บทที่ 143 ถูกคุณชายสามเย่จับได้เสียแล้ว (1)
เมิ่งโร่ถิงตกตะลึงด้วยดวงตาแวววับ เธอก็แค่ทายไปเรื่อย แต่เขาดูเหมือนจะเชื่อว่าเป็นจริงเสียแล้ว และสิ่งที่เขาตอบสนองมันเร่งด่วนเกินไปหรือเปล่า
ดูท่าแล้วจะใส่ใจมากเลยนะ!
ถ้าเป็นเช่นนี้ ที่เขาแต่งงานก็แสดงว่าจริงใจ ไม่ใช่แค่ตบตาคุณปู่เย่ของบ้านตระกูลเย่เท่านั้น!
ถ้าเป็นอย่างนี้เธอก็วางใจแล้ว คุณแม่ก็จะวางใจด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเวลานี้ใครบางคนอยู่ที่ห้องแล้วทำอะไรอยู่?จะเป็นอย่างที่เธอทายไหมว่ากำลังเสียใจอยู่?
ถ้าใช่ก็ยังดี แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?
หลังจากที่เย่ซือเฉินขึ้นมาถึงที่ชั้นสองในตัวบ้านก็เดินไปอยู่หน้าห้องนอนของเวินลั่วฉิงโดยตรง ยังไม่ทันได้เปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเวินลั่วฉิงส่งออกมา
ดวงตาของเย่ซือเฉินลุ่มลึก เขาไม่ได้เคาะประตูก็ผลักประตูเข้าไปเลย
“ได้ ไปสิ” ในห้องนอน เวินลั่วฉิงใส่หูฟังแล้วนอนคลานอยู่บนเตียง สองขายกขึ้น ไม่รู้ว่ากำลังวีดีโอคอลอยู่กับใคร หัวเราะอย่างดีใจ พอใจมาก
เสียใจ?เสียใจกับผีอะไรล่ะ!!
ขณะนี้เธอกำลังวีดีโอคอลกับคนอื่นอย่างใจจดใจจ่อบวกกับใส่หูฟังด้วย จึงไม่สังเกตเห็นว่าเขาเข้ามา
ตอนนี้เวินลั่วฉิงกำลังวีดีโอคอลกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งอื่นๆ
และแน่นอน ประเด็นสำคัญคือเธอรู้สึกว่าเวลานี้เย่ซือเฉินกับเมิ่งโร่ถิงกำลังเพาะรักกันอยู่ จึงไม่มีใครมารบกวนเธอ
จู่ๆเวินลั่วฉิงก็รู้สึกว่าแสงตรงหน้ามืดลง หันหน้าไปมองโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็เห็นเย่ซือเฉินยืนอยู่ตรงหน้าเตียงของเธอ
มีอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตัวเองตกใจจนมีเหงื่อท่วมตัว
เขาเข้ามาเมื่อไหร่?ทำไมเธอถึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย?
ช่างประมาทเสียจริง แต่ยังดีที่เมื่อกี้จื่อซีบอกว่าจะไปเอาของเล่นใหม่ของตัวเองให้เธอดู ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงที่หน้าจอมือถือ เขาน่าจะยังมองไม่เห็น
เวินลั่วฉิงแอบปิดวีดีโอคอลลง
ตลอดเวลาเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีใครรับรู้เรื่องราวของจื่อซีกับจื่อโม่ เธอไม่อยากให้เด็กน้อยทั้งสองคนต้องเจอกับการเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น และไม่อยากให้มีปัญหาที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้น
แน่นอนว่าเย่ซือเฉินเห็นท่าทางที่เธอกดวางสายวีดีโอคอล ดวงตาคู่นั้นยิบหยี ยี่งเพิ่มกลิ่นอายของภัยอันตรายขึ้นมา
เธอกำลังวีดีโอคอลคุยกับใครอยู่หรือ?เห็นเขาก็ปิดทิ้งเลย เธอกลัวเขาจะเห็นขนาดนั้นเลยหรือ?
