บทที่357 เหตุการณ์พลิกผัน จนน่าตะลึง(2)
หากคุณปู่เย่พบกับคุณปู่เข้าในงานเลี้ยง ไม่รู้จะจงใจหาเล่นคุณปู่รึเปล่า
แต่ต่อมาเวินลั่วฉิงก็คิดได้ว่าคุณปู่นั้นอยู่ในแวดวงธุรกิจการค้าขายมายาวนานหลายปีแล้ว ก็ต้องไม่ใช่คนที่ถูกรังแกได้ง่ายๆแน่ และเธอก็รู้ว่าคุณปู่เย่นั้นมีพันมีหมื่นในความไม่พอใจในตัวเธอ เพราะฉะนั้นคุณปู่เย่ต้องไม่เอ่ยเรื่องที่เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉินออกมาเองแน่นอน
คุณปู่เวินถอนหายใจเบาๆ สุดท้ายก็ไม่บังคับเธออีก
“คุณปู่ หนูสั่งคนออกแบบเครื่องประดับให้คุณย่าเหอเซตหนึ่งค่ะ ทีแรกอยากให้เป็นของขวัญในวันแต่งงานของปู่ย่าทั้งสอง แต่คุณปู่คุณย่าแต่งงานกันด่วนไปหน่อย เครื่องประดับเพิ่งจะทำเสร็จในตอนนี้ ตอนนี้หนูจะฝากคนส่งไปให้นะคะ คุณย่าเหอจะได้ใส่ในงานเลี้ยงคืนนี้พอดีเลย”เวินลั่วฉิงพูดเปลี่ยนประเด็นทันที
“เป็นหนูที่ออกแบบเองรึเปล่า”คุณปู่เวินชะงักนิ่งไป จู่ๆก็หัวเราะออกมา”คราวก่อนที่ปู่เข้าห้องหนูนั้นได้เห็นผลงานที่วาดออกแบบของหนู เยี่ยมมาก ปู่รู้สึกปลาบปลื้มใจสุดๆ แน่นอน น้ำใจของเธอทำให้ปู่ปลาบปลื้มใจยิ่งกว่า
เวินลั่วฉิงไม่ได้โต้ตอบ ในเมื่อคุณปู่เห็นแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธอีก
“ฉิงฉิง ปู่ขอบใจหนูมากนะ”ใบหน้าคุณปู่เวินเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจ ฉิงฉิงบ้านเขารู้เป็นคนมีเหตุมีผลมาก และใส่ใจมาก
เพราะเรื่องที่เขาแต่งงานอีกรอบ ลูกชายเขา ลูกสะใภ้จนถึงตอนนี้ก็ยังแน่วแน่ไม่ยอมรับ
ก็มีเพียงฉิงฉิงที่เข้าใจเขา รู้จักเป็นห่วงเป็นใยเขา
คุณปู่เวินเอาเครื่องประดับที่เวินลั่วฉิงสั่งคนส่งมาให้ เปิดออกมาดู ทีแรกที่เห็นเขาก็ตะลึงงันไปทันที เขาเคยเห็นผลงานออกแบบของเวินลั่วฉิงมาก่อน แต่นั่นเป็นเพียงภาพร่างเท่านั้น แถมเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น วันนี้เครื่องประดับทั้งเซตมาวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาถึงได้รู้ว่าฉิงฉิงบ้านเขานั้นเก่งมาก และยอดเยี่ยมมาก
“ซิ่วผิง เธอมาลองเครื่องประดับเซตนี้ดูสิ”คุณปู่เวินได้สติกลับมาก็รีบเอ่ยเรียกภรรยาตัวเองซ้ำๆ
เหอซิ่วผิงเดินเข้ามา เห็นเครื่องประดับเซตนั้นก็ตะลึงงันไปทันที นัยน์ตาเธอมีความตะลึงปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่หลังจากนั้นใบหน้าก็สลดหดหู่ลง “เครื่องประดับนี้ต้องแพงมากแน่ ฉันใส่มันจะดูไม่เหมาะ”
เธอรู้ดีว่าอยู่ในบ้านนี้ มีคนมากมายที่ไม่ชอบเธอ มองเธอขัดหูขัดตา ดังนั้นเธอคิดว่าจะทำอะไรก็ควรไม่ทำตัวเป็นจุดเด่นมากที่สุด จะได้ไม่ทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจอีก เธอไม่อยากให้คุณปู่เวินลำบากใจ
“เครื่องประดับชุดนี้ยังไงเธอต้องใส่ นี่ฉิงฉิงเป็นคนออกแบบให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ”คุณปู่เวินทราบดีว่าเธอคิดอะไรอยู่ ตอนเขามองเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน
“ฉิงฉิงเป็นคนออกแบบให้ฉันเหรอคะ”จู่ๆดวงตาเหอซิ่วผิงก็เป็นประกาย ใบหน้าก็ปรากฏความตื่นเต้นดีใจขึ้นมา “ฉิงฉิงออกแบบให้ฉันโดยเฉพาะเหรอเนี่ย ฉิงฉิงเด็กคนนี้ช่างเป็นคนอบอุ่นใส่ใจคนอื่นจริงๆ เครื่องประดับนี้สวยจริงไปเลยค่ะ ฉิงฉิงเก่งมากๆเลยนะคะ”
เหอซิ่วผิงรู้สึกตื้นตันจนพูดจาสะเปะสะปะเล็กน้อย
“มา ลองใส่ดูสิ”คุณปู่เวินหยิบเครื่องประดับออกมา ใส่ให้เธอด้วยตัวเอง
เหอซิ่วผิงพอนึกถึงว่านี่คือน้ำใจที่ฉิงฉิงมอบให้ แถมเธอก็ชอบเครื่องประดับเซตนี้มากๆด้วย จึงไม่อยากปฏิเสธอีก
“สวยจัง แถมยังเข้ากับบุคลิกเธอมากๆเลย ฉิงฉิงยัยเด็กคนนี้ช่างตั้งใจจริงๆ”คุณปู่เวินช่วยใส่เครื่องประดับให้เหอซิ่วผิงเสร็จ ใบหน้าก็มีความตะลึงเกิดขึ้น
“อือ ช่างดูสวยมากจริงๆ”เหอซิ่วผิงยิ่งดูก็ยิ่งชอบเช่นกัน ราบกับดวงใจถูราดด้วยน้ำผึ้ง ที่ช่างหวานยิ่งนัก
เมื่อคุณปู่เวินพาเหอซิ่วผิงมาถึงโรงแรมที่จัดงานเลี้ยง คนยังมากันไม่มา คุณท่านฉิงก็มาต้อนรับอย่างอบอุ่น คุณปู่เวินกับคุณท่านฉิงเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลยทีเดียว
คุณท่านฉิงวันนี้เป็นเจ้าของงาน เลยมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ คุณปู่เวินคุยกับเขาไม่กี่ประโยค ก็พาเหอซิ่วผิงเดินไปหาที่เงียบไปนั่งแล้ว
“คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็มาแล้ว”เวลาค่อยๆเดินไป คนยิ่งนานยิ่งเยอะ จู่ๆประตูทางเข้าโรงแรมก็การเสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นมา
ทุกคนต่างได้ยินการเคลื่อนไหวที่ดังนี้ ต่างก็ลุกขึ้นมา แล้วคิดหาวิธีไปหาโอกาสไปทักทาย เพราะตระกูลเย่ในเมืองA นั่นคือทำให้ทุกคนอยู่แบบไม่สนใจไม่ได้
คุณปู่เวินยังนั่งกับเหอซิ่วผิงที่เดิมไม่เปลี่ยน เขารู้ว่าเหอซิ่วผิงไม่ค่อยคุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้พาเธอไปเบียดดูความคึกคักนั้น
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เดินเข้ามาอยู่ในศูนย์กลางที่ทุกคนล้อมรอบ โดยเฉียวหยูหนานยืนข้างคุณหญิงเย่ ใบหน้ามีความประหลาดใจเล็กน้อย กลับมีความครุ่นคิดมากกว่า
หลังจากที่คุณปู่เย่เดินเข้ามาแล้ว ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ ได้หันไปมองตรงที่คุณปู่เวิน จากนั้นก็เดินไปหา
“คุณปู่เย่ คุณหญิงเย่”คุณปู่เวินเห็นคุณปู่เย่เดินมาทางเขา แต่เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก เพราะฉะนั้นคุณปู่เวินจึงลุงขึ้นมาทักทาย โดยท่าทีสบายๆ ไม่มีการประจบประแจงใดๆทั้งสิ้น
“ฮึ”คุณปู่เย่จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงหึเย็นชาออกมา กิริยาท่าทางนั้นบอกได้เลยว่าไม่เป็นมิตร คุณปู่เย่ในตอนนี้สามารถบอกได้เลยว่าไม่ไว้หน้าคุณปู่เวินแม้แต่น้อย
ทีแรกงานเลี้ยงแบบนี้ ทุกคนมีเรื่องไม่พอใจอะไรกัน ก็จะไม่แสดงออกมาโดยตรง แต่ตอนนี้คุณปู่เย่นั่นกลับแสดงออกมาอย่างชัดเจนที่สุด
ทุกคนต่างก็ อึ้งไปทันที ไม่เข้าใจว่าคุณปู่เย่ทำแบบนี้เพราะอะไร ในเมื่อตระกูลเย่กับตระกูลเวินเหมือนจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ดังนั้นท่าทีของคุณปู่เย่จึงน่าสงสัยมาก
สีหน้าคุณปู่เวินหม่นลงเล็กน้อย ในดวงตาคู่นั้นมีความเยือกเย็นซ่อนอยู่ ที่เขาทักทายมันเป็นเพราะความมีมารยาทต่อสถานที่แบบนี้ ไอ้ตาเฒ่าตระกูลเย่นี้มันจงใจจะทำให้เขาเสียหน้าใช่ไหม
“วันนี้คุณย่าเย่ตั้งใจพาเฉียวหยูหนานมางานเลี้ยงโดยเฉพาะ มีความหมายพิเศษอะไรไหมครับ หรือว่าคุณชายสามเย่จะมีข่าวดีในเร็วๆนี้แล้วครับ”คุณท่านฉิงรีบเปลี่ยนประเด็นทันที ถือเป็นการสอดรู้อย่างจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง เพราะการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีของตระกูลเย่อาจทำให้ธุรกิจในเมืองAนั้นเกิดเปลี่ยนแปลงได้ เข้าใจสถานการณ์ยิ่งไว้ ก็เริ่มเตรียมการได้เร็วยิ่งขึ้น
“เฉินเฉินของพวกฉันหากจะแต่งงาน ก็ต้องแต่งกับเฉียวหยูหนานที่สวยแถมใจกว้าง เฉลียวฉลาด เป็นผู้หญิงที่มีทั้งสวยและฉลาด”คำพูดนี้ของคุณย่าเย่แม้จะไม่เอ่ยไปตามตรง แต่ก็สื่อความหมายเป็นนัยๆ คุณย่าเย่ละเว้นคำพูดไว้ชั่วขณะ จากนั้นก็หันไปมองคุณปู่เวิน แล้วรีบพูดเสริมอีกประโยคหนึ่งทันที “ไอ้คนพวกที่ทั้งโง่ทั้งขี้เหร่นั้นอย่าแม้แต่จะคิดเด็ดขาด”
ถึงแม้คุณย่าเย่จะไม่ได้พูดไปตามตรง แต่การเจาะจงเป้าหมายนั้นชัดเจนมาก แถมใครๆต่างก็รู้ว่าคุณหนูใหญ่เวินลั่วฉิงแห่งตระกูลเวินหน้าตาขี้เหร่ แถมคนก็โง่ ฉะนั้นคำพูดนี้ของคุณย่าเย่พูดออกมา ทุกคนต่างก็ทราบว่าคุณย่าเย่นั้นหมายถึงใคร
เพียงแต่ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคุณย่าเย่ถึงพูดแบบนี้ออกมา
แต่ว่าท่าทีของคุณปู่เย่ก่อนหน้านั้น ตอนนี้มาบวกกับคำพูดของคุณย่าเย่
เรื่องนี้…….