ตอนที่ 18 ท่าทีโต้ตอบของเธอ
สิ่งที่เขาทำทั้งหมดไม่ก็เพียงแค่จะจับพิรุธเธอเท่านั้น
หากเธอมีพิรุธออกมาเมื่อไหร่ เกรงว่าครั้งนี้จะหนีไม่รอด……
หากครั้งนี้เขาจับตัวเธอได้ คงจะไม่เพียงแค่เชิญมาพูดคุย หรือแค่ดื่มน้ำชาหรอก เกรงว่าจะ……
เมื่อนึกถึงกลิ่นอายของความอันตรายเมื่อวานที่เขาทำให้ตกใจกลัว ในใจของเวินลั่วฉิงก็สั่นเทาขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เจอกันอย่างเป็นทางการ ดูไปแล้วเขาก็ไม่ถึงกับว่าจะฆ่าเธอหรอก แต่เกรงว่าคนอย่างเขาจะใช้วิธีทรมานคนมากกว่าการฆ่านะสิ
ดังนั้นหากเธอตกไปอยู่ในมือเขา มันน่ากลัวว่าการตายเสียอีก ถึงตอนนั้นแล้วฟ้าดินก็ช่วยอะไรไม่ได้
เอ๊ะ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมีอะไรกับเขานิ? แถมยังไม่ได้ไปขุดหลุมบรรพบุรุษเขาสักหน่อย เขาถึงขนาดที่จะต้องฆ่าต้องแกงกันเลยเหรอ?
ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?
เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนเดินอยู่บนหน้าผาที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้าง หากก้าวไม่ระวังแม้แต่นิดเดียวอาจจะซวยเอาได้
ตอนนี้เวินลั่วฉิงรู้สึกในใจแตกสลาย! แต่กลับไม่สามารถแสดงพิรุธออกไปได้
“ผมถามว่าเมื่อคืนช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสี่คุณเวินลั่วฉิงอยู่ที่ไหนครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามอีกครั้ง
“ฉันไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของคุณตำรวจยังไง” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นแล้วตอบด้วยความงุนงง
“……” เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินคำตอบถึงกับชะงัก คำถามนี้มันตอบยากตรงไหนเหรอ?
“ปฏิกิริยาการตอบโต้แบบนี้ชัดเลย! ปัญญาอ่อนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว นี่คือปัญญาอ่อนที่สุดแล้ว” คุณชายห้าฉิงที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้านบนนั้นเห็นท่าทีการตอบโต้ของเธอแล้วพูดขึ้นมาทันที
คำถามง่ายๆ แบบนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ เหรอ?
เย่ซือเฉินขมวดคิ้วขึ้น หรี่ตาเล็กน้อย ยิ้มมุมปากกว้าง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินไปทำผิดกฎหมายมาหรือเปล่า ฟังจากน้ำเสียงของตำรวจเหมือนกำลังสอบปากคำเลย”
“นั่นนะสิเหมือนสอบปากคำเลย แต่สมองของคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินมีปัญหาไม่ใช่เหรอ สมองมีปัญหาก็ไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย”
“อาการป่วยของคุณเวินหนักขนาดนี้เลยเหรอ? มิน่าล่ะว่าทำไมเย่อหยู่นานที่เป็นเจ้าบ่าวไม่ยอมออกมา”
ในตอนนี้เสียงกระซิบนินทาของผู้คนในงานก็ดังขึ้น
ดูเหมือนว่าเวินลั่วฉิงจะไม่ได้สนใจอะไรกับคำพูดพวกนั้น เธอยังไงมีท่าทีที่งุนงงอยู่จนถึงตอนนี้
เจ้าหน้าที่ตรวจรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก คำถามที่ถามไปเธอก็ตอบไม่ได้
“คุณตำรวจคะ ฉันทำอะไรผิดเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงถามกลับด้วยความสงสัย สายตากระพริบไปมา ในแววตาของเธอมีความสับสนงงงวย ระมัดระวัง ตื่นเต้น กังวล กลัว อีกทั้งยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกด้วย
เย่ซือเฉินที่ยืนมองเธออยู่ด้านบน สายตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที
“ไม่ ไม่มีครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจถอนหายใจเบาๆ ดูจากท่าทางเธอแล้วในใจก็อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “คุณเวินไม่ต้องกลัวนะครับ ค่อยๆ นึกลำดับเหตุการณ์ แค่คุณเวินบอกผมว่าเมื่อคืนคุณไปที่ไหนแค่นั้นก็ได้แล้วครับ”
น้ำเสียงเปลี่ยนไปไม่เคร่งขรึมเหมือนที่ถามครั้งแรก
“เมื่อคืนฉันไปทำสปาที่ Fairyland Club หลังจากนั้นก็กลับบ้านไปนอน” เวินลั่วฉิงตั้งใจนึกภาพเหตุการณ์ จากนั้นก็ตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยความมั่นใจ แววตาที่ไร้เดียงสา ลักษณะท่าทางที่จริงจัง หากยังสงสัยอีกก็แปลกแล้ว
คำตอบของเธอฟังดูเรียบง่าย ธรรมดา ไม่ได้บอกเวลาที่ชัดเจน และไม่มีประเด็นสำคัญอะไร แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้น
เย่อหยู่เฟิงที่นั่งอยู่ไม่ไกลค่อยๆ บิดตัวหันมา แววตาที่ดูไร้เดียงสาคู่นั้นและคำพูดธรรมดาของเธอที่พูดออกมา หากก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ความจริง ตอนนี้เขาก็คงเชื่อคำพูดเธอไปแล้วเหมือนกัน
เย่ซือเฉินที่ยืนดูอยู่ด้านบนนั้นมุมปากยกขึ้นด้วยความเย็นชา