ซึ่งถังหลินเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ถังหลินได้ฆ่าคารูทิ้ง ทำให้คนองค์กรโกสต์ซิตี้ในประเทศRต้องสั่นสะท้าน ตอนนี้องค์กรโกสต์ซิตี้ในประเทศRยำเกรงถังหลินมาก
เรื่องพวกนี้ยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับเฉิงโหรวโหรวเลยสักนิด
เฉิงโหรวโหรวหน้าด้านแค่ไหนกัน ถึงกับเอาความดีความชอบใส่ตัว?
เฉิงโหรวโหรวไม่รู้ว่าตอนนี้คุณชายสามเย่กำลังคิดอะไรอยู่ เธอเห็นเย่ซือเฉินหยุดเดินก็อดดีใจไม่ได้ “เย่ซือเฉิน ตอนนี้คุณเชื่อแล้วใช่ไหม?ตอนนี้อยากแต่งงานกับฉันแล้วใช่ไหม?”
เฉิงโหรวโหรวคิดว่าเย่ซือเฉินรู้ผลดีเมื่อแต่งงานกับตนแล้ว เขาต้องตกลงปลงใจแน่
ผู้ชายให้ความสำคัญกับอำนาจและความั่งคั่งไม่ใช่เหรอ
ขอเพียงเธอช่วยเขาได้ เขาจะไม่ตอบตกลงได้อย่างไร?!
เย่ซือเฉินลอบหัวเราะเยาะในใจ คนปัญญาอ่อนอย่างนี้ เขาขี้เกียจสนใจจริงๆ ดังนึ้นเขาไม่เอ่ยอะไรสักคำ ยิ่งไม่มีทางมองเฉิงโหรวโหรวแม้แต่แวบเดียว เพียงแค่ก้าวเท้าต่อไป
“สมองทึ่ม” เลขาหลิวเห็นประธานของตนเดินไปก็อดสบถด่าหนึ่งประโยคไม่ได้
หลายวันก่อนท่านประธานพึ่งให้คนโยนผู้หญิงคนนี้ออกนอกประตูอยู่หมาดๆ ทำไมยังหน้าด้านได้อีก ยังคิดจะมาเกาะประธานไม่ห่าง แถมยังคิดว่าประธานจะแต่งงานกับตนด้วย?!
ท่านประธานรักคุณนาย นอกจากคุณนายแล้ว ท่านประธานก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงอื่นเด็ดขาด ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้เป็นองค์หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ท่านประธานก็ไม่เหลียวมอง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงคนนี้สวยสู้คุณนายไม่ได้ ไม่ฉลาดเท่าคุณนาย ไม่มีปัญญาเหมือนคุณนาย แล้วท่านประธานจะแต่งงานกับเธอไปทำไม
องค์กรโกสต์ซิตี้จะร้ายกาจแค่ไหน ท่านประธานของเขาก็ไม่ปรารถนา!!
ท่านประธานของเขาไม่ขาดเงิน ไม่ขาดอำนาจ หากองค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีประธานอย่างไร้เหตุผล ท่านประธานก็ไม่มีทางเกรงกลัวเด็ดขาด
ท่าทางของท่านประธานเมื่อครู่ชัดเจนมาแล้ว ท่านประธานไม่กลัว แล้วเลขาหลิวอย่างเขาจะไปกลัวอะไร
เลขาหลิวได้ด่าแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อครู่รู้สึกขยะแขยงผู้หญิงคนนี้จะตายอยู่แล้ว
“เย่ซือเฉิน คุณต้องเสียใจที่ไม่แต่งงานกับฉันแน่ ฉันจะทำให้คุณเสียใจ ถ้าหัวหน้าโจมตีคุณอีก ฉันจะไม่ช่วยคุณแล้ว ถึงเวลานั้นคุณต้องตายสถานเดียว” เฉิงโหรวโหรวทั้งร้อนรนทั้งเดือดดาล เธอคิดไม่ถึงว่าเธอพูดชัดเจนอย่างนี้แล้ว เย่ซือเฉินยังปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธออีก
เวลานี้เฉิงโหรวโหรวพูดอย่างข่มขู่ อันที่จริงเธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด ทว่าด้วยความโกรธและร้อนรน จึงตะคอกเสียงดังกังวานออกมา
“คุณเฉิงรู้จักอายสักบ้าง คุณอายจนโกรธหรือ?หรือว่าคิดจะใช้อำนาจรังแกคนกัน?” เย่ซือเฉินคร้านจะสนใจเฉิงโหรวโหรว ทว่าเลขาหลิวกลับทนไม่ไหว เลขาหลิวพูดอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
ทุกคนได้ยินเลขาหลิวพูดล้วนตกตะลึงงัน ใช่สิ องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อายจนโกรธ?หรือว่าใช้อำนาจรังแกคน?
