บทที่96สุดยอดของความเลว(4)
เย่ซือเฉินย้ายสายตามองไปที่เวินลั่วฉิง สายตานั้นของเขาดูเย็นชาเยือกเย็น มีความหมายลึกซึ้ง
มู่หรงดัวหยางเป็นคนมีชื่อเสียงด้านการออกแบบ เย่ซือเฉินก็เคยได้ยิน เธอกับมู่หรงดัวหยางรู้จักกันได้ไง?
สามารถเข้าไปบ้านของมู่หรงดัวหยางได้ ความสัมพันธ์นั้น ……
เฉียววี่หนานมองเห็นสายตาที่เย่ซือเฉินมองเวินลั่วฉิง ในแอบยิ้ม ดูๆแล้ว คำพูดของเธอเมื่อกี้ใช้ได้เลย พี่ซือเฉินโกรธแล้ว
ตอนที่เฉียววี่หนานย้ายสายตามองไปที่เวินลั่วฉิง มุมปากยิ้มอย่างสะใจ เธอคาดหวังว่าเรื่องแบบนี้เวินลั่วฉิงจะอธิบายได้ไม่ชัดเจนแน่ ถึงตอนนั้นเย่ซือเฉินต้องโกรธแน่ยิ่งขึ้นแน่
ยังไงตอนนี้เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินก็จดทะเบียนกันแล้ว แม้เย่ซือเฉินไม่รักเวินลั่วฉิง ในฐานะผู้ชายได้ยินเรื่องซุบซิบความสัมพันธ์ของภรรยากับผู้ชายคนอื่นยังไงก็โกรธ
“อือ ความสัมพันธ์ของฉันกับมู่หรงดัวหยางดีมาก”แต่ว่าเวินลั่วฉิงกลับไม่อธิบาย แต่พยักหน้า ยอมรับอย่างธรรมชาติ
อีกอย่างตอนนี้เวินลั่วฉิงก็จงใจเรียกชื่อของมู่หรงดัวหยางตรงๆ
เดิมทีสายตาที่ดูสืบสวนของเย่ซือเฉินที่มองเธอหายไปเล็กน้อย ตอนนี้ดูขรึมมากขึ้น
ความสัมพันธ์ของเธอกับมู่หรงดัวหยางดีมาก?ดีมากนี้หมายความว่าไง?!
“ดีมาก?ดีแค่ไหน?เห็นคุณเรียกชื่อตรงๆของอาจารย์มู่หรง ความสัมพันธ์น่าจะไม่ธรรมดาสินะ?คงจะไม่ใช่แค่อาจารย์กับนักเรียนล่ะสิ?”เฉียววี่หนานคิดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะไม่ใช่แค่ไม่อธิบาย แต่กลับยอมรับตรงๆ ในใจเฉียววี่หนานแอบขำ ตอนนี้เธอแนะนำเวินลั่วฉิงอย่างจงใจ อยากให้เวินลั่วฉิงพูดคำที่ตื่นเต้นให้เย่ซือเฉินมากขึ้น
“อือ ไม่ใช่แค่นั้น”เวินลั่วฉิงพยักหน้า ตอบอย่างจริงจัง มั่นใจมาก
สายตาที่เย่ซือเฉินมองเธอหรี่ขึ้น แฝงไปด้วยความอันตราย
“อ้อ งั้นเป็นอะไรกันเหรอคะ?”ตอนนี้ในใจเฉียววี่หนานดีใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์นี้จะดีได้ขนาดนี้ ผู้หญิงคนนี้โง่เสียจริง
“ฉันกับมู่หรงดัวหยางรู้จักตั้งแต่เด็กค่ะ แม่ฉันกับคุณน้ามู่หรงเป็นเพื่อนที่โรงเรียนกัน”เวินลั่วฉิงตอบอย่างธรรมดา ทั่วไปมากแต่ว่าอธิบายได้ทั้งหมด
สายตาที่อันตรายและเยือกเย็นของเย่ซือเฉินลดลงไปครึ่งหนึ่ง
“ไม่น่าล่ะคุณสามารถเข้าไปห้องของอาจารย์มู่หรงได้ตลอดเวลา ที่แท้พวกคุณก็เป็นเด็กชายเด็กสาวที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กนี่เอง”เฉียววี่หนานดูคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นสถานการณ์แบบนี้ งุนงงไปแป๊บหนึ่ง แต่ว่าการตอบโต้ของเฉียววี่หนานไวมากจริงๆ เอาความหมายบิดเบือนไปทันที。
“เด็กชายเด็กสาวที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก……”ตาของเวินลั่วฉิงกะพริบ น้ำเสียงดูไม่ออกว่าอารมณ์ไหน ฟังไม่ออกว่าเธอปฏิเสธ?หรือว่ายอมรับ
ทันใดนั้นเธอก็ย้ายสายตาไปที่เย่ซือเฉิน แฝงไปด้วยความคิด:“สามี คุณมีเพื่อนสาวที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กไหม?”
“ไม่มี”สีหน้าของเย่ซือเฉินหม่นเล็กน้อย น้ำเสียงก็ขรึมลงหน่อย:“ไม่มีเวลาแบบนั้น”
เธอเป็นเด็กชายเด็กสาวที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กกับมู่หรงดัวหยางจริงเหรอ?
เฉียววี่หนานได้ยินประโยคนี้ของเย่ซือเฉิน สีหน้าก็เปลี่ยนชัดเจนมาก เฉียววี่หนานคิดว่าเธอเป็นเพื่อนสาวที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กของเย่ซือเฉิน แต่ว่าประโยคนี้ของเย่ซือเฉินกลับตบหน้าเธอเข้าแรงๆ
เวินลั่วฉิงยิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข
เห็นคำพูดของเธอดูไม่คิดอะไรมาก สายตาของเย่ซือเฉินก็เป็นประกายเล็กน้อย
“มู่หรงดัวหยางเป็นแบบนี้ มู่หรงดัวหยางใช้นามสกุลของคุณน้ามู่หรงและคุณลุงเว่ยก็คาดหวังกับมู่หรงดัวหยางสูงมาก เข้มงวดสุดๆ และมู่หรงดัวหยางยังเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเว่ยอีก ในอนาคตทั้งหมดของบริษัทเว่ยคางหรุ๊ปก็ต้องให้เขา”เวินลั่วฉิงยิ้มเบาๆ เธอมองไปที่เฉียววี่หนาน จากนั้นก็ตอบ
เย่ซือเฉินมองไปที่เวินลั่วฉิง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
ในตอนนี้คำตอบของเวินลั่วฉิงช่างแยบยล อย่างแรกเธอใช้คำตอบของเย่ซือเฉินอธิบายเรื่องเพื่อนในวัยเด็กของเธอ
ต่อมาเธอก็อธิบายตัวตนของมู่หรงดัวหยาง แน่นอนว่าเธอดูเหมือนอธิบายไปงั้นๆก็เพื่อจงใจให้เฉียววี่หนานฟัง
ตอนนั้นอยู่ที่โรงเรียนเฉียววี่หนานไปจีบมู่หรงดัวหยางก่อน ตอนนั้นเธอน่าจะอยากหลอกการออกแบบของมู่หรงดัวหยาง ต่อมาพอขโมยร่างออกแบบทั้งชุดนั้นไป เธอกับมู่หรงดัวหยางก็ตัดขาดกัน
ตัวตนภายนอกของมู่หรงดัวหยางไม่มีใครรู้ เฉียววี่หนานก็ไม่รู้ ตอนนั้นในสายตาของเฉียววี่หนาน มู่หรงดัวหยางก็แค่อาจารย์จนๆที่มีพรสวรรค์
ตอนนั้นเฉียววี่หนานขโมยร่างออกแบบไป สำหรับเธอแล้วมู่หรงดัวหยางก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก
แต่ว่า……
“บริษัทเว่ยคางหรุ๊ป?บริษัทเว่ยคางหรุ๊ปไหนเหรอ?”ทันใดนั้นสีหน้าเฉียววี่หนานก็เปลี่ยนไป ตอนนั้นเพราะตกใจ น้ำเสียงเลยเปลี่ยน
บริษัทเว่ยคางหรุ๊ปเป็นในธุรกิจใหญ่ในประเทศที่ไม่เป็นสองรองใคร เติบโตในประเทศได้ดีมาก เปรียบกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วไม่มีอะไรที่ด้อยกว่า
“มีบริษัทเว่ยคางหรุ๊ปหลายที่เหรอ?”เวินลั่วฉิงมองไปที่เธอ กะพริบตาเบาๆ ยิ้มบางๆ
ร่างของเฉียววี่หนานสั่นอย่างชัดเจน สีหน้าดูแย่
มู่หรงดัวหยางทั้งดูดี ทั้งหุ่นดี มีความสามารถ และยังมีภูมิหลังครอบครัวที่ดีอีก ……
ทุกอย่างในอดีตนั้นเฉียววี่หนานได้มาโดยไม่ต้องออกแรงมาก แต่เธอมีตาหามีแววไม่ ตัวเองทิ้งไปแล้ว พลาดไปแล้ว ตอนนี้เสียใจจริงๆ!!
บางเรื่องถ้าตั้งแต่ต้นดูยากเกินจะคว้า ถ้าไม่ได้มาก็คงไม่อะไร แต่ถ้ามีโอกาสแล้วตัวเองกลับมาพลาดเอง ความรู้สึกนั้นยากที่จะบรรยาย
ดังนั้น เวินลั่วฉิงจงใจยั่วยุเฉียววี่หนาน
คุณลุงเว่ยให้เหตุผลของมู่หรงดัวหยางใกล้จะถึงเวลาแล้ว อีกไม่นานมู่หรงดัวหยางก็ต้องกลับไปดูแลธุรกิจของตระกูล ดังนั้นต่อไปสถานะของมู่หรงดัวหยางก็ไม่ต้องปิดบังอีก
“จู่ๆมู่หรงดัวหยางก็คือเจ้าชายของบริษัทเว่ยคางหรุ๊ป?เป็นทายาทคนเดียวของบริษัทเว่ยคางหรุ๊ป?บ้าเอ้ย……”เย่ซือชวนอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา
เย่ซือชวนเน้นน้ำเสียงไปที่คำว่า‘คนเดียว’สองคำนี้
เย่ซือชวนไม่ได้คิดอะไร แต่เฉียววี่หนานผู้ฟังกลับคิด ใบหน้าของเฉียววี่หนานดูแย่มาก!!
เฉียววี่หนานเข้าใจชัดเจนว่าทายาทคนเดียวของบริษัทเว่ยคางหรุ๊ปหมายความว่าอะไร!
“คุณเฉียว เป็นอะไรไปคะ?ทำไมจู่ๆสีหน้าก็ดูแย่?ไม่สบายตรงไหนไหมคะ?”เวินลั่วฉิงมองไปที่เฉียววี่หนานอีกครั้ง ตั้งใจทำเสียงตกใจ
ทุกคนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงต่างหันมองไปที่เฉียววี่หนาน ก็เห็นสีหน้าของเฉียววี่หนานที่ยังปกปิดไม่ทัน
“ฉันพูดอะไรผิดทำให้คุณเฉียวไม่พอใจหรือเปล่าคะ?ที่ฉันพูดถึงคือมู่หรงดัวหยาง เรื่องอื่นก็ไม่ได้พูดถึงเลย ทำไมคุณเฉียวต้องดูแย่ด้วยคะ?”เวินลั่วฉิงพูดเสริมไปอีกรอบเบาๆ ตอนที่เธอพูด คิ้วก็ขมวดนิดๆ อย่างสงสัยหน่อยๆ
“ใช่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมพี่วี่หนานได้ยินเรื่องของมู่หรงดัวหยางต้องตอบสนองใหญ่ขนาดนี้ล่ะ?”เย่ซือชวนอึ้ง จู่ๆก็พูดออกมา