บทที่319 สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอมีลูกไม่ได้ (2)
คุณชายสามเย่สงบเงียบลง ที่จริงที่เขาโทรออกไม่ใช่ปัญหาที่เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เป็นเพราะเธอมีอาการปวดท้อง
เขารู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของ โจ๋วอันหนานนั้นดีมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเธอจงใจที่จะหลีกเลี่ยง เห็นได้อย่างชัดเจนอีกว่าเธอไม่อยากนึกถึงอาการบาดเจ็บในอดีต
ในเมื่อเธอไม่ต้องการที่จะจำ เขาจะบังคับเธออย่างโหดร้าย ได้ยังไง
“พี่ อาการบาดเจ็บของเธอจะส่งผลต่อร่างกายหรือเปล่า?” ปัญหานี้เป็นปัญหาที่คุณชายสามเย่กังวลมากที่สุด
“เฉินเฉิน คนฉันก็ยังไม่เห็น อาการอะไรก็ยังไม่รู้เลย ดังนั้นฉันไม่สามารถที่จะตอบคำถามของนายได้” ทักษะทางการแพทย์ของ โจ๋วอันหนานนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่เธอเป็นมนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า ผู้ป่วยยังไม่เห็นและไม่ได้รับการตรวจ แล้วเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการเป็นอย่างไร?
“แต่ มีสิ่งหนึ่งที่ฉันสามารถบอกนายได้อย่างชัดเจนก็คือ อาการปวดท้องที่เธอบอกไม่ใช่ปวดประจำเดือนอย่างแน่นอน และอาการบาดเจ็บครั้งเก่าจะไม่ทำให้ปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุแน่ ดังนั้นหากเธอมีแรงจูงใจที่จะต้องเสแสร้ง งั้นก็คงเป็นการเสแสร้ง”
“ผมทราบแล้วครับ” เย่ซือเฉินสูดลมหายใจเบาๆ จากนั้นก็วางสายลง
ตามจริงเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอบาดเจ็บได้อย่างไร และได้รับบาดแผลตรงไหน แต่เธอไม่อยากพูดและเขาไม่สามารถบังคับให้เธอพูดได้
การกระทำของเลขาหลี่รวดเร็วมาก ในไม่ช้าของก็ส่งมาถึง เย่ซือเฉินได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบเปิดประตูออกไป
เย่ซือเฉินช่วยเธอชงน้ำตาลทรายแดง และก็ยังเตรียมที่ประคบร้อน พร้อมกับนำไปให้เธออย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง
“ตามจริงเมื่อกี้ฉันโกหกคุณ ฉันไม่ได้ปวดท้อง” เวินลั่วฉิงเห็นเขาเช่นนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด คิดแล้วคิดจนตัดสินใจที่จะพูดความจริงออกไป
เย่ซือเฉินมองไปที่เธอ ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการใดๆ และไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
มองเขาแบบนี้แล้ว ในใจของเวินลั่วฉิงเริ่มฝ่อมากขึ้น
“คือไม่อยากให้ผมแตะต้องคุณเหรอ?” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เย่ซือเฉินก็ค่อยๆ พูดออกมา
ความจริงเกี่ยวกับประเด็นนี้ ในใจของเขานั้นเข้าใจชัดเจน
น้ำเสียงของเขาค่อยๆ แผ่วเบาลงเล็กน้อย ไม่มีอารมณ์ที่แสดงออกมากนัก แต่เมื่อมองดูแล้วทำให้คนอื่นรู้สึกเศร้าอย่างอธิบายไม่ถูก
เวินลั่วฉิงตกใจเล็กน้อย เธออยากพูดออกมาว่า ใช่ เธอรู้ ถ้าเธอตอบ “ใช่” ในตอนนี้ เย่ซือเฉินอาจจะไม่แตะต้องเธออีกในอนาคตข้างหน้า
งั้นเธอก็ได้รับการอิสรภาพล่ะซิ
แต่เมื่อเห็นเย่ซือเฉินเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าความคิดไหนถูกดึงออกมาให้เธอพูดโพล่งออกไปว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยาก …”
เมื่อเวินลั่วฉิงพูดสิ่งนี้ออกมา สมองของเธอดูเหมือนจะตอบสนองช้าลง เธอเกือบจะกัดลิ้นของเธอเองด้วยซ้ำ เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ?
ทันใดนั้นดวงตาของเย่ซือเฉินก็สว่างขึ้นอย่างแรง และกดตัวเธอลง มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอยากช่วยไม่ได้ “คุณหมายถึงให้ผมกอดคุณงั้นเหรอ อืม ดีมาก”
ตาของเวินลั่วฉิงเปิดกว้าง เมื่อเห็นท่าทางของเขา เธอก็พบว่าตัวเธอเองถูกเขาหลอกอีกแล้ว เขาแค่แสร้งทำเป็นเศร้าและหลอกลวงเธออย่างชัดเจน
คนคนนี้ยังร้ายกว่านี้อีกได้ไหม?
เธอยังโง่ไปหลงกลของเขาอีก?
เวินลั่วฉิง เธอมันช่างเป็นคนที่ดูมีอนาคตที่สดใสจริง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอถูกเขาขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดจบ
เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…
ตอนนี้เวินลั่วฉิงกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก
แต่คุณชายสามเย่กลับอารมณ์ดีมากขึ้นทันที ทันใดนั้นเขาก็พบว่า ในใจของเธอดูเหมือนว่าไม่ใช่จะไม่มีเขา เขารู้สึกว่าเธอเริ่มสนใจเขาแล้ว
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขากระโดดโลดเต้นได้แล้ว
เขาเชื่อว่า อีกไม่นาน เธอจะมีเขาอยู่ในใจและมีเพียงเขาเท่านั้น พอตอนนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหย่าร้างอีก
สัมผัสจูบของเย่ซือเฉินบนผิวของเธอนั้นหนักแน่น แต่ก็ลึกซึ้งและอ่อนโยน ริมฝีปากของเขาใกล้กับหูของเธอและถามด้วยเสียงต่ำ “แผลเก่ายังเจ็บอยู่ไหม?”
“หา?” เวินลั่วฉิงหยุดตอบสนองไปชั่วขณะ หลังจากคิดได้ ถึงได้เข้าใจว่าแผลเก่าที่ว่าคืออะไร
“ไม่แล้ว” ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ตอบตามความเป็นจริง
แม้ว่าจะมีคลอดยากและเลือดออกเยอะเป็นพิเศษ เธอเกือบเสียชีวิต แต่นอกเหนือจากที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้แล้ว ก็ไม่มีผลสืบเนื่องอื่นๆ ใดๆ อีกหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น สำหรับการที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้นั้นไม่มีผลกระทบกับเธอ ในเมื่อเธอก็มีลูกสองคนแล้ว
เรื่องนั้นมันผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว อาการบาดเจ็บหายขาดแล้ว มันจะยังคงเจ็บได้อย่างไร
“อืม” เย่ซือเฉินรู้สึกโล่งใจ เมื่อไร้ซึ่งความกังวลใดๆ ริมฝีปากของเขาก็ลงสนามทันที และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จูบของเขาจูบลงบนผิวของเธออีกครั้ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ารุนแรงและร้อนรุ่มมากขึ้น
เวินลั่วฉิงที่ฉลาดเสมอไม่คิดว่า เธอต่อต้านมาตั้งนาน แต่สุดท้ายก็พาตัวเองเข้าไปในปากหมาป่า
แต่คราวนี้ คุณชายสามเย่ไม่ได้ทรมานรังแกเธอเหมือนเช่นครั้งก่อนๆ แม้ว่าเธอจะยังพูดไม่จบในเมื่อกี้ แต่เขาที่เป็นคนฉลาด ก็รับรู้โดยธรรมชาติว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดในภายหลังคืออะไร และเขาก็เข้าใจด้วยว่า สิ่งที่เธอกำลังจะพูดต่อไปคือประเด็นสำคัญ เพียงแค่ว่า โดนเขาขัดจังหวะนั้นเอง
นอกจากนี้เขายังรู้ว่า วันที่ผ่านมาเขานี้ทำเกินไป ต่อไปเขาจะอดกลั้นให้มากกว่านี้
แบบนี้ก็จะทำได้นานหน่อย
ต้องยอมรับเลยว่า คุณชายสามเย่ไม่เพียงแต่เป็นนักธุรกิจที่หาใครเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ในด้านนี้ก็ยัง “มองการณ์ไกล” ที่หาผู้ใดเปรียบเทียมไม่ได้เช่นกัน
คฤหาสน์ตระกูลเย่ เมืองA
“คุณท่าน คุณชายเย่ไปทำธุระนอกสถานที่และพาคุณหญิงไปด้วยครับ” พ่อบ้านรายงานข่าวให้กับคุณปู่เย่ฟัง
“เขาไปทำธุระนอกสถานที่ยังจะพายัยผู้หญิงโง่เซ่อซ่าคนนั้นไปทำไม?” คุณปู่เย่ได้ยินว่าเย่ซือเฉินเดินทางไปทำธุระและเขาก็พอใจมาก แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเย่ซือเฉินไปกับเย่ซือเฉินใบหน้าของเขาก็หยุดและขรึมขึ้นทันที
“คุณชายพาภรรยาไปทำธุระด้วยนั้น แสดงว่าคุณชายให้ความสำคัญกับภรรยาของเขามากครับ” พ่อบ้านรู้สึกว่าควรจะเตือนให้คุณท่านฟัง “ครั้งที่แล้ว คุณชายปกป้องคุณนายน้อยก็เพียงพอที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้ดี”
“ผู้หญิงคนนั้นน่าเกลียดอย่างกับอะไรดี โคตรโง่ อะไรก็ทำไม่เป็นสักอย่าง เป็นแต่เติมเชื้อเข้าไปในกองไฟ มีอะไรดีบ้าง?” คุณท่านคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นยิ่งรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น เหตุการณ์วันนั้นถ้าเป็นลูกสะใภ้ที่ดีก็คงไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจกัน แต่ผู้หญิงโง่คนนี้กลับเติมราดน้ำมันเข้าไปในกองไฟ
“แต่คุณชายปกป้องปกป้องคุณนายน้อย ให้ความสำคัญกับคุณนายน้อย สามารถทำให้คุณชายให้ความสำคัญกับเธอได้ ผมคิดว่าคุณนายน้อยต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ ” คำพูดของพ่อบ้านก็ตรงเข้าประเด็น
“มีอะไรพิเศษงั้นเหรอ? เธอพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ตรงที่เธอนั้นหน้าตาน่าเกลียดกว่า โง่กว่าคนอื่น ยกเว้นสองจุดนี้ฉันมองไม่เห็นสิ่งอื่นที่โดดเด่นในตัวเธอ” คุณปู่เย่ไม่อยากรับฟัง ยิ่งพูดยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
แต่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่คุณปู่เย่ต้องยอมรับ นั่นก็คือเย่ซือเฉินให้ความสำคัญกับเวินลั่วฉิงเป็นอย่างมาก ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะพาเธอไปทำธุระนอกสถานที่ทำไม
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเย่ซือเฉินถึงแต่งงานกับผู้หญิงที่น่าเกลียด โง่ และไร้ค่าคนนั้น?
เมื่อพ่อบ้านได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่ ก็ทำได้แต่เงียบ
นิสัยของคุณท่าน เขาเข้าใจดี