ใบหน้าของคุณย่าเย่ในตอนนี้มีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด และมั่นใจกับการตัดสินใจนี้แล้ว“ขอแค่ให้เจ้าหญิงตัวจริงคนนี้ชอบเย่ซือเฉินของเราให้ได้ เรื่องทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น ”คุณปู่เย่เหลือบมองดูเธอ ดวงตาคู่คมก็หรี่เล็กลง
“ครั้งนี้ ขอแค่เรายืนยันตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิงตัวจริงได้ ถึงตอนนั้นปล่อยให้เจ้าหญิงตัวจริงได้ชอบพอกับเย่ซือเฉิน และให้เจ้าหญิงตัวจริงยินดีที่จะแต่งงานกับเย่ซือเฉิน องค์กรโกสต์ซิตี้ก็จะไม่มายุ่งอะไรกับเรา เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ย่อมจะเป็นของเรา”คุณย่าเย่เห็นความไม่พอใจของคุณปู่เย่ แต่คุณย่าเย่ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับคุณปู่เย่มานาน รู้ดีว่าตัวเองสามารถพูดเกลี้ยกล่อมคุณปู่เย่ได้อยู่แล้ว
“แน่นอน ครั้งนี้เราต้องไม่รีบร้อน สิ่งที่เราต้องทำอันดับแรกก็คือยืนยันตัวตนของเจ้าหญิงตัวจริงให้ได้ก่อน ห้ามมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นอีก และแน่นอนว่า ครั้งนี้เราจะทำอะไรที่มันโจ่งแจ้งเหมือนครั้งที่แล้วไม่ได้อีก เราสร้างโอกาสให้เจ้าหญิงตัวจริงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ได้เจอกับเย่ซือเฉิน หากเจ้าหญิงตัวจริงชอบพอเย่ซือเฉิน ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็จะราบรื่น และหากเจ้าหญิงตัวจริงไม่ชอบเย่ซือเฉิน พวกเราก็จะไม่บังคับอะไร ดังนั้นเรื่องนี้ยังมีอะไรที่มันจะเป็นไปไม่ได้อีก ?”
ตอนนี้คุณย่าเย่บอกว่าจะไม่มีการบังคับ แต่หากสุดท้ายผลที่ออกมาเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์เอาไว้ คุณย่าเย่คงไม่มีทางปล่อยมันไปง่ายๆแน่ ย่อมต้องคิดหาวิธีเพื่อมาจัดการกับมัน
นี่คือนิสัยความเคยชินของคุณย่าเย่
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรู้ก่อนว่าเจ้าหญิงตัวจริงนั้นเป็นใคร”เห็นชัดว่าคุณปู่เย่ถูกคุณย่าเย่กล่อมจนสำเร็จแล้ว และคล้อยตามแล้ว
“แน่นอนสิ ต้องยืนยันตัวตนของเจ้าหญิงตัวจริงให้ได้ก่อน ครั้งนี้จะผิดพลาดอะไรอีกไม่ได้แล้ว”คุณย่าเย่รู้แล้วว่าคุณปู่เย่เห็นด้วยแล้ว ใบหน้าก็จึงมีรอยยิ้มปรากฏ คุณย่าเย่คิดเพียงว่าขอแค่แผนการนี้ของเธอสำเร็จ เรื่องที่หัวหน้าน้อยพูดก่อนหน้านี้ก็ว่าจะจัดการกับตระกูลเย่ของพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมากังวลมันอีก
“ไม่รู้ว่าหัวหน้าน้อยจะเปิดเผยตัวของเจ้าหญิงตัวจริงหรือไม่?”คุณย่าเย่เองก็รู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิงนั้นเป็นใคร เรื่องนี้หากจะให้ตรวจสอบคงเป็นเรื่องยาก หากหัวหน้าน้อยยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิงได้ก็คงดี
ในงานแถลงข่าว สายตาคมของหัวหน้าน้อยกวาดมองไปยังนักข่าวที่อยู่ในที่นี้ ริมฝีปากบางขยับ และพูดอย่างช้าๆว่า“ เจ้าหญิงตัวจริงยังไม่ได้กลับคืนสู่องค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นสถานะของเจ้าหญิงตัวจริงจึงยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยออกมาได้ในขณะนี้ ”
แววตาของผู้ดูแลจ้งมีไอเย็นแผ่ปกคลุมอีกครั้ง เห็นชัดว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ของมู่เฉิง หากเป็นก่อนหน้านั้นก็คงจะแล้วๆกันไป เพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาต่างก็มั่นใจว่าคุณหนูใหญ่ถังคือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้
แต่ตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่าง ก็ยืนยันแล้วว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นไม่ใช่ ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง และเรื่องของเจ้าหญิงตัวจริงก็ไม่มีเบาะแสอะไรอีก แล้วหัวหน้าน้อยจะพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร ?
คำพูดแบบนี้หากหัวหน้าได้ยินเข้า ก็จะเป็นความหวังล้มๆแล้งๆของหัวหน้าอีก!!!
หลายปีมานี้ หัวหน้าได้รับความสะเทือนใจมามากพอแล้ว ไม่สามารถจะทนรับอะไรต่อไปได้อีกแล้ว!!
ผู้ดูแลจ้งเป็นห่วงหัวหน้าจริงๆ!!
“เจ้าหญิงตัวจริงยังไม่ได้กลับคืนสู่องค์กรโกสต์ซิตี้ ? ในเมื่อหาตัวเจอแล้ว ทำไมถึงยังไม่กลับมาที่องค์กรโกสต์ซิตี้ล่ะ ? นี่หัวหน้าน้อยหมายความว่ายังไง ? องค์กรโกสต์ซิตี้กำลังหมายถึงอะไร? ” คุณย่าเย่ได้ยินที่หัวหน้าน้อยพูดผ่านการถ่ายทอดสดก็รู้สึกมึนงง และมีความขุ่นเคืองไม่น้อย เธอรู้สึกว่าหัวหน้าน้อยกำลังเล่นตลกกับทุกคนอยู่
ก็คำพูดของหัวหน้าน้อยเมื่อครู่แทบไม่มีเบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์เลย ไม่เปิดเผยตัวตน และไม่ได้พากลับมายังองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วจะให้พวกเขาไปตามหาตัวเจ้าหญิงตัวจริงได้ยังไง ?
นี่มันงมเข็มในมหาสมุทรชัดๆ ?!
“แล้วจะให้เราไปตรวจสอบกันยังไง ? หัวหน้าน้อยจะเอายังไงกันแน่ ? พูดแบบนี้อย่าพูดมันเลยดีกว่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”คุณย่าเย่ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เมื่อครู่เธอได้คิดการเอาไว้หมดแล้ว และวางแผนมันอย่างดิบดี สุดท้ายหัวหน้าน้อยกลับมาพูดอะไรแบบนี้
“สถานการณ์ในตอนนี้ เราพอจะหาตัวคนได้ไหม ?”คุณย่าเย่ยังไม่คิดถอย เห็นชัดว่ายังไม่อยากยอมแพ้
“เกรงว่าจะเป็นเรื่องยาก”คิ้วของคุณปู่เย่ขมวดกันแน่น“หากคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ติดต่อกับเจ้าหญิงตัวจริงก็คงจะดี หากไม่มี ก็คงไม่มีเบาะแสอะไรจริงๆ แต่หากคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้ติดต่อกับเจ้าหญิงคนนี้ เกรงว่าคงพาตัวกลับไปที่องค์กรโกสต์ซิตี้นานแล้ว”
“หากเป็นอย่างที่คุณพูด ก็ไม่มีความเป็นไปได้เลย?”ท่าทีของคุณย่าเย่ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย เสียงก็ไต่ระดับขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เธอไม่อยากถอดใจ ไม่อยากจะถอดใจจริงๆ แผนการที่ราบรื่นแบบนี้ จะสูญมันไปเปล่าๆไม่ได้เด็ดขาด
“ให้ใครไปเช็กดูก่อนเถอะ”คุณปู่เย่ในตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น หัวหน้าน้อยไม่ยอมบอก เขาจะไปบังคับอะไรหัวหน้าน้อยได้ อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรจะไปบังคับหัวหน้าน้อยได้
“ในเมื่อหัวหน้าน้อยได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้าหญิงตัวจริงต่อสาธารณะ นั้นก็แสดงว่าให้ความสำคัญกับเจ้าหญิงคนนี้มาก ดังนั้นโอกาสต่อไปหัวหน้าน้อยก็คงจะไปพบเจอกับเจ้าหญิงคนนี้อยู่บ้าง เราให้คนคอยเฝ้าดูหัวหน้าน้อยเอาไว้ ถึงตอนนั้น……”คุณย่าเย่ไม่คิดที่จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปจริงๆ ดังนั้นตอนนี้ขอแค่มีโอกาสเพียงน้อยนิด เธอก็อยากที่จะลองมันดู
“คุณบ้าไปแล้วหรือไง ? ให้คนไปเฝ้าดูหัวหน้าน้อย ? ผมว่าคุณคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วล่ะ” คุณปู่เย่หันไปมองเธออย่างรวดเร็ว แววตามีความเย็นเยือกผสมอยู่ น้ำเสียงก็มีการเตือนอย่างเห็นได้ชัด
“เรื่องของเฉิงโหรวโหรวคุณก็เป็นตัวต้นเรื่อง คุณยังกลัวว่าปัญหาที่มียังไม่มากพออีกรึยังไง ? ช่วงนี้คุณอยู่เงียบไปก่อนเลย อย่าคิดแผนการอะไรขึ้นมาอีก”
เห็นชัดว่าคุณปู่เย่นั้นมีอารมณ์โมโหแล้วจริงๆ และน้ำเสียงก็ไม่ได้สุภาพเหมือนเวลาปกติ
และเห็นชัดว่า เรื่องของเฉิงโหรวโหรวนั้นคุณปู่เย่โยนความผิดทุกอย่างมาที่คุณย่าเย่ทั้งหมด
คุณย่าเย่เองก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็มองออกว่าคุณปู่เย่นั้นโมโหแล้วจริงๆ เธอเองก็รู้สึกกลัวคุณปู่เย่อยู่บ้างเหมือนกัน ดังนั้นต่อให้ในใจเธอไม่อยากที่จะปล่อยวาง แต่ก็ต้องพยักหน้าตอบตกลง “ก็ได้ ฉันรู้แล้ว ”
“แต่ว่า เรื่องนี้จะปล่อยมันไปแบบนี้เหรอ?”แต่แล้ว คุณปู่เย่ก็เงียบไปชั่วขณะ แล้วก็จึงได้พูดขึ้นว่า“ฉันคิดว่า หากทำให้เจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้มาชอบพอกับเย่ซือเฉินได้จริงๆ เรื่องวุ่นวายต่างๆก็คงจะหมดไป เราก็ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าหัวหน้าน้อยจะแก้แค้นเอาคืนกับเรายังไงอีก”
คุณย่าเย่รู้จักคุณปู่เย่เป็นอย่างดี ดังนั้นคุณย่าเย่จึงรู้ว่าเวลาไหนควรพูดอะไร และไม่ควรพูดอะไร
“เรื่องนี้ยังไม่ต้องไปเป็นกังวล ในเมื่อองค์กรโกสต์ซิตี้หาตัวเจ้าหญิงตัวจริงเจอแล้ว ก็ย่อมที่จะต้องพากลับองค์กรโกสต์ซิตี้โดยเร็ว ถึงตอนนั้นเจ้าหญิงตัวจริงก็ย่อมต้องถูกเปิดเผยตัวอย่างแน่นอน” คุณปู่เย่เองก็ไม่อยากจะปล่อยผ่านมันไปแบบนี้ มีโอกาสดีๆ แน่นอนว่า จะปล่อยให้หลุดลอยไปได้ยังไง
“ตกลง งั้นก็ทำตามที่คุณพูดแล้วกัน”เมื่อคุณย่าเย่บรรลุเป้าหมาย ก็ถึงได้โล่งอก“ตอนนี้เราหาวิธีให้เย่ซือเฉินกลับมาให้ได้ก่อน ขอเพียงเย่ซือเฉินกลับมา แผนการนั้นถึงจะดำเนินการต่อไปได้”
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่เคยถามความเห็นของเย่ซือเฉินมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยคิดว่าเย่ซือเฉินจะเห็นด้วยหรือไม่?
เมื่อครู่คุณย่าเย่ก็เพิ่งจะพูดไป ครั้งนี้หากเย่ซือเฉินกลับมา จะไม่บังคับอะไรเย่ซือเฉินอีก แต่แค่เพียงไม่นาน คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ลืมมันหมดแล้วทั้งสิ้น
หลายปีมานี้ พวกเขาต่างก็เคยชิน กับการปฏิบัติตัวกับเย่ซือเฉิน พวกเขาเคยชินกับการหลอกใช้ เคยชินกับการวางแผน ไม่เคยเคารพการตัดสินใจของเย่ซือเฉินเลย ! !
ในงานแถลงข่าว
“หัวหน้าน้อย ช่วยบอกข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหญิงตัวจริงให้เรารู้สักนิดได้ไหมครับ อาทิเช่นเจ้าหญิงเป็นคนที่ไหน ? ตอนนี้อยู่ที่ไหน ? ทำอะไร ? แล้วหน้าตายังไง ? ”
เดิมทีที่หัวหน้าน้อยพูดไปเมื่อครู่ก็ถือว่าเป็นการพูดจบทุกอย่างแล้ว ไม่คิดที่จะตอบคำถามอะไรอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำถามสุดท้ายของนักข่าว ดวงตาของเขาก็ไหววูบ จากนั้นก็หยุดเดิน
มุมปากของเขาค่อยๆยกหยักขึ้น และมีรอยยิ้มจางๆปรากฏ“ หน้าตาสวยมาก!!”
น้ำเสียงของหัวหน้าน้อยในตอนนี้ไม่ได้ดังมากเท่าไร แต่คำพูดนั้นชัดเจนมากเป็นพิเศษ ซึ่งเพียงพอให้ทุกคนในที่นี้ได้ยินกันถ้วนทั่ว
“สวยแค่ไหนครับ?”เมื่อนักข่าวเห็นหัวหน้าน้อยตอบ ต่างก็พากันตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง และต่างเบียดเสียดกันเข้าไปหา ถามเอาคำตอบ
นักข่าวทุกคนในที่นี้ต่างทราบกันดี ว่าข้อมูลที่เกี่ยวกับเจ้าหญิงตัวจริงนี้ เป็นประเด็นที่สำคัญ แม้มันจะคลุมเครือไม่ชัดเจน หรือต่อให้จะเป็นคำพูดกว้างๆ
หัวหน้าน้อยครุ่นคิดอย่างจริงจัง จากนั้นจึงตอบกลับว่า “สวยกว่าผม”
ในตอนที่หัวหน้าน้อยพูด น้ำเสียงแสดงออกชัดเจนว่าภูมิใจมาก และเห็นชัดว่าหัวหน้าน้อยรู้ตัวว่าตัวเองนั้นหน้าตาดี และหัวหน้าน้อยยังมีความภาคภูมิใจเล็กๆด้วย แต่หัวหน้าน้อยที่หน้าตาดีกลับบอกว่าเจ้าหญิงตัวจริงนั้นหน้าตาดีกว่าเขา ? แล้วเจ้าหญิงตัวจริงจะหน้าตาดีขนาดไหนกันเชียว ?