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน ฉันกำลังคุยกับเย่ซือเฉินอยู่” เฉิงโหรวโหรวจะโง่เพียงใดก็ฟังออกว่าเลขาหลิวกำลังประชดประชันเธออยู่ จึงรู้สึกโกรธมากขึ้น
“เป็นสาวเป็นนางมาบีบให้ท่านประธานของผมแต่งงานด้วย แถมยังกล้าพูดอย่างไม่รู้จักอายต่อหน้าผู้คนอีก ช่างเป็นคนที่……” เลขาหลิวหยุดพูดพร้อมกับส่ายหัว ใบหน้าเผยความถากถางอย่างเด่นชัด
“ยังมีอีก ที่คุณพูดเมื่อกี้หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เห็นด้วยไหม?” เลขาหลิวติดตามเย่ซือเฉินมาหลายปี เขาจึงพอจะดูออก รู้ว่าองค์หญิงคนนี้ไม่มีสิทธิ์และเสียงในองค์กรโกสต์ซิตี้?
“ต้อง ต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว หัวหน้าเห็นด้วยแน่นอน ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของหัวหน้า หัวหน้าเอ็นดูฉัน พวกคุณรังแกฉันแบบนี้ หัวหน้าต้องช่วยฉันแก้แค้นแน่” สีหน้าเฉิงโหรวโหรวเปลี่ยนไป รังสีอ่อนแรงลง ทว่ายังคงตอบอย่างหน้าด้านหนึ่งประโยค เธอรู้ว่าตอนนี้จะแสดงความใจฝ่อไม่ได้
ถึงแม้ตอนนี้เธอใจฝ่อจะเป็นจะตายอยู่แล้ว
“ผมได้ยินว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เป็นคนแบ่งแยกดีชั่ว ใจคอกว้างขวางตรงไปตรงมา ไม่เหมือนอย่างที่คุณพูดหรอก คุณอย่าใส่ร้ายหัวหน้าเลย?” เลขาหลิวแบะปาก ไม่เชื่อคำพูดเฉิงโหรวโหรวอย่างฉายชัด
“คุณ……คุณ?” เฉิงโหรวโหรวเป็นคนสมองทึ่ม โดนเลขาหลิวด่าอย่างนี้ก็ถึงกลับพูดไม่ออก พูดตะกุกตะกักคำว่าคุณตั้งนานกว่าจะดึงสติกลับมา “ฉันเป็นลูกสาวหัวหน้า พวกนายกล้ารังแกฉัน หัวหน้าไม่ปล่อยไปแน่”
“ออ ก็ได้” เลขาหลิวพยักหน้าอย่างจริงจัง ทว่าดูเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เฉิงโหรวโหรวพูดเลย
“คุณหมายความว่ายังไง? ไม่เชื่อฉันเหรอ?” เฉิงโหรวโหรวที่โง่เง่าเบาปัญญาดูออกว่าเลขาหลิวไม่เชื่อเธอ จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “นายดูเลย ฉันไม่ปล่อยพวกนายแน่ องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ปล่อยพวกนายแน่”
“ได้ พวกเราจะรอ” เลขาหลิวยกมุมปากขึ้น พูดต่ออย่างรวดเร็วหนึ่งประโยค ใครที่ไหนจะกลัวล่ะ?
เขาติดตามท่านประธานหลายปี ยังไม่เคยเห็นท่านประธานกลัวใครเลย?
ยังไม่เคยเห็นท่านประธานยอมโอนอ่อนผ่อนตามคนไหนเลย
เรื่องอื่นท่านประธานยังไม่ยอมประนีประนอม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้
“พวกนาย……รังแกกันมากไปแล้ว เย่ซือเฉินคุณรังแกมากเกินไปแล้ว ตระกูลเย่ของพวกคุณรังแกเกินไปแล้ว” เวลานี้เฉิงโหรวโหรวรู้สึกไม่มีอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี เย่ซือเฉินไม่ไว้หน้าเธอเลย
ยังมีตระกูลเย่อีก คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รับปากเธอว่าจะให้เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน แต่ผลเป็นยังไงล่ะ?
ผลก็คือเธอโดนคนรังแก?โดนเหยียดหยาม
เย่ซือเฉินไม่ได้หยุดก้าวเดิน ตอนนี้เดินมาถึงหน้ารถแล้ว ส่วนเลขาหลิวก็ไม่อยากแยแสเฉิงโหรวโหรวอีก จึงรีบวิ่งจากไป
“องค์หญิง อย่าโกรธเลย ซือเฉินเขา……” คุณย่าเย่ได้ยินเฉิงโหรวโหรวกล่าวก็ตื่นตระหนก ท่านรู้ว่าบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ เพราะอำนาจองค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า
หากเป็นศัตรูกับองค์กรโกสต์ซิตี้ อีกฝ่ายอยากทำลายบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็เป็นเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก
“ยังมีอะไรพูดอีก เขารังแกฉันชัดๆ ยังมีพวกคุณอีก พวกคุณก็รังแกฉันด้วย พวกคุณสุมหัวกันรังแกฉัน” เวลานี้โกรธจัดหัวฟัดหัวเหวี่ยง ความไม่มั่นใจในตอนแรกถูกไฟโทสะกลบเกลื่อน ตอนนี้เธอตะคอกใส่คุณย่าเย่โดยตรง
สีหน้าคุณย่าเย่เปลี่ยนไป ปกติท่านสูงส่งมีหน้ามีตา ไม่มีใครกล้ารังควานท่าน ทว่าตอนนี้เย่ซือเฉินไม่เชื่อฟังท่าน เฉิงโหรวโหรวยังกล้าตะคอกใส่ท่านอีก
ถึงกระนั้นท่านก็ไม่กล้าบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ จึงได้แต่ข่มกลั้นความโกรธไว้ “องค์หญิงอย่าโกรธเลย เรื่องนี้ซือเฉินเป็นคนผิด พวกเราจะสั่งสอนเขาเอง ตอนนี้ซือเฉินเสียพ่อเลยเสียใจมาก ผ่านไปสักพักแล้วพวกเราจะคุยกับเขาเอง”
“คุย?มีประโยชน์เหรอ?เขาไม่อยากแต่งงานกับฉันเลย พวกคุณรับปากฉันเรื่องแต่งงานเอง พวกคุณต้องอธิบายให้ฉันด้วย” บัดนี้เฉิงโหรวโหรวมีท่าทีแข็งข้อ มีพลานุภาพหลายส่วน
“องค์หญิงวางใจได้ พวกเราจะไม่ยอมให้องค์หญิงรับความไม่ชอบธรรมหรอก พวกเราต้องจัดการเรื่องนี้แน่” เพลิงโกรธในใจคุณย่าเย่ลุกโชน ทว่าใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มไม่จางหาย
“แล้วถ้าเย่ซือเฉินยังไม่ยอมแต่งงาน ยังไม่บันยะบันยังแบบนี้อีก พวกคุณจะทำยังไง?” เวลานี้สมองเฉิงโหรวโหรวหมุนเร็วมาก ไม่ถูกคุณย่าเย่หลอกผ่านไปง่ายๆ
“องค์หญิงวางใจเถอะนะ ฉันมีวิธีโน้มน้าวเขาแน่” คุณย่าเย่รู้ดี เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างวันนี้ การที่จะให้เย่ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงนั้นยากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ทว่าท่านก็ยังไม่เต็มใจ ไม่อยากสลัดทิ้ง
นี่คือองค์กรโกสต์ซิตี้ อยากสลัดทิ้งอย่างนี้ ท่านก็จะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวทั้งเนื้อทั้งตัวและหัวใจ
“แล้วถ้าโน้มน้าวไม่สำเร็จล่ะ?” เฉิงโหรวโหรวไม่ยอมเลิกรา เห็นได้ชัดว่าอยากได้คำตอบที่ชัดเจนจากคุณย่าเย่
คุณย่าเย่หรี่ตาขึ้นพลันรู้สึกหงุดหงิดในใจ ทว่าท่านแต่ได้ท่อนเอาไว้ว่า บาดหมางองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้ ท่าทางของเย่ซือเฉินคือไม่อยากกลับบ้านตระกูลเย่แล้ว หากท่านยังบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้อีก เช่นนั้นตระกูลเย่ต้องบรรลัยแน่
คุณย่าเย่แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็พูดเสียงอ่อนโยน“องค์หญิงวางใจเถอะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็จะยืนฝ่ายองค์หญิง สนับสนุนองค์หญิง ปกป้ององค์หญิง ไม่มีทางให้องค์หญิงต้องรับความไม่เป็นธรรมแน่”
คุณย่าเย่ให้จุดยืนต่อหน้า ท่านพูดอย่างนี้เพื่อบำรุงขวัญเฉิงโหรวโหรว ดังนั้นจึงกดเสียงพูดต่ำ นอกจากเฉิงโหรวโหรวแล้วก็ไม่มีใครได้ยินอีก
ท่านอยู่กับเฉิงโหรวโหรวมาหลายวัน จึงยังพอรู้จักเฉิงโหรวโหรวบ้าง ท่านรู้ว่าเฉิงโหรวโหรวหลอกง่าย สถานการณ์ตรงหน้าต้องหลอกเฉิงโหรวโหรวให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง