บทที่ 243: รางวัลของทูตสวรรค์
โรเอลกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว การแจ้งเตือนที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในระบบ ทำให้เขาได้เห็นว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยในบรรดาฝูงชนรอบ ๆ ที่บนศีรษะเองก็กลายเป็นสีเขียวเช่นเดียวกัน
แม้ว่าแต้มความสนใจที่มากที่สุดจะมาจากพอล แต่ก็มีแต้มอื่น ๆ อีกมากมายที่ไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมของสนามหญ้า แสดงให้เห็นว่ามีคนที่ชื่นชอบในความชอบธรรมอยู่ไม่น้อยในที่นี้
นี่ทำให้อารมณ์ของโรเอลดีขึ้นมาก เด็กหนุ่มจึงหันกลับไปหาพอลด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันก็แค่ทนไม่ได้เวลาเห็นคนรวมกลุ่มกันเพื่อกดขี่ข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า”
“ลูกพี่โรเอล…”
“ฉันอายุน้อยกว่านายนะ”
โรเอลพูดพร้อมยื่นมือออกไปช่วยพยุงพอล
พอลเงยหน้าขึ้นมองโรเอลด้วยดวงตาอันเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ทว่าจู่ ๆ เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงทันที เมื่อได้เห็นภาพข้างหลังโรเอล ทันใดนั้นเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น
“อันที่จริง ข้าเองก็ทนเรื่องแบบนั้นไม่ได้เหมือนกัน แต่ที่เจ้าทำมันสร้างความโกลาหลมากเกินไปแล้ว”
“หืม?”
เสียงถอนหายใจที่ดังมาจากข้างหลัง ทำให้โรเอลประหลาดใจ เขาหันศีรษะไปรอบ ๆ ตามสัญชาตญาณ ก่อนจะเห็นเงาสีทองเดินผ่านฝูงชนที่แยกจากกันเพื่อหลบทางให้
นอร่า เซไซต์ ค่อย ๆ มุ่งหน้ามาทางโรเอลพร้อมกับเหล่าขุนนางจากจักรวรรดิเซนต์เมซิท ที่คอยติดตามเธอมาด้วย อย่างไรก็ตาม ต่างจากตอนที่เจอกับชาร์ล็อตบนถนน ครั้งนี้โรเอลสงบกว่ามาก
ด้วยความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการปลดปล่อยอสรพิษเก้าเศียรของโรเอล มันจึงเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่นอร่าจะต้องแสดงตัวออกมา เพราะตามหลักแล้วโรเอลเองก็อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของเธอ ในฐานะที่เขาเป็นขุนนางของจักรวรรดิเซนต์เมซิท
เนื่องจากปีนี้นอร่าได้ลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ตระกูลเซไซต์จึงได้เสนอเงินทุนอุดหนุนค่าเล่าเรียนให้แก่บรรดาขุนนางอายุน้อยต่าง ๆ ในจักรวรรดิเซนต์เมซิท เพื่อให้พวกเขาสามารถลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าตามเธอไปได้ ส่งผลให้ปีนี้มีนักเรียนใหม่เข้ามาเป็นจำนวนมากขึ้น ขุนนางเหล่านี้จำเป็นต้องปกป้องนอร่าแลกเปลี่ยนกับเงินทุนที่ได้รับ ถึงแม้ว่าความจริงแล้ว การปกป้องจากพวกเขาจะไม่ได้จำเป็นสำหรับเธอเลยก็ตาม
ตำแหน่งทายาทของตระกูลแอสคาร์ดของโรเอลในจักรวรรดิเซนต์เมซิทนั้นถือว่าค่อนข้างสูงกว่าคนอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข่าวลือมากมายว่านอร่านั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรเอล ทำให้เด็กหนุ่มเปรียบเสมือนรองหัวหน้ากลุ่มขุนนางรุ่นเยาว์ของจักรวรรดิเซนต์เมซิทไปโดยปริยาย ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการกระทำของเขาเป็นตัวแทนการตัดสินใจของกลุ่มเลยก็ว่าได้
การสนทนาท่ามกลางฝูงชนเริ่มรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อนอร่ามาถึง รูปลักษณ์อันสวยงามศักดิ์สิทธิ์ของเธอดึงดูดความสนใจคนรอบข้าง รัศมีแห่งความเมตตาที่แผ่ออกมาอย่างสง่างามของเด็กสาวบังคับให้ทุกคนโดยรอบต้องยอมจำนน
คนที่ไม่รู้จักตัวตนของนอร่า รีบถามนักเรียนคนอื่น ๆ ว่าเธอเป็นใคร ในเวลาเดียวกัน นักเรียนที่อยู่ไกลออกไปเล็กน้อยบนสนามหญ้าก็เริ่มเดินมาทางนี้ ด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมที่เกิดจากอสรพิษเก้าเศียรเมื่อครู่
