บทที่ 662 หญิงสำส่อนรนหาที่ ผลที่เกิดขึ้นน่าสะพรึงกลัวมาก (4)
อีกสองคนยกตัวเวินหรวนหรวนขึ้น จากนั้นก็เดินไปที่รถตู้ข้างทางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนเวินหรวนหรวนเข้าไป
เวินลั่วฉิงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับตลอด เห็นได้ชัดว่าผู้ชายสามคนนั้นคิดว่าเธอเป็น ‘พวกเดียวกัน’ฉะนั้นจึงไม่ได้สนใจเธอ
ชายสามคนนี้ใส่หน้ากาก มองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขา แต่หุ่นทั้งสามกำยำ เวินลั่วฉิงจดจำรูปร่างและท่วงท่าการเดินของพวกเขา
เวินลั่วฉิงเห็นพวกเขาขึ้นรถเสร็จ รถก็เคลื่อนตัวไปเลย ซึ่งแสดงว่าในรถยังมีคนขับอีกคน
เห็นทีพวกเขามีสมาชิกไม่น้อยเลย
ตอนแรกรถของพวกเขาจอดข้างต้นไม้ ป้ารถทะเบียนจึงถูกบดบัง ตอนที่รถเริ่มขับเคลื่อน ยังไม่ได้ออกไป เวินลั่วฉิงก็เห็นหมายเลขทะเบียนรถ
เมื่อรถขับออกไป เวินลั่วฉิงก็เอามือถือออกมาแจ้งความ
เวินลั่วฉิงรู้ว่าหากเมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เธอไหวพริบเร็ว คนที่ถูกจับในตอนนี้ก็ต้องเป็นเธอ
อย่างน้อยพวกเขาต้องมีสี่คน ผู้ชายสี่คน ร่างกายกำยำ คงต้องมีพลังกำลังเยอะมากๆ ไม่แน่อาจจะมีพรรคพวกอื่นอีกก็ได้
ถึงแม้เธอก็เคยฝึกฝนวิชาต่อสู้เช่นกัน แต่ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา หากเธอคาดเดาไม่ผิด ในรถของพวกเขายังมีอาวุธอีกด้วย
สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เธอทำได้ก็คือแจ้งความ
เดิมที่ก็เป็นแผนการของหลี่หยุนกับเวินหรวนหรวนที่สมคบคิดร่วมกันทำร้ายเธอ เมื่อสักครู่เวินหรวนหรวนก็จงใจล่อเธอมาด้านนี้
เพื่อให้จับตัวเธอ ดังนั้นเวลานี้ เวินลั่วฉิงก็ไม่อาจไปเสี่ยงอันตรายเพื่อเวินหรวนหรวนได้
เธอช่วยเวินหรวนหรวนแจ้งความก็ถือว่าบุญแล้ว
แน่นอน ตอนนี้เวินลั่วฉิงก็ยังคงไม่รู้ว่าหลี่หยุนให้คนจับตัวเธอไปแล้วจะทำอะไรกันแน่?
เวินลั่วฉิงคิดว่า คนนั้นจับเธอได้ คงต้องติดต่อกลับหลี่หยุนทันทีแน่ๆ
พอถึงเวลานั้น หลี่หยุนรู้ว่าพวกเขาจับตัวเวินหรวนหรวน ซึ่งจับผิดคน แผนการล้มเหลวไม่เป็นท่า คนพวกนั้นก็ต้องปล่อยตัวเวินหรวนหรวน เวินหรวนหรวนคงไม่มีอันตรายอะไรหรอก
แต่เวินลั่วฉิงหวังความตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว สามารถจับตัวคนพวกนั้นได้
ตอนที่เวินลั่วฉิงแจ้งความ ไม่เพียงแต่บอกหมายเลขทะเบียนรถเท่านั้น ยังอธิบายถึงจุดเด่นของผู้ร้ายด้วย ถึงแม้จะไม่เห็นหน้า แต่บางครั้งลักษณะเฉพาะของรูปร่างก็เป็นเบาะแสสำคัญมากทีเดียว
แต่เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าป้ายทะเบียนนั้นเป็นของปลอม ยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนั้นเป็นยึดเป็นอาชีพหลัก จึงเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง ตอนออกไปก็สามารถเลี่ยงกล้องวงจรปิดได้อย่างแนบเนียน
ฉะนั้นตำรวจไม่อาจจับตัวพวกเขาได้ในเวลาอันสั้น
เวินลั่วฉิงก็ประเมินคุณธรรมของหลี่หยุนสูงเกินไป
หลังผู้ร้ายพวกนั้นจับตัวคนได้ ขับรถออกมาได้สักพักก็โทรหาหลี่หยุน!
พวกเขาบอกหลี่หยุนว่าจับคนได้แล้ว
หลี่หยุนได้ยินจับได้แล้วก็ดีใจมากมาย จากนั้นก็สั่งให้พวกเขาทำตามแผนการ ให้พวกเขาถ่ายวิดีโอ จากนั้นก็เอาไปลงในโซเชียล
หลี่หยุนอยากทำให้เวินลั่วฉิงชื่อเสียงป่นปี้
หลี่หยุนไม่มีกะจิตกะใจไปมองแม้แต่แวบเดียว เธอไม่ได้ถามรายละเอียดเสียด้วยซ้ำ เธออดรนทนไม่ไหว อยากให้เวินลั่วฉิงเหมือนตายทั้งเป็น มีสภาพที่น่าโศกเศร้า
ดังนั้นเธอไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี!
หลังวางสาย หลี่หยุนยิ้มอย่างได้ใจ“พวกเขาจับตัวเวินลั่วฉิงได้แล้ว ต่อจากนี้เวินลั่วฉิงเจอดีแน่ ตอนนี้เพิ่งจะเที่ยงคืน ยังมีอีกหลายชั่วโมงกว่าฟ้าจะสว่าง ถึงพรุ่งนี้เช้า ถูกผู้ชายพวกนั้นย่ำยีหลายชั่วโมง ถึงเวินลั่วฉิงยังมีชีวิตอยู่ ก็คงไม่มีหน้าไปพบคนแล้ว”
“พวกเขามีทั้งหมดกี่คน?”เวินจีหยันกะพริบตา อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้
“ทำไม?คุณสงสารเหรอ?”หลี่หยุนจ้องถลึงเขาแวบหนึ่งด้วยแววตามืดครึ้ม
“ขี้เหร่ที่ไม่มีอะไรดี ผมจะสงสารทำไม?ผมก็แค่ถามดู อยากรู้ว่าพวกเขามีกันกี่คน?”ใบหน้าเวินจีหยันเผยความรังเกียจอยู่หลายส่วน และมีความตื่นเต้นที่ผิดแปลกหลายส่วน
หลี่หยุนเห็นสีหน้าตื่นเต้นของเขา ก็เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ มุมปากหลี่หยุนอดยกขึ้นไม่ได้
“ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดหรอก แต่ฉันรู้ว่าอย่างน้อยต้องมีสิบคน ผู้ชายพวกนั้นล้วนเป็นเทพบุตรซาตาน จิตใจอำมหิต ฝีมือร้ายกาจ
ไม่ใช่พวกอ่อนโยนและทะนุถนอมหญิงงามเด็ดขาด ถูกพวกเขาเสพสุขไปหลายชั่วโมง คาดว่าเวินลั่วฉิงไม่ตายก็คงฉีกขาดแล้วแหละ”คำพูดของหลี่หยุนโหดร้ายมาก แต่ตอนที่เธอพูด ใบหน้ากลับประดับรอยยิ้มไว้
แต่สิ่งที่หลี่หยุนไม่รู้ก็คือ คนที่ถูกพวกโหดร้ายอำมหิตจับตัวไปไม่ใช่เวินลั่วฉิง แต่เป็นผู้สาวหัวแก้วหัวแหวนของเธอ——เวินหรวนหรวน
หลี่หยุนไม่รู้ว่าเวินหรวนหรวนแอบย่องลงไปชั้นล่าง
หากไม่ใช่หลี่หยุนใจร้อนอยากทำร้ายเวินลั่วฉิง หากเธอยังมีความเป็นผู้เป็นคนอยู่บ้าง หากเธอถามอีกสักหนึ่งประโยค เวินหรวนหรวนก็คงไม่ถูกจับผิดตัว
“คุณว่าพวกเขาจะรังเกียจที่เวินลั่วฉิงขี้เหร่ไหม แล้วไม่อยากแตะต้องเธอ?หากเป็นอย่างนี้ จะมีผลกระทบต่อแผนการของพวกเราไหม?”เวินจีหยันได้ยินคำพูดของหลี่หยุน ไม่ได้รู้สึกสงสารเลยสักนิด กลับกังวลว่าคนพวกนั้นจะไม่ทำอะไรเวินลั่วฉิง จะกระทบแผนการของพวกเขาได้
“ไม่หรอก ถึงเวินลั่วฉิงจะขี้เหร่ แต่หุ่นดี หุ่นอย่างเวินลั่วฉิง หากเป็นผู้ชายก็อยากไดกันทั้งนั้น สถานการณ์อย่างนั้น หุ่นสำคัญกว่าหน้าตาเป็นไหนๆ วางใจเถอะ พวกเขาต้อง ‘ปรนนิบัติ’เวินลั่วฉิงเป็นอย่างดีแน่”หลี่หยุนเข้าใจจุดนี้ของผู้ชายดี
“หลายชั่วโมงที่เหลือในคืนนี้ ต้องทำให้เวินลั่วฉิงตายทั้งเป็นแน่ จากนั้นพวกเขาเอาวิดิโอของคืนนี้ไปลงในโซเชียล ถึงเวลานั้นทุกคนก็จะเห็นเวินลั่วฉิงถูกผู้ชายมากมายรุมทรมาน คุณคิดว่าเวินลั่วฉิงยังมีหน้าใช้ชีวิตต่อไปอีกไหม?”หลี่หยุนยิ่งพูดก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งพูดก็ยิ่งดีใจ“พูดจริงนะ ฉันรู้สึกรอไม่ไหวแล้ว อยากเห็นละครเด็ดของพรุ่งนี้เต็มแก่แล้ว”
“คุณพูดอย่างนี้ ผมก็รู้สึกคันแล้วนะ”เวินจีหยันได้ยินคำพูดของหลี่หยุน ใบหน้าเผยอารมณ์ใคร่ขึ้นมาหลายส่วน
เวินจีหยันยื่นมือกอดหลี่หยุนไว้ในอ้อนแขน จากนั้นก็ก้มหน้าจูบเธอด้วยใบหน้ายิ้มอย่างเลวระยำ ด้วยใบหน้าลามก “มา พวกเราก็เล่นกันหน่อย”
เวินจีหยันเป็นคนบ้ากามอยู่แล้ว บางครั้งชอบเล่นลูกไม้แปลกใหม่นอกบ้าน บางครั้งก็เล่นในบ้าน
“ตาบ้า”หลี่หยุนจงใจจ้องเขม็งเขาแวบหนึ่ง ดูเหมือนไม่พอใจ แต่น้ำเสียงกลับสำออยอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งสองทิ้งตัวลงบนเตียง เริ่มเผด็จศึกขึ้นมา ซึ่งไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่า เวลานี้ลูกสาวพวกเขากำลัง……
หลังเวินลั่วฉิงแจ้งความเสร็จก็โทรหาถังหลิน
ถึงแม้จะเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่มือถือดังแค่สองครั้ง ถังหลินก็รับสายแล้ว
“ฉิงฉิง มีเรื่องอะไร?”เสียงของถังหลินแจ่มใสมาก ยังไม่นอนอย่างเห็นได้ชัด
“ช่วยฉันหาบอดี้การ์ดสักสองคนหน่อยได้ไหม?”วันนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เวินลั่วฉิงไม่วางใจเลย
เวินลั่วฉิงกลัวว่าพวกเขาจะทำอันตรายกับคุณปู่เวินได้!!