ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD – ตอนที่ 86 เป้าหมายของข้าเกี่ยวกับร้านนี้… เรียบง่ายมาก

ชายชราที่เดินเข้าร้านมานั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน จีฉางเฟิ่ง

ใบหน้าของจีฉางเฟิ่งค่อนข้างซีดเซียว เขาดูเปราะบางเหมือนไม้ใกล้ฝั่งเต็มทน บรรยากาศน่าเกรงขามของการเป็นผู้ครองแผ่นดินหายไป

“ข้าเห็นป้ายร้านห้อยอยู่ที่หน้าประตู ตัวอักษรดูเหมือนใช้เครื่องผลิต แถมยังไม่มีพลังในการเขียนอีกด้วยจึงทำให้ดูไม่น่าอ่าน แม้ภายนอกจะดูสวยดีแต่คงไม่ยืนยง แน่นอนว่าสู้ฝีพู่กันของข้าไม่ได้” จักรพรรดิพูดกลั้วหัวเราะพร้อมเอามือไพล่หลัง

ปู้ฟางเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่ได้แปลกใจที่จักรพรรดิมาที่ร้าน แต่แปลกใจว่าอีกฝ่ายมาเช้ามากต่างหาก

ป้ายร้านนั้นระบบเป็นคนจัดหามาให้ ตอนนั้นปู้ฟางปฏิเสธข้อเสนอของจักรพรรดิที่จะเขียนป้ายร้านให้เพียงเพราะระบบบอกว่าจะเป็นฝ่ายจัดหาให้เอง แต่กลับกลายเป็นว่า… ป้ายร้านที่ระบบสร้างขึ้นมากลับดูไม่น่าประทับใจเสียอย่างนั้น

“ระบบ จักรพรรดิบอกว่าตัวอักษรบนป้ายที่เจ้ามอบให้เขียนไม่ดี” ปู้ฟางพูดกับระบบ

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความเงียบชั่วขณะ ก่อนที่เสียงนิ่งขรึมของระบบจะดังขึ้น “ตัวอักษรบนป้ายเป็นงานที่ลอกมาจากนักเขียนพู่กันจีนอันดับหนึ่งในจักรวรรดิวายุแผ่ว เรื่องความสวยงามคงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องพลังในการเขียนที่จักรพรรดิเอ่ยถึงนั้น ระบบไม่มีคำตอบให้”

ชายหนุ่มเจ้าของร้านพยักหน้า ป้ายร้านที่ระบบจัดหามาให้ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ตัวอักษรคงไร้ซึ่งพลังเนื่องจากเป็นของทำเลียนแบบ

ปู้ฟางไม่สนใจหัวข้อนี้อีกต่อไป เขาถามจักรพรรดิด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ท่านจักรพรรดิมากินข้าวรึ”

จักรพรรดินั่งลงที่โต๊ะแล้วโบกมือไล่อีกฝ่าย “ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ข้ามีคำถามที่ต้องการคำตอบจากเจ้า”

“หืม คำถามอะไรกัน” ปู้ฟางถาม

“หากข้าไม่รีบถามเสียแต่ตอนนี้ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้ถามอีก” ร่างของจักรพรรดิสั่นเทิ้มเล็กน้อยขณะไอโขลก จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองปู้ฟางด้วยสายตาจริงจังแต่พร่ามัว “เจ้าเป็นนายของอสูรเวทในตำนาน ทั้งยังมีหุ่นเชิดที่แข็งแกร่งเทียบเท่าขั้นนักพรตยุทธการ แถมยังสามารถทำอาหารที่เต็มไปด้วยพลังปราณ… เถ้าแก่ปู้ เจ้าเป็นใครกันแน่

“เจ้ามาอยู่ที่นครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่วด้วยเหตุผลใด”

ปู้ฟางเลิกคิ้วมองจักรพรรดิ ทั้งสองประสานสายตากันกลางอากาศ

หลังจากผ่านไปเนิ่นนานชายหนุ่มก็ตอบเสียงเรียบ “ข้าไม่มีจุดมุ่งหมายใดแอบแฝง เพียงแต่ต้องการทำร้านเล็กๆ ของตัวเองเท่านั้น”

สีหน้าของจักรพรรดิชะงักค้าง เขาส่ายหน้าและยิ้มบูดเบี้ยว “เป็นไปไม่ได้ ความแข็งแกร่งของร้านเจ้าเทียบเท่าจักรวรรดิวายุแผ่วทั้งจักรวรรดิ ไม่มีทางที่เจ้าจะมาเปิดร้านอาหารแค่เพราะอยากเปิดแน่นอน หากเจ้าไม่อยากตอบข้าก็จะไม่บังคับ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะตอบคำถามสุดท้ายของข้าด้วยความสัตย์จริง”

“ถามมา” ปู้ฟางเอ่ย

จักรพรรดิเอามือกุมหน้าอกและไอเล็กน้อย ก่อนเงยหน้าขึ้นถามชายหนุ่ม “เจ้าไม่ใช่คนจากสำนักใช่หรือไม่ เจ้าจะไม่ทำสิ่งใดที่ทำให้จักรวรรดิเดือดร้อนใช่หรือไม่”

คำถามนี้คือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงในการมาเยือนร้านในวันนี้ ในฐานะจักรพรรดิของอาณาจักร แม้จะเป็นจักรพรรดิที่กำลังจะลาจากโลกนี้ไป เขาก็ยังทนไม่ได้ที่มีปัจจัยซึ่งนอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นและตั้งอยู่ในจักรวรรดิของตนเอง

แต่ด้วยความที่ร้านนี้มีอสูรเวทในตำนานอยู่ จักรพรรดิจึงไม่กล้าแม้แต่คิดจะทำลายร้านลง ทำได้เพียง สอบถามให้รู้ถึงจุดมุ่งหมายหลักของร้านเท่านั้น

ในความเป็นจริงแล้ว ปู้ฟางเพียงเปิดร้านอาหารในนครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่วเพื่อหาผลึกด้วยวิธีที่ปกติธรรมดาที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มขั้นปราณของตนเองเท่านั้น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการเป็นพ่อครัวเทพ ผู้ที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งการทำอาหารในโลกจินตนาการ จุดมุ่งหมายของเขา… เรียบง่ายเพียงเท่านั้น

“ไม่ต้องกังวลไป ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างแน่นอน” มุมปากของปู้ฟางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแข็งทื่อ ขณะที่เขาตอบจักรพรรดิด้วยท่าทางจริงจัง

จักรพรรดิประหลาดใจไปชั่วครู่ จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเหี่ยวย่น และกลายเป็นเสียงหัวเราะดังลั่น

“เถ้าแก่ปู้ ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากได้ยินคำตอบของเจ้า ข้ามีความสุขมาก ดังนั้นวันนี้ข้าจะสั่งอาหารทุกจานในร้าน นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะได้กินอาหารฝีมือเจ้า”

หลังจากที่จักรพรรดิหัวเราะเสร็จ เขาก็หายใจเข้าลึกแล้วปรบมือพร้อมเอ่ยสั่ง

เหลียนฟู่ที่รออยู่ภายนอกเดินเข้าร้านมาพร้อมจีบมือ เขามายืนอยู่เบื้องหลังจักรพรรดิด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

ปู้ฟางพยักหน้าจากนั้นก็เดินเข้าครัวไป

ผ่านไปสักพักกลิ่นหอมก็ลอยออกจากห้องครัว จักรพรรดิหรี่ตาลง ดูเหมือนว่ากำลังดื่มด่ำกับกลิ่นหอมของอาหาร

“ข้าเองก็อยู่มานานหลายปี กินอาหารอร่อยมาก็มาก แต่อาหารของเถ้าแก่ปู้นั้นจับใจที่สุด น่าเสียดายที่… ข้าได้เจอเถ้าแก่ปู้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต สงสัยเหลือเกินว่านี่เป็นรางวัลที่สวรรค์มอบให้ข้าหรือเป็นบทลงโทษกันแน่” จักรพรรดิพึมพำกับตนเองแผ่วเบา

เสี่ยวอี้นำอาหารจานแล้วจานเล่าออกมาวางหน้าจักรพรรดิ ชายชราหัวเราะในลำคอแล้วลูบศีรษะของนางด้วยใบหน้าอ่อนโยน

หลังจากที่กินอาหารจนหมด จักรพรรดิก็ออกจากร้านไปพร้อมเหลียนฟู่ที่เดินตามหลัง ส่วนปู้ฟางก็ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังชราของอีกฝ่ายอยู่ที่ปากทางเข้าร้าน และทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจออกมาเบาๆ

“เสี่ยวอี้ พรุ่งนี้กับมะรืนเจ้าไม่ต้องมานะ ข้าต้องออกไปทำธุระหน่อย เลยต้องปิดร้านสองวัน” เมื่อร้านปิดทำการสำหรับวันนี้ ปู้ฟางก็พูดหน้าตายขณะลูบศีรษะเด็กหญิง

“หา นายท่านตัวเหม็น จะไปก่อเรื่องที่ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์อีกแล้วรึ” โอวหยางเสี่ยวอี้เงยหน้าขึ้นมองปู้ฟางด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

สีหน้าของปู้ฟางมืดลงเล็กน้อย “ใครบอกว่าข้าจะหยุดร้านไปก่อเรื่องกัน… วันสองวันนี้ข้ามีอะไรต้องทำนิดหน่อย”

“เฮ้อ… ก็ได้ แต่ถ้านายท่านตัวเหม็นจะไปก่อเรื่องที่ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์อีก ก็อย่าลืมชวนข้าด้วยนะ! นายท่านหล่อมากตอนตบหน้าเจ้าของร้านเสียแตกหมอหลวงไม่รับเย็บ!” โอวหยางเสี่ยวอี้หรี่ตาเล็กหยี จากนั้นก็โบกกำปั้นเล็กๆ ของนางไปมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ข้าก็แค่พูดเรื่องจริง ไม่ได้ตบหน้าเจ้าของร้านแม้แต่น้อย แล้วเจ้าก็ควรใช้เวลาสองวันนี้ในการฝึกปราณให้พัฒนาขึ้นด้วย หวังว่าขั้นปราณของเจ้าจะเพิ่มขึ้นตอนข้ากลับมา เพราะอีกหน่อยการกินอาหารที่ร้านข้าจะต้องใช้ขั้นปราณที่สูงกว่านี้อีก” ปู้ฟางเอ่ย

ทันทีที่ได้ยินคำว่าขั้นปราณ ดวงตาของโอวหยางเสี่ยวอี้ก็เป็นประกายขึ้น นางยื่นมือออกมาเหมือนกำลังจะแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ “นายท่านตัวเหม็น ดูนี่สิ! พลังปราณของข้าอยู่ที่ขั้นกลางของระดับสามขั้นคลั่งยุทธการแล้วนะ!”

ปู้ฟางหันไปมองนางด้วยสีหน้าอวดดีแล้วเอ่ยหน้าตาย “นั่นเรียกว่าเร็วแล้วรึ เจ้ากินอาหารของร้านที่เปี่ยมด้วยพลังปราณไปตั้งมากมาย แต่ยังจัดว่าพัฒนาช้านัก แปลว่าเจ้าไม่ตั้งใจเท่าที่ควร ดูข้าสิ ข้าบรรลุระดับสี่ขั้นจิตยุทธการแล้ว”

“นายท่านตัวเหม็นนี่เป็นคนน่ารำคาญจริงๆ… ช่างเถอะ สาวงามคนนี้จะกลับบ้านแล้ว! ฮึ!” โอวหยางเสี่ยวอี้พ่นลมด่าด้วยสีหน้าเคืองโกรธ ก่อนจะหันหลังกลับ ทำแก้มป่องเดินออกจากร้านไป

เมื่อนางไปแล้ว ปู้ฟางก็นั่งยองๆ ลงตรงหน้าเจ้าดำ ชายหนุ่มลูบขนมันวาวไร้ที่ติของสุนัขตรงหน้าแล้วพูดออกมา “เจ้าหมาขี้เกียจ ข้าจะไม่อยู่สองวันนะ ไปหาอาหารกินเอาเองเล่า”

เจ้าดำลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน เมื่อได้ยินสิ่งที่ปู้ฟางพูด มันก็พ่นลมเย้ยแล้วกลอกตาสำทับทันที

ปู้ฟางเดินกลับเข้าร้านเพื่อไปหยิบไม้กระดานมาแผ่นหนึ่ง บนแผ่นไม้มีคำว่า ‘ร้านปิดชั่วคราว’ เขียนอยู่ ชายหนุ่มแขวนป้าย ปิดร้านเรียบร้อยแล้วเดินเข้าครัวไป

“ระบบ ในเมื่อข้าต้องหาวัตถุดิบเองในดินแดนป่ารกชัฏ แล้วเจ้าจะหาเครื่องปรุงให้ข้าไหม” ปู้ฟางถาม

“ระบบไม่มีให้” ระบบตอบเสียงเย็นชา

ปู้ฟางคิดเอาไว้แล้วว่าระบบจะต้องตอบเช่นนี้ เขาจึงตอบเพียง “อ้อ” จากนั้นก็หยิบผ้าผืนใหญ่ออกมา วางเกลือ ซีอิ๊ว พริกไทย และเครื่องปรุงอื่นๆ ลงไปบนผ้าผืนนั้น แล้วก็หยิบกระทะใบใหญ่ที่ใส่มีดทำครัว ตะหลิว และอุปกรณ์ทำครัวอื่นๆ เอาไว้ข้างในจนเต็มมาวางบนผ้า ชายหนุ่มตั้งใจจะเอาไปทั้งหมดนี่…

“…เป้าหมายของการเดินทางไปดินแดนป่ารกชัฏในครั้งนี้ คือการไปเก็บวัตถุดิบมาทำอาหาร ไม่ได้ไปเล่นขายของพ่อแม่ลูก รบกวนนายท่านช่วยเข้าใจจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ให้ถูกต้องด้วย เครื่องปรุงนั้นนำไปได้ แต่อุปกรณ์อื่นๆ นอกจากอุปกรณ์พ่อครัวเทพห้ามนำไป” ระบบพูดเสียงขึงขัง

ปู้ฟางชะงักกลางคันขณะกำลังเดินหน้าจัดสัมภาระ เขาถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ข้าไม่ได้ต้องทำอาหารจากวัตถุดิบที่จับมาได้รึ แล้วข้าจะดึงรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบออกมาได้อย่างไรเล่า หากไม่มีอุปกรณ์ทำอาหาร”

คราวนี้ระบบไม่แม้แต่จะเสียเวลาตอบ…

ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็เอาเครื่องปรุงสองสามอย่างใส่ลงไปในห่อผ้า แล้วกลับเข้าห้องไปนอน

วันต่อมา ทันทีที่แสงแรกของวันโผล่พ้นขอบฟ้า ชายหนุ่มก็ถูกระบบปลุกด้วยเสียงดังติ๊ดๆ ต่อเนื่องเหมือนนาฬิกาปลุก

“รบกวนนายท่านช่วยตั้งสติด้วย การเคลื่อนย้ายจะเกิดขึ้นในอีกห้านาที กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนย้าย”

ปู้ฟางประหลาดใจอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองด้านบน เขาเห็นประกายแสงปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ ประกายนั้นกำลังก่อตัวเป็นภาพวงแหวนปราณเคลื่อนย้ายสุดลึกลับ

………………..

Related

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset