูลถังในทุกๆด้าน ช่วยเหลือพวกเขาตระกูลถังในทุกๆด้าน ช่วยพวกเขาตระกูลถังขจัดอันตรายออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีฉิงฉิงอยู่ด้วย เขากับถังหลินตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
อย่าว่าแต่สถานการณ์อย่างในตอนนี้จะไม่มีผลกระทบมากเลย ต่อให้มีผลกระทบจริงๆ เพื่อความสุขของฉิงฉิงแล้ว เพื่อเด็กๆทั้งสองคน เขาก็จะต้องเปิดเผยออกไปอย่างแน่นอน
เหมือนกับที่แม่พูดไว้ ทั้งๆที่ฉิงฉิงของพวกเขาสวยที่สุด ฉลาดที่สุด ทำไมจะต้องถูกคนด่าว่าขี้เหร่ ด่าว่าโง่ เขาที่เป็นลุงก็ไม่ยอมเช่นกัน
“เธอทำใจให้สบาย ให้ลุงเขาจัดการไป” ท่านย่าถังมองไปยังเวินลั่วฉิง แล้วพยักหน้าลงเบาๆ
“พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันนะครับ” มุมปากของเย่ซือเฉินนั้นยกขึ้นไม่หยุด รอยยิ้มนั้นแผ่กว้างอย่างปกปิดไม่มิด : “แบบนี้ สถานะของลูกทั้งสองคนก็จะเปิดเผยออกมาได้อย่างบริสุทธิ์ ไม่มีใครสงสัยได้”
เย่ซือเฉินอยากจะไปจดทะเบียนสมรสเสียตอนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เป็นช่วงกลางคืนแล้ว อีกทั้งตอนนี้ตระกูลถังก็กำลังประชุมครอบครัวกันอยู่ด้วย และนั่นก็เป็นเพราะเรื่องของเขาอีก ตอนนี้เขาจึงไม่สามารถที่จะพาฉิงฉิงออกไปเลยได้
“เธอฝันไปแล้วล่ะ ยังรู้จักที่จะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จริงๆ” เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่สำหรับคำพูดของเย่ซือเฉินนั้น เฟิ่งเหมียวเหมียวเองก็เห็นด้วยเช่นกัน เย่ซือเฉินกับฉิงฉิงจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ทุกอย่างถึงจะถูกต้องตามหลักทำนองคลองธรรม
“ไปเถอะ ไปเถอะ ถึงอย่างไรจะช้าหรือเร็วก็ต้องจดทะเบียนกันอยู่แล้ว พรุ่งนี้ก็ไปกันเถอะ” ท่านย่าถังโบกมือขึ้นมา พูดจริงๆแล้วนั้นท่านย่าถังยังทำใจไม่ได้อยู่บ้างที่ฉิงฉิงจะต้องแต่งงานออกเรือนเร็วขนาดนี้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ เธอทำใจไม่ได้ก็คงต้องทำให้ได้
เดิมที ท่านย่าถังยังคิดว่าเย่ซือเฉินออกจากตระกูลเย่ ออกจากบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป แล้วจะหมดตัวเสียอีก เดิมทีแล้วท่านย่าถังอยากจะให้เย่ซือเฉินพักอยู่ด้วยกันที่ตระกูลถัง แต่ตอนนี้ดูแล้วเย่ซือเฉินยังมีกิจการของตัวเอง อีกทั้งยังไม่น้อยอีกด้วย
ท่านย่าถังเองก็อายที่จะบอกให้เย่ซือเฉิน พักอยู่ที่ตระกูลถังด้วยเช่นกัน
แม้แต่ถังหลินก็ไม่ได้กลับมาพักที่บ้านบ่อยๆแล้ว เธอจะบอกให้เย่ซือเฉินมาพักอยู่เป็นเพื่อนคนแก่ๆอย่างพวกเขาได้อย่างไรกัน
เพียงแค่ต่อไปฉิงฉิงกับเด็กๆสองคนกลับมาบ่อยๆก็โอเคแล้ว!!
