บทที่ 146: ศัตรูเก่า
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในห้องสมุดอันกว้างใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด โรเอลเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังพลางคำนวณเวลาในใจอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ ที่เหล่าสาวใช้ยังคงยุ่งวุ่นอยู่กับงานบ้านต่าง ๆ บรรดาพ่อครัวต่างออกไปซื้อวัตถุดิบ เพื่อที่จะเตรียมอาหารเช้าในเร็ว ๆ นี้
โรเอลกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงพร้อมหนังสือกองใหญ่ตรงหน้า เด็กชายอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงช่วงเวลาอันเหน็ดเหนื่อยในอดีต ที่เขาต้องเรียนหลายชั่วโมงทุกวันเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้งหมดที่เขาทำมีเพียงการแก้โจทย์ปัญหาไปทีละข้อ จนกระทั่งถึงจุดที่เขาสามารถแก้ปัญหาได้เพียงแค่ดูวลีสำคัญเท่านั้น
นั่นคือวิธีที่โรเอลใช้ชีวิตในวัยหนุ่มในโลกเดิม และตอนนี้เขาก็รู้สึกเหมือนได้กลับมาสู่ช่วงเวลานั้นอีกครั้ง
หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประการแรกและสำคัญที่สุดคือวิธีการที่นายทุนผู้ชั่วร้ายนามว่าชาร์ล็อตได้ใช้กลอุบาย จนได้มาซึ่งการผูกขาดในตัวโรเอล
ชาร์ล็อตได้เสนอ 100,000 เหรียญทองเป็นค่าจ้าง เพื่อให้อลิเซียออกไปจากคฤหาสน์เป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่โรเอลก็ปฏิเสธข้อเสนอไป โดยอ้างคำพูดว่า “นี่คือบ้านของอลิเซียเช่นกัน มันจึงขึ้นอยู่กับเธอว่าต้องการอยู่ที่นี่หรือไม่?”
ทว่าตั้งแต่ที่อลิเซียได้เห็น ‘การแสดงความรัก’ ระหว่างโรเอลกับชาร์ล็อต เธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ประกอบกับข่าวที่ชาร์ล็อตโยนเหรียญแห่งโชคชะตาสามเหรียญ เพื่อยืนยันความรู้สึกที่มีต่อกัน ทำให้ความวิตกกังวลของเด็กสาวแย่ลงไปอีก
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดจบ
เมื่ออลิเซียได้รู้ว่าซองจดหมายที่ตนเองพบทำให้เกิดการสั่นพ้องระหว่างพลังทางสายเลือดของโรเอลและชาร์ล็อต ทำให้เกิดพลังเวทระเบิดสั่นสะเทือนทั่วทั้งคฤหาสน์ เด็กสาวก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ขุ่นเคืองมากเสียจนกอดหมอนนอนร้องไห้ตลอดทั้งคืน
ตลอดสามปีที่พวกเขาได้รู้จักกัน นี่เป็นครั้งแรกที่อลิเซียคิดถึงนอร่าคู่ปรับของเธอ
ปัจจุบันชาร์ล็อตมีความผูกพันจากการหมั้นหมาย สามเหรียญแห่งโชคชะตา และการสั่นพ้องของพลังทางสายเลือดระหว่างโรเอลกับเธอ ทำให้เธออยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบมาก สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่นักสำหรับอลิเซีย และเธอก็รู้ดีว่าตนเองไม่สามารถรับมือสถานการณ์นี้ได้เพียงลำพัง
โชคร้ายที่นอร่านั้นยังติดอยู่ที่ชายแดนด้านตะวันออก ทำให้ยากที่จะติดต่อสื่อสารกับเธอได้ ไม่มีทางที่อลิเซียจะขอความช่วยเหลือจากเธอได้เลย แม้ว่าอลิเซียจะสามารถบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับนอร่าได้ แต่องค์หญิงเองก็คงจะไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เช่นกัน สิ่งเดียวที่เธอทำได้มีเพียงการอาศัยความเอาใจใส่ของโรเอลเข้าใกล้เขาให้มากที่สุด
แน่นอนว่าชาร์ล็อตย่อมไม่พอใจกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว โรเอลจึงต้องหาโอกาสพูดคุยกับอลิเซียและอธิบายความจริงกับเธอ
“พี่ใหญ่ จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? แน่ใจนะ? พี่ไม่ได้โกหกหนูใช่ไหม?”
“พี่ไม่โกหกเธอหรอก อลิเซีย พวกเรากำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับกองเรือทองคำ ความสัมพันธ์ปัจจุบันของพวกเราไม่มีอะไรมากไปกว่าการหมั้นหมาย”
โรเอลเริ่มอธิบายให้อลิเซียฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลโซโรฟยา พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นหากได้ค้นพบมรดกที่หายไปและวิธีการปลุกพลังสายเลือด อย่างไรก็ตามหากพวกเขาสืบสวนเรื่องนี้อย่างเปิดเผยแล้วล่ะก็ จักรวรรดิออสทีนอาจจะเข้ามาแทรกแซงได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงต้องใช้การหมั้นหมายเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิด
แน่นอนว่าเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่ยังขาดความชำนาญของโรเอลและชาร์ล็อต ที่ไม่อาจเทียบกับนักวิชาการอาวุโสของโบรเนลได้ จักรวรรดิออสทีนก็คงจะไม่สนอะไรและคิดว่ามันเป็นเพียงความพยายามอันไร้ประโยชน์ แม้ว่าพวกเขาจะประกาศให้โลกรู้ก็ตาม ถึงกระนั้นพวกเขาก็ควรที่จะระวังเอาไว้ก่อนดีกว่า
คำอธิบายของโรเอลทำให้อลิเซียเชื่อสนิทใจว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน หลังจากได้รับการรับประกันว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับชาร์ล็อต เธอก็พร้อมจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
หนึ่งในเหตุผลก็คือข้อเสนออันน่าดึงดูดใจ 100,000 เหรียญทองที่ชาร์ล็อตเสนอให้กับโรเอล และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเธอตระหนักได้ว่าชาร์ล็อตจะสัมผัสตัวโรเอลมากผิดปกติก็ต่อเมื่ออลิเซียอยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น เมื่อเธอจากไปแล้วพวกเขาทั้งสองก็จะมีพฤติกรรมที่เป็นปกติมากขึ้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการล้างแค้นของชาร์ล็อตที่อลิเซียได้หลอกลวงเธอ ซึ่งทำให้อลิเซียรู้สึกเสียใจมาก แต่ด้วยฐานะปัจจุบันของเธอที่เป็นเพียงน้องสาวบุญธรรมของโรเอล อลิเซียจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสามารถหยุดสิ่งที่ชาร์ล็อตทำได้ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงทำได้เพียงแค่ถอยกลับและหวังว่าจะสามารถติดต่อกับนอร่าในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พี่ใหญ่ ต้องป้องกันตัวให้ดีนะ พี่ห้ามตกหลุมรักเธอ ตกลงใช่ไหม? รอหนูกลับมาก่อน”
เมื่อนึกถึงคำพูดอันสิ้นหวังของอลิเซียที่กำลังร้องไห้ก่อนจะจากไป ทำให้โรเอลรู้สึกขบขันเล็กน้อยกับความรู้สึกอันเกินจริงของเด็กสาว เขาก็แค่ทำธุรกิจการค้ากับชาร์ล็อต ไม่มีทางที่พวกเขาจะชอบกันได้ลงหรอกน่า! เขาจะไปรักเธอลงได้ยังไง?
เอ๊ะ สงสัยเด็กสมัยนี้คงหมกมุ่นกับเรื่องความรักมากเกินไป แย่จริง! จะดีแค่ไหนหากพวกเขาทุ่มเทเวลาไปกับการหาเงินแทน?
โรเอลส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
แค่คิดถึงเหรียญทองนับพันที่เด็กชายจะได้มาง่าย ๆ ในทุก ๆ วัน ก็ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจอย่างสุดซึ้งแล้ว แน่นอนว่าโรเอลไม่ได้รับเงินของชาร์ล็อตมาฟรี ๆ เขาทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเขาจะพอใจกับเงินที่จ่ายมา
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่อลิเซียจากไปแล้ว โรเอลและชาร์ล็อตจึงได้เริ่มต้นชีวิตที่ชวนให้นึกถึงการฝึกของทหารในค่ายฤดูร้อน โรเอลจะตื่นนอนตอนตีห้าทุกวันเพื่อเริ่มอ่านหนังสือในห้องสมุด ในขณะที่ชาร์ล็อตจะตื่นสายกว่าเล็กน้อยตอนประมาณหกโมงเช้า
หนึ่งสัปดาห์ของการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกันได้สร้างความปรองดองระหว่างพวกเขาสองคน ทำให้เกิดบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงเพื่อนร่วมงานภายในสำนักงาน
โรเอลเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนเข้าห้องน้ำชาเพื่อตักชาแดงที่นำเข้ามาจากต่างอาณาจักรจำนวน 3 ช้อนชาลงในที่กรองชา ต้มกาต้มน้ำแล้วปล่อยให้มันพักเป็นเวลาสามนาทีก่อนจะเทมันลงในถ้วยด้วยที่กรองชา เมื่อเสร็จแล้วเขาก็หยิบส่วนผสมสูตรลับของตนขึ้นมา
【ยาป้องกันคาถาสะกดจิต รูปแบบ 3】
นี่คือยาที่พัฒนาโดยอาณาจักรแห่งการหลับใหลคาซี เพื่อรับมือกับฝันร้าย แค่หยดเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฟื้นจากอาการง่วงนอนทั้งหมด ช่วยให้ผู้ใช้หลุดพ้นจากสัตว์ประหลาดที่เรียกว่าฝันร้าย อย่างไรก็ตามหากยังรักชีวิตของคุณล่ะก็ ขอแนะนำว่าอย่าดื่มมากเกินไปในคราวเดียว
ราคา: 300 เหรียญทอง】
นี่เป็นสิ่งที่ดีเลยทีเดียว! โรเอลพบมันในขณะที่กำลังดูร้านค้าเหรียญทองของระบบประจำวัน ราคา 300 เหรียญทอง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอจับต้องได้ หากพิจารณาจากสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันของเขา ขวดหนึ่งมีขนาดประมาณหลอดทดลองขนาดเล็ก และมันก็มีระยะเวลาทำงานที่นานจนน่าประหลาดใจ โชคดีที่เขาดื่มมันในปริมาณเพียงน้อยนิดในแต่ละครั้ง
สีของมันเป็นสีน้ำตาลคล้ายกับชาแดง และรสชาติของมันก็อ่อนมากจนแทบไม่รู้สึก
ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของโรเอลเมื่อเห็นวัตถุนี้ มันคือเครื่องดื่มชูกำลังชัด ๆ
ตามคำอธิบายของมัน การหยดเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายก็คือเขาจะไม่สามารถมีความฝันได้เลย แต่นั่นมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขาอยู่ดี
การอ่านเป็นงานอดิเรกนั้นแตกต่างจากการอ่านเพื่อหาข้อมูลจากกองหนังสือที่นับไม่ถ้วนเพื่อเรียกดูเนื้อหาอย่างรวดเร็วมาก การที่ต้องทำอะไรซ้ำ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเรื่องยากที่จะทน แม้แต่สำหรับโรเอลก็ตาม เรียกได้ว่าการเป็น กูเกิ้ลในร่างมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โรเอล หยดยาลงในชาอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นมันก็เสร็จสมบูรณ์
จากนั้นเด็กชายก็รีบไปเตรียมชาอีกถ้วย แต่คราวนี้มันเป็นชาดอกไม้พื้นเมืองของเขตการปกครองแอสคาร์ด ซึ่งแน่นอนว่าชาถ้วยที่สองนี้มีไว้สำหรับชาร์ล็อต
ชาแดงพระราชทานนั้นนำเข้ามาจากเมืองโรซ่า ในฐานะที่ชาร์ล็อตเป็นคนท้องถิ่นของโรซ่า เธอคงไม่อยากดื่มชานั้นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามชาดอกไม้ที่ผลิตในท้องถิ่นของเขตการปกครองแอสคาร์ดนั้นถูกใจเธอ ทำให้ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเธอเลือกที่จะดื่มมัน
“เพิ่มกลีบกุหลาบลงในชาถ้วยนี้แล้วใช่ไหม?”
“ใช่ แต่มันเป็นเพียงแค่ส่วนผสม มีกลีบดอกไม้อื่น ๆ ผสมอยู่ในนั้นด้วย”
“เข้าใจแล้ว…”
เห็นได้ชัดว่าชาร์ล็อตหลงใหลในชาดอกไม้นี้ มันมีสีสันมากมายชวนให้นึกถึงงานศิลปะและดึงดูดใจของสาว ๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นโรเอลจึงไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอเท่าไหร่
หากจะใช้คำสแลงจากโลกเดิมของเขามันก็คงเรียกได้ว่า ‘พร้อมสำหรับการถ่ายลงอินสตราแกรม’ แม้ว่ารูปลักษณ์จะไม่ได้รับประกันรสชาติ แต่ร้านอาหารดัง ๆ หลายแห่งที่เขาเคยไปในอดีตชาติ ก็เน้นที่รูปลักษณ์ของอาหารเป็นหลัก ทว่าแบบนั้นเพียงแค่คำเดียวก็ขจัดความมหัศจรรย์ได้
แค่นึกถึงความผิดหวังทั้งหมดที่ตนเองได้รับในอดีต ก็ทำให้โรเอลต้องถอนหายใจยาว ๆ ออกมา หากเทียบกับร้านอาหารยอดนิยมเหล่านั้นแล้ว ชาดอกไม้ในท้องถิ่นของเขตการปกครองแอสคาร์ดถือว่าดีกว่ามาก อย่างน้อย ๆ คุณภาพของมันก็ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน
จริง ๆ แล้วมันเป็นผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แต่ด้วยนโยบาย “สนับสนุนคนจน” ของโรเอล หมู่บ้านนั้นจึงได้รับการสนับสนุนในการดำเนินธุรกิจ และจัดจำหน่ายออกไปยังเมืองต่าง ๆ
เพียงแค่สามวัน ชาร์ล็อตได้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของชาดอกไม้นี้แล้ว และเธอก็ได้เริ่มทดลองเพิ่มสารปรุงแต่งรสชาติต่าง ๆ ลงไป โดยมักจะเป็นน้ำตาลก้อน แต่เด็กสาวก็ตั้งใจที่จะทดสอบด้วยน้ำผึ้งในเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน นี่ทำให้โรเอลเข้าใจถึงรสนิยมด้านอาหารของเธอ นั่นก็คือแค่ทำให้มันหวานก็พอ
ดังนั้น โรเอลจึงมักจะเติมน้ำตาลก้อนหนึ่งลงในถ้วยน้ำชาของเธอก่อนที่จะนำน้ำชาทั้งสองถ้วยไปที่ห้องสมุด ตอนนั้นเองที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงผลักประตูห้องสมุดแล้วเดินเข้ามา โรเอลเหลือบมองดูนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเช้าพอดี
หากการชื่นชอบอาหารรสหวานเป็นลักษณะเฉพาะประการหนึ่งของชาร์ล็อต อีกประการหนึ่งก็คือความตรงต่อเวลาของเธอ เด็กสาวตรงต่อเวลาเสมอไม่ว่าจะเวลาไหน อย่างที่เธอเคยกล่าวไว้ นี่ถือเป็นคุณลักษณะของสมาชิกในตระกูลโซโรฟยา
ตามปกติแล้วพวกขุนนางนั้นมีแนวโน้มที่จะมาสายเสมอ ราวกับว่าพวกเขากลัวว่าตนเองจะดูไม่มีเกียรติมากเพียงพอหากพวกเขามาตรงเวลา ทั้งในอาณาจักรขนาดเล็กและอาณาจักรมหาอำนาจ
เหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิง มันเป็นเรื่องปกติที่แขกจะเข้ามาหลังจากเวลาที่กำหนดในคำเชิญ
“นี่คือชาของเธอ ฉันใส่น้ำตาลลงไปแล้ว”
“ขอบคุณ แต่ข้าจะยินดีมากกว่านี้ ถ้าเจ้าสามารถเพิ่มน้ำตาลลงไปได้อีกก้อนในอนาคต”
“นั่นมันน่าจะหวานเกินไปนะ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเธอได้ต่อมรับรสหวานนั่นมาจากที่ไหน?”
“โรเอล ข้าขอถามคำเหล่านั้นกลับไปที่เจ้าเช่นกัน ดูเหมือนว่าเจ้าจะชื่นชอบรสขมจนผิดปกติ มันยากที่จะจินตนาการว่าจะมีใครที่มีความชอบอันน่ารังเกียจเช่นเจ้า”
ทันทีที่พวกเขาพบกันโรเอลและชาร์ล็อตก็เริ่มเล่นโวหารกันตามปกติ อย่างไรก็ตามในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา บรรยากาศอันร้อนแรงจากการทะเลาะวิวาทของพวกเขาได้เย็นลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดูเหมือนเป็นเพียงการล้อเล่นระหว่างมิตรสหาย
ชาร์ล็อตจิบชาก่อนจะพยักหน้าพร้อมขดริมฝีปากอย่างเห็นด้วย
“ทำอุณหภูมิได้ตรงจุด ข้าให้ 80 คะแนน”
“ดีจริง ๆ นี่คิดที่ 50 เหรียญทอง”
รอยยิ้มอันเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาวในทันที เธอวางถ้วยน้ำชาลงก่อนจะจ้องมองเด็กชายผมดำของเธออย่างเฉียบคม
“เมื่อวานมันแค่ 40 เหรียญทองไม่ใช่เหรอ?”
“วันนี้ฉันเติมน้ำตาลก้อนไปด้วย”
“… เจ้าอาจจะเป็นเพียงคนเดียวในทวีปเซีย ที่กล้าเรียกเก็บเงินค่าน้ำชาจากข้า”
“ขอบคุณสำหรับคำชมของเธอ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนในทวีปเซียเท่านั้น ที่ได้รับเกียรติให้ฉันชงชาให้เช่นกัน”
“แต่เจ้าเป็นคู่หมั้นของข้านะ”
“…”
ชาร์ล็อตวางไพ่ตายของเธอออกไป ขัดขวางการพูดต่อปากต่อคำของโรเอล ผู้ชายส่วนใหญ่อาจจะเต็มใจทำอาหารให้แก่คู่หมั้นของตน หากเธอเป็นขุนนางที่มีหน้าตางดงามและจิตใจดี
อย่างน้อย ๆ ในสายตาของหลาย ๆ คน ชาร์ล็อตก็สมควรได้รับมัน พวกเขาคงมองโรเอลว่าเป็นเพียงคนโง่เขลาที่ไม่รู้จักชื่นชมในโชคชะตาของตัวเอง การที่เขาคิดค่าน้ำชาจากเธอ ทำให้หลายคนคงจะสงสัยในค่า EQ ของเขา!
“ไม่เป็นไร เพื่อปกป้องเกียรติของคู่หมั้นในนามของฉัน ชาถ้วยนี้ฉันเลี้ยงเองก็ได้”
“หึ ข้าควรจะขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรของเจ้าสินะ ”
“ใช่ เธอควร ด้วยความยินดี”
การโต้เถียงเล็กน้อยในตอนเช้านั้นดีสำหรับการเริ่มต้นสมอง ทั้งคู่ควบคุมความเป็นปฏิปักษ์ของตนเองก่อนจะนั่งลงเคียงข้างกันบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยกองหนังสือมากมาย
“ข้าไม่รู้สึกว่าทะเลหนังสือนี้ลดลงเลยสักนิด”
“แน่นอนว่าไม่ พวกนี้ฉันเพิ่งเอาลงมาจากคลังเก็บ ฉันได้เข้าไปดูในนั้น และเห็นว่าพวกเรายังไม่ได้ตรวจดูพวกมันเลย”
ภาระงานอันท่วมท้นนี้ทำให้ชาร์ล็อตถอนหายใจยาวออกมา เนื่องจากเธอจำเป็นต้องรักษาความลับเอาไว้ เด็กสาวจึงไม่สามารถจ้างมืออาชีพมาช่วยได้และต้องลงมือสืบหาข้อมูลด้วยตนเอง ทว่าเธอไม่คาดคิดว่าคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด จะมีหนังสือมากมายถึงขนาดนี้
นี่มันไม่ใช่ระดับของห้องสมุดแล้วไหม?
ชาร์ล็อตบ่นในใจพลางยื่นมือขวาไปด้านข้าง ขณะเดียวกันโรเอลก็ยื่นมือซ้ายออกมา ทันทีที่มือทั้งสองประสานกัน พวกเขาก็เริ่มพลิกกองหนังสือที่อยู่ตรงหน้า
อันที่จริงนี่เป็นเทคนิคที่โรเอล และชาร์ล็อตคิดขึ้นหลังจากการค้นคว้ามาหลายวัน เทคนิคการอ่านหนังสือพร้อมการประสานมือ