หลินเป้ยเองก็สงสัยเช่นกันว่าวันนี้ถังหลินตรงหน้าเธอคือตัวปลอม ถ้าเธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ สักทีหนึ่งล่ะ?!
ได้หรือไม่?
หลินเป้ยอยากจะตบถังหลินให้สลบแล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วค่อยหนีไป
แต่เธอคงเอาชนะเขาไม่ได้
อีกอย่างเมื่อกี้นี้พี่ใหญ่ก็กำชับแล้วให้เธอจัดการทุกอย่างอย่างดี ดังนั้นเธอจำเป็นต้องทำ
แต่หลินเป้ยไม่อยากจะยุ่งกับถังหลินเลย เธอลากกระเป๋าเดินไปข้างหน้า
ถังหลินไม่ได้ถือสา ริมฝีปากของเขาเพียงปรากฏรอยยิ้ม แต่เหยียนหยูยังคงเหม่อลอย
คนคนนี้สุดยอดมากจริงๆ แต่ตอนนี้เหยียนหยูรู้แล้วว่าคนผู้นี้คือเจ้าชายน้อย เมื่อนึกออกว่าคนคนนี้คือเจ้าชายน้อย เขาก็คิดว่าเขาจะมีอารมณ์บ้างก็ไม่แปลกอะไร
อีกอย่างเจ้าชายน้อยยังมีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตคุณชายถังไว้ คราวก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นใส่ร้ายคุณชายถัง ถ้าไม่ได้เจ้าชายน้อยมาช่วยเป็นพยานให้คุณชายถัง ไม่งั้นคุณชายถังคงจะไม่หลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยได้ง่ายๆ
สถานการณ์ในตอนนั้นอาจนำผลเสียมาสู่คุณชายถังได้
แต่คำให้การของเจ้าชายน้อยเป็นการตีตกคำกล่าวหาของผู้หญิงคนนั้นทั้งหมดไป มีเพียงเรื่องเดียวที่ยังไม่ชัดเจนถึงตอนนี้ คือของคุณชายถังที่ตรวจพบในตัวของผู้หญิงคนนั้นแท้จริงแล้วมาจากไหนกันแน่
แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่สามารถประกาศให้ภายนอกรู้ได้ ขอแค่มีคำให้การของเจ้าชายน้อย และผู้หญิงคนนั้นไม่ฟ้อง เรื่องนี้ก็จะไม่ส่งผลเสียอะไรกับคุณชายถัง
สรุปแล้วของที่อยู่ในร่างกายของผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงตอนนี้
แม้ว่าเหยียนหยูจะรู้ว่าเจ้าชายน้อยมีบุญคุณกับคุณชายถัง แต่เมื่อนึกภาพที่คุณชายถังหม้อเจ้าชายน้อยแล้ว เหยียนหยูยังคงรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี
เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าชายน้อยก็เป็นผู้ชาย
ตอนนี้ถังหลินเดินตามหลินเป้ยไปโดยไม่พูดจาอะไร
“คุณได้เตรียมรถมารับบ้างไหม” เมื่อใกล้จะออกจากสนามบิน หลินเป้ยก็หยุดฝีเท้าแล้วถามขึ้น เธอคิดว่าถังหลินมาเอาเวลานี้ ที่นี่ก็มีคนของถังหลินอยู่ ดังนั้นน่าจะเตรียมคนมารับไว้อยู่แล้ว หากเป็นเช่นนั้น เธอจะได้ไม่ต้องช่วยถังหลินจัดการ
“พวกเรา……” เหยียนหยูเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินหลินเป้ยถามเช่นนี้จุงตอบออกไปโดยอัตโนมัติ
“ไม่มี” ทว่าถังหลินกลับเอ่ยแทรกเหยียนหยู “พวกกเราไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย เจ้าชายน้อยจัดการทุกอย่างได้เลย”
เหยียนหยูชะงักงัน ริมฝีปากของเขาสั่น เขาไม่คิดว่าคุณชายถังจะโกหกออกไป เพราะก่อนที่จะมาถึง ทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้หมดแล้ว คนที่อยู่ที่นี่จะเป็นคนมารับคุณชายถังด้วยตัวเอง
เนื่องจากภาระงานที่นี่รัดตัว คนรับผิดชอบที่อยู่ที่นี่ก็ไม่กล้าตัดสินใจ ดังนั้นจึงขอให้คุณชายถังรีบมา คุณชายถังจึงจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวสุดท้ายของเมื่อวานแล้วรีบมุ่งหน้ามาที่นี่
ผู้รับผิดชอบงานที่นี่อยากพบคุณชายถังด่วน เพราะอยากจะรีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คุณชายถังฟัง ดังนั้นจึงนัดกันว่าจะมาที่สนามบินเพื่อรายงานสถานการณ์ให้คุณชายถังฟัง
แต่จู่ๆ คุณชายถังกลับบอกว่าไม่ได้ตระเตรียมอะไรไว้
คุณชายถังไม่เห็นแก่ผู้รับผิดชอบงานของตัวเองที่นี่บ้างหรือ
เขาคิดว่าคุณชายถังอยากจะรบกวนเจ้าชายน้อย
ในฐานะเจ้าชายน้อยของญี่ปุ่น พวกเขาต้องมาจัดการธุระที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว หากสามารถรบกวนได้ก็……
เฮ้อ หากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าชายน้อยได้ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา
ทว่าเขาจำได้ว่าที่ผ่านมาคุณชายถังไม่เคยใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์พวกนี้เลย นี่ไม่ใช่สไตล์ของคุณชายถัง
อีกอย่างเหยียนหยูรู้สึกว่าคุณชายถังไม่ได้อยากแค่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าชายน้อยเท่านั้น แต่คุณชายถังคิดอยากจะก่อกวนเจ้าชายน้อย ใช่แล้ว ก่อกวนอย่างไม่มีความเกรงใจ แถมยังผิดธรรมเนียมอีก
ตอนนี้เหยียนหยูรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจคุณชายถังเลย แต่ในเมื่อคุณชายถังพูดอย่างนี้ เขาก็ไม่สามารถลากคุณชายถังลงจากเวทีได้ ทำได้แต่เพียงกลืนคำพูดของตัวเองลงท้องไปเท่านั้น
“อย่างนั้นผมจะจองโรงแรมกั๋วปิน ให้” หลินเป้ยเห็นแล้วว่าถังหลินพูดแทรกเหยียนหยู แถมยังเห็นด้วยว่าเหยียนหยูมีคำพูดที่อยากจะพูดต่อ เธอจึงแน่ใจว่าถังหลินต้องจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ก่อนจะมาถึงแล้ว
หลินเป้ยรู้ว่าถังหลินตั้งใจ ตั้งใจจะทำให้เธอต้องยุ่งยาก แต่อย่างไรพี่ใหญ่ก็สั่งไว้แล้ว เธอก็ต้องทำตาม
หลินเป้ยจัดการทุกอย่างตามหลักการรับรอง เมื่อมีแขกเดินทางมาจะต้องจองโรงแรมโรงแรมกั๋วปินเอาไว้ให้ เพราะที่นี่คือโรงแรมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว
หลินเป้ยได้รับการกำชับมาจากเจ้าชายใหญ่แล้ว เธอด้วยว่าเจ้าชายใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด อีกข้อหนึ่งคือกลัวว่าถังหลินจะก่อเรื่องเลยจัดโรงแรมที่ดีที่สุดและอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด ถังหลินจะได้ไม่หาเรื่องได้อีก
“ไม่เอากั๋วปิน” แววตาของถังหลินเป็นประกายแวบหนึ่ง ครั้งนี้เขามาเพื่อจัดการเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้ ไม่ได้มาเจรจากับญี่ปุ่น เขาเลยไม่อยากพักที่โรงแรมกั๋วปิน
การพักที่โรงแรมนี้จะทำให้การจัดการเรื่องราวต่างๆ ไม่สะดวกนัก
“อย่างนั้นคุณอยากจะไปพักที่ไหน” หลินเป้ยคิดไม่ถึงว่าเขาจะจุกจิกถึงขั้นนี้
“ตามใจคุณเลย……” เมื่อถังหลินเห็นแววตาแข็งกร้าวเธอ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ผมไปพักที่บ้านคุณก็ได้นะ ไปที่บ้านคุณก็สะดวกดี”
“ฮึ้ม……” เหยียนหยูสำลักน้ำลายขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาสังเกตเห็นแล้วว่าคุณชายถังจีบเจ้าชายน้อย แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าคุณชายถังจะถึงขั้นอยากไปพักที่บ้านเจ้าชายน้อย
สรุปแล้วคุณชายถังคิดจะทำอะไรกันแน่?!
หลินเป้ยสลดใจ ผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ ถึงขั้นจะขอไปพักที่บ้านเธอ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาสะดวกแต่เธอไม่สะดวก ไม่ต้องพูดถึงประเด็นอื่นใด มีแค่เรื่องเดียวคือเรื่องการตั้งครรภ์ของเธอ
เธอแพ้ท้องอย่างรุนแรง หากถังหลินจะมาพักที่บ้านเธอจริง เขาจะต้องรู้ความจริงอย่างแน่นอน
พอนึกถึงเรื่องแพ้ท้อง เธอจึงพึ่งรู้สึกตัวว่าเธอไม่ได้รู้สึกแพ้ท้องมาเป็นเวลาพักใหญ่แล้ว
ตั้งแต่เจอหน้าถังหลิน เธอก็ไม่รู้สึกอยากอาเจียนอีกเลย และไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ต่อหน้าถังหลิน
หรือเป็นเพราะเธออาเจียนของที่กินเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาหมดแล้ว?
หรือเป็นเพราะคิดแต่จะหนีถังหลิน ทำให้ความสนใจทั้งหมดเบี่ยงเบน เลยไม่หลงเหลืออาการแพ้ท้องอีก
หลินเป้ยไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่การไม่มีอาการแพ้ท้องถือเป็นเรื่องดีแล้ว ถังหลินจะได้ไม่รู้ความจริง หลังจากนี้หากเธอไม่มีอาการแพ้ท้องแล้วคงดีมาก
หลินเป้ยคิดถึงเรื่องแพ้ท้องจนเหม่อลอยไปไกล เธอเงียบและหยุดอยู่กับที่ไปพักใหญ่
“คิดอะไรอยู่ถึงทำให้เหม่อลอยแบบนี้” ถังหลินเห็นเธอยืนนิ่งไม่ไหวติงแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อก่อนเธอเป็นผู้หญิงที่หลักแหลมขนาดไหน แต่ตอนนี้กลับมายืนเหม่อลอยอยู่กลางสนามบิน
“ไม่มีอะไร” หลินเป้ยได้สติกลับมา เธอแอบตกใจเล็กน้อย เรื่องที่เธอท้องจะปล่อยให้ถังหลินรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปส่งที่โรงแรมเอง คุณไม่อยากไปพักที่กั๋วปิน อย่างนั้นผมจะพาคุณไปโรงแรมอื่น” หลินเป้ยไม่พูดให้มากความ ตอนนี้เธอคิดเพียงจัดการเรื่องถังหลินให้เรียบร้อย เธอจะได้ปลีกตัวไปได้เสียที
ถังหลินหยุดชะงักไปเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ เขาประหลาดใจที่ผู้หญิงอารมณ์ร้ายเมื่อครู่นี้ได้กลายเป็นเด็กดีว่าง่ายไปเสียแล้ว
ตามจริงแล้ว เขาชอบให้เธอเป็นผู้หญิงอารมณ์ร้ายมากกว่าแบบเมื่อครู่มากกว่า
ตอนนี้แม้เธอจะว่าง่ายแต่ดูห่างเหิน อีกอย่างเขายังคิดว่านี่คือการพยายามสลัดเขาให้พ้นตัวไปเร็วๆ
ถังหลินกำลังจะเอ่ยต่อ หลินเป้ยกลับหันมาแล้วมองหน้าเขา “ตอนนี้ตีสองแล้ว คุณไม่เหนื่อยแต่ผมเหนื่อย ผมอยากกลับไปพักผ่อนเร็วๆ แล้ว”
หลินเป้ยเหนื่อยจริงๆ หลายวันที่ผ่านมานี้เธอกินข้าวไม่ค่อยได้ แถมยังพักผ่อนน้อย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หากเธอไม่ได้เกิดความคิดอยากจะหนีไปให้เร็วที่สุด ป่านนี้เธอคงไม่มีเรี่ยวแรงมาถึงสนามบินได้
เธอเพียงคิดไม่ถึงว่าที่ตัวเองพยายามดิ้นรนมาตลอดครึ่งค่อนคืนกลับสูญป่าว แถมยังซวยเจอถังหลินเข้าอีก
เมื่อครู่เธอคิดจะแอบถังหลิน แต่พอโดนถังหลินจับได้ก็เอาแต่คิดว่าจะหลบเลี่ยงอย่างไรดี ดังนั้นสติของเธอจึงตื่นตัวตลอดเวลา แต่ในเมื่อตอนนี้เป็นอย่างนี้แล้ว ความตื่นตัวของเธอค่อยลดลง ทำให้เธอรู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว ลำพังจะเดินยังเดินไม่ไหว
“ไปกันเถอะ หาโรงแรมแถวนี้ละกัน” ถังหลินรู้ตัวว่าเธออยากจะสลัดเขาไปให้พ้นๆ โดยเร็ว แต่เขาก็สังเกตเห็นความอ่อนล้าของเธอ จึงไม่อยากจะทรมานเธออีกต่อไป
หลินเป้ยหยุดคิดด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าถังหลินจะว่าง่ายขึ้นมาแบบนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะคิดหาวิธีทำให้เธอลำบาก เพราะนี่คือคำสั่งการของเจ้าชาย ไม่ว่าเขาต้องการอะไรหลินเป้ยก็ต้องยอมทำตามทั้งนั้น
“คุณชายถังจะให้ผมจัดรถให้ไหมครับ” ตำแหน่งผู้ช่วยของเหยียนหยูไม่ได้เสียเปล่า เมื่อได้ยินถังหลินเอ่ยแบบนี้จึงรู้ว่าไม่ต้องการรบกวนเจ้าชายน้อยมากเกินไปนัก
เจ้าชายน้อยลากกระเป๋าเดินทางมาที่สนามบิน แค่ดูก็รู้แล้วว่ากำลังจะเดินทางไปที่อื่น เห็นได้ชัดว่าคุณชายของเขามาขวางเอาไว้ ไม่ใช่สิ คุณชายถังมาจับตัวเขาเอาไว้มากกว่า!