“ตระกูลถังของพวกเราจะจัดงานมงคลแล้ว นี่เป็นเรื่องมงคลครั้งใหญ่เชียวนะ จะต้องช่วยพวกเขาจัดงานแต่งงาน เรื่องนี้มอบให้ฉัน มอบให้ฉันทั้งหมด ฉันรับประกันว่าจะจัดการให้ดีอย่างแน่นอน” เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินท่านย่าถังแล้วก็รู้สึกโล่งใจ อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่เธอถนัดที่สุดแล้ว ทำเรื่องพวกนี้ให้กับเด็กๆ เธอเองก็ดีใจมากที่สุดแล้วเช่นกัน
“อืม งานแต่งงานจะต้องจัดอยู่แล้ว” ท่านย่าถังพยักหน้าลงติดๆกัน จะมาทำให้ฉิงฉิงของพวกเขานั้นได้รับความไม่เป็นธรรมไม่ได้โดยเด็ดขาด ครั้งที่แล้วฉิงฉิงแต่งงานกับซือเฉินไม่มีอะไรเลย ครั้งนี้งานแต่งงานจะต้องจัดออกมาให้ดี
เย่ซือเฉินนึกไปถึงเรื่องการแต่งงานครั้งที่แล้วกับเวินลั่วฉิง ในใจก็รู้สึกละอายใจอยู่บ้างเช่นกัน เขาเองก็ติดค้างงานแต่งงานกับเธอเอาไว้ ครั้งนี้จะต้องชดเชยให้อย่างแน่นอน
“ตระกูลถังของพวกเราไม่มีการจัดงานมงคลมานานมากแล้ว ครั้งนี้จะต้องคึกคักอย่างแน่นอน” เฟิ่งเหมียวเหมียวเอ่ยพูดเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค เห็นได้ชัดว่าความคิดของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นเหมือนกับท่านย่าถัง
“โดยเฉพาะสองคนตระกูลเย่นั่น ให้พวกเขามาดูถูกฉิงฉิงของพวกเรา ให้พวกเขาได้เห็นว่าฉิงฉิงของเรายอดเยี่ยมขนาดไหน แล้วก็ให้พวกเขารู้ว่าฉิงฉิงของเรามีคนสนับสนุน ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะมารังแกได้” เฟิ่งเหมียวเหมียวคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำแล้วก็อดที่จะโมโหขึ้นมาไม่ได้
เมื่อก่อนคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รังเกียจฉิงฉิง ถ้าหากให้คุณปู่เย่และคุณย่าเย่รู้ว่าฉิงฉิงเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ให้พวกเขาได้รู้ถึงความเก่งของฉิงฉิง ถึงตอนนั้นแล้วไม่รู้ว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะมีปฏิกิริยาเป็นอย่างไร?
คงจะต้องน่าดูมากอย่างแน่นอนเลย?
“ถูก จะต้องให้พวกเขาได้เห็นชัดๆ” ท่านย่าถังพยักหน้าลงอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียว
“ซือเฉิน พรุ่งนี้ถังหลินไปประเทศD ทางเมืองAทางนี้ เธอจะต้องมาเปลืองสมองมากหน่อยนะ จะต้องยิ่งเพิ่มความระวังเอาไว้ให้สูงขึ้นด้วย ฉันกลัวว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีการวางแผนร้ายอะไรเข้า” ถังหยุนเฉิงเห็นว่าความคิดของพวกผู้หญิงนั้นย้ายไปอยู่กับเรื่องที่พวกเธอสนใจที่สุดแล้ว ดังนั้นในฐานะที่เขาเป็นผู้ดูแลตระกูลถังในตอนนี้ เรื่องบางเรื่องเขาก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาไปด้วย
“ผมรู้ครับ” เย่ซือเฉินพยักหน้ารับ สำหรับปฏิกิริยาขององค์กรโกสต์ซิตี้เย่ซือเฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน ดังนั้นจึงระวังอยู่ตลอด
“องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่เคลื่อนไหวแบบนี้ ฉันมักจะไม่วางใจ ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่ ฉันหวังว่าพวกเขาจะกล้าทำในสิ่งที่คิดจริงๆ” ดวงตาของถังหยุนเฉิงนั้นหนักหน่วงลงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าหากทำในสิ่งที่คิดจริงๆ พวกเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ก็ยังดีกว่าตอนนี้ สถานการณ์แบบนี้ขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำให้ในใจของเขาไม่สงบจริงๆ
