เธอไปรับเลือดมาเอง และให้กับมือถังหลินเอง ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดได้แน่นอน!!
ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่ลูกสาวของเวินจือฝาง เธอไม่มีสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเวินจือฝาง
ตอนนั้นเธอรู้แค่ว่าเวินจือฝางไม่ใช่พ่อของเธอ และเธอก็ไม่ได้ค้นหาความจริงในเรื่องอื่นๆอีก
แต่ไม่ว่าเธอจะตรวจหรือไม่ตรวจ มีเรื่องหนึ่งที่จะปล่อยผ่านไปไม่ได้เลย นั้นก็คือพ่อของเธอไม่ใช่เวินจือฝาง อย่างนั้นก็ต้องเป็นคนอื่น แล้วคนอื่นที่ว่านี้เป็นใครกัน?!
แม่เสียไปแล้ว และก่อนหน้านั้นแม่ก็ไม่เคยเอ่ยหรือพูดถึงเรื่องต่างๆเหล่านี้เลย ดังนั้นเวินลั่วฉิงก็จึงไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้ และไม่มีเบาะแสอะไรทั้งนั้น
แต่ไม่ว่ายังไง เรื่องของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้?!!!
ก็น่าขำเกินไป มันเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดมากอะไร
ทางฝั่งสุสาน เฉิงโหรวโหรวยังคงถูกนักข่าวรายล้อมเอาไว้ งานแถลงข่าวขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว หัวหน้าน้อยได้ออกไปแล้ว และนักข่าวทั้งหมดก็กำลังเผชิญหน้ากับเฉิงโหรวโหรวอยู่
“คุณเฉิง ช่วยบอกเราหน่อยได้ไหม ว่าคุณปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ยังไง ?”
“คุณเฉิง ตอนที่คุณปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เคยคิดบ้างไหมว่าจะถูกเปิดโปง ?”
“คุณเฉิง คุณรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เห็นชัดว่าคุณปลอมตัวมา ขอถาม คุณกล้าดียังไงถึงได้บังคับให้คุณชายสามเย่มาแต่งงานกับคุณ?คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าสถานะเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของคุณสักวันจะถูกเปิดโปง ดังนั้นจึงอยากจะจับตระกูลเย่เอาไว้ ?”
“คุณเฉิง คุณปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มานานขนาดนี้ ไม่เคยรู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือยังไง ?”
นักข่าวต่างรายล้อมเฉิงโหรวโหรวเอาไว้ อดไม่ได้ที่อยากจะกลืนกินเฉิงโหรวโหรวไปซะ
ในฐานะนักข่าว พวกเขารู้ดีว่าเรื่องอะไรที่จะสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคน และเรื่องอะไรที่จะเรียกร้องความสนใจจากทุกคนได้
ตอนนี้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก ไม่ว่าผู้คนต่างจะเดากันไปทางไหน หากองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเอง บุคคลภายนอกก็ไม่อาจรู้ได้ว่าใครคือเจ้าหญิงตัวจริง?
ในกรณีแบบนี้ บทลงโทษของเจ้าหญิงตัวปลอมอย่างเฉิงโหรวโหรวก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการจะรู้มากที่สุด
ทุกคนต่างก็อยากเห็นคนชั่วได้รับการลงโทษ ดังนั้นบทลงโทษของเฉิงโหรวโหรวยิ่งเลวร้ายมากแค่ไหน ทุกคนก็ยิ่งจะพอใจมากเท่านั้น
เดิมทีเฉิงโหรวโหรวก็เป็นคนโง่อยู่แล้ว ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเฉิงโหรวโหรวเติบโตมาจากพื้นที่ในแถบภูเขา ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ในตอนนี้ก็จึงตะลึงยืนบื้ออยู่กับที่
เมื่อได้ยินคำถามที่ทุกคนต่างถามมา เฉิงโหรวโหรวรู้สึกเพียงเบื้องหน้ามืดดำไปหมด เกือบเป็นลมล้มพับไป
“คุณเฉิง เมื่อครู่หัวหน้าน้อยบอกว่าจะลงโทษคุณตามกฎขององค์กรโกสต์ซิตี้ คุณรู้ไหมว่าคืออะไร ? ”
เมื่อเฉิงโหรวโหรวได้ยินที่นักข่าวพูด ร่างทั้งร่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้ม เธอไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมา
“คุณเฉิง คุณปลอมตัวมาเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ และยึดตำแหน่งของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงไป แล้วคุณรู้ไหมว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงนั้นเป็นใคร?” มีนักข่าวคนหนึ่งถามคำถามที่ทุกคนในตอนนี้ต่างก็อยากรู้ออกไป
แต่ว่า ในขณะที่นักข่าวคนนั้นถามออกไปก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คำตอบกลับมา ก่อนหน้านั้นหัวหน้าน้อยเก็บงำความลับของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงเอาไว้อย่างมิดชิด เพราะฉะนั้นคนที่รู้สถานะที่แท้จริงของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็คงจะมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
เฉิงโหรวโหรวที่ปลอมตัวมา อยู่ที่องค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร หากจะรู้เรื่องนี้ด้วยเห็นทีว่าคงจะเป็นเรื่องยาก
แต่หลังจากที่เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดนี้ของนักข่าว สีหน้าก็ขึงขังขึ้นมา ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง มีความตกใจไม่น้อย และมีความประหม่าปนอยู่ อีกทั้งราวกับมีความเกลียดชังแฝงด้วย
นักข่าวที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนฉลาด เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเฉิงโหรวโหรวก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา ปฏิกิริยาของเฉิงโหรวโหรวคงรู้ว่าใครคือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริง ?!
“คุณเฉิง คุณรู้ไหมว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริงเป็นใคร ?”นักข่าวที่รายล้อมเฉิงโหรวโหรวอยู่ต่างก็รู้สึกตื่นเต้น หากสามารถขุดคุ้ยเรื่องเจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้ งั้นข่าวของพวกเขาต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ!!
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ และเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็อยากจะรู้!!
“ฉัน……ฉัน……”เฉิงโหรวโหรวตะลึงงัน เดิมทีเธอก็รับมือไม่ได้กับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้เธอจะโง่แค่ไหน ก็รู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็พูดได้ และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้
บางเรื่องหากพูดไปแล้วมันก็ต้องแลกด้วยชีวิตเหมือนกัน
หัวหน้าน้อยยังไม่พูดเลย เธอจะกล้าพูดมันได้ยังไง
“ไม่ ฉันไม่รู้”เฉิงโหรวโหรวส่ายหัวไปมาอย่างแรง ปฏิเสธอย่างร้อนรน แต่ท่าทีของเธอเมื่อครู่ก็ส่อพิรุธออกมามาก และน้ำเสียงของเธอในตอนนี้ก็ทำให้เห็นชัดว่ากำลังบ่ายเบี่ยงอยู่
มีอะไรที่นักข่าวพวกนี้จะไม่เคยเจอ และไม่เคยเห็นมันมาก่อน มองแวบเดียวก็รู้ว่าเฉิงโหรวโหรวกำลังโกหกอยู่
แน่นอนว่า พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าเฉิงโหรวโหรวไม่กล้าพูดออกมาหรอก
ในเมื่อเฉิงโหรวโหรวไม่กล้าพูด พวกเขาก็ล้วงมันออกมา นี่เป็นงานถนัดของคนเป็นนักข่าว
ล้วงความลับจากหัวหน้าน้อยนั้นยาก แต่กับเฉิงโหรวโหรวคนนี้ดูแล้วก็ไม่ใช่คนฉลาดอะไร อยากจะล้วงความลับจากเฉิงโหรวโหรวคงไม่ใช่เรื่องยาก
นักข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็มองหน้ากัน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รีบเร่งที่จะซักถามอะไร
“คุณเฉิง คุณรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเจ้าหญิงตัวจริงเป็นใครก่อนที่คุณจะปลอมตัวมาเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ? หรือว่ามารู้ทีหลังหลังจากที่เข้ามาที่องค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ?”ผ่านไปสักพัก นักข่าวคนหนึ่งก็จึงได้ถามคำถามแรกออกมา
เฉิงโหรวโหรวหันมองไปยังนักข่าว หลบเลี่ยงที่จะสบตา เห็นชัดว่าตื่นตระหนกมากขึ้น
“คุณเฉิง คุณคงไม่รู้ตัวตนของเจ้าหญิงตัวจริงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ก่อนแล้วหรอกนะ? จากนั้นคุณก็จงใจปลอมตัวเป็นเขา ? หากเป็นแบบนี้ คุณเฉิงก็ชั่วร้ายมาก และน่ารังเกียจที่สุด ”เมื่อนักข่าวเห็นเฉิงโหรวโหรวหลบเลี่ยง ก็ยิ่งไล่ถามคำถามออกไปอีกครั้ง
“ไม่นะ ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้มาก่อน”เฉิงโหรวโหรวตื่นตระหนก และโต้กลับไปอย่างไม่รู้ตัว
และการที่เธอโต้กลับมาเร็วอย่างนี้ก็เท่ากับตอบคำถามแรกของนักข่าวไปด้วย และก็ยืนยันกับทุกคนได้ว่าเธอรู้ว่าเจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้เป็นใคร
นักข่าวที่อยู่ในบริเวณนี้เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ก็ยิ่งตื่นตัว และพากันตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
“คุณบอกว่าคุณไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน แล้วคุณรู้ตอนไหน ? รู้หลังจากที่เข้ามาในองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วเหรอ ? แต่เมื่อครู่หัวหน้าน้อยเพิ่งพูดไป เจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้ยังไม่ได้กลับเข้าองค์กรโกสต์ซิตี้ และคุณเองก็ไม่น่าจะเคยเจอเจ้าหญิงตัวจริงที่องค์กรโกสต์ซิตี้ได้ คุณเฉิงคุณรู้เรื่องนี้มาจากไหน ?”
สีหน้าของเฉิงโหรวโหรวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ปากเธอก็เม้มกันแน่น เธอรู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูดมันออกไป
“คุณเฉิง หลังจากที่คุณอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็กังวลว่าตัวตนเจ้าหญิงของคุณจะถูกเปิดเผย ดังนั้นจึงได้ไปสืบเรื่องของเจ้าหญิงตัวจริง อยากจะฆ่าเจ้าหญิงตัวจริงทิ้ง เพื่อเลี่ยงเหตุไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต?”เมื่อนักข่าวเห็นเฉิงโหรวโหรวไม่ตอบ ก็จึงกระตุ้นถามเธออีกครั้ง
“ไม่นะ ฉันไม่คิดจะฆ่าเธอ”ต่อให้เฉิงโหรวโหรวจะโง่ก็รู้ว่าเวลานี้ เธอจะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าอยากจะฆ่าเจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
“แล้วทำไมคุณถึงต้องไปสืบเรื่องของเจ้าหญิงตัวจริงด้วย?” นักข่าวไม่ให้เฉิงโหรวโหรวมีโอกาสได้หายใจ ถามคำถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ได้ไปสืบ คนอื่นมาบอกฉันเอง” เฉิงโหรวโหรวความรู้สึกช้า เมื่อได้ยินที่นักข่าวพูด ก็โต้กลับไปโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง
“ใครเป็นคนบอกคุณ?” ดวงตานักข่าวเป็นประกาย นี่เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนของเรื่องนี้ สามารถเอามาเป็นจุดขายได้อีก ? “ คนคนนั้นทำไมต้องบอกเรื่องนี้กับคุณด้วย? แล้วคนคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกับคุณ ?คนคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ตัวจริง ? ”นักข่าวไม่ปล่อยให้เฉิงโหรวโหรวมีโอกาสได้คิด ยิงคำถามใส่รัวๆออกไป
คำถามพวกนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่แน่ก็อาจจะหาคำตอบได้
เฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ถูกถามคำถามจนอื้ออึงไปหมด จึงเม้มปากแน่นอีกครั้ง
“คุณเฉิง ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าใครคือเจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งั้นคุณก็คงคิดหาวิธีที่จะกำจัดเจ้าหญิงตัวจริงคนนี้แล้วสิ? ดังนั้นช่วงนี้คุณก็คงประทุษร้ายเจ้าหญิงตัวจริงไปไม่น้อยเลยใช่ไหม ?”เฉิงโหรวโหรวไม่ได้ตอบ นักข่าวจึงได้เปลี่ยนคำถาม
เมื่อเฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของนักข่าว ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง ในความตกใจก็มีความตระหนกอยู่ด้วย แต่ปฏิกิริยานี้ของเธอ ก็เท่ากับตอบคำถามของนักข่าวไปแล้ว
เห็นชัดว่า คำถามของนักข่าวเมื่อครู่ถามจี้จุดเข้าให้แล้ว เฉิงโหรวโหรวประทุษร้ายเจ้าหญิงตัวจริงไปไม่น้อยครั้งแล้ว
มีข้อมูลนี้ ก็ถือว่ามีเบาะแสบ้างแล้ว แค่ตรวจเช็กว่าช่วงนี้เฉิงโหรวโหรวจ้องเล่นงานใคร คนคนนั้นก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเจ้าหญิงตัวจริงขององค์กรโกสต์ซิตี้
“คุณเฉิง เมื่อครู่หัวหน้าน้อยบอกว่าเจ้าหญิงตัวจริงหน้าตาสะสวยมาก สวยเอามากๆ คุณอิจฉามากไหม”นักข่าวก็ถามอีกหนึ่งคำถาม คำถามที่นักข่าวถามก็เพื่อยืนยันน้ำหนักในคำพูดก่อนหน้านั้นของหัวหน้าน้อย