บทที่353 ลบเมคอัพปลอมตัวของเธอออก (5)
แต่ว่า เย่ซือเฉินรู้ว่าเธอเชื่อใจถังไป๋เชียนมาก เพราะความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาของเธอกับถังไป๋เชียน
ข้อมูลที่เขาสั่งคนไปสืบมานั้นแจ้งว่า ในตอนที่เธอยังไม่กลับมาที่ตระกูลเวินนั้น เธอกับถังไป๋เชียนก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว ถังไป๋เชียนค่อยช่วยเหลือเธอมาตลอด อีกทั้งยังสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเธอ
ในหลายปีที่อยู่ประเทศM ถังไป๋เชียนยิ่งค่อยดูแลเธอไม่ห่าง
เขารู้ดีว่าเธอเป็นคนให้ความสำคัญกับทุกคนที่รักมาตลอด เพราะฉะนั้นถังไป๋เชียนสำหรับในใจของเธอต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆ
แม้เขาจะสืบเรื่องของเธอกับถังไป๋เชียนมามากมาย แต่เขาก็รู้ความสามารถของถังไป๋เชียนดี เพราะฉะนั้นที่เขาสืบมาได้นั้นต้องไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดแน่นอน
ดังนั้น เขาจึงรู้ว่ามีเรื่องมากมายระหว่างเธอกับถังไป๋เชียน ที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้
และ จนถึงตอนนี้เขายังไม่แน่ใจ ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อถังไป๋เชียนคืออะไร
เธอจะชอบถังไป๋เชียนรึเปล่า
แม้ฐานะของถังไป๋เชียนจะไม่ดีเท่าเขา รูปร่างจะไม่ดีเท่าเขา แถมยังไม่หล่อเท่าเขาอีก แต่ถังไป๋เชียนก็ไม่ถือกับว่าแย่มาก
ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอชอบถังไป๋เชียนไหม
แต่ว่า คำถามนี้ เย่ซือเฉินไม่ได้ถามออกไป เพราะเขากลัวว่าอาจได้ยินคำตอบที่ทำให้เขากระอักเลือดได้ เพราะ เขาและเธออยู่ด้วยกันมาแค่สองเดือนเท่านั้น
แต่ถังไป๋เชียนกับเธอรู้จักกันมาตั้งสิบปี
ดังนั้น เย่ซือเฉินรู้ว่าในเมื่อไม่มีหลักฐานใดๆ หากเขาจะบอกเธอว่าถังไป๋เชียนเป็นคนขโมยโทรศัพท์เธอไป เธอต้องไปเชื่ออย่างแน่นอน
ช่างเถอะ เขาไม่อยากเป็นเพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้มาทำให้พวกเขาเกิดเรื่องขัดแย้งใดๆกัน ตอนนี้เขาต้องการอยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอเท่านั้น
และในตอนนี้เอง ก็ถึงคฤหาสน์แล้ว เฉิงจื่อขับรถมาจอดตรงหน้าประตู
เย่ซือเฉินก็รีบดึงเวินลั่วฉิงลงจากรถอย่างรวดเร็ว
เวินลั่วฉิงถูกเขาลากลงจากรถอีกครั้ง รู้สึกจนปัญญาทำอะไรไม่ได้ ไอ้คนนี้ทำไมมันไม่รู้จักอ่อนโยนหน่อยนะ
ตอนที่เวินลั่วฉิงช้อนขึ้นมองเล็กน้อย เป็นจังหวะที่เห็นหลังของเฉิงจื่อที่นั่งอยู่ข้างหน้าพอดี ทันใดนั้นก็รู้สึกคุ้นๆขึ้นมา เหมือนเคยเห็นที่ไหน เพราะตั้งแต่ขึ้นรถเย่ซือเฉินก็เปิดฉากกั้นในรถทันที เพราะแบบนี้เวินลั่วฉิงจึงไม่เห็นคนขับมาก่อน
เวินลั่วฉิงยากขยับไปข้างหน้าอีกหน่อย ให้เห็นชัดกว่านี้
“ไป เข้าบ้าน”แต่เย่ซือเฉินก็ดึงเธอไว้ทันที แล้วบังคับหมุนตัวเธอ พาเธอเดินจากไป
พอเดินมาถึงนอกประตูใหญ่ เสียงโทรศัพท์ของเย่ซือเฉินก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ลูกพี่ ผมเจอถังไป๋เชียน อยู่ที่สนามบิน เขาน่าจะต้องการไปจากเมืองA ถังไป๋เชียนออกจากสนามบินอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลยเช่นนี้ มันน่าแปลกใจนะครับ ลูกพี่ ยังมีอะไรจะให้รับใช้อีกไหมครับ”
“ให้มันไสหัวไปซะ”เย่ซือเฉินในตอนนี้ไม่อยากได้ยินถังไป๋เชียนสามคำนี้ ก่อนหน้านี้เวินลั่วฉิงเคยบอกไว้ว่าจะไปส่งถังไป๋เชียน เพราะฉะนั้นตอนนี้ได้ยินกู้หวูบอกว่าถังไป๋เชียนจะไปแล้ว เขาจึงไม่แปลกใจแต่อย่างใด
เขาอยากให้ถังไป๋เชียนรีบไสหัวออกไปจากเมืองAใจจะขาด ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี ดีที่สุดก็อย่าโผล่หน้ามาเจอเวินลั่วฉิงตลอดไป
ครั้งนี้ เย่ซือเฉินยกโทรศัพท์มาแนบหูซ้าย เวินลั่วฉิงอยู่ด้านขวาของเขา เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ได้ยินว่าคนในสายพูดอะไร
ในใจเวินลั่วฉิงแอบคิด ว่าคนที่สามารถทำให้เย่ซือเฉินพูดว่าให้มันไสหัวไปซะหกคำนี้ได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
“อือ รับทราบครับ”กู้หวูได้ฟังที่ลูกพี่ตัวเองพูดแล้ว ก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างหนัก ลูกพี่คงเกลียดชังถังไป๋เชียนมากจริงๆ
ถังไป๋เชียนอยู่ในสนามบิน กู้หวูคิดว่าแค่พบกันโดยบังเอิญ แต่ที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ถังไป๋เชียนตั้งใจจะให้พวกเขาเห็นถังไป๋เชียน ส่วนเด็กสองคนนั้นเขาได้จัดการเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาต้องไม่รู้เรื่องเด็กทั้งสองอย่างแน่นอน
เย่ซือเฉินวางสายเสร็จ ก็เปิดประตูบ้าน ลากเวินลั่วฉิงขึ้นไปชั้นบน ตรงไปที่ห้องนอนเวินลั่วฉิงทันที
ในเมื่อเธอพูดว่าน้ำยาที่สามารถเช็ดการเมคอัพปลอมตัวได้อยู่ในบ้าน งั้นก็ต้องอยู่ในห้องเธออย่างแน่นอน ครั้งนี้ เขาจะไม่ให้โอกาสเธอได้หลบหนีอีก
“น้ำยาอยู่ไหน”ตอนนี้ คุณชายสามเย่ไม่ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นรีบร้อนเลยก็ว่าได้
“ห้องน้ำ”เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของเขาดี จิกตามองเขาทีหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
คุณชายสามเย่ผลักเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้วตัวเองยืนอยู่ข้างกายเธอ พูดเร่ง “ให้มันไวๆ”
ในขณะนี้ เขายอมรับว่าเขานั้นรีบร้อน ตั้งหน้าตั้งตารอ จนถึงขั้นเกิดความตื่นเต้นก็ว่าได้ เมื่อคิดว่าจะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอในเร็วๆนี้ จู่ๆก็รู้สึกว่าหัวใจเขานั้นเต้นผิดจังหวะขึ้นมา
เวินลั่วฉิงถอนหายใจอย่างไร้เสียง จากนั้นก็หยิบขวดเล็กๆอันหนึ่งออกมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง เทน้ำยาเหลวออกมา มาถูใบหน้าเธอ
ตอนนี้ ขวดเล็กๆที่เวินลั่วฉิงหยิบออกมาดูเหมือนกับบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นๆไม่มีผิด คนที่ไม่รู้มาก่อนจะไม่รู้ว่ามีอันหนึ่งในนั้นที่แตกต่างเหมือนขวดอื่นๆ
คุณชายสามเย่หรี่ตาลง ผู้หญิงคนนี้ซ่อนเก่งจริงๆ
แต่ว่า ตอนนี้เขาจะไม่ถือสาเรื่องพวกนี้กับเธอ
ตั้งแต่ตอนที่เวินลั่วฉิงเทน้ำยามาเช็ดหน้านั้น สายตาของคุณชายสามเย่ก็จ้องหน้าเวินลั่วฉิง ไม่แม้แต่จะกะพริบ เขาไม่อยากพลาดรายละเอียดใดๆทั้งนั้น
เขารอคอยปาฏิหาริย์จะปรากฏขึ้น
หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที
หนึ่งนาที สองนาที สามนาที……
ปาฏิหาริย์ที่คุณชายสามเย่รอคอยก็ไม่ปรากฏออกมาให้เห็น
ใบหน้าของเวินลั่วฉิงไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
ตอนที่เวินลั่วฉิงมองดูตัวเองในกระจกนั้น ก็นิ่งอึ้งเล็กน้อย เฮ้ย ประหลาด ทำไมล้างไม่ออกนะ
ปกติเธอใช้น้ำยานี้มาตลอด แถมน้ำยานี้ยังสามารถล้างการอำพรางเกือบทั้งหมดได้
น้ำยาไม่เป็นของปลอมอยู่แล้ว กลิ่นอะไรก็เป็นเหมือนเดิม
ถ้างั้นก็เป็นไปได้อย่างเดียวว่า……
“คุณสามี ล้างไม่ออก”เวินลั่วฉิงแอบหายใจเข้าลึกๆ ไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากให้เย่ซือเฉินเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ แต่ตอนนี้ล้างไม่ออกจริงๆ เธอก็ไม่มีวิธีจะทำอะไรได้
“เวิน ลั่ว ฉิง”เย่ซือเฉินหรี่ตามองอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกลิ่นอายแห่งความอันตรายนั้นที่ราวกับจะทำให้คนขาดหายใจตายได้ทันทีก็พุ่งออกมา เขาเน้นย้ำเรียกชื่อเธออย่างชัดถ้อยชัดคำ แถมยังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดและโมโห ราวกับจะฉีกเธอออกไปชิ้นๆไปเลย
เขารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ตกลงง่ายๆแน่ ที่แท้เธอก็ต้องการมาไม้นี้เอง
เพียงแต่ เธอคิดว่าเขาสามารถหลอกง่ายขนาดนั้นงั้นเหรอ
เวินลั่วฉิงมองแววตาที่ราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ของเขาในตอนนี้แล้ว ในใจสั่นด้วยความกลัวเบาๆ ร่างกายก็เหมือนจะหดเล็กลงทันที แต่ เธอคือผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้เรื่องจริงๆนะ
“คุณสามี ล้างไม่ออกจริงๆ”เวินลั่วฉิงพูดพลางใช้มือถูแรงๆบนหน้าเธอ
“เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ”น้ำเสียงในตอนนี้ของเย่ซือเฉินนั้นราวกับมีความเยือกเย็นเผยออกมา ร่างของเขาขยับเข้ามาใกล้เธอ
ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เลยไม่มีที่ให้หลบซ่อน
เขาตามเข้ามาบีบคั้นใกล้เช่นนี้ เลยทำให้ตัวเธอไปชิดกับโต๊ะเครื่องแป้ง
“เอาน้ำยาปลอมมาหลอกฉันเหรอ หา”
สายตาเย่ซือเฉินจ้องมองเธอไม่กะพริบ ทั้งมีความดุดัน และความโมโหอยู่ในนั้น