บทที่270 ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณชายสามเย่โมโห(3)
เฮ้อ เขามั่นใจเกินไป ประมาทไปละ ถ้ารู้ว่ายัยเด็กคนนี้เก่งขนาดนี้ ยังไงเขาก็จะไม่ยอมตกลงเธอตั้งแต่แรก
“คุณปู่ครับท่านเพิ่งรู้คำพูดที่ว่าลูกหลานทุกคนล้วนบุญวาสนาของลูกหลานเองก็วันนี้เหรอครับ? ”เล้งหรงทำเสียงเย็นชาหนึ่งที ทำท่าทางว่าไม่เชื่อ
“ยังไงก็ตาม ต่อไปเรื่องของหลานปู่ไม่ขอยุ่ง หลานจะได้แต่งงานกับฉิงฉิงหรือไม่ อยู่ที่หลานเองแล้วนะ ”คุณปู่เล้งไม่สนใจอะไรเขาอีก หันหลังแล้วเดินจากไป
เล้งหรงงงไปหมด คุณปู่เล้งจะไม่สนใจจริงๆแล้วเหรอ
คุณปู่เล้งไม่เคยที่จะยอมแพ้เลย ตอนนี้จู่ๆก็ไม่สนใจเรื่องนี้ละ อธิบายได้อย่างเดียว นั้นก็คือถูกเวินลั่วฉิงหลอกจริงๆละ ยุ่งอีกไม่ได้แล้ว และไม่มีวิธีที่จะยุ่งเกี่ยวอีก
คุณปู่เล้งคือใคร? คิดถึงเมื่อก่อน เป็นบุคคลที่เก่งกาจยอดฝีมือระดับแถวหน้าเลย
และคุณปู่เล้งทำอะไรไม่เคยยึดติดในเรื่องเล็กๆน้อยๆ กล้าที่จะทำในหลายๆเรื่อง
ก็เพราะแบบนี้ ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาจะทำไม่ได้เลย
แต่ว่า วันนี้ชัดเจนมาก เรื่องนี้คุณปู่ทำไม่สำเร็จ
“ คุณปู่เล้ง อาหารเย็นเตรียมเสร็จแล้วค่ะ ทานด้วยกันนะคะ ” หลี่หยุนคิดว่าเรื่องนี้คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว แอบดีใจในใจ คิดว่าตอนนี้ทำดีกับคุณปู่เล้งให้เยอะๆ ให้คุณปู่เล้งเห็นสิ่งดีๆในตัวหรวนหรวน ให้หรวนหรวนไปอยู่ที่ตระกูลเล้ง
“เมื่อกี้หรวนหรวนเพิ่งทำอาหารให้เป็นพิเศษ ฝีมือของหรวนหรวนดีมากเลยนะคะ ”ตอนนี้หลี่หยุนอยากชมเวินหรวนหรวนให้เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในปฐพีเลยก็ว่าได้
“วันนี้ไม่ดีกว่า ฉิงฉิงบอกว่าเธอยังมีธุระ ถ้าผมยังคงอยู่ที่นี่อีก ก็จะทำให้คนรังเกียจละ”ตอนคุณปู่เล้งพูดคำนี้ไม่ได้มีอาการไม่พอใจเลย ตอนมองไปที่เวินลั่วฉิง กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า
เมื่อคุณปู่เล้งพูดคำนี้ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป
ความหมายของคุณปู่เล้งคือเวินลั่วฉิงได้ออกคำสั่งไล่ให้แขกกลับไปแล้ว แต่ที่สำคัญคือคุณปู่เล้งไม่ได้โกรธ และยังรู้สึกเหมือนดีใจมากด้วย?
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
สีหน้าของคุณปู่เวินรู้สึกแปลกๆ
หลี่หยุนเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวินหรวนหรวนอิจฉาจนอยากจะฆ่าคนด้วยซ้ำ
มุมปากของเล้งหรงกระตุกอย่างรุนแรง เฮ้อ คุณปู่เป็นกันเองแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน พูดง่ายขนาดนี้? ถูกคนไล่กลับไปขนาดนี้แล้ว ยังยิ้มออกมาได้อีก?
ยังเป็นคุณปู่ที่เขารู้จักอยู่ไหม
เขาหันไปมองเวินลั่วฉิง ในสายตามีความสับสนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เธอทำอะไรกับคุณปู่กันแน่? คุณปู่ที่เย่อหยิ่งและครอบงำไม่มีใครเทียบได้กลับยอมเชื่อฟังเธอทุกอย่าง!!
ดูแล้ว เขาคงประเมินค่าความสามารถของเธอต่ำไปละ
“ ฉิงฉิง หนูรีบไปทำธุระไม่ใช่หรอ ?ให้เล้งหรงไปส่งหนูไหม?”คุณปู่เล้งเอ็นดูเวินลั่วฉิงมากจริงๆ พยายามจะจับคู่เธอกับเล้งหรง พยายามสร้างโอกาสให้เล้งหรง
“ ไม่รบกวนคุณชายเล้งดีกว่าค่ะ ที่บ้านมีคนขับรถ”เวินลั่วฉิงยิ้มอย่างมีมารยาท เธอจะไปพบเด็กๆทั้งสอง ไม่อยากให้มีใครรู้
คุณปู่เล้งเป็นคนฉลาด ไม่ได้พูดอะไร และยังเรียก เล้งหรง กลับไปด้วย
หลังจากที่คนของตระกูลเล้งกลับไป เวินลั่วฉิงไม่ได้ให้คนขับรถตระกลูเวินไปส่ง เมื่อออกจากประตูบ้านตระกูลเวิน เดินออกไปไม่ไกล ก็จะโบกรถได้ง่าย
“ คุณปู่ครับ ท่านกับเวินลั่วฉิงพนันกัน แล้วแพ้ให้เวินลั่วฉิง ก็เลยต้องยกเลิกเรื่องการขอแต่งงาน เป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ?” เล้งหรง รู้จักคุณปู่บ้านเขาดี ทายอะไรก็ถูกหมด
“ไอ้หมอนี่ หลานมาไถ่ถามปู่แล้วมีประโยชน์อะไร ฉิงฉิงคงไม่ให้คนขับรถตระกลูเวินไปส่งแน่นอน หลานไม่รู้จักคว้าโอกาสไว้เหรอ ?”คุณปู่เล้งนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ หลายๆเรื่อง เขารู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
เล้งหรงตะลึง จากนั้นเขาก็ให้ความร่วมมือมากแล้วไล่คุณปู่เล้งออกจากรถอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อเล้งหรงขับรถกลับไป เห็นเวินลั่วฉิงกำลังรอรถอยู่ข้างถนน
“ขึ้นรถ ผมไปส่งคุณ”เล้งหรงจอดรถข้างๆเธอ เลื่อนกระจกรถลงมา มองเธอ มีรอยยิ้มบนใบหน้า เสียงอ่อนโยนมาก
“ ไม่ต้องค่ะ”เวินลั่วฉิงมองเขาที่เพิ่งไปแล้วกลับมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่ต้องการมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเล้งหรง
เล้งหรงไม่ได้ไม่พอใจอะไรเลย แต่กลับยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้น ต่อจากนั้นเธอเปิดประตูรถ ลงจากรถ ยืนข้างๆเธอ :“งั้นผมรอรถกันเพื่อนคุณ ดึกขนาดนี้แล้ว คุณตัวคนเดียวผมไม่ไว้ใจ ”
เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจเขา คิดว่าถ้าเรียกรถได้ เธอก็จะได้ไปแล้ว เล้งหรงก็คงไม่มีข้ออ้างอะไรแล้ว
คุณชายสามเย่ซิ่งรถมาตลอดทาง มาถึงสักที เลขาหลิวกำลังจะเลี้ยวเข้าไป ตอนเลี้ยวไปทางตระกลูเวิน ทันใดนั้นก็เห็นทั้งสองคนยืนอยู่ข้างถนน เขาแอบกลืนน้ำลาย พูดอย่างระมัดระวัง :“ประธาน นั่นคุณหญิง……และคุณชายเล้ง”
สายตาของเย่ซือเฉินไปตกอยู่ที่สองคนนั้นที่กำลังยืนอยู่ด้วยกัน สายตากวาดไปรอบๆ
เลขาหลิวทนไม่ไหวที่จะตัวสั่น จากนั้นไปจอดรถไว้ตรงหน้าเวินลั่วฉิงกับเล้งหรง
กระจกรถเลื่อนลงมา สายตาเย่ซือเฉินมองไปที่เวินลั่วฉิง แค่มองเธอไม่ได้พูดอะไร แน่นอนว่าเล้งหรงที่ยืนข้างๆเวินลั่วฉิงก็ถูกเขาเพิกเฉยไปเลย
เมื่อเห็นเย่ซือเฉิน เวินลั่วฉิงตะลึงทันที เขา? เขาไปทำงานนอกสถานที่แล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
เฮ้อ วันนี้คงไม่ได้ไปดูเด็กๆทั้งสองอีกละ
เพราะประหลาดใจมาก เธอจึงนิ่งไม่ตอบสนองสักพัก ไม่ได้ขยับอะไรเลย เพราะคิดว่าจะไม่ได้ไปพบเด็กๆทั้งสองละ เธอก็เลยมีสีหน้าเหมือนจิตตกเล็กน้อย
เย่ซือเฉินเห็นว่าใบหน้าเธอไร้สีหน้าอารมณ์ เห็นเธอยืนนิ่งไม่ขยับ สายตาก็เย็นชาจนถึงสุดๆ ทำไม? เธอไม่อยากจากกันกับเล้งหรงเหรอ?เห็นเขาปรากฏตัว มารบกวนพวกเขา ก็เลยเสียใจงั้นเหรอ?
เมื่อเวินลั่วฉิงได้เห็นสายตาที่เย็นจนสามารถทำให้คนเสียชีวิตได้ของเย่ซือเฉิน ก็ดึงสติกลับมาได้ทันที จากนั้นรีบไปตรงหน้ารถเย่ซือเฉิน เปิดประตูรถ กำลังจะขึ้นรถ
เล้งหรงอยากจะห้ามเธอ แต่ว่า เวินลั่วฉิงเป็นคนจะขึ้นรถของเย่ซือเฉินเอง เขาไม่สามารถที่จะไปห้ามได้ แต่ว่าเขาไม่ชอบเย่ซือเฉินที่ดูหยิ่งและอวดดีในตอนนี้ ก็เลยตั้งใจพูดกับเวินลั่วฉิงแบบรักใคร่ว่า:“ฉิงฉิงอย่าลืมข้อตกลงของคนเรานะ ผมจะรอคุณ”
ในเวลานั้น สายตาของเย่ซือเฉินก็หนาวเย็นได้รวดเร็วมาก น่ากลัวเหมือนลมที่โหมกระหน่ำ
เวินลั่วฉิงแอบด่าเล้งหรงในใจ ไอ้เล้งหรงก็นะทำตัวเองก็พอแล้วทำไมต้องดึงเธอตกเหวด้วยเนี่ย!
“ลงไปจากรถ”เวินลั่วฉิงขึ้นรถ เพิ่งนั่งลง เสียงของเย่ซือเฉินที่หนาวเย็น และไม่มีความอ่อนโยนสักนิดได้ดังขึ้นมา
เวินลั่วฉิงตะลึง เขาจอดรถที่นี่ ไม่ใช่ให้เธอขึ้นรถเหรอ ?
เธอเพิ่งขึ้นรถ?เขาก็จะไล่เธอลงจากรถ?
แต่ว่าเห็นสีหน้าน่ากลัวของเขาในตอนนี้แล้ว เวินลั่วฉิงก็ยอมลงจากรถ ช่วงเวลาต่อมา เธอลุกขึ้น กำลังจะลงจากรถ
เย่ซือเฉินหรี่ตาลง ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นมา จับเธอไว้ กดเธอลงบนเบาะที่นั่งรถโดยตรง
เลขาหลิวที่อยู่ตรงหน้าปลดเข็มขัดนิรภัยออก ลงจากรถ
เวินลั่วฉิงเพิ่งเข้าใจ เขาให้เลขาหลิวลงจากรถ ไม่ใช่ให้เธอลง
แต่ว่า สีหน้าที่น่ากลัวของเขาตอนนี้ เขา เขา เขายังไล่เลขาหลิวลงจากรถด้วย ! เขาจะทำอะไรกันแน่? !