บทที่ 225: แบบนั้นก็ได้เหรอ?
สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า เป็นสถาบันการศึกษาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษ โดยตั้งอยู่ที่ใจกลางของอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล
คำว่า ‘เฟรย่า’ นั้นมีรากมาจากคำว่า ‘เฟรยา’ ของจักรวรรดิออสทีนโบราณ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นนามของเทพธิดาแห่งความรู้และความจริง เธอมีผู้ศรัทธามากมายในจักรวรรดิออสทีนโบราณ ลือกันว่าคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดภูมิปัญญานั้นมีรากฐานมาจากเธอ หากย้อนกลับไปในยุคที่สอง สถานศึกษาทั้งหมดจะมีรูปปั้นของเฟรยาสร้างขึ้นที่ทางเข้า แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ รูปปั้นของเธอในตอนแรกนั้นเป็นชายที่มีท่าทางเคร่งขรึม
คล้ายกับในโลกอดีตชาติของโรเอลที่เทพธิดาแห่งความเมตตาถูกเปลี่ยนจากผู้ชายให้เป็นผู้หญิง เมื่อยุคสมัยผ่านไป ด้วยที่แทบไม่มีใครเคยเห็นเทพเจ้ามาก่อน ประกอบกับการส่งข้อมูลที่ยังเชื่องช้าและไม่น่าเชื่อถือของโลกที่ไร้โลกาภิวัตน์ ยิ่งไปกว่านั้นหนังสือและข้อมูลทางวัฒนธรรมจำนวนมากยังได้สูญหายไปในระหว่างการอพยพในช่วงสิ้นสุดยุคที่สอง ส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ
มีการถกเถียงเชิงวิชาการครั้งใหญ่ในช่วงแรก ๆ ของยุคที่สาม ว่า เทพเจ้านั้นมีเพศหรือไม่ สำหรับโรเอลแล้วการโต้เถียงนั้นมันไร้ประโยชน์มาก ไม่ต่างอะไรไปจากการโต้เถียงกันว่าเทพเจ้ามีรูทวารหรือไม่ ทว่ารายละเอียดนี้กลับมีความหมายมากสำหรับเหล่าผู้ศรัทธาในตอนนั้น
หลังจากการโต้เถียงกันเป็นเวลานาน ในที่สุดแนวคิดเรื่องเฟรยาเป็นชายผู้เคร่งขรึมก็ถูกโยนลงในถังขยะไป และเทพีเฟรยาผู้งดงาม เทพธิดาแห่งความรู้และความจริงก็ถูกนำขึ้นมาแทนที่ อย่างน้อย ๆ ก็เป็นเช่นนั้นในอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล
นี่ทำให้โรเอลรู้สึกสงสัยว่า นักวิชาการในอดีตเหล่านั้นเป็นโสดมานานเกินไป จนพวกเขาไม่อยากจะบูชาชายเคร่งขรึมคนนั้นเป็นเทพเจ้าอีกต่อไป อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนลเต็มใจที่จะใช้ชื่อของเทพเจ้ามาเป็นชื่อของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับที่นี่มากเพียงใด
สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่านั้นอยู่บนจุดสุงสุดของปิรามิดแห่งการศึกษา การได้จบการศึกษาจากที่นั่นจึงถือเป็นเกียรติยศสูงสุด เทียบได้กับการจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หรืออ็อกซ์ฟอร์ดในโลกเดิมของโรเอลเลยก็ว่าได้
บรรดาขุนนางชนชั้นสูงของอาณาจักรต่าง ๆ แทบทุกคนล้วนจบการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น คาร์เตอร์ บิดาของโรเอลเองก็จบการศึกษามาจากที่นี่ สถาบันการศึกษาที่เป็นแหล่งรวบรวมเหล่าเยาวชนผู้ทรงพลังและฉลาดที่สุดของโลกมาไว้ด้วยกัน ทำให้ม่านเปิดฉากของเกม อาย ออฟ โครนิเคิลเริ้มต้นขึ้นที่นี่
จนถึงตอนนี้โรเอลทำได้ดีทีเดียวในการถอนเดธแฟล็กทิ้ง เขตการปกครองแอสคาร์ดได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารดูแลของโรเอล และยังสามารถหลีกเลี่ยงจุดจบอันเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยอลิเซีย นอร่า หรือชาร์ล็อต ถึงขั้นที่อาจจะได้พวกเธอมาเป็นพันธมิตรเลยด้วยซ้ำ
สามในสี่นางเอกของเกมอาย ออฟ โครนิเคิลได้มาอยู่เคียงข้างโรเอลแล้ว ดังนั้น ‘ทีมสังหาร’ ที่เคยโค่นเขาลงในเกม จึงได้พังทลายลงเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลดการป้องกันและความหวาดระแวงของตัวเองลงแต่อย่างใด
ในบรรดานางเอกทั้งสี่คน ถ้านอร่าเป็นนางเอกที่ดุดันที่สุด อลิเซียเป็นนางเอกที่มีอิทธิพลมากที่สุด และชาร์ล็อตเป็นนางเอกที่มีส่วนร่วมน้อยที่สุด แบบนั้นแล้ว นางเอกคนสุดท้ายอย่าง ลิเลียน แอคเคอร์มันน์ ก็ควรจะถูกประเมินว่าเป็นนางเอกที่รับมือได้ยากลำบากที่สุด
องค์หญิงแห่งจักรวรรดิออสทีนคนนี้นี่แหละคือตัวแปรคนสุดท้าย ที่ทำให้โรเอลต้องจบชีวิตลงในเกมอาย ออฟ โครนิเคิล
ข้อมูลของโรเอลเกี่ยวกับลิเลียนนั้นมีน้อยกว่านางเอกคนอื่น ๆ มาก น้อยกว่าแม้แต่ข้อมูลของชาร์ล็อต อย่างไรก็ตามมีแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับเธอที่ดึงดูดความสนใจของผู้เล่นทุกคนในตอนนั้น นั่นคือตัวตนของเธอ
ลิเลียนก็เป็นคนของราชวงศ์อัคเคอร์มันน์ ทำให้เธอมีศักดิ์เป็นพี่สาวของพอล แอคเคอร์มันน์ ลูกชายนอกกฎหมายขององค์จักรพรรดิและตัวเอกของเกม แม้พวกเขาจะเป็นพี่น้องต่างมารดากัน แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกเขามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดโดยตรง ตัวละครดังกล่าวจึงไม่ควรเป็นหนึ่งในเป้าหมายการจีบและนางเอกของเกม มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง
แต่แน่นอนว่าเกมอาย ออฟ โครนิเคิลมีวิธีหลีกเลี่ยงปัญหานั้นอยู่
แท้จริงแล้วพวกเขาสองคนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน และคนที่เป็น ‘ตัวปลอม’ ในที่นี้ก็น่าจะเป็นพอล เนื่องจากมันไม่มีทางเลยที่องค์จักรพรรดิจะยอมให้ตัวเองถูกจักรพรรดินีเล่นชู้ได้ ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ ลิเลียนจะปลอมแปลงตัวตนเป็นลูกสาวของพวกเขา
ในฐานะอาณาจักรที่ค่านิยมถูกบิดเบือนโดยผู้คลั่งไคล้ความบริสุทธิ์ทางสายเลือด พวกเขาจึงจุกจิกอย่างมากในแง่ของความชอบธรรมทางสายเลือด
เมื่อไหร่ก็ตามที่องค์ชายหรือองค์หญิงถือกำเนิด พวกเขาจะต้องผ่านอุปกรณ์เวทเพื่อตรวจสอบสายเลือดของพวกเขา แม้ว่าเขาจะสามารถหลอกอุปกรณ์เวทเครื่องแรกได้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็จะจับได้หากพวกเขาไม่สามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทต่าง ๆ ของราชวงศ์แอคเคอร์มันน์ ที่ต้องใช้พลังสายเลือดของจักรพรรดิเป็นสื่อ เมื่อพิจารณาความจริงที่ว่าลิเลียนนั้นอาศัยอยู่ในจักรวรรดิออสทีนมานานกว่าทศวรรษแล้วล่ะก็ เด็กสาวก็คงจะถูกเปิดเผยไปนานแล้วว่าเธอเป็นทายาทปลอม
นี่ทำให้คนที่น่าสงสัยเหลือเพียงแค่พอล แอคเคอร์มันน์ ซึ่งอยู่ภายในจักรวรรดิออสทีนไม่นานนัก ก่อนจะถูกส่งมายังอาณาจักรแห่งการศึกษา โบรเนลเพื่อร่ำเรียน
แต่มันก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียวที่จะบอกว่าพอลเป็นสมาชิกราชวงศ์แอคเคอร์มันน์ตัวปลอม เนื่องจากมีรายละเอียดอีกหลายอย่างในโครงเรื่องที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล นั่นจึงเป็นสาเหตุที่โรเอล ซึ่งความทรงจำส่วนใหญ่ถูกจำกัดอยู่ที่เส้นเนื้อเรื่องหลัก ก็ยังสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความลับส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้น่าจะถูกเปิดเผยในเส้นเรื่องของลิเลียน
นอกเหนือจากความลับเหล่านั้นแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่โรเอลกังวลเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลิเลียน แอคเคอร์มันน์นั้นตั้งตนเป็นศัตรูกับโรเอล แอสคาร์ดตั้งแต่เริ่มเกม ก่อนที่เขาจะถูกเปิดเผยว่าเป็นสมาชิกของลัทธิชั่วร้ายเสียด้วยซ้ำ
จนถึงตอนนี้โรเอลก็ยังไม่แน่ใจว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนั้นคืออะไร เขาคิดว่ามันอาจเป็นเพราะลิเลียนสังเกตเห็นความผิดปกติของโรเอล แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะจัดการกับเขา นั่นคงเป็นการคาดเดาในแง่ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตอนนี้มันไม่มีทางเลยที่โรเอลจะเข้าร่วมลัทธิชั่วร้ายได้ เนื่องจากเขามีกองทัพเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
“งั้น… ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสินะ”
โรเอลกะพริบตาครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจคิดในแง่บวก หากการคาดเดาของเขาถูกต้องล่ะก็ เขาอาจจะไม่ต้องสนใจเดธแฟล็กของลิเลียนเลยด้วยซ้ำ
ตามหลักแล้ว ไม่มีทางที่ผู้คนในโลกนี้จะมีอคติอย่างลึกซึ้งต่อเขาอย่างชาร์ล็อตในตอนแรก อันที่จริง แม้แต่ในกรณีของชาร์ล็อต ความรู้สึกนั้นก็เกิดจากสัญญาหมั้นที่ปรากฏขึ้นมาโดยไม่คาดคิดระหว่างพวกเขา แต่ลิเลียนนั้นอาศัยอยู่ในจักรวรรดิออสทีนอันไกลโพ้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างพวกเขา
“เฮ้อ บางทีเราคงคิดมากไปเอง”
โรเอลถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกก่อนจะแสดงสีหน้าราวกับกำลังพูดว่า ‘โลกที่เราอยู่นั้นมันช่างมหัศจรรย์เสียจริง’
ตามที่คาดไว้ เราบรรลุเป้าหมายทั้งหมดได้ก่อนที่จะเข้าไปยังสถาบันการศึกษาจริง ๆ
ด้วยความคิดดังกล่าวในใจ โรเอลยืดร่างกายของตนพร้อมจิบถ้วยน้ำชาอย่างสง่างาม
แม้ว่าเราจะสามารถหักเดธแฟล็กส่วนใหญ่ในเกมไปได้แล้ว แต่เราก็ไม่ควรที่จะประมาทเลินเล่อจนเกินไป เหตุการณ์ในสถาบันการศึกษาที่เรารู้ในตอนนี้ มีเพียงปัญหาที่โรเอลคนก่อนต้องเผชิญเท่านั้น นอกจากนี้เรายังมีปัญหาเร่งด่วนอีกอย่างที่ต้องจัดการเช่นการหาเบาะแสของ ‘นักวิชาการ’
เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้ว โรเอลก็วางถ้วยน้ำชาลงพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูเหล่าทหารรับจ้างที่กำลังเดินขบวนอยู่นอกหน้าต่าง จากนั้นเขาก็หันกลับมาสนใจที่ภายในรถม้า ที่เขานั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวปราศจากทั้งคนรับใช้ หรือใครอื่น ทำให้จู่ ๆ เด็กชายก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“นี่เรารู้สึกเหงาที่ต้องเที่ยวคนเดียวงั้นเหรอ? อ่า แต่อีกไม่นานเราก็คงจะชินล่ะมั้ง”
โรเอลตั้งข้อสังเกตก่อนจะลูบบนริมฝีปากของตนโดยไม่รู้ตัว