บทที่ 1: ธงเดธแฟล็กอันหอมหวาน
“เด็กคนนี้มีชื่อว่าอลิเซีย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะมาเป็นน้องสาวของลูก โรเอล”
ในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลา แต่กลับมีท่าทางอ่อนแอยืนอยู่
เขาจับมือของเด็กหญิงผมสีเงินแนะนำอลิเซียให้กับเด็กชายผมสีดำในชุดหรูหราของผู้ดีมีสกุลตรงหน้าเขา
ชายคนนี้ถูกรู้จักกันในนาม คาร์เตอร์ แอสคาร์ด ผู้เป็นมาร์ควิส [1] แห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิท นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการจอมเวทของกองทหารอัศวินศักดิ์สิทธิ์ และผู้นำตระกูลแอสคาร์ดอันโด่งดังอีกด้วย
เขาคือบิดาของ โรเอล แอสคาร์ด เด็กชายวัย 9 ขวบที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่ตรงหน้าประตู
โรเอล แอสคาร์ด เป็นบุตรชายคนเดียวในคฤหาสน์หลังนี้ เขามีใบหน้าคมได้รูป ผมสีดำขลับที่ค่อนข้างยาวเล็กน้อยรับเข้ากับใบหน้ายิ่งทำให้ดูสง่างาม สูงราว ๆ 1.5 เมตร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ ในหมู่ชนชั้นขุนนางของอาณาจักรนี้
ร่างกายที่ผอมบางของโรเอลแสดงให้เห็นว่าเด็กชายนั้นขาดการฝึกฝนร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขานั้นมีบุคคลิกนิสัยสุขุมเงียบขรึมจากการศึกษาอันสูงส่งที่เขาได้รับตั้งแต่อายุยังน้อย จึงทำให้คนส่วนใหญ่ประทับใจในตัวโรเอล
ทว่ามันก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้ว โรเอลถูกรู้จักกันดีในฐานะทรราชตัวน้อย ตั้งแต่ในวัยเด็ก เขาได้ก่อเรื่องวุ่นวายมามากมายจนเป็นที่เลื่องลือในชื่อนี้ แม้แต่คนรับใช้ในคฤหาสน์ต่าง ๆ ของเหล่ามาร์ควิสเองก็ยังหน้าซีดทุกครั้งที่มีคนเอ่ยชื่อของเขาขึ้นมา
ทรราชตัวน้อยคนนี้กำลังจ้องมองไปยังเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะกลายเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขาในไม่ช้า ดวงตาสีทองที่ได้รับสืบทอดมาจากมารดาคู่นั้นเริ่มหรี่ลงช้า ๆ สีหน้าของโรเอลแข็งกร้าวขึ้นจนน่ากลัวพร้อมกับร่างกายที่เริ่มแข็งทื่อ ราวกับรูปสลักที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือน้ำพุในสวนของตระกูล
“โรเอล ทำอะไรของลูกน่ะ? ลูกกำลังทำให้เธอกลัวนะ!”
เมื่อคาร์เตอร์สังเกตเห็นว่าอลิเซียไปหลบอยู่ข้างหลังเขาด้วยสีหน้าอันหวาดกลัวจากการจ้องมองอันรุนแรงของโรเอล เขาก็ดุลูกชายตัวแสบของเขา
ทั้ง ๆ ที่นี่เป็นการพบกันครั้งแรกที่ควรจะให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์แท้ ๆ ทำไมโรเวลถึงต้องทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองด้วยการทำตัวเป็นวายร้ายตัวน้อยที่หยิ่งผยองด้วย!
คาร์เตอร์ได้แต่สงสัย
ทำไมบุตรชายของเขาถึงประพฤติตัวแบบนี้อยู่เรื่อยเลย?
ถึงแม้คาร์เตอร์จะรู้ว่าอลิเซียงดงามขนาดไหน แต่ยังไงโรเวลก็เป็นบุตรชายของมาร์ควิส การกระทำเช่นนี้ชวนให้ผู้เป็นบิดาได้แต่นึกคำนึงว่ามารยาทที่โรเวลได้รับการสั่งสอนมาจากอาจารย์ผู้เลื่องชื่อของทวีปเซียหายไปไหนเสียแล้ว?
คาร์เตอร์ แอสคาร์ด รู้สึกอับอายอย่างเห็นได้ชัดกับพฤติกรรมของบุตรชาย เขายกมือเตรียมที่จะตบสั่งสอนบุตรชายของเขาให้ประพฤติตนดีขึ้นสักหน่อย แต่แล้วภาพของภรรยาที่เสียชีวิตไป ก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเขา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็วางมือลงพร้อมกับถอนหายใจยาว ๆ
“แค่ก แค่ก อลิเซีย ดูเหมือนว่าพี่โรเอลจะกำลังเหนื่อย พ่อไม่น่าให้เขาฝึกเวทมนตร์มาก่อนเจอเจ้าเลย”
ในขณะที่มาร์ควิสคาร์เตอร์กำลังพยายามกลบเกลี่อนสถานการณ์ที่ลูกชายตัวป่วนได้ก่อขึ้น เขาก็ส่งสายตาให้สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ โรเอลกับอลิเซีย ซึ่งสาวใช้ก็รีบทำตามอย่างรู้หน้าที่ พาโรเอลกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนในทันที
จังหวะนั้นเองโรเอลก็ได้ยินเสียงอันอ่อนล้าของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทิ้งท้ายมาจากด้านหลัง
“ม….ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อหรอกค่ะ…”
…
โรเอล แอสคาร์ด เด็กชายที่เคยสับสนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเขาในขณะนั้น
จู่ ๆ วันหนึ่ง โรเอลก็ตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วตนเองเป็นผู้เกิดใหม่จากต่างโลก เนื่องจากเขานั้นเพิ่งได้รับความทรงจำในชาติก่อนมา
โรเอล ในอดีตนั้นเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยอายุ 20 ปีธรรมดา ๆ เกิดมาในครอบครัวทั่ว ๆ ไป โดยที่ไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรเป็นพิเศษ
เรียกได้ว่าโรเอลเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญที่เห็นได้ดาษดื่น หากจะมีจุดที่แตกต่างไปจากคนอื่นเกี่ยวกับตัวเขา ก็คงมีแค่เรื่องที่เขาเป็น นีท [2] เขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการเก็บตัวอ่านนิยายและเล่นเกมแบบเดียวกับเหล่าโอตาคุทั่ว ๆ ไป
เท่านี้ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากแล้วใช่ไหม?
โรเอลเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่ชีวิตจบลงด้วยอุบัติเหตุจราจรอันโชคร้าย รู้ตัวอีกทีเขาก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในบรรดาเหล่าผู้คนที่ถูกส่งให้ไปผจญภัยด้วยการเกิดใหม่ในต่างโลก
หลังจากนั้นโรเอลก็ได้พบว่าตนเองไปยังสถานที่ที่เรียกว่า จักรวรรดิเซนต์เมซิท ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรมหาอำนาจในทวีปเซีย กลายเป็นลูกชายคนเดียวของเชื้อสายขุนนางอันรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ที่มีชื่อว่า ตระกูลแอสคาร์ด
อีกทั้งยังเป็นถึงผู้สืบทอดของตระกูลของมาร์ควิส ที่เรียกได้ว่าเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของชนชั้นสูงโดยแท้
หากโรเอลไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เขาคงจะดีใจมากที่ได้เกิดมาในตระกูลมาร์ควิสที่มีชื่อเสียง เป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก
นั่นหมายความว่าโรเอลมีเงินเหลือเฟือพอที่จะให้เขาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
ทว่าการที่โรเอลจะมีความสุขเช่นนั้นได้ มันก็ต่อเมื่อเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับการเกิดใหม่ครั้งนี้เลยจริง ๆ
“ตระกูล เซไซต์…มีอยู่จริง”
“ตระกูล โซโรฟยาร์… เองก็มีอยู่จริงด้วยเหมือนกัน!”
“ลูคัส แอคเคอร์มันน์… ผู้ชายคนนั้นก็มีอยู่จริงอีก…”
ปึง!
หนังสือเล่มใหญ่ร่วงลงสู่พื้น ส่งเสียงดังขึ้นไปพร้อมกับเสียงระฆังมรณะในใจของโรเอล
“เขาเองก็มีตัวตนอยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอเนี่ย… ฮ่าฮ่าฮ่า… มันจบแล้ว ชีวิตของฉันจบเห่แล้ว!”
เด็กชายผมดำในห้องสมุดของคฤหาสน์ กุมศีรษะของเขาด้วยความตกตะลึง ตอนนี้หากจะกล่าวว่าความดันโลหิตของเขาพุ่งขึ้นทะลุหลังคาไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เขารู้สึกหายใจติดขัดราวกับมีก้อนเลือดอยู่ในหัวของเขาทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ
“นี่เรากำลังจมดิ่งลงสู่นรกขุมไหนกันเนี่ย?”
หลังจากเปรียบเทียบข้อมูลในความทรงจำของเขากับบันทึกต่าง ๆ ของโลกนี้
โรเอลก็มั่นใจว่าเขานั้นได้มาเกิดใหม่ในโลกของเกมจีบสาวที่เขาเคยเล่นในชาติก่อน …
ที่แย่ที่สุดก็คือเขาดันเกิดมาเป็นตัวละครที่เป็นตัวร้ายของเกมนั้นเสียด้วย!
ชื่อของเกมจีบสาวเกมนี้ก็คือ อาย ออฟ โครนิเคิล และเป็นเกมจีบสาวที่มีสัดส่วนมหากาพย์ผิดปกติไปจากเกมอื่น โลกของเกมนี้นั้นมีขนาดมหึมาและมีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ส่วนเนื้อเรื่องหลักเองก็ยิ่งใหญ่ตระการตา ความโรแมนติกของเนื้อหาเองก็ตรงตามความคาดหวังของเหล่าผู้เล่น และภาพประกอบก็สวยงาม
ทว่าหากจะให้พูดถึงข้อบกพร่องของเกมนี้ก็คือ… มันไม่ได้รับความนิยม…
แม้จะมีอยู่หลายสาเหตุที่อาจจะทำให้เกมนี้ไม่เป็นที่นิยม แต่โรเอลก็สรุปออกมาได้เป็นสองประเด็นหลัก ๆ
ประการแรกก็คือมันมีเรทอยู่ที่ PG [3]
ส่วนประการที่สองก็คือเนื้อเรื่องของมันมักจะดำเนินไปในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
อีกทั้งกลไกของเกมนี้ก็ยังแปลกประหลาดมาก การดำเนินเรื่องนั้นไม่ได้เป็นไปตามหน่วยของ ‘ปี’ โครงเรื่องจึงกระโดดไปมาตามปีต่าง ๆ สถานที่ในเนื้อเรื่องเองก็เช่นกัน มักมีสงครามเกิดขึ้นอยู่เสมอ ๆ และเพียงแค่การคลิกปุ่มพลาดก็อาจทำให้ตัวละครสำคัญตายลงในสงครามเหล่านั้น ซึ่งรวมไปถึงตัวละครผู้หญิงที่เป็นเป้าหมายในการจีบด้วย!
สำหรับโรเอลแล้ว เขาประเมินเกมนี้เพียงแค่ว่ามันเป็นเกมแปลก ๆ ที่ยากจะคาดเดา ราวกับว่าผู้เขียนบทเป็นนักเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีข้อมูลจำกัดเพียงไม่กี่ช่วง
ผู้เล่นจึงได้รับข้อมูลเพียงแค่ช่วงจังหวะสำคัญในเหตุการณ์ต่าง ๆ และถูกปล่อยให้เติมช่องว่างที่ขาดหายไปทั้งหมดในเนื้อเรื่องด้วยจินตนาการของตนเอง
เหตุผลเดียวที่โรเอลสามารถบังคับตัวเองให้เล่นเกมนี้ต่อไปจนจบได้ก็เพราะว่าเขามีความผูกพันกับวายร้ายผู้หล่อเหลาคนนี้ ทั้งคู่มีชื่อเหมือนกัน ทำให้เขาสามารถดื่มด่ำกับโลกของเกมได้ง่ายขึ้น
อีกอย่างภาพประกอบตัวละครหญิงในเกมเองก็สวยสดงดงามน่าดึงดูด!
ด้วยเหตุนี้เอง โรเอลจึงจำเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นได้ในทันทีที่เขาเห็นเธอ
อลิเซีย แอสคาร์ด
บุตรีของซิลเวอร์แอซ ผู้สืบสายเลือดของระดับเงินในตำนาน สายเลือดซิลเวอร์มูนแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิท
ความงามของอลิเซีย แอสคาร์ดมักถูกเปรียบเทียบกับน้ำแข็งที่ไม่อาจแตะต้องได้บนยอดเขาสูง ร่างกายของเธอมีลักษณะของทรวดทรงองค์เอวอันสวยงามรับกันอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่ามันถูกสรรค์สร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของพระเจ้า นัยน์ตาสีแดงเข้มอันกล้าหาญของเธอ เหมือนกับนัยน์ตาของวีรบุรุษในมหากาพย์อันยิ่งใหญ่
แม้ภายนอกอลิเซีย แอสคาร์ดจะดูสูงส่งและเย็นชา แต่ภายในหัวใจของเธอกลับอ่อนโยนและเปราะบาง
แน่นอนว่านั่นคือคำอธิบายตัวตนของอลิเซียในอนาคต เมื่อเธอได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเป้าหมายในการจีบของผู้เล่นเกม
ทว่าตอนนี้… เธอนั้นยังเป็นเพียงเด็ก 7 ขวบตัวเล็ก ๆ
โรเอล ในฐานะพี่ชายวัย 9 ขวบของอลิเซีย จึงอยู่ในตำแหน่งอันน่าดึงดูด
ดั่งที่ปราชญ์ได้กล่าวไว้ว่า อายุนั้นไม่ใช่ปัญหา ช่องว่างระหว่างอายุ 2 ปี ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับโรเอลเลย ถ้าเขาไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับอลิเซียมาก่อน เขาคงจะรีบตรงเข้าไปหาเด็กสาวผู้เป็นดั่งนางฟ้าที่ยังไม่ได้กางปีกอันสง่างามออกมา เพื่อสานสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเธอในทันที
น่าเสียดายที่เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวคนนี้ดี นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขากลัวเธอ
ที่โรเอลพูดอะไรไม่ออกได้แต่ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าตัวเขานั้นจำความทรงจำในชาติก่อนของตนเองได้เป็นอย่างดี ในใจของเด็กน้อยจึงมีแต่ความหวาดผวา
โรเอลรู้ดีว่าในอีกสิบปีข้างหน้า เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผู้ดูอ่อนแอที่พ่อของเขากำลังปกป้องก่อนหน้านี้
…‘อลิเซีย แอสคาร์ด’ คนนั้นจะลงมือฆ่า ‘โรเอล แอสคาร์ด’ ผู้เป็นพี่ชายของเธอ!
และแน่นอนว่ามันเป็นการฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นโดยปราศจากความปรานีใด ๆ…
[1] มาร์ควิส : Marquis เป็นตำแหน่งขุนนางของชนชั้นสูง โดยบรรดาศักดิ์ตำแหน่งเรียงกันจาก ดยุค (Duke), มาร์ควิส (Marquess/ Marquis), เอิร์ล หรือ เคานต์ (Earl/ Count), ไวเคานต์ (Viscount), และ บารอน (Baron)
**ความแตกต่างระหว่าง เอิร์ล และ เคานต์ คือ เอิร์ล จะเป็นบรรดาศักดิ์ของทางแถบอังกฤษ ส่วน เคานต์ จะเป็นบรรดาศักดิ์ของทางแถบยุโรป
[2] นีท : NEET เป็นคำย่อของ Not in Education, Employment, or Training หมายถึงบุคคลที่ว่างงานและไม่ได้อยู่ในระหว่างรับการศึกษาหรือการฝึกอบรมวิชาชีพ โดยทั่วไปมักใช้สำหรับเป็นคำเรียกของบุคคลที่ชอบเก็บตัวและว่างงาน
[3] เรท PG : มาจากคำว่า Parental Guidance Suggested หมายถึง อนุญาตให้ทุกวัยเข้าชมได้ แต่แนะนำให้เด็กและเยาวชนนั้นมีผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ร่วมชมและคอยให้คำแนะนำ เนื่องจากเนื้อหาประกอบไปด้วยความรุนแรงเพียงเล็กน้อย การใช้ภาษาไม่เหมาะสม ยาเสพติด ภาพโป๊ ภาพเปลือย และ/หรือกิจกรรมทางเพศหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาทางเพศ