ตอนที่ 172 แผนของจี้เจี้ยนอวิ๋น
ซูตานหงจ่ายค่าแรงพร้อมแจกแจงรายละเอียดให้ทุกคนทราบชัดเจนโดยทั่วกัน
ตอนนี้เธอรู้จักและคุ้นเคยกับชาวบ้านแถวนี้เป็นอย่างดี ผิดกับตอนที่เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้ใหม่ ๆ
“ตานหง ที่บ้านน้ามีเมล็ดทานตะวันอยู่ แวะเข้ามากินหน่อยไหมจ๊ะ?” คุณน้าคนหนึ่งบอกพร้อมยิ้มให้
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีลูกรออยู่ เดี๋ยวแกจะงอแงเอาน่ะค่ะ ” เธอตอบขณะส่งยิ้มตอบ
“เธอนี่เอาใจใส่ลูกดีจังเลยนะ เป็นฉันคงทำไม่ได้แบบนี้หรอกว่าไหม? แต่ถ้าเธอมีกำลังเลี้ยงพวกเขาดี ๆ ต่อไปก็คงจะได้เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัยแน่!” อีกฝ่ายตอบ
ซูตานหงเองก็ยินดีที่ได้ยินเช่นนี้
อีกฝ่ายลดเสียงลงก่อนเอ่ยถาม “ว่าแต่น้องสามีของเธอกำลังเล็ง ๆ ใครไว้อยู่หรือเปล่าล่ะ?”
เรื่องน้องสามีจะหมายตาใครไว้หรือไม่ เธอเองก็ไม่ต้องการเข้าไปข้องเกี่ยวจึงได้แต่บอก “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้าคุณน้าอยากรู้ก็ลองถามคุณแม่ดูก็ได้ค่ะ ยังไงหล่อนก็เป็นลูกสาว คุณแม่น่าจะรู้ดีที่สุดนะคะ”
ตัวจี้อวิ๋นอวิ๋นเองก็คงไม่คิดบอกใครว่าไม่อยากแต่งงานกับคนที่บ้านเกิดอยู่แล้ว
เว้นเสียแต่ว่าจะถามจากแม่สามีของเธอ
ซูตานหงจ่ายค่าแรงไล่ไปทีละครอบครัว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีก็เสร็จเรียบร้อย
เมื่อกลับมาเล่าเรื่องที่น้าไช่ถามถึงจี้อวิ๋นอวิ๋น จี้เจี้ยนอวิ๋นก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ “อวิ๋นอวิ๋นก็อายุไม่น้อยแล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนอยากรู้ แต่ว่าก็ปล่อยให้แม่กับน้องจัดการกันเองเถอะครับ”
เป็นธรรมดาที่เขาจะอยากให้น้องสาวเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง หากหล่อนทำได้อย่างที่หวังก็ดีไป แต่ด้วยนิสัยแบบนี้ ขืนแต่งงานไปคงจะมีแต่ก่อเรื่องวุ่นวายเสียมากกว่า
หากแต่ตอนนี้เขาก็งานยุ่งจนไม่มีเรี่ยวแรงไปสนใจเรื่องอื่นอีก
ซูตานหงเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร ถึงอย่างไรเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว
ก่อนที่สองสามีภรรยาจะเริ่มปรึกษากับเรื่องค่าใช้จ่าย
ไม่กี่เดือนมานี้พวกเขาจ่ายค่าแรงไปมาก ส่วนของคนงานประจำก็ยังเข้าใจได้ แต่สำหรับคนงานชั่วคราวนั้นมากถึง 200 หยวน เมื่อรวมกันแล้วก็ถือว่าไม่น้อย
แต่แน่นอนว่าผลผลิตก็มากเช่นกัน ปีนี้มีเก็บเกี่ยวผลไม้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะเชอร์รี่ ทว่าต่อให้เพิ่มขึ้นก็ยังไม่ได้มากมายขนาดนั้น
หลังหักค่าแรง ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ พวกเขาก็เหลือเงินเกือบจะจ่ายค่าปรับสำหรับการมีลูกคนที่ 3 ในอนาคตได้แล้ว
ซูตานหงค่อนข้างพอใจกับผลประกอบการ ตอนนี้เธอเริ่มกลับมาทำงานฝีมือแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นเป็นคนหาเลี้ยงทั้งครอบครัว แม้สามีจะดูเหนื่อยล้าแต่เขาก็มีกำลังใจดีมาก ยิ่งทำให้ดูมั่นใจและมีเสน่ห์มากขึ้นอีก
อย่างน้อยก็มีเธอคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์เขาล่ะนะ
“คุณคิดว่าเราซื้อที่ดินไว้ปลูกพืชผลเพิ่มดีไหมครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นหันมาถามภรรยาหลังจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จ
“ซื้อที่ไว้ปลูกพืชผลเหรอคะ? หมายถึงซื้อสวนอีกที่น่ะเหรอคะ?” เธอถามกลับ
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับและบอก “ก็คงประมาณนั้นครับ”
“ก็ดีนะคะ” เธอเอ่ย
ในชาติก่อนของเธอนั้น นอกจากการค้าขายแล้ว บ้านของเธอก็มีสวนตั้งมากมาย แล้วผลผลิตก็ดีเสียด้วย
“แน่ใจเหรอครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพลันฉายแววยินดีออกมา
“ค่ะ แต่ก็อย่าหักโหมนะคะ ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะว่าคุณเป็นเสาหลักของครอบครัวเรา ถ้าคุณเป็นอะไรไปก็ไม่คุ้มหรอกค่ะ” ซูตานหงตอบ
การทำสวนไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องเตรียมจ้างคนงานเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้สามีเหนื่อยเกินไปจนทำให้ร่างกายทรุดลง
แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นก็แข็งแรงเสียเหลือเกิน แม้จะงานยุ่งแต่ก็กินอาหารตรงเวลาเสมอ เขากินโจ๊กในช่วงเช้าก่อนจะแวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านหลังทำงานเสร็จ และกลับมากินอาหารแสนอร่อยฝีมือภรรยาในตอนค่ำ อีกทั้งเธอยังคอยต้มสมุนไพรมาแช่เท้าบำรุงให้ตลอดอีกด้วย
ไม่มีใครจะดีไปกว่าภรรยาของเขาอีกแล้ว เธอเป็นกำลังใจให้เขามีแรงสู้ต่อไปได้!
จี้เจี้ยนอวิ๋นเล่าแผนที่วางไว้ให้เธอฟัง “ครั้งนี้ผมว่าจะซื้อที่ดินทั้งหมด แล้วค่อยจ้างชาวบ้านมาช่วยกันปลูก พอได้ผลผลิตก็ส่งไปขายที่เมืองมหาวิทยาลัย!”
“มันจะต่างกับของคนอื่นยังไงล่ะคะ?” เธอยิ้ม
“ต่างสิครับ” เขายืนกราน
แม้เขาจะไม่เชื่อเรื่องงมงายแต่ก็เชื่อว่าสินค้าจากครอบครัวเขานั้นคุณภาพดีจนคนอื่นเทียบไม่ติด
อีกทั้งร้านที่เมืองมหาวิทยาลัยก็มีลูกค้าประจำที่พร้อมจะซื้อสินค้าจากสวนของเขาตลอดอยู่แล้ว
ที่เขาไม่อยากรับของคนอื่นมาขายแล้วก็เพราะครั้งล่าสุดที่เขาขนถั่วไปขาย มีลูกค้าที่รู้และกลับมาถามว่าไม่ใช่ของจากสวนเขาใช่หรือเปล่า? แม้จะไม่ได้บอกว่าเป็นของคนอื่นก็ตาม
จี้เจี้ยนอวิ๋นเองก็อึ้งไปเช่นกัน ก่อนถามกลับว่าสินค้ามีปัญหาเหรอ? เขาตรวจดูสินค้าทุกอย่างที่รับมาขายเพราะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมาก เขามั่นใจว่าทุกอย่างเป็นของดี ถั่วที่ขนมาก็ไม่ใช่ของเก่าเก็บแต่อย่างใด
ลูกค้าบอกเขาว่าถั่วนี้คุณภาพดี หากเอามาขายอีกก็จะซื้ออย่างแน่นอน รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ด้วย ติดอยู่เรื่องเดียวก็คือรสชาติที่หาได้ทั่วไปเท่านั้นเอง
สินค้าจากสวนของเขาทั้งน้ำผึ้ง ไข่ ไก่ และผลไม้ต่าง ๆ ล้วนมีประโยชน์ทำให้กินได้ทุกวัน
ลูกค้าหลายคนยังบอกว่าพอได้กินแล้วร่างกายแข็งแรงขึ้น
จี้เจี้ยนอวิ๋นหัวเราะและสัญญาว่าจะทำให้ประทับใจในสินค้ายิ่งขึ้นไปอีก ต่อไปร้านนี้ก็จะมีแต่ของจากสวนของเขาวางขายเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ ที่ร้านถึงได้มีผลไม้สดใหม่ขายทุกวัน หากแต่ตอนนี้พ้นช่วงฤดูกาลไปแล้วจึงเหลือเพียงแค่ลูกพลับ
พวกมันสามารถเอาไปใช้ทำขนมได้
ด้วยเหตุนี้สินค้าในร้านจึงเริ่มไม่ค่อยหลากหลาย
แม้ว่าปีใหม่นี้เขาว่าจะล้มแกะเพิ่ม แต่ยังมีจำนวนไม่มากพอที่จะเอามาขาย
ส่วนลูกหมู 21 ตัวในสวนอีกที่นับจากที่คุณพ่อจี้กับลุงจี้ไปซื้อมาก่อนจะเข้าหน้าผลไม้ก็มีอายุเพียง 2 เดือนเท่านั้น กว่าจะได้เชือดได้ก็คงต้องรอถึงช่วงปีใหม่ และเขาก็คงไม่คิดจะฆ่ามันทั้งที่ยังตัวเท่านี้
ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะซื้อที่ดินเพิ่มเพราะต้องการขยายกิจการ
ถึงเวลานั้นก็จะปลูกได้ทั้งข้าว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และธัญพืชอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นของแห้งที่เอาไปขายได้ทันที ทำให้สินค้าในร้านหลากหลายมากขึ้นไม่เหมือนอย่างในตอนนี้
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อวิ๋นอวิ๋นคงกู่ไม่กลับแล้ว ดูท่าคนที่จะมาปราบได้คงต้องเป็นคนที่ทำให้หลงหัวปักหัวปำจนยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเขาน่ะนะ
พี่จี้จะซื้อสวนเพิ่มอีกแล้ว ดูแลกันไหวไหมเนี่ย
ไหหม่า(海馬)