บทที่ 370 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (11)
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขากับภรรยาต่างก็ถูกชะตานังหนูคนนี้ก็ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะยอมปล่อยให้คนอื่นรังแกนังหนูคนนี้ต่อหน้าเขาได้อย่างไร
เวินลั่วฉิงหัวเราะเบาๆ คำพูดนี้ของท่านปู่ถังเป็นคำพูดที่เธอเตรียมจะพูดก่อนหน้านี้
“ท่านถัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก แกอย่ามายุ่งให้มาก” เห็นได้ชัดว่า ท่านปู่กู้อับอายจนกลายเป็นโกรธเล็กน้อยแล้ว เดิมทีเขานึกว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครกล้าท้าทายความต้องการของเขา
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันกำลังจะหลอกนังหนูคนนี้ ไม่ จะพากลับบ้านไปเป็นเมียของถังหลินบ้านฉัน ดังนั้น เธอก็คือคนของตระกูลถังเรา” ท่านย่าถังเดินตรงไปตรงหน้าเวินลั่วฉิง ปกป้องเวินลั่วฉิงเหมือนแม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบ
ท่านย่าถังไม่รู้ว่า ความจริงแล้วมีคำพูดหนึ่งของเธอในตอนนี้ที่พูดถูกจริงๆ
จู่ๆในใจของเวินลั่วฉิงก็มีความรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เพียงแต่ว่าฟังคำพูดของท่านย่าถังแล้วก็อดนึกขำขึ้นมาในใจไม่ได้
หลอกเธอกลับไปให้ถังหลินทำเมีย? เรื่องนี้ฟังดูแล้วสยองขวัญเล็กน้อย
คุณย่าเย่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เย่ซือเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิง เธอไม่พอใจเป็นพันเป็นหมื่น ท่านย่าถังยังคิดจะพาเวินลั่วฉิงกลับบ้านไปเป็นเมียของถังหลิน?
ท่านย่าถังคนนี้คิดอย่างไร? หรือว่าท่านย่าถังจะตาบอด?
จางเย่วผิงมองไปทางท่านย่าถังจู่ๆเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “เธอวางยาพิษชิ่งซินของฉัน เรื่องนี้จะให้แล้วไปอย่างนี้ไม่ได้แน่นอน ท่านย่าถัง คุณต้องพูดเหตุผลด้วย”
“พูด เหตุผลต้องพูดแน่นอนอยู่แล้ว ชิ่งซินเป็นลมหมดสติไปใช่ไหม ได้ ฉันเรียกโจ๋วอันหนานมาตรวจให้เขา ทักษะทางการแพทย์ของโจ๋วอันหนานพวกคุณน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แน่นอน ถ้าเธออยากจะได้แพทย์นิติเวช ฉันก็จะเรียกเมิ่งเฟยมาให้เธอ ฝีมือนั้นถือได้ว่าระดับหนึ่งแน่นอน” คำพูดนี้ของท่านย่าถังฟังดูโหดไปหน่อย แพทย์นิติเวชนั้นทำหน้าที่ชันสูตรศพ
“ชิ่งซินของฉันยังไม่ตายนะ นี่คุณกำลังแช่งชิ่งซินของฉันเหรอ?” ร่างกายของจางเย่วผิงสั่นเทา
“ออ ที่แท้ก็ยังไม่ตาย ในเมื่อคนยังไม่ตาย มีสิทธิ์อะไรมาจับกุมนังหนูของฉันโดยพลการ” ตอนนี้เวินลั่วฉิงถูกท่านย่าถังบอกว่าเป็นนังหนูตระกูลถังไปเลยโดยตรง
สายตาของเวินลั่วฉิงมองไปทางกู้ชิ่งซิน พบว่านิ้วมือของกู้ชิ่งซินขยับเล็กน้อย เวินลั่วฉิงแอบยิ้มเย้ยหยันในใจ เขาแกล้งทำเป็นหมดสติจริงๆด้วย!
คนตระกูลกู้แต่ละคน ‘ยอดเยี่ยม’ ยิ่งกว่าแต่ละคนจริงๆ!
