ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 1440 องค์หญิงตัวจริงตัวปลอม (2)

“คุณคุยอะไรกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เหรอคะ?ทำไมทำหน้าอย่างนี้คะ?”คนที่ร่วมเล่นไพ่เป็นประจำกับคุณนายหลี่เห็นสีหน้าคุณนายหลี่ซับซ้อน จึงอดถามหลายประโยคไม่ได้

แน่นอน อันที่จริงพวกเขาก็อยากรู้เรื่องราวขององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เหมือนกัน

“รู้สึกไม่แปลกๆยังไงไม่รู้ค่ะ” คุณนายหลี่ชะงัก จากนั้นก็ส่ายหัว

“แปลกตรงไหนคะ?” มีหลายคนเข้ามารายล้อม ล้วนอยากฟังเรื่องเม้าท์มอยกันทั้งนั้น

“องค์หญิงคนนี้……”คุณนายหลี่หยุดพูด จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง “รู้สึกว่าสมองมีปัญหาหน่อยค่ะ”

“และฉันฟังจากที่องค์หญิงคนนี้พูดแล้วเหมือนหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่เห็นความสำคัญของเธอเลยค่ะ” คุณนายหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตามหลักแล้วหัวหน้าตามหาลูกสาวคนนี้เจออย่างยากลำบาก คงอยากประกาศให้คนนอกรู้ถึงจะถูก แต่เมื่อกี้ฉันหยั่งเชิงองค์หญิงแล้วเหมือนหัวหน้าไม่มีความคิดด้านนี้เลย”

“หรือว่าต้องการปกป้ององค์หญิง ถึงไม่ได้ประกาศหรือเปล่า เพราะคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ทำอะไรก็มักจะธรรมดาเรียบง่าย” มีคนอดแสดงความสงสัยไม่ได้

“ไม่ถูก ตอนฉันถามเมื่อกี้ องค์หญิงหงุดหงิดด้วยนะคะ เห็นได้ชัดว่าเธอใส่ใจเรื่องนี้ ถ้าหัวหน้าทะนุถนอมเธอจริงๆ คงแคร์ความรู้สึกของเธอนะคะ หากประกาศให้คนนอกรู้ไม่ได้เพราะต้องการปกป้องเธอจริงๆ แต่ส่วนในต้องยอมรับถึงจะถูก แต่ดูจากสีหน้าหงุดหงิดขององค์หญิงแล้ว เหมือนภายในองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ยอมรับเธอเลย เมื่อกี้เธอตอบสนองเด่นชัดมาก ฉันคิดว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่คิดจะยอมรับสถานะของเธอเลย” คุณนายหลี่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มานัดต่อนัดแล้ว ทุกการตอบสนองของเฉิงโหรวโหรวตกอยู่ในสายตาของเธอทั้งหมด

“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?ลูกสาวตัวเองทั้งคน ในเมื่อหาเจอแล้วก็ต้องยอมรับสิ และได้ยินว่าหัวหน้าไม่มีลูกคนอื่นอีก น่าจะยิ่งเห็นความสำคัญกับองค์หญิงคนนี้มากขึ้นถึงจะถูก ไม่งั้นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จะให้คุณชายสามเย่แต่งงานกับเธอเหรอคะ?”

“คุณพูดถูก องค์กรโกสต์ซิตี้ลึกลับตลอด คนนอกอย่างเราไม่เข้าใจหรอก ฉันคงคิดมากไปหนะค่ะ” คุณนายหลี่ยิ้ม เธอก็คิดว่าตัวเองคิดมากไป

“คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ฉลาดแค่ไหน ใครก็ดูออกว่าพวกเขาอยากให้คุณชายสามเย่สู่ขอองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้เข้าบ้านสักเต็มประดา ดังนั้น ฉันมั่นใจว่าองค์หญิงคนนี้ต้องมีอำนาจเล็กน้อย หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้มีลูกสาวคนนี้คนเดียว ไม่แน่ว่าอีกหน่อยทุกอย่างในองค์กรโกสต์ซิตี้จะเป็นของเธอ ดังนั้น คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จึงรีบร้อนอยากสู่ขอเร็วๆ”

“ปกติคุณย่าเย่หยิ่งจนจมูกเชิดขึ้นฟ้าแล้ว ทว่าวันนี้กลับเอาองค์หญิงอยู่ข้างกายตลอด ให้ความเป็นมิตรไมตรีมาก ลำพังจุดนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าไม่มีปัญหาแล้ว”

“ใช่ ใช่ เมื่อกี้ฉันคิดผิดไปเอง” คุณนายหลี่ยิ้มเบาๆ ครั้งนี้รอยยิ้มผ่อนคลายมาก

คุณนายหลี่มองไปยังเฉิงโหรวโหรว สามีเธอกำชับให้เธอหยิ่งเชิงองค์หญิงคนนี้ หากองค์หญิงมีอิทธิพลในองค์กรโกสต์ซิตี้ เช่นนั้นก็ต้องสัมพันธไมตรีองค์หญิงคนนี้เข้าไว้

ถึงจะไม่ได้ร่วมงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ก็บาดหมางไม่ได้เด็ดขาด

คุณนายหลี่คิดว่าประเดี๋ยวต้องไปคุยประจบเฉิงโหรวโหรวสักหน่อยแล้ว

“เอ๋ ประธานถังกับคุณนายถังมาแล้วค่ะ” คนข้างๆคุณนายหลี่สะกิดคุณนายหลี่เบาๆ

“ความสัมพันธ์บ้านตระกูลถังกับตระกูลเย่ไม่เลวอยู่แล้ว เพราะคุณชายสามเย่กับคุณชายใหญ่ถังเป็นสหายกัน คนบ้านตระกูลถังมาก็ปกติดีนี่ค่ะ?”คุณนายหลี่หันไปมองคนข้างๆ สีหน้าไม่เข้าใจเล็กน้อย

“ก่อนหน้านี้มีข่าวลือกันว่าคุณชายสามเย่กับคุณหนูใหญ่ถังไปมาหาสู่กันไม่ใช่เหรอ?” ?”คุณนายหลิวมองไปยังคุณนายหลี่ด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง“ได้ยินว่าก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่ ปฏิเสธการเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้ก็เพราะคุณหนูใหญ่ถัง แต่หลังจากนั้นก็มีข่าวเปิดเผยว่าคุณหนูใหญ่ถังแต่งงานเมื่อห้าปีก่อนแล้ว แถมยังมีลูกอีกสองคนด้วย ……”

คุณนายหลิวหยุดพูดชั่วครู่ ใบหน้าเพิ่มรอยยิ้มหลายส่วน“ดังนั้น เป็นไปได้ไหมที่คุณชายสามเย่โกรธเลยรับปากจะแต่งงานกับองค์หญิง?หากเป็นเช่นนี้ คนตระกูลถังมาก็ไม่อึดอัดแย่เหรอ?”

“อย่าพูดมั่วค่ะ เรื่องตระกูลถังคุณก็กล้าวิจารณ์นะ ระวังมีคนได้ยินนะคะ” คุณนายหลี่ติเตียนเธอเสียงเบา

คุณนายหลิวก็รู้ตัวว่าเสียมารยาทแล้ว รีบหุบปากทันควัน พวกเธอกล้าแอบซุบซิบเรื่องตระกูลเย่บ้าง ทว่าสำหรับตระกูลถัง พวกเธอไม่กล้าพูดมั่วซั่ว

ถึงแม้คุณนายหลิวไม่ได้พูดอะไรอีก ทว่าดวงตาทั้งคู่ก็อดจับตามองเฉิงโหรวโหรวที่อยู่ข้างกายคุณย่าเย่ไม่ได้ คนตระกูลถังเห็นภาพนี้แล้วจะทำยังไงนะ?

คุณนายหลิวเป็นคนชอบดูความคึกคักเป็นชีวิตจิตใจ

ถังหยุนเฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวไหว้เคารพศพเสร็จ เย่ซือเฉินก็ลุกขึ้นแล้วคำนับกลับอย่างมีมารยาท เฟิ่งเหมียวเหมียวมองเย่ซือเฉินด้วยแววตาสับสน ทว่าสุดท้ายก็พูดเพียงประโยคปลอบใจ

สีหน้าถังหยุนเฉิงเป็นปกติทุกอย่าง ไม่มีการตอบสนองใดๆ

เฟิ่งเหมียวเหมียวหมุนกายเห็นคุณย่าเย่พอดิบพอดี คุณย่าเย่ยังพาเฉิงโหรวโหรวติดตัวตลอด เฟิ่งเหมียวเหมียวแอบหัวเราะเยาะในใจ คนตระกูลเย่ไม่รู้จักอยู่เฉยๆซะบ้างเลย

คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังคิดจะใช้งานศพของเย่โป๋เหวินวางเล่ห์กลกับเย่ซือเฉินอีก

เย่ซือเฉินเป็นเด็กรู้จักกาลเทศะ เขาไม่มีทางสร้างความวุ่นวายในงานศพเย่โป๋เหวินอยู่แล้ว ทว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่เพียงแต่ไม่เห็นใจเย่ซือเฉิน ทางกลับกัน ยังทำตัวได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา

เฟิ่งเหมียวเหมียวอดสงสารเย่ซือเฉินไม่ได้ แน่นอนเธอยิ่งสงสารฉิงฉิงของเธอ

ถึงแม้เฟิ่งเหมียวเหมียวจะเป็นคนใจร้อน ทว่าเธอก็รู้ว่าสถานที่เช่นนี้ไม่เหมาะจะพูดอะไรทั้งนั้น

ดังนั้นตอนที่คุณย่าเย่เดินมา เฟิ่งเหมียวเหมียวแค่พูดปลอบให้ทำตามหนึ่งประโยค จากนั้นก็ไม่ได้พูดอย่างอื่นอีก

ถังหยุนเฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวมาเพื่อเข้าร่วมพิธีศพ จากนั้นก็จะกลับไป ไม่คิดจะอยู่ร่วมรับประทานอาหาร

หากไม่ใช่เย่ซือเฉินกับฉิงฉิง เฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่อยากมาเลย

เฟิ่งเหมียวเหมียวทักทายเสร็จก็เตรียมกลับไป

“คุณนายถัง” เพียงแต่คุณนายถังเพิ่งก้าวไปได้เล็กน้อย เฉิงโหรวโหรวก็เรียกเธออยู่ด้านหลัง

เฟิ่งเหมียวเหมียวชะงัก เงยหน้ามองเฉิงโหรวโหรวอย่างไม่เข้าใจ เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่เข้าใจว่าทำไมเฉิงโหรวโหรวถึงเรียกเธอกะทันหัน

คุณย่าเย่ก็ไม่อยากสร้างความวุ่นวายในงานเช่นกัน ท่านขมวดคิ้ว พลางมองเฉิงโหรวโหรวอย่างไม่พอใจ แววตาเจือความตักเตือน

ทว่าตอนนี้เฉิงโหรวโหรวจดจ่ออยู่กับเฟิ่งเหมียวเหมียว ไม่ได้เห็นแววตาของคุณย่าเย่ที่มองตน เฉิงโหรวโหรวนึกถึงคุณหนูใหญ่ถังทีไรก็อารมณ์เสียทุกที่

คุณหนูใหญ่ถังมีสิทธิ์เป็นลูกสาวแท้ๆของหัวหน้า เย่ซือเฉินก็ยังชอบคุณหนูใหญ่ถังอีก ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?ทำไมเรื่องดีๆต้องตกอยู่กับคุณหนูใหญ่ถังคนเดียวด้วย

ทำไมคุณหนูใหญ่ถังต้องแย่งชิงกับเธอทุกอย่างด้วย?!

“ทำไมคุณหนูถังไม่มาล่ะคะ?”เฉิงโหรวโหรวระงับความอิจฉาในใจไม่ได้ ดังนั้นจึงถามความในใจออกมา

เฟิ่งเหมียวเหมียวเลิ้กคิ้วด้วยสีหน้าประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้จะถามเช่นนี้ “องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ถามแปลกจังเลย”

ดวงตาคุณย่าเย่ทอประกายเคร่งขรึม เฉิงโหรวโหรวมีสมองหรือเปล่าเนี่ย

ทว่าเฉิงโหรวโหรวพูดโพล่งออกไปแล้ว ท่านขัดไม่ได้อีก

“ตอนนี้สามีของฉันเป็นคนดูแลครอบครัว สามีฉันดูแลภายนอก ฉันดูแลภายในบ้าน หรือว่าฉันกับสามีไม่อาจเป็นตัวแทนของตระกูลถังได้หรือคะ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่อยากมีเรื่องกับใคร ถึงแม้ไม่รู้ว่าองค์หญิงพูดด้วยเจตนาอะไร ทว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาสบประมาทคนตระกูลถังเด็ดขาด

คุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียว สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไป ทั้งยังมองเฉิงโหรวโหรวอย่างไม่พึงพอใจอีกด้วย

ตอนนี้เฟิ่งเหมียวเหมียวอยู่ในลานบ้าน ซึ่งระดับเสียงไม่ได้เบาเลย คนส่วนมากจึงได้ยินกันหมด พวกคุณนายทั้งหลายที่ชอบดูความวุ่นวายก็ออกันเข้ามา

“คุณหนูใหญ่ถังเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเรา พวกเราไม่อนุญาตให้มีข้อครหากับเธอทั้งนั้น ดังนั้นคุณหนูใหญ่ถังของพวกเราย่อมไม่เหมือนองค์หญิงที่ทำตามใจอยาก ไม่คำนึกสิ่งใด ไม่รู้จักแยกแยะสถานะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นใคร?อยากให้เธออ่อนโยนก็ได้ แข็งกระด้างก็ไม่มีปัญหา หากคิดจะมาปะทะฝีปากกับเธอ คงคิดผิดไปถนัด แน่นอน ส่วนของพลานุภาพและรัศมีก็ไม่มีใครเทียบเฟิ่งเหมียวเหมียวได้

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset