บทที่ 27: เธอชื่นชอบอะไรบ้างนะ
รายการสินค้าฤดูหนาวล่าสุดของสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์ มีสินค้าอยู่หลากหลายประเภท เช่นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมแปลกประหลาดแต่มีผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องประดับ น้ำหอม หรือแม้แต่อาหารและเครื่องดื่ม ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
รายการสินค้าสำหรับเสื้อผ้านั้นจะระบุไว้เพียงรายละเอียดผ้า ชื่อของผู้ออกแบบและช่างปักเท่านั้น ส่วนรูปแบบของเสื้อผ้าจะไม่ได้ถูกแสดงออกมาให้เห็นในรายการสินค้า
เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจที่สุดสำหรับสตรีสูงศักดิ์ ก็คือการที่พวกเธอบังเอิญสวมเสื้อผ้าเหมือนกันในงานเลี้ยง
ด้วยเหตุนี้นักออกแบบจึงต้องไปยังคฤหาสน์ของลูกค้าเพื่อวัดขนาด สัดส่วนและทำการออกแบบชุดเสื้อผ้าเฉพาะตัวสำหรับแต่ละบุคคล นี่ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าทุกชิ้นจะไม่ไปซ้ำกับใครอื่น
ยกตัวอย่างเช่นชุดที่อลิเซียสวมในวันที่องค์หญิงนอร่ามาเยือน มันเป็นของขวัญที่คาร์เตอร์มอบให้เธอในตอนที่เด็กสาวมาที่คฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ดเป็นครั้งแรก
การออกแบบนั้นสวยสดงดงามเสียจนแม้แต่โรเอลก็ยังต้องยอมรับว่ามันเป็นชุดที่อลังการมากเลยทีเดียว ตอนนี้มันจึงกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุดของเธอ
อย่างไรก็ตามโรเอลนั้นไม่ได้ขอให้แอนนานำรายการสินค้ามาให้เพื่อที่เขาจะได้ดูรายการสินค้าเหล่านี้ แม้ว่าสิ่งของที่อยู่ในรายการสินค้าจะน่าทึ่งมาก แต่ที่เด็กชายสนใจมีเพียงแค่หน้าสุดท้ายของรายการสินค้าที่เป็นรายการคำขอต่างหาก
หน้าที่ทางธุรกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมาคมพ่อค้า ก็คือการซื้อสินค้า โดยรายการคำขอที่หน้าสุดท้ายนั้นเป็นรายการสินค้าที่สมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์ต้องการซื้อเป็นหลัก
มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ขุนนางจะยื่นคำขอพิเศษให้กับสมาคมพ่อค้า รายการคำขอที่หน้าสุดท้ายจึงถูกสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองคำขอเหล่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น หากโรเอลต้องการสบู่หอม แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีจำหน่ายในเขตการปกครองแอสคาร์ด หรือบริเวณใกล้เคียงเลย สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือการยื่นเรื่องส่งคำขอสิ่งของบางอย่างที่ ‘มีกลิ่นหอมและทำความสะอาดร่างกายได้’ ให้กับสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์
เมื่อสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์ได้รับคำขอแล้ว พวกเขาจะเขียนระบุมันไว้ในรายการคำขอที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายของรายการสินค้า และไปหาซื้อมันมาจากภูมิภาคอื่น ๆ ใน จักรวรรดิเซนต์เมซิท หรืออาณาจักรรอบข้าง
มันเป็นไปได้ที่สินค้าดังกล่าวจะไม่ใช่สบู่หอมอย่างที่โรเอลต้องการ แต่ก็อาจจะเป็นหินที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์เดียวกันพอที่จะใช้แทนกันได้
เฉพาะลูกค้ารายใหญ่เท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้สามารถยื่นคำขอเหล่านี้ โดยพวกเขาจะต้องวางเงินมัดจำไว้กับทางสมาคมพ่อค้าก่อนล่วงหน้า และหลังจากทำธุรกรรมแล้ว สมาคมพ่อค้าก็จะเรียกเก็บค่าจัดหาสินค้า ซึ่งเป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้ากิติมศักดิ์เพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาโดยเฉพาะ
มีสองเหตุผลใหญ่ ๆ ที่โรเอลต้องการขายสินค้าของตนผ่านรายการคำขอนี้
ประการแรก ผู้ที่ส่งคำขอเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่ร่ำรวย ดังนั้นราคาที่พวกเขาเสนอมักจะสูงกว่าราคาตลาดมาก หากเทียบกับราคาที่สมาคมพ่อค้าเสนอ
ประการที่สอง รายการคำขอนี้ไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย มีเพียงสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์เท่านั้นที่จะทราบตัวตนของผู้ที่ทำธุรกรรมดังกล่าว และในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีที่ข้อมูลลับของลูกค้ารั่วไหลออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สรุปก็คือ มันทั้งได้กำไรและปลอดภัย!
ทว่ามันก็ยังมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งที่โรเอลไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นั่นก็คือโรเอลจำเป็นต้องมีสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุเอาไว้ในรายการคำขอ อยู่ในระบบร้านค้าของเขา ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องใช้โชคค่อนข้างมาก
โชคดีที่เขาบังเอิญมีสินค้าในร้านค้าเหรียญทองที่มีคุณสมบัติตรงกับที่ระบุเอาไว้ในรายการคำขออยู่ 1 อย่างพอดี!
เกณฑ์การร้องขอ: สินค้าที่มีผลในการทำให้วิญญาณสงบลง ระงับพลังเวทด้านลบ และป้องกันการคืนชีพของศพ
เมื่อเด็กชายได้อ่านพิจารณาเกณฑ์อย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันกลับไปมองสินค้าในร้านค้าเหรียญทอง ของระบบ
【 ตะเกียงสงบวิญญาณของซาโครม
ตะเกียงน้ำมันที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักบวช ซาโครม อุปกรณ์พลังเวทที่ใช้นำสันติสุขกลับมาสู่ผู้วายชนม์ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีสิ่งแปลก ๆ อะไรคลานกลับขึ้นมาจากผืนดินอีก
ผลของอุปกรณ์พลังเวทจะคงอยู่จนกว่าน้ำมันในตะเกียงจะหมดลง
ราคา: 5,000 เหรียญทอง】
“ …”
ดูเหมือนว่าความสามารถของเจ้านี่จะตรงตามเกณฑ์เลย ใช่รึเปล่า?
โรเอลลูบคางของตนพลางมองไปมาระหว่างเกณฑ์คำร้องขอและคำอธิบายจากระบบเกี่ยวกับ ตะเกียงสงบวิญญาณของซาโครม
ในชื่อมีคำว่า ‘สงบวิญญาณ’ ✓ผ่าน
การป้องกันการคืนชีพของศพ ✓ ผ่าน
ที่เหลือก็แค่ผลในการระงับพลังงานด้านลบสินะ
ถ้าพลังงานด้านลบที่ว่าหมายถึงพลังด้านลบในการคืนชีพศพ ก็พอจะบอกได้ว่าตะเกียงนี่มีผลในการระงับพลังงานด้านลบได้ด้วยรึเปล่า?
ผลในการระงับพลังงานด้านลบ ✓ผ่าน
โรเอลพยักหน้ากับตัวเอง วางรายการสินค้าลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มครุ่นคิดว่าตนเองควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
————————————–
“ท่านพ่อ ผมอยากจะเดินทางไปที่สมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์” เด็กชายเอ่ยกับผู้เป็นพ่อเสียงอ่อน
“หืม? ลูกมีของที่อยากซื้องั้นเหรอ? ส่งคนรับใช้ให้ไปซื้อมาก็ได้นี่”
มาร์ควิสคาร์เตอร์ผู้กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานรู้สึกสับสนงุนงงกับคำขอของลูกชาย
เดิมทีเด็กชายเป็นนายน้อยผู้มีนิสัยเอาแต่ใจ หากเขาอยากได้อะไรเขาก็จะสั่งให้คนรับใช้ไปเอามันมา ทำให้โรเอลไม่เคยต้องเดินทางไปยังสมาคมพ่อค้าด้วยตัวเองมาก่อนเลยสักครั้ง การส่งใบสั่งซื้อเป็นเพียงธุระเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนรับใช้
จริง ๆ แล้ว โรเอลจะมุ่งหน้าไปที่นั่นโดยที่ไม่ต้องแจ้งให้คาร์เตอร์ทราบล่วงหน้าเลยก็ยังได้ แต่นั่นน่าจะทำให้คาร์เตอร์เกิดความสงสัยมากเกินไป ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ทำให้ความไว้วางใจที่คาร์เตอร์มีต่อเขาลดต่ำลง โรเอลจึงตัดสินใจที่จะปรึกษาบิดาของตนก่อน
“อันที่จริงผม…ไม่ได้จะไปที่นั่นเพื่อซื้อของสำหรับตัวเองหรอกครับ”
โรเอลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถูมือเข้าด้วยกันอย่างเชื่องช้า แล้วตอบกลับด้วยท่าทางอันเขินอายเล็กน้อย ปฏิกิริยานี้ดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของคาร์เตอร์ในทันที
“นี่มันก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ให้ของขวัญอะไรเป็นการต้อนรับอลิเซียเลยนับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเป็นสมาชิกตระกูลของเรา ผมเลยคิดว่าจะเข้าไปตรวจดูรายการเพิ่มเติมล่าสุดที่สมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์มีอยู่ในคลัง เพื่อหาซื้อสิ่งที่เธอน่าจะต้องการ”
“อ่า เข้าใจแล้ว”
คาร์เตอร์วางปากกาลงพลางมองไปยังลูกชายของตัวเองด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่าลูกชายของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงบุคคลิกภาพไปได้มากขนาดนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ไม่คิดเลยว่าโรเอลจะเปลี่ยนมาใส่ใจดูแลคนอื่นได้จริง ๆ!
การมีน้องสาวให้ต้องดูแลสามารถเปลี่ยนแปลงให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้จริง ๆ!
(แต้มความสนใจ +200!)
คาร์เตอร์พยักหน้า พร้อมกับแสงสีเขียวบนศีรษะและรอยยิ้มอันเบิกกว้าง
“เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก ได้เลยโรเอล พ่อจะฝากเงินค่าใช้จ่ายไว้กับแอนนา”
“ขอบคุณครับ ท่านพ่อ ผมจะรีบกลับมาทันทีที่เสร็จธุระ” ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งนั้น เขาแอบยิ้มกริ่มในใจ
เมื่อแผนของเขาประสบความสำเร็จ โรเอลก็กล่าวขอบคุณบิดาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องทำงานของมาร์ควิสคาร์เตอร์ด้วยความยินดี
ด้วยการพูดคุยเพียงครั้งเดียว เราก็ได้รับทั้งเงิน ทั้งแต้มความสนใจ อีกทั้งยังสามารถปกปิดเหตุผลในการไปที่สมาคมพ่อค้าโซโรฟยาร์ได้อีกด้วย นี่มันเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวชัด ๆ!
เป็นไปตามแผน!
ทว่าในขณะที่โรเอลกำลังเฉลิมฉลองชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจของเขา จู่ ๆ คาร์เตอร์ก็เรียกเขาให้หันกลับไป
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“อะไรเหรอครับท่านพ่อ?” หัวใจโรเอลที่พองโตด้วยความดีใจในตอนนี้แทบจะหยุดเต้น
เสียงของเก้าอี้ที่ถูกผลักไปข้างหลังดังขึ้น จากนั้นคาร์เตอร์ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน จ้องมองไปที่โรเอล เขานิ่งงัน จนหลังของเด็กชายเริ่มมีเหงื่อไหลออกมาเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้น? เขาสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติงั้นเหรอ?
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าบิดาของตนเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหัวใจของโรเอลก็เต้นระรัวจนผิดจังหวะ เด็กชายรอคอยคำพูดต่อไปของคาร์เตอร์อย่างประหม่า
“เจ้ากำลังจะไปที่นั่นเพื่อซื้อของให้กับอลิเซียใช่ไหม?” เขาตบไหล่ลูกชายเบา ๆ
“ครับท่านพ่อ”
“เจ้าลองใช้เวลาที่มีดูรายการสินค้าของพวกเขาให้ดี นอกจากสำหรับอลิเซียแล้ว เจ้าจงเตรียมของขวัญอีกชิ้นเอาไว้ด้วย สำหรับวันคล้ายวันเกิดขององค์หญิงที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้”
“ค…รับ เอ๋ ว่ายังไงนะครับ?”
โรเอลที่กำลังจะตอบกลับไป ทันใดนั้นก็ประมวลผลในสิ่งที่คาร์เตอร์พูดและหยุดชะงักลงด้วยความตกใจ
“องค์หญิง?”
“ใช่แล้ว องค์หญิงนอร่าไง ปีที่แล้วเจ้ามีไข้ขึ้นสูง เจ้าเลยไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดขององค์หญิงนอร่า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าก็ต้องไปเข้าร่วมงานนั้นในปีนี้เพื่อชดเชย” เขาพูดเชิงบังคับกลายๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้ลูกชายเมื่อพูดจบ
“น…นั่นมัน…” หายนะชัดๆ โรเอลหน้าซีดกว่าเดิม
“ปกติแล้วเนื่องจากพวกเรามาจากตระกูลเดียวกัน จึงส่งของขวัญร่วมกันเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้เจ้านั้นสนิทสนมกับองค์หญิงนอร่าแล้ว ประกอบกับที่เจ้าพลาดงานในปีที่แล้วไป มันคงจะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าจะมอบของขวัญให้เธอเป็นการส่วนตัวในครั้งนี้”
คาร์เตอร์ปรบมือยุติการสนทนาลง แววตาของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาพอใจกับตัวเองมากที่สามารถคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แต่ในขณะเดียวกันใบหน้าของโรเอลก็เริ่มแสดงอาการขมขื่น
ท่านพ่อช่วยหยุดพูดเรื่องไร้สาระจะได้ไหม ใครเป็นเพื่อนกับยัยนั่นกันเล่า ท่านปักใจเชื่อคำพูดขององค์หญิงคนนั้นไปได้ยังไงเนี่ย!
“ไม่จำเป็นต้องเป็นของมีค่ามากก็ได้ มันจะเป็นการดีกว่าหากเจ้าสามารถเลือกสิ่งที่สอดคล้องกับความชอบขององค์หญิงได้” คาร์เตอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สิ่งที่นอร่าชอบและไม่ควรมีค่าเกินไป…
มันช่างน่ากลัวที่คำตอบของคำถามนี้ผุดขึ้นในใจของโรเอลในแทบจะทันที เขาพึมพำกับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
“สายจูงสุนัข”