บทที่ 163: เจ้าจะแพ้ไม่ได้
การสร้างพลังสายเลือดใหม่? นี่มันอะไรกัน? แล้ว ศิลาแห่งมงกุฎ คืออะไร…
โรเอลตกตะลึงกับการแจ้งเตือนที่ดังมาจากระบบโดยกะทันหัน เด็กชายไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของอารยธรรมของมวลมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับพลังทางสายเลือดของเขา
【กริ๊ง!】
【กระบวนการเริ่มต้น ‘การสร้างพลังสายเลือดใหม่’ สำเร็จ】
【ตรวจสอบการกลายพันธุ์ของศิลามงกุฎ ดำเนินการประเมินระดับเบื้องต้น】
【การประเมินระบบ: สามารถหลอมรวมได้】
【ระดับการดูดซึมที่แนะนำ: A】
【ประเมินอัตราการเติบโตของศิลามงกุฎกลายพันธุ์ตามสภาพของผู้ใช้】
【ระดับการดูดซึมที่แนะนำ: B+】
【คำเตือน!】
【คำเตือน!】
【คำเตือน!】
【ผู้ใช้ยังไปไม่ถึงระดับการดูดซึมที่ระบบแนะนำ การดูดซึมศิลาแห่งมงกุฎที่กลายพันธุ์ นั้นมีความเสี่ยง เปิดใช้งานระบบสนับสนุนการดูดซึม】
【ราคาโดยประมาณของระบบสนับสนุนการดูดซึม: 300,000 เหรียญทอง】
【ผู้ใช้มียอดคงเหลือไม่เพียงพอในขณะนี้ เปิดใช้งานระบบเงินกู้ 】
【เนื่องจากนี่ไม่ใช่การใช้ระบบเงินกู้เป็นครั้งแรก อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือนจะถูกเรียกเก็บจากเงินต้น】
【ผู้ใช้ต้องการยืม 300,000 เหรียญในอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน】
【ตกลง / ไม่】
คลื่นลูกใหญ่ของการแจ้งเตือนที่เข้ามาทำให้ดวงตาของโรเอลเบลอ แต่มีคำสองคำที่ดึงดูดความสนใจของเขาในทันทีที่เห็น : ระบบเงินกู้
บ้าเอ๊ย ระบบเงินกู้อีกแล้วเหรอ?!
เมื่อโรเอลเห็นว่าตนเองไม่มีเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนการเปิดใช้งานระบบสนับสนุนการดูดซึม เด็กชายก็รู้ว่าเขาหมดหนทางแล้ว แต่ระบบก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง มันได้นำเสนอระบบเงินกู้อีกครั้ง และคราวนี้มันเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเสียด้วย!
ด้วยอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน โรเอลจะต้องจ่ายเงินจำนวน 30,000 เหรียญทองเพื่อชดเชยดอกเบี้ย! ต่อให้ไปปล้นธนาคารมา เขาก็คงมีเงินไม่พอมาจ่าย!
นี่มันอะไรเนี่ย? มันเป็นร้านสินเชื่อเงินสดล่วงหน้ารึไง? ไอ้ระบบนี่มันพยายามที่จะโกงเงินเรางั้นเหรอ?
“ไม่คิดว่าอัตราดอกเบี้ยของแกสูงเกินไปหน่อยเหรอ? ด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบนี้ ต่อให้ใช้เงินหมุนเวียนทั้งหมดของเขตการปกครองแอสคาร์ดก็ยังไม่พอจ่ายเลยนะ!”
【ความเสี่ยงและผลตอบแทนย่อมมาเคียงคู่กัน โอกาสที่ศิลาแห่งมงกุฎจะปรากฏตัวขึ้นนั้นต่ำมาก และการดูดซึมที่ประสบความสำเร็จ ก็สามารถเพิ่มความสามารถของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามความสามารถที่แข็งแกร่ง มักจะมาพร้อมกับผลข้างเคียง ผู้ใช้ควรตัดสินใจสิ่งนี้ด้วยตัวเอง】
“…”
โรเอลเงียบไปครู่ใหญ่หลังจากได้ยินคำเตือนจากระบบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากสำหรับเงินกู้ในครั้งนี้ แต่อย่างที่ระบบพูดไว้ นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่ามันคือการเผชิญหน้าแห่งโชคชะตา
แม้ว่าโรเอลจะไม่รู้ว่าผู้สร้างธารน้ำแข็งเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมงกุฎอย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของตัวตนทำลายล้างอารยธรรมนี้ต้องสุดยอดมากแน่ ๆ
ความจริงแล้ว หากคิดย้อนกลับไป แม้ว่าระบบมักจะคอยทำให้เด็กชายต้องโกรธอยู่เสมอ แต่จนถึงตอนนี้ ระบบเพิ่งเคยนำเสนอระบบเงินกู้ให้กับเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และนั่นก็เป็นครั้งที่โรเอลได้ทำการปลุกพลังสายเลือดของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเขาก็ไม่เคยนึกเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนั้นเลยแม้แต่น้อย การตื่นขึ้นของพลังทางสายเลือดของโรเอล ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเขาไปมากจริง ๆ ดังนั้นในครั้งนี้…
ด้วยใบหน้าอันเต็มไปด้วยความขัดแย้งกัน โรเอลหันไปมองเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่กำลังคุยกับอิซาเบลลาอยู่ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
แม้ว่าชาร์ล็อตจะรับรองกับโรเอลว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เด็กชายก็ยังรู้สึกผิดที่พาชาร์ล็อตเข้ามาในสถานะผู้เฝ้ามองด้วยกัน ตอนแรกเขาค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของตัวเองว่าจะสามารถปกป้องเธอจากอันตรายได้ แต่หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับผู้สร้างธารน้ำแข็ง และสัตว์ประหลาดทรงพลังที่ซุ่มซ่อนอยู่บนโลก เด็กชายก็เริ่มหมดความมั่นใจในตัวเอง
ประการแรก โรเอลรู้ดีถึงชะตากรรมของท่าเรือทูฮอร์นที่จบลงด้วยการถูกแช่แข็ง จนกลายเป็นสถานที่ที่รู้จักกันในชื่ออ่าวต้องสาปแทน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่นักผจญภัยหลายคนต้องมาเสียชีวิตลง
สภาพอากาศอันแปลกประหลาดรอบ ๆ ท่าเรือทูฮอร์นเป็นปริศนาที่ใคร ๆ ต่างก็สงสัยมาโดยตลอด แต่ในที่สุดโรเอลก็ได้เข้าใจถึงสาเหตุของมัน
นั่นก็เพราะว่ามีไข่ใบนี้อยู่ที่นั่น
แล้วไข่ไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?
โรเอลใช้เวลาคิดทบทวนคำถามนี้อย่างรอบคอบทำให้ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ หากมันไม่ใช่ความตั้งใจของอิซาเบลลาและกองเรือทองคำแล้วล่ะก็ มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของกองเรือทองคำ
“…”
ความคิดนี้ทำให้โรเอลกำหมัดแน่น
เด็กชายอยากที่จะดูดซึมไข่ของผู้สร้างธารน้ำแข็ง แต่เขาก็รู้ว่ามันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนวณให้เรียบร้อยเสียก่อน ปัจจัยแรกเลยก็คือ “ผลข้างเคียง” ที่ระบบกล่าวถึงหลังจากพูดถึงการเปิดใช้งานระบบสนับสนุนการดูดซึม เด็กชายรู้ดีว่า ‘ผลข้างเคียง’ ของพลังเหนือธรรมชาตินั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด แต่อันตรายที่กำลังซุ่มซ่อนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเมินเฉยได้เช่นกัน
โรเอลใช้เวลาพิจารณานานมาก ก่อนที่เขาจะตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันเลือก ‘ตกลง’ ”
ถ้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วมันจะทำไมล่ะ? มีผลข้างเคียงแล้วจะทำไมล่ะ? มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เราพาชาร์ล็อตเข้ามาที่นี่ ฉะนั้นเราก็ต้องพาเธอกลับออกไปอย่างปลอดภัยให้ได้ เราจะต้องไม่เพิกเฉยต่อภัยคุกคามอันชัดเจนตรงหน้านี้โดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ชาร์ล็อตยังเป็น …ของฉัน…
โรเอลชำเลืองมองชาร์ล็อตก่อนจะหลบสายตาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าการหมั้นหมายของพวกเขาจะเป็นเพียงในนามเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วโรเอลก็ยังถือเป็นคู่หมั้นของชาร์ล็อตอยู่ดี ตราบใดที่เด็กชายยังคงตำแหน่งนี้อยู่ เขาก็รู้สึกว่าตนเองจะต้องปกป้องและรับผิดชอบความปลอดภัยของเธอ
【ระบบสนับสนุนการดูดซึมถูกเปิดใช้งานแล้ว】
【ระบบดัดแปลงถูกเปิดใช้งานแล้ว】
การแจ้งเตือนของระบบดังก้องภายในหูของโรเอล ทันใดนั้นเด็กชายก็เริ่มสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตน ขณะเดียวกันอิซาเบลลาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขา
“ตอนนี้พวกเรามีศัตรูสองกลุ่ม หนึ่งคือชาวเผ่าทะเลที่เติบโตมาท่ามกลางความหนาวเย็น พวกมันต้องการที่จะชิงไข่ผู้สร้างธารน้ำแข็งไปจากเรา เพื่อใช้สร้างที่อยู่อาศัยสำหรับพวกมันเอง
ส่วนอีกกลุ่มคือภาคีแห่งนักบุญ พวกเขาเป็นกลุ่มคนเสียสติที่เชื่อว่ามารดาแห่งเทพธิดาคือเทพีเซีย และภัยพิบัติทั้งหกคือบททดสอบและผลกรรมจากเหล่าทวยเทพ สำหรับมนุษยชาติ”
“ข้อมูลเกี่ยวกับไข่ได้รั่วไหลออกมา ส่งผลให้พวกเสียสติกลุ่มนี้รีบเดินทางมาที่อาณาจักรโซเฟีย รวบรวมกลุ่มอนุรักษ์นิยมภายในอาณาจักรจนได้รับการสนับสนุน ตอนนี้พวกเขาและผู้สนับสนุนกำลังไล่ตามพวกเรามาจากด้านหลังด้วยเรือของพวกเราเอง”
หลังจากการถอนใจยาว อิซาเบลลาก็ได้เปิดเผยเหตุผลเบื้องหลังความขัดแย้งภายในกองเรือทองคำ โดยเกี่ยวโยงกับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดความภักดีของตระกูลโซเฟีย
โรเอลและชาร์ล็อตต่างก็สงสัยว่าพวกตระกูลโซเฟียรู้เรื่องหกภัยพิบัติได้อย่างไร ในเมื่อคนอื่น ๆ บนโลก รวมทั้งนักวิชาการผู้มีชื่อเสียง ล้วนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่นัก ปรากฏว่าตั้งแต่ในสมัยโบราณ พวกไฮเอลฟ์นั้นคือผู้รับใช้ของมารดาแห่งเทพธิดา
ด้วยมุมมองดังกล่าว หกภัยพิบัติจึงถือเป็นสหายของตระกูลโซเฟีย ส่งผลให้ผู้ที่สืบทอดสายเลือดไฮเอลฟ์มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปเป็นสองฝ่าย
1) เลือกทำตามสายเลือดไฮเอลฟ์ จงรักภักดีต่อมารดาแห่งเทพธิดาที่พวกเขาเคยรับใช้
2) เลือกสายเลือดมนุษย์ จงรักภักดีต่อศรัทธาของมวลมนุษยชาติ ที่เคารพบูชาเทพีเซีย
ฝ่ายแรกกลายเป็นที่รู้จักในฐานะฝ่ายอนุรักษ์นิยม ในขณะที่อีกฝ่ายกลายเป็นที่รู้จักในฐานะฝ่ายปฏิวัติเพื่อมวลมนุษย์ อิซาเบลลาเผชิญกับการต่อต้านมากมายจากเหล่าเครือญาติของเธอเมื่อเธอพยายามเข้าถึงอาณาจักรอื่น ๆ เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ทว่าการปรากฏขึ้นของไข่ใบนี้ กลับกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งหมดตามมา
ในมุมมองของบรรดาผู้ศรัทธาในมารดาแห่งเทพธิดา ผู้สร้างธารน้ำแข็งถือเป็นทูตของพระเจ้า แต่อิซาเบลลาและคนอื่น ๆ มองว่ามันเป็นหายนะอันมุ่งร้าย สองความเชื่อที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงย่อมไม่สามารถประนีประนอมกันได้ ด้วยการยุยงของภาคีแห่งนักบุญ เปลวเพลิงก็ได้ลุกโชนขึ้น สงครามภายในกองเรือทองคำจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
กอร์ดอน โซเฟีย ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 2 หนึ่งในผู้อาวุโสที่ได้รับการยกย่องของตระกูลโซเฟีย ได้กลายมาเป็นผู้นำของกลุ่มกบฏนี้ เขาร่วมมือกับผู้บริหารคนหนึ่งของภาคีแห่งนักบุญ ซึ่งอิซาเบลลาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาเท่าไหร่นัก
“เรือธงภายใต้การควบคุมของข้ามีความได้เปรียบในเรื่องของความเร็ว แต่เนื่องจากไข่ที่ต้องใช้พลังเวทของจิตวิญญาณแห่งทองคำในการผนึก ความเร็วของเรือจึงลดลงไปมาก ส่งผลให้ฝ่ายเรากลายเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ อีกไม่นานพวกเขาก็จะตามเราได้ทัน และพวกเราก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสู้รบได้อีก”
อิซาเบลลาชี้ไปที่ของเหลวสีทอง ซึ่งกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างอันซับซ้อนรอบ ๆ ไข่ขณะที่เธออธิบาย สิ่งนี้ทำให้หัวใจของชาร์ล็อตมืดหม่นลง ทว่าก่อนที่เธอจะมองโลกในแง่ร้าย โรเอลก็พูดขึ้น
“พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าเราสามารถจัดการเศษน้ำแข็งนี่ได้ เราก็จะสามารถเร่งความเร็วเรือ และหลีกเลี่ยงการปะทะกับเรือรบจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวก่อน เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ?”
จู่ ๆ โรเอลก็กระโดดลงบันไดลงไปหาไข่ ต่อหน้าอิซาเบลลาที่กำลังตกตะลึง
“โรเอล กลับมานะ! ข้างล่างมันเย็นเกินไป!”
หญิงสาวรีบตะโกนเตือนโรเอลด้วยความตื่นตระหนก แม้ว่าโรเอลจะถูกส่งมาที่นี่โดยสมัชชานักปราชญ์พลบค่ำเพื่อช่วยเธอ แต่อิซาเบลลาก็ไม่มีทางที่จะยอมให้น้องชายของวินสเตอร์เป็นอันตรายแน่ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีหน้าไปพบวินสเตอร์
ขณะเดียวกันอิซาเบลลาก็ต้องประหลาดใจ เพราะทันทีที่โรเอลเข้าใกล้ของเหลวสีทอง ไข่ก็เริ่มสั่นเป็นการตอบกลับ ผู้สร้างธารน้ำแข็ง ตัวตนในตำนานที่เคยทำลายอารยธรรมมาก่อน ตอนนี้อิซาเบลลารู้สึกได้ถึงความกลัวที่แผ่ออกมาจากมัน!
“ป…เป็นไปได้ยังไงกัน?”
อิซาเบลลาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง หญิงสาวนึกไม่ออกเลยว่าทำไมสัตว์ประหลาดระดับนั้นถึงได้เกรงกลัวโรเอลซึ่งอ่อนแอกว่าเธอมาก ข้างหลังอิซาเบลลา ชาร์ล็อตซึ่งเคยสัมผัสถึงสิ่งเดียวกันนั้น มีสีหน้าอันเคร่งเครียดเช่นกัน แต่เธอก็เลือกที่จะข่มใจเอาไว้
หากถามว่าชาร์ล็อตกังวลรึเปล่า แน่นอนสิ!
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเด็กสาวได้เห็นสีหน้าอันมุ่งมั่นของโรเอล หัวใจของเธอก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง และแล้วชาร์ล็อตก็พบว่าตัวเองไม่สามารถส่งเสียงออกไปเพื่อหยุดเขาได้
ขณะที่ผู้หญิงสองคนกำลังวิตกกังวลอยู่ โรเอลกลับรู้สึกดีมาก ความเย็นยะเยือกของไข่กลับทำให้เขารู้สึกสบายที่ผิวอย่างผิดปกติ
ด้วยการสนับสนุนจากระบบ พลังเวทของโรเอล เริ่มไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามีใครจุดไฟไนโตรขึ้นภายในตัวของเขา ทำให้เขารู้สึกร้อนรนจนทนไม่ไหว กระตุ้นให้เขาพุ่งเข้าไปหาไข่อันเย็นยะเยือกโดยสัญชาตญาณ
เหมือนได้เปิดตู้เย็นในหน้าร้อน สบายมากจริง ๆ
【คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดถูกเปิดใช้งาน เริ่มทำการดูดซึม
นับถอยหลัง: 180 วินาที
อัตราความสำเร็จ: 73%】
【นับถอยหลัง. 180, 179, 178…】
การแจ้งเตือนจากระบบทำให้โรเอลหลุดจากภวังค์ เด็กชายสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมงกุฎ ที่มีแรงดึงดูดบางอย่างต่อไข่ ราวกับแม่ที่กำลังกวักมือเรียกลูกให้กลับบ้าน เขาเริ่มดูดซับพลังเวทออกมาจากน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียง
【120, 119, 118…】
1 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรเอลไม่รู้สึกร้อนระอุเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้รู้สึกแข็งแกร่ง แม้ว่าจะดูดซับพลังเวทจากน้ำแข็งไปแล้วก็ตาม
【61, 60, 59…】
สองนาทีผ่านไปโรเอลเริ่มรู้สึกว่าสภาพของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มราวกับเตาหลอม แต่ตอนนี้เด็กชายกลับรู้สึกราวกับว่ามีใครขโมยถ่านของเขาไป ทำให้เขาสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามโรเอลก็ยังไม่แข็งแกร่งขึ้นเลย
【31, 30, 29…】
ผ่านไปอีกครึ่งนาที ร่างกายของโรเอลกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า รู้สึกราวกับว่าเวลาถูกยืดออกไปอย่างช้า ๆ ชั่วนิรันดร์ เด็กชายเจ็บปวดมาก แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองจะมายอมแพ้ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ไม่ได้
โรเอลจ้องไปที่อัตราความสำเร็จ 73% ที่ถูกประเมินออกมาโดยระบบ ด้วยใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าระบบสามารถประเมินตัวเลขนี้ออกมาได้อย่างไร เด็กชายรู้สึกว่าชะตากรรมของเขาคือถูกทิ้งไว้ให้ขึ้นอยู่กับโชคลาง
ทันใดนั้นเองที่โรเอลรู้สึกได้ว่ามีร่างอันบอบบา งกำลังโอบกอดร่างกายที่เย็นยะเยือกของเขาอยู่อย่างอ่อนโยน
“ข้าจะช่วยสนับสนุนเจ้าเอง เจ้าจะมาแพ้ที่นี่ไม่ได้นะ!”
ชาร์ล็อตตะโกนขณะที่เล็งปืนไปที่โรเอลแล้วเหนี่ยวไก