“คุณเข้ามาได้อย่างไรหรือค่ะ?”เวินลั่วฉิงแอบสูดลมหายใจพยายามให้ตัวเองอยู่ในอาการที่ปกติที่สุด
“ทำไมหรือ?ผมเข้ามาไม่ได้เหรอ?”น้ำเสียงของเย่ซือเฉินในขณะนี้เยือกเย็นมาก ฟังแล้วทำให้มีความรู้สึกขนลุกอย่างน่ากลัว
“คุณเมิ่งล่ะ?คุณไม่อยู่กับเธอหรือ?”เวินลั่วฉิงแอบสูดลมหายใจ เขาเป็นอะไรกันหรือ?คุณเมิ่งมาแล้ว เขาน่าจะดีใจมิใช่หรือ?
สีหน้าของเย่ซือเฉินมืดมนขึ้นมากะทันหัน เขาอยากจะบีบเธอให้ตายไปเสียเลย!
เห็นสีหน้าเขายิ่งน่ากลัวขึ้นมาอีกอย่างกะทันหัน เวินลั่วฉิงจึงเม้มปากไม่พูดอะไรอีก
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี เธอไม่โง่เขลาถึงขนาดเอาหัวตัวเองไปเจาะที่หัวปืนหรอก
“เมื่อกี้วีดีโอคอลกับใครอยู่หรือ?”เย่ซือเฉินนึกถึงตอนที่เขาเพิ่งจะเข้ามาเห็นท่าทางที่ดีใจของเธอ ในใจก็ยิ่งรู้สึกระวนกระวาย
เธอทิ้งเขาไว้ที่ห้องโถงแล้ว ตัวเองกลับหลบมาวีดีโอคอลอยู่ที่ห้องนอน อีกทั้งยังดีอกดีใจขนาดนี้อีกด้วย!
ดวงตาของเวินลั่วฉิงวาววามกำลังไตร่ตรองว่าจะอธิบายกับเขายังไงดี เธอไม่อยากให้เรื่องของเด็กน้อยทั้งสองถูกเปิดเผยสู่ผู้คน
เมื่อเรื่องราวได้เปิดเผยขึ้นว่า เธอเป็นหญิงที่ท้องตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานและไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นอาวุธที่น่ากลัวทำร้ายเด็กน้อยของเธอได้ เธอรู้เรื่องพวกนี้ดี
ถึงขณะนี้เธอยังไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเด็กๆ อยากจะให้เด็กไปพบพ่อยังไม่มีที่ให้ไปเลย
แต่ว่า ณ ตอนนั้น มือถือเธอได้ดังขึ้นอย่างกะทันหันเป็นวีดีโอคอลที่จื่อซีโทรเข้ามา
เวินลั่วฉิงเห็นมีสายวีดีโอคอลเข้าก็รู้สึกใจสั่น ดวงตาตื่นตระหนก
“รับสาย”ตอนนี้เย่ซือเฉินยืนอยู่ที่ข้างๆเตียงของเธอ มือถือเธอวางไว้บนเตียง เขาจึงเห็นคำที่แสดงบนหน้าจอมือถือได้อย่างชัดเจนมาก
สุดที่รัก!!
เป็นการเรียกขานได้ดีทีเดียว!
เขาจะดูสิว่าสุดที่รักคนนี้จะเป็นใครกัน?
ถ้าเกิดว่าเขาทายไม่ผิดล่ะก็หลายครั้งก่อนที่เธอโทรแล้วยิ้มหัวเราะอย่างชื่นบานก็น่าจะเป็นคนนี้แหละ
เวินลั่วฉิงไม่อยากรับสายจริงๆ เธอยิ่งอยากจะวางสายแล้วปิดเครื่องทิ้งเสียเลย แต่ว่าตอนนี้สายตาของเย่ซือเฉินราวกับจะฆ่าคนให้ได้ ทั้งๆที่มือของเธออยู่ใกล้ขนาดนี้ กลับไม่กล้ากดลงไป
“เวินลั่วฉิง คุณกล้าวางสายดูสิ?”เย่ซือเฉินเหมือนจะสามารถเห็นทะลุปรุโปร่งความคิดของเธอ จึงได้ตะคอกเบาๆใส่เธอกะทันหัน
ประจวบเหมาะกับที่มือของเวินลั่วฉิงไปโดนโทรศัพท์ ถูกเขาตะคอกใส่อย่างนี้จึงทำให้มือของเธอสั่น จากนั้นก็กดวางสายวีดีโอคอลของจื่อซีจริงๆ
จะว่าไปเธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!!
แต่วิเคราะห์ดูแล้วเขาคงจะไม่เชื่อหรอก
ดวงตาของเย่ซือเฉินหยีขึ้น บรรยากาศความเย็นได้แผ่เข้ามาแจ้งบอกว่าจะมีภัยมรสุมที่อันตรายเข้ามา
ดี ดีมาก ช่างกล้าดีเหลือเกิน!คาดไม่ถึงว่าจะวางสายจริง!
เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ตอนที่สบตาเขานั้นก็แอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ปกติเธอจะเป็นคนใจเย็น แต่ตอนนี้เห็นสีหน้าของเขาเป็นอย่างนี้ก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมา
“มือสั่น เลยกดไปโดนอย่างไม่ได้ตั้งใจค่ะ”เวินลั่วฉิงคิดว่าไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ควรจะอธิบายให้เขาฟังก่อน
“คำพูดนี้ตัวคุณเองเชื่อไหม?” ดวงตาของเย่ซือเฉินหยีขึ้นมาครึ่งหนึ่งแล้วจ้องมองเธอด้วยแววตาที่อันตรายราวกับจะเขมือบเธอลงไป
คำพูดของเธอไปหลอกผี ผียังไม่เชื่อเลย
“เชื่อ”เวินลั่วฉิงตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็พยักหน้า คำพูดที่เธอพูดเองก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว และที่เธอพูดก็เป็นความจริงด้วย
“ไม่ระวังไม่กดโดน?เหรอ?”เย่ซือเฉินเห็นสีหน้าไร้เดียงสาของเธอแล้วจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา ดูแล้วน่าจะถูกเธอทำให้โกรธมากจนหัวเราะออกมา
เขาไม่น่าจะเสียเวลาพูดกับเธอแต่แรกแล้ว
“อืม”เวินลั่วฉิงพยักหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วรู้สึกเมื่อยคอ แต่เธอก็อดทนไว้ไม่ขยับขเยื้อนไปไหน
เห็นเธอพยักหน้ารับ ปากของเย่ซือเฉินก็ยกขึ้น จากนั้นก็เอ่ยปากกล่าวว่า“ได้ ให้โอกาสคุณโทรกลับไปใหม่”
ในเมื่อเธอบอกว่ากดผิด เขาก็จะให้โอกาสแก้ตัวใหม่หนึ่งครั้ง
วันนี้เขาต้องดูให้ได้ว่าคนที่ใช้ชื่อเรียกว่าสุดที่รักนั้นเป็นใครกัน?
เป็นใครกันที่ทำให้เธอคิดถึงมากอย่างนี้ จนต้องโทรหาตลอดเวลา และยังต้องโทรแบบวีดีโอคอลอีกต่างหาก อีกทั้งยังคุยได้อย่างร่าเริงอีกด้วย
เวินลั่วฉิงตกตะลึง ตอนแรกเธอคิดว่าปกตินิสัยของเขาแล้ว เรื่องนี้เขาก็ไม่สืบสวนราวีต่อ คิดไม่ถึงว่าเขาจะให้เธอโทรกลับไปอีก
เมื่อสบตาเขา เวินลั่วฉิงเชื่อเหลือเกินว่าหากตอนนี้เธอไม่โทรกลับไป เขาอาจจะมาบีบเธอให้ตายในนาทีต่อมาก็เป็นได้
เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าถ้าตอนนี้เธอไม่ทำตามที่เขาบอก เรื่องนี้ก็จะไม่จบลงง่ายๆ
เวินลั่วฉิงนึกว่าพวกเขาแต่งงานกันเฉพาะในนามเท่านั้น และเขากับเมิ่งโร่ถิงก็รักใคร่กลมเกลียวกัน ดังนั้นเรื่องที่เธอมีลูกหรือไม่ก็ไม่มีผลกระทบอะไรสำหรับเขา
ด้วยนิสัยและการกระทำของเขา ถึงแม้จะรู้เรื่องของเด็กน้อยทั้งสองคนแล้วก็ตาม แต่เขาก็คงจะช่วยเธอเก็บเป็นความลับ?เขาน่าจะไม่ทำเรื่องที่ทำร้ายเด็กๆได้ลงคอ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เวินลั่วฉิงก็หายใจออกหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาใช้วีแชทวีดีโอคอลโทรหาจื่อซี