นอร่าตรวจสอบฝูงชนโดนรอบอย่างรวดเร็ว มีเด็กสาวจำนวนไม่น้อยที่กำลังมองมาทางโรเอลด้วยสายตาอันหลงใหล ความยุติธรรมของเขาในการลงโทษคนที่กดขี่เด็กใหม่ผู้อ่อนแอได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเรียนหญิง ที่บางคนก็ต่อต้านการรังแก
ชิ คิดไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น
องค์หญิงจากจักรวรรดิเซนต์เมซิทสบถในใจ อย่างไรก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ยังคงสง่างามเช่นเคย ต่อหน้าต่อตาฝูงชน เธอได้เดินตรงเข้าไปหาโรเอล ดึงเนคไทของเขาเข้ามาใกล้พร้อมเอามืออีกข้างหนึ่งโอบคางของเขา
“หา? น..นอร่า?”
“การที่เจ้าไม่ได้เดินทางมาพร้อมข้ามันก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การที่เจ้าล้มเหลวในการมองหาข้า หลังจากมาถึงที่นี่ เรื่องนั้นสมควรได้รับโทษไม่ใช่หรือ?”
เสียงที่ฟังดูน่ารำคาญเล็กน้อย แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักทำให้โรเอลต้องตกตะลึง เช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ มากมายรอบตัวเขา รวมทั้งพอลเองก็ด้วย
เดี๋ยวก่อน ทำไมเหตุการณ์นี้ดูคุ้น ๆ จัง?
หลังจากที่พอลฟื้นคืนจากอิทธิพลอันทรงพลังและเสน่ห์ของนอร่าได้ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงการเผชิญหน้าของโรเอลกับชาร์ล็อตก่อนหน้านี้ มันทำให้การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเด็กหนุ่มหันไปมองโรเอลอีกครั้ง เขาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มีเพียงสตรีผู้สูงส่งระดับนี้เท่านั้นที่จะคู่ควรกับผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม และทรงพลังอย่างลูกพี่โรเอล! เขาช่างเป็นคนที่น่าทึ่งจริง ๆ!
พอลรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของโรเอลอีกครั้ง พลางหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน นอร่าก็มองตรวจดูฝูงชนอย่างจริงจัง เพื่อประเมินประสิทธิภาพของวิธีการป้องกันของตน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จโดยไม่มีปัญหาอะไร นักเรียนหญิงหลายคนต่างเผยสีหน้าลังเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเธอได้รู้ถึงตัวตนของนอร่าแล้ว
มีคนไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่จะกล้าแข่งขันกับว่าที่จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทในการแย่งชิงผู้ชาย นอร่านั้นมีทั้งความโดดเด่นในด้านรูปลักษณ์ ความสามารถ และจุดยืน ทำให้คนส่วนมากที่ต้องมาอยู่ต่อหน้าเธอรู้สึกด้อยกว่า
แน่นอน นอร่ารู้ดีว่าเธอไม่อาจขัดขวางทุก ๆ คนไม่ให้เข้าหาโรเอลได้ เด็กสาวบางคนก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ และพร้อมจะยืนหยัดเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับโรเอล เธอรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี ด้วยที่เคยได้ลิ้มรสว่าโรเอลนั้นมีเสน่ห์มากแค่ไหน เด็กสาวรู้ดีว่าที่ผ่านมาตนเองยังประเมินความดื้อรั้นของคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป เพราะฉะนั้นตอนนี้ เธอจึงต้องกรองคนที่ยังคงจ้องมองมาทางเธอ ทำหน้างุนงง หรือหน้าแดงด้วยอารมณ์โกรธ
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากไปหาเธอหรอกนะ แต่… พอดีว่าฉันได้เจอเพื่อนใหม่น่ะ”
“หืม? เพื่อนใหม่งั้นเหรอ?…”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของโรเอล นอร่าก็หันนัยน์ตาสีไพลินของเธอไปที่เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา ทันใดนั้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าโรเอลชำเลืองมองเธออย่างไร ในตอนที่พอลถูกกดขี่โดยพวกขุนนางจากจักรวรรดิออสทีนก่อนหน้านี้
“เดี๋ยวสิ งั้นก่อนหน้านี้เจ้าก็ทำไปเพื่อที่ข้าจะได้ไม่ต้องลงมือเองงั้นเหรอ?”
“… จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
“อย่างนั้นเองหรือ?”
คำตอบนั้นทำให้คิ้วของนอร่าขมวดขึ้นด้วยความยินดี ก่อนจะปล่อยมือออกจากเนคไทของโรเอลในที่สุด
“อันที่จริง ข้าเองก็ทนเห็นวัฒนธรรมการใช้อำนาจของจักรวรรดิออสทีนไม่ได้เหมือนกัน และข้าก็ดีใจมากที่เจ้าได้ลงมือจัดการพวกเขาแทนให้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ข้าได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ การใช้อสรพิษเก้าเศียรตัวนั้นค่อนข้างจะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปสักหน่อย ครั้งนี้เจ้าอาจจะผ่านไปได้ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เธอคนนั้นเพ่งเล็งเฝ้าระวังในตัวเจ้า”
“…”
คำพูดของนอร่าทำให้โรเอลยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เด็กสาวเหลือบมองไปยังหอคอยที่ลิเลียนเคยปรากฏตัวก่อนหน้านี้ด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม
“มันยังเร็วเกินไปที่พวกเราจะปะทะกับเธอ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องรอจนกว่าข้าจะไปถึงระดับแก่นแท้ 3 ได้เสียก่อน ข้าหวังว่าเจ้าจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตรง ๆ กับเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“… ฉันรู้ดีเลยล่ะว่าฉันประเมินเธอคนนั้นต่ำไป”
โรเอลถอนหายใจพลางกล่าวประณามตนเอง
เด็กหนุ่มรู้ดีว่าตนเองได้ใจมากเกินไปหน่อยหลังจากที่เคยได้ผ่านสถานการณ์อันตรายมาแล้วมากมาย แม้ว่าในตอนนี้โรเอลน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงอายุของเขา แต่การเผชิญหน้าครั้งก่อนกับลิเลียน ทำให้เด็กหนุ่มเข้าใจได้ทันทีถึงความหมายของคำว่า ‘โลกนี้มักจะมีภูเขาที่สูงกว่าเสมอ’ รวมถึงช่องว่างขนาดใหญ่ที่กั้นอยู่ระหว่างผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 4 และระดับแก่นแท้ 3
เมื่อมองเห็นท่าทีที่ดูเศร้าหมองของโรเอล จู่ ๆ นอร่าก็รู้สึกว่าเธอควรให้กำลังใจเขากลับไปบ้าง หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ริมฝีปากของเธอก็ยกขึ้นด้วยความคิดบางอย่าง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันให้มากนักหรอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงมันก็เหมาะสมกว่าที่เจ้าจะเป็นคนเคลื่อนไหวแทนข้า และข้าก็เชื่อว่าเจ้าคู่ควรจะได้รับรางวัล ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาผู้มีความภักดีที่ต่อสู้ในนามของข้า เจ้าไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”
“หา? รางวัล? …”
เราไม่ได้ต้องการรางวัลอะไรซะหน่อย เราก็แค่ทำแบบนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเดธแฟล็กของเราถูกถอนออกไปแล้วจริง ๆ
ก่อนที่โรเอลจะได้ถามว่ารางวัลนั้นคืออะไร นอร่าก็โน้มตัวเข้าไปหาเขา จูบที่แก้มของเด็กหนุ่มต่อหน้าฝูงชนในทันที