บทที่269 ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณชายสามเย่โมโห(2)
จู่ๆเขาก็จำสิ่งที่คนขับรถพูดเมื่อห้าปีก่อนได้ จริงๆแล้วเธอสวยมากนะ
ครั้งที่แล้ว เขาลองยาที่ถังหลินมอบให้เขา แต่ไม่ได้ผล แน่นอนเขาเชื่อใจถังหลิน แต่สิ่งเหล่านั้นที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เขาเริ่มมีความสงสัยว่า……
และครั้งที่แล้ว เขาใช้ยาที่ถังหลินให้เขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนั้นเขาเชื่อใจถังหลินมากแต่หลังๆเกิดเรื่องพวกนั้นขึ้นเขาเริ่มสงสัยแล้ว…….
ครั้งก่อน ยาที่ถังหลินให้เขาเป็นของปลอมหรือเปล่า ถึงได้ไม่สามารถกำจัดฝ้ากระบนใบหน้าของเธอได้ และไม่ได้กำจัดการปลอมตัวของเธอ
ยิ่งเย่ซือเฉินนึกถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้มากเท่านั้น นี่แสดงว่า เขาต้องลองอีกครั้งแล้วล่ะ
“ขับเร็วหน่อย ”ทันใดนั้นเย่ซือเฉินก็พูดขึ้น และเขาก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้น
“ประธาน นี่ก็ขับเร็วสุดแล้ว ถ้าขับเร็วกว่านี้ก็จะถูกตำรวจไล่ตามแล้ว ”เลขาหลิวแอบถอนหายใจ เขารู้ว่าประธานรีบ เขาเลยก็เร็วที่สุดแล้ว
“เร็วกว่านี้อีก ”เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่กำลังรีบในขณะนี้ การที่เขาจะถูกตำรวจไล่ตามหรือไม่นั้นไม่อยู่ในความกังวลของเขาเลย
เลขาหลิวตะลึง จากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ในห้องอ่านหนังสือของตระกูลเวิน
เล่นไปสามเกมแล้ว คุณปู่เล้งมองไปที่เวินลั่วฉิง ด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ
เขาชอบเล่นหมากรุก เรียนรู้ตั้งแต่วัยเด็ก ตั้งแต่เขาอายุสิบแปดปี ก็ไม่เคยแพ้เลย อาจกล่าวได้ว่าผู้ไม่เคยแพ้เกมแม้แต่ครั้งเดียวเลยก็ได้
แต่ในวันนี้ เขาแพ้ให้กับเจ้ายัยหนูคนนี้ แถมยังแพ้สามเกมรวด
เพียงแค่แพ้ไปหนึ่งก้าวของทั้งสามเกมเลย ด้วยเหตุนี้ มันเหลือเชื่อมาก ยัยหนูคนนี้ดูเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรได้ รู้ทุกการเคลื่อนไหวของเขา จากนั้นจะเอาชนะเขาก่อนหนึ่งก้าวทุกครั้ง
แค่เอาชนะเขาก็ว่ายากแล้ว และเธอยังสามารถรักษาการชนะในระดับฝีมือที่สูงได้ จะไม่ทำให้เขาตกใจ และตะลึงได้ยังไง
ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อกี้เธอหยิ่งและอวดดี ที่แท้ก็มีความสามารถในการเย่อหยิ่งนี่เอง ยัยหนูคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
“คุณปู่เล้ง ฉันชนะแล้ว ”เวินลั่วฉิงมองไปที่คุณปู่เล้ง ยิ้มสดใสมาก ไม่มีการแกล้งอ่อนน้อมถ่อมตน ที่จริง เวินลั่วฉิงก็มีการวิจัยเชิงลึกซึ้งเกี่ยวกับหมากรุก บวกกับความเชี่ยวชาญทางจิตวิทยาของเธอ ก็เลยชนะคุณปู่เล้งได้
เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงในขณะนี้ คุณปู่เล้งตะลึง แล้วหัวเราะ
ยัยหนูคนนี้กินเข้ากับอารมณ์ของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แกล้งทำเป็นเอาใจ ไม่เก๊ก ไม่เยินยอคนอื่น มั่นใจโอ้อวดเป็นที่สุด เขาชอบยัยหนูคนนี้จริงๆ
เฮ้อ น่าเสียดายที่เขาไม่โชคดีขนาดนั้น หลานสาวดีๆแบบนี้กลับเป็นของคนอื่น
และเขาเพิ่งแพ้เมื่อกี้ ดังนั้นเรื่องการขอแต่งงานก็ถูกยกเลิก เขาแพ้เลยสูญเสียงานแต่งงานของหลานชายไป
ก่อนหน้านี้ เขามั่นใจว่าจะชนะแน่นอน เขาคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องที่แน่นอน ยัยหนูบอกจะแต่งงานพรุ่งนี้เลยก็ได้ เขายังเตรียมว่าเขาชนะแล้ว ให้เด็กทั้งสองคนได้รับใบสมรสในวันพรุ่งนี้เลย
เรื่องมันไม่คาดคิด! !