เวินลั่วฉิงเห็นโต๊ะที่อยู่ข้างหลังมีส้อมวางอยู่คันหนึ่งพอดี เมื่อกี้น่าจะมีคนกินอาหารแล้วไม่ได้เก็บไปด้วย
เวินลั่วฉิงอาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่ทันระวัง หยิบเอาส้อมคันนั้นมา จากใต้โต๊ะ แทงส้อมคันนั้นเข้าไปบนตักของกู้ชิ่งซินโดยตรง การแทงครั้งนี้เธอแทงลงไปอย่างแรง ไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่น้อย
“อ๊ากก” กู้ชิ่งซินได้รับความเจ็บปวดกะทันหัน ร้องตะโกนและกระโดดขึ้นมาโดยตรง จ้องมองเวินลั่วฉิงอย่างดุเดือด “เธอ ผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ เธอใช้ส้อมแทงฉันทำไม?”
เป็นเพราะเมื่อกี้เขาแพ้ได้อนาถเกินไป รู้สึกว่าไม่มีหน้าไปเจอผู้คน จากนั้นเลยคิดว่าจะแกล้งทำเป็นหมดสติ จากนั้นก็ได้ยินว่าปู่ของเขาจะจับผู้หญิงคนนี้ขังเอาไว้ กำลังแอบได้ใจอยู่ในใจเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะใช้ส้อมแทงเขา และยังแทงได้แรงขนาดนั้น
“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” เวินลั่วฉิงกางมือที่ว่างเปล่าออก ทำหน้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ตอนนี้ส้อมยังคาอยู่บนตักของกู้ชิ่งซิน เมื่อกี้ไม่มีใครเห็นว่าเธอเป็นคนลงมือ เธอจะไม่ยอมรับ ทำไมเหรอ?
ให้พวกเขาอกแตกตาย
“เธอ? เธอ?” กู้ชิ่งซินถูกอุดเอาไว้จนพูดอะไรไม่ออก
“เมื่อกี้คุณหมดสติไปไม่ใช่เหรอ? ยังสามารถรู้ได้ด้วยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นใต้โต๊ะ? ดังนั้น คุณอย่ามาปรักปรำฉันนะ” เวินลั่วฉิงทำหน้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่เสริมมาอีกคำหนึ่ง “พวกคุณตระกูลกู้ขาดความยุติธรรมและเห็นแก่ตัว กลัวว่าฉันจะออกไปไม่ได้แล้ว”
ท่านปู่ตระกูลกู้ได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิง ใบหน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันที นังเด็กเวรนี่ นี่คือไว้หน้าไม่เอาหน้าใช่ไหม
เพียงแต่ว่า ประโยคต่อมาของเวินลั่วฉิงกลับทำให้ท่านปู่กู้ตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง
เวินลั่วฉิงลุกขึ้นยืน แล้วบิดขี้เกียจ
เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เหลือบมองไปที่กู้ชิ่งซินที่กระโดดโลดเต้นด้วยความเจ็บ
จากนั้นก็มองไปทางท่านปู่กู้ช้าๆ จากนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างไม่แยแสว่า “กู้เจิ้งหลุนเป็นคนตระกูลกู้หรือเปล่า?”
“เธออยากจะพูดอะไร?” ท่านปู่กู้ได้ยินว่าจู่ๆเธอก็พูดถึงกู้เจิ้งหลุน แววตาเป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะหนึ่งไม่เข้าใจความหมายของเธอ
“คดีของกู้เจิ้งหลุนในประเทศ M เมื่อสองปีก่อน……” เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดจนจบ แต่เธอรู้ว่าท่านปู่กู้จะเข้าใจ
ตอนนั้นเรื่องในประเทศ M ของกู้เจิ้งหลุนมีคนรู้แค่ไม่กี่คน นอกจากคนตระกูลกู้แล้วเมือง A ไม่มีคนรู้
สองปีก่อนกู้เจิ้งหลุนฆ่าข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งที่ประเทศ M ครอบครัวของเหยื่อในคดีนั้นหาทนายความที่เก่งมากมาคนหนึ่ง คนตระกูลกู้ติดสินบนทนายความคนนั้นไม่สำเร็จ เลยติดสินบนคนข้างกายของทนายความคนนั้นและพยานฝั่งผู้เสียหายร่วมกันใส่ร้ายทนายความคนนั้น
สุดท้ายไม่เพียงแต่แพ้คดีเท่านั้น ทนายความคนนั้นยังถูกเพิกถอนใบอนุญาตอีกด้วย
หลังจากนั้น ครอบครัวของผู้เสียหายได้รับเงินจำนวนมากมาจากตระกูลกู้ เลยเปลี่ยนคำให้การว่าผู้หญิงคนนั้นกับกู้เจิ้งหลุนเป็นแฟนกัน บอกว่าหญิงสาวเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกะทันหัน
ดังนั้น ตอนนั้นทนายความคนนั้นทำดีไม่ได้ดี
ตระกูลกู้กลับยังไม่พอใจ สุดท้ายยังจ้างคนสร้างอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นมา ชนทนายความคนนั้นจนตาย
ทนายความคนนั้นกับเวินลั่วฉิงเคยพบหน้ากันสองสามครั้ง เป็นคนเที่ยงธรรมที่หาได้ยากคนหนึ่ง ดังนั้นตอนนั้นเธอเคยตรวจสอบคดีนี้ ตระกูลกู้ทำงานได้โหดเหี้ยมและเด็ดขาดมากจริงๆ คนขับรถที่ขับรถชนคนในตอนนั้นขับรถชนทนายความคนนั้นลงหน้าผาไปโดยตรง และคนขับก็ขับรถตรงดิ่งลงหน้าผาไปเหมือนกัน
ตอนนั้นตระกูลกู้ปิดข่าวทั้งหมดเอาไว้ คนทั่วไปไม่มีทางรู้เด็ดขาด
ตอนนี้จู่ๆเวินลั่วฉิงก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ท่านปู่กู้อึ้งไปโดยตรง ในแววตาที่หรี่ลงคู่นั้นมีความหวาดผวาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?
เธอรู้เรื่องเมื่อสองปีก่อนได้อย่างไร? คนที่สามารถรู้เรื่องเมื่อสองปีก่อนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ท่านปู่กู้ก็รู้ว่าคนที่พอจะมีอำนาจในประเทศ M เขาแตะต้องไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ระวังเอาไว้ไม่ได้
เวินลั่วฉิงรู้ว่าสิ่งที่เธอต้องการบรรลุผลแล้ว ก็ไม่อยากจะไปสนใจท่านปู่กู้อีก
“เวินลั่วฉิงขอบคุณท่านปู่ถัง ขอบคุณท่านย่าถัง” เมื่อเวินลั่วฉิงมองไปทางท่านปู่ถังกับท่านย่าถัง ก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาเบาๆ ไม่รู้ว่าทำไม เธอเห็นผู้สูงวัยสองคนนี้แล้วรู้สึกสนิทชิดเชื้อมากเป็นพิเศษ รู้สึกอยากยิ้มขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว
“นังหนู ไม่ต้องเกรงใจ” ท่านย่าถังยิ้มประหนึ่งดอกไม้ แววตาเป็นประกายขึ้นมา จู่ๆก็พูดออกมากะทันหัน “นังหนู ข้อเสนอของฉันเมื่อกี้หนูจะรับไว้พิจารณาหน่อยได้ไหม?”
เจอกับสายตาที่รออย่างใจจดใจจ่อของท่านย่าถัง รอยยิ้มมุมปากของเวินลั่วฉิงก็ยิ่งลึกมากขึ้นเล็กน้อย เธอทนที่จะปฏิเสธท่านย่าถังโดยตรงไม่ได้จริงๆ ดังนั้นจึงใช้วิธีพูดที่นุ่มนวลที่สุดแต่ก็ฟังดูน่าเชื่อถือที่สุดอีกด้วย “ถังหลินไม่แต่งงานกับฉันหรอกค่ะ”
ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเย่ซือเฉิน และถังหลินกับเย่ซือเฉินก็เป็นพี่น้องกัน ถังหลินไม่มีทางทำเรื่องแย่งภรรยาพี่น้องเด็ดขาด ดังนั้น ถังหลินไม่มีทางแต่งงานกับเธออย่างแน่นอน
ถังหลินไม่แต่ง เรื่องนี้ก็ไม่ต้องพูดถึงอีก