คิดไม่ถึงเลย ว่าเขาจะแพ้! !
แต่ก็ ยัยหนูเคยกล่าวไว้ เรื่องของหนุ่มสาวก็ให้จัดการด้วยตัวเอง จากนี้ไปเล้งหรงก็ต้องพึ่งพาตนเองแล้ว หวังว่าเล้งหรงจะไม่ทำให้ผิดหวังอีก หวังว่ายัยหนูจะแต่งงานเขาและพาเข้าตระกูลเล้ง
ถ้าเล้งหรงสามารถแต่งงานกับยัยหนูคนนี้ได้ ไม่เพียงแค่เป็นวาสนาของเล้งหรงเท่านั้น และยังเป็นบุญวาสนาของตระกูลเล้งเขาด้วย
ขึ้นอยู่กับความสามารถของเล้งหรงแล้ว
“ผมแพ้แล้ว แพ้อย่างเต็มใจ ในชีวิตนี้ผมเพิ่งแพ้อย่างเต็มใจเป็นครั้งแรก ”ปกติอารมณ์ของคุณปู่เล้งมักไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้เลย แต่ในครั้งนี้ เขาแพ้แบบเต็มใจมาก
“แพ้ชนะไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือกระบวนการ ”เวินลั่วฉิงคิดว่าสถานการณ์แบบนี้ เธอควรปลอบใจสักหน่อยจะดีกว่า
“คุณพูดง่ายนะ ทำไมจะไม่สำคัญ ถ้าผมชนะ ก็จะให้คุณและเล้งหรงไปจดทะเบียนสมรสในวันพรุ่งนี้เลย ตอนนี้อย่าพูดถึงเลย ”คุณปู่เล้งนึกถึงเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะไม่สบายใจ เขาพบว่าเขาถูกยัยหนูคนนี้หลอกแล้ว ถ้ารู้แต่แรกก็จะไม่พนันกับเธอแล้ว
ถ้าไม่พนัน วันนี้เขาจะหน้าด้านตัดสินใจให้พวกเขาหมั้นหมายแต่งงานกันเลย
เวินลั่วฉิงตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าคุณปู่เล้งจะมีความคิดเช่นนี้ โชคดีที่เธอชนะแล้ว
“ยัยหนู เล้งหรงบ้านเราดีจริงๆนะ คุณลองคิดดูดีๆสิและตระกูลเล้งของเราเป็นประชาธิปไตย ถ้าคุณอยู่บ้านตระกูลเล้งของเราเธอจะไม่มีวันโดนรังแกแน่นอน”คุณปู่เล้งพยายามยื้ออย่างเต็มที่ เพราะนั่นคือความสุขของหลานชายเขาไปตลอดชีวิต และเขารู้สึกถูกกับยัยหนูคนนี้มาก ถ้าจะแต่งงานต้องแต่งงานกับคนตระกูลเล้งเท่านั้น
“จริงหรอคะ? รู้สึกว่าคุณหญิงเวินจะกลัวคุณนะคะ” เวินลั่วฉิงชำเลืองมอง แสดงความไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด เธอก็รู้สึกสนุกกับการสนทนากับคุณปู่เล้งด้วย จึงพูดแบบดูสบายๆง่ายๆขึ้นมาหน่อย
“ที่เธอกลัวผมนั่นเพราะความอ่อนแอของเธอเอง ไม่ใช่ว่าตระกูลเล็งของเรารังแกเธอซะหน่อย แล้วคุณจะกลัวผมไหมถ้าแต่งงานกับคนตระกูลเล้ง?”คุณปู่เล้งขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ค่อยมีการแสดงอารมณ์ออกมามากนัก
คำพูดนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้เถียง เธอไม่ได้กลัว คุณปู่เล้งดูเป็นคนจริงจัง แต่ลึกๆเป็นคนดีมาก
“คุณปู่เล้ง ฉันยังมีธุระอย่างอื่นต้องทำ ต้องขอตัวไปก่อน คงอยู่ทานอาหารเย็นกับคุณไม่ได้แล้วล่ะ”เวินลั่วฉิงนึกถึงไม่ง่ายเลยที่เย่ซือเฉินจะไปออกงานนอกสถานที่ เธอต้องการใช้โอกาสนี้อยู่ร่วมกับเด็กๆสองคนนั้น
ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ถ้ายังล่าช้าอีก เด็กสองคนอาจจะหลับไปแล้วก็ได้
“ยัยหนู จะขี้เหนียวเกินไปไหม?”คุณปู่เล้งมองเธออย่างไม่พอใจ แต่เขาเห็นว่าเวินลั่วฉิงดูเหมือนจะรีบร้อน เขาก็ไม่บังคับแล้ว
“คุณจะไปตอนนี้เลยก็ได้ แต่ว่า คราวหน้าคุณต้องเล่นหมากรุกกับผมอีกครั้ง เวลาไหนคุณนัดเอง หนุ่มสาวจะงานยุ่ง ไอ้แก่อย่างผมมีเวลาว่างทุกเมื่อ”คุณปู่เล้งชอบเวินลั่วฉิงมาก ดังนั้นเขาจึงหวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก คิดว่าเขาจะได้สร้างโอกาสให้กับหลานชายของเขาได้มากขึ้นอีกด้วย
“ค่ะ” กับคำขอของคุณปู่ เวินลั่วฉิงไม่สามารถปฏิเสธได้ลง
“คุณปู่ เป็นยังไงกันครับ?” เล้งหรงรออยู่ด้านนอกตั้งนาน เห็นว่าทั้งสองคนออกมาแล้ว รีบเดินไปด้านหน้า บนใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าแห่งความร้อนใจ
“ไปเถอะ กลับบ้านกัน”คุณปู่เล้งมองเขาทีนึง แล้วส่ายศีรษะเงียบๆ
“ห๊ะ? กลับบ้าน? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เล้งหรงรู้สึกงุนงง ตอนที่มา คุณปู่ยังกล้าหาญเก่งกาจ แต่ทำไมไปเล่นหมากรุกออกมา ก็จะให้กลับบ้านแล้ว
“เรื่องของหนุ่มสาว ก็ให้พวกคุณไปจัดการกันเอาเอง คนแก่อย่างปู่ไม่ขอยุ่งด้วยแล้ว”คุณปู่เล้งคงไม่ยอมบอกกับเล้งหรงแน่ ว่าเขาเล่นหมากรุกกับเวินลั่วฉิงแล้วเป็นฝ่ายแพ้ เขาก็เลยไม่สามารถช่วยเขาไปขอแต่งงานได้อีกแล้ว
“คุณปู่ครับ ท่าทีคุณปู่เปลี่ยนไปไวมาก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอครับ? หรือว่าคุณปู่จะถูกถลอกแล้ว?” เล้งหรงรู้จักเวินลั่วฉิงดี แล้วรู้จักคุณปู่ดี ก็เลยทำให้ทายเรื่องคร่าวๆออกมาได้อย่างรวดเร็ว
“ไอ้หนุ่มนี่ พูดอะไรเนี่ย อะไรคือปู่โดนยัยหนูคนนั้นหลอก? ฉิงฉิงเป็นคนเชื่อฟังเข้าใจง่าย จะมาหลอกคนปู่ได้ยังไง? ปูแค่รู้สึกว่า ลูกหลานย่อมมีบุญวาสนาของลูกหลาน เรื่องบางเรื่อง คนแก่ยังปูเนี่ยก็ไม่ควรยุ่งมากเกินไปหรอก” คุณปู่เล้งมองจ้องเล้งหรงอย่างแรง
คำพูดของเขานี้ เป็นการประชดประชันเวินลั่วฉิงนิดๆ
เขาก็ถูกยัยหนูคนนี้หลอกจริงๆด้วยไม่ใช่เหรอ?