ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 67 อยู่ไฟหลังคลอด และเลี้ยงไก่

ตอนที่ 67 อยู่ไฟหลังคลอด และเลี้ยงไก่

ซูตานหงกับเสี่ยวเหรินเหรินตื่นขึ้นมาเกือบจะในเวลาเดียวกัน ซึ่งจี้เจี้ยนอวิ๋นได้ตุ๋นน้ำแกงไก่เอาไว้แล้ว เขาจึงยกน้ำแกงมาให้เธอดื่มก่อนจะอุ้มลูกชายไปปัสสาวะ

ขณะที่จี้เจี้ยนอวิ๋นพาลูกชายไปปัสสาวะนั้น ซูตานหงได้จิบน้ำวิเศษเข้าไปหลายอึกแล้ว ก่อนลงมือดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นอย่างช้า ๆ

ในตอนที่จี้เจี้ยนอวิ๋นกำลังให้ลูกชายปัสสาวะ เขาก็ได้เล่าเรื่องที่คุณแม่มาบอกเขาให้เธอฟัง “ภรรยา คุณอยากจะเลี้ยงไก่ไหมครับ?”

“เลี้ยงก็ได้ค่ะ หน้าหนาวอันยาวนานแบบนี้คุณก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว” ซูตานหงตอบ

จี้เจี้ยนอวิ๋นฟังแล้วก็มีความสุข ขณะซูตานหงกลอกตาใส่เขา

เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในใจของผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่? นี่ก็เพื่อให้แม่และเด็กอย่างพวกเธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างไรล่ะ ดูจากคนที่มีหัวใจทะเยอทะยานอย่างเขาแล้ว เขาจะอยู่เฉย ๆ กับแม่และเด็กอย่างพวกเธอทั้งวันได้อย่างไร?

ผู้ชายควรปล่อยให้ได้รับอิสระบ้าง อย่าเหนี่ยวรั้งเขาไว้มากนักเลย แน่นอนว่าหลักในการปล่อยให้เขาโผบินคือต้องทราบนิสัยของเขาก่อน หากเห็นว่าจะออกนอกเส้นทางก็อย่าปล่อยให้เขามีอิสระเกินไป

“ในอนาคตเราปรุงอาหารไก่ที่บ้านเราก็ได้นะคะ ใช้เตาที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วมาปรุงโดยเฉพาะ” ซูตานหงบอก

มันเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้น้ำวิเศษมาใช้ปรุงอาหารไก่หากกระทำเรื่องนี้ที่บ้าน ไม่อย่างนั้นมันจะดูประเจิดประเจ้อเกินไปหากเธอต้องไปปรุงอาหารไก่ที่บ้านหลักตระกูลจี้ท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้

“แล้วปรุงอาหารไก่บนภูเขาไม่ได้เหรอครับ? ไม่อย่างนั้นมันจะเย็นเสียก่อนหากต้องขนขึ้นภูเขาไปในวันที่อากาศหนาวนะ” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยอย่างงุนงง

“ปรุงบนภูเขาก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องใช้น้ำจากในถังเก็บน้ำของเรา เพราะน้ำที่บ้านเราคุณภาพดีกว่า” ซูตานหงยิ้ม

จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้มอย่างเห็นด้วยโดยไม่ได้เอ่ยอะไร

เขาเองก็คิดว่าน้ำที่บ้านมีรสอร่อยและหวานมากเช่นกัน มันถูกตักมาจากบ่อน้ำโบราณในหมู่บ้าน แต่ทำไมพอมาไว้ที่บ้านของเขาแล้วมันถึงมีคุณภาพดีเป็นพิเศษอย่างนี้นะ?

ภรรยาของเขารู้คำตอบในเรื่องนี้ แต่เขาไม่กล้าถามเธอหรอก

เพราะสิ่งที่ภรรยาบอกว่าดีก็คือดีแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงทำเพียงดูแลทั้งสองคนแม่ลูกให้ดีเท่านั้น เขามาหาคุณแม่จี้ที่บ้านหลักตระกูลจี้และนำไก่ที่เหลือครึ่งหนึ่งมาให้

“ฉันให้ตานหงไว้ตุ๋นกินบำรุงร่างกาย แกเอากลับมาทำไม?” คุณแม่จี้พูดรัวเร็ว

“ตานหงกินไม่ไหวแล้วครับ หลังกินน่องไก่ไปแล้วหล่อนก็ไม่ชอบกิน เลยยกให้ผมกินแทน ผมกินทุกวันจนเบื่อแล้ว ถ้าแม่ไม่กินก็เก็บไว้ทำมื้อเย็นส่งให้พ่อกินก็ได้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพูด

จากนั้นเขาก็พูดถึงเรื่องเลี้ยงไก่ “ตานหงบอกว่าหล่อนเลี้ยงพวกมันได้ครับ”

“งั้นก็ดีเลย!” หลังได้ยินดังนี้ คุณแม่จี้ก็เอ่ยขึ้น “แกกลับไปก่อนเถอะ ไว้แม่จะไปบอกพวกเขาว่าถ้าถึงเวลาแล้วก็ให้เก็บไข่ดิบบางส่วนไว้ให้เราด้วย ส่วนที่เหลือก็ขายไป”

จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงฝากธุระในเรื่องนี้ไว้กับนาง

คุณแม่จี้ทำงานได้ว่องไวมาก ไม่นานนางก็ไปทักทายคนทั้งหมด ซึ่งพวกเขาก็ไม่อาจเลี้ยงไก่มากมายขนาดนั้นได้ จึงเต็มใจขายไข่ไก่ให้กับนางเพื่อแลกกับผลกำไร

ตอนนี้ไข่ฟองหนึ่งมีราคาเกือบ 1 เหมา แต่ถ้าเป็นลูกเจี๊ยบจะมีราคา 2 เหมา ซึ่งนับว่าจะได้กำไรมาเป็น 2 เท่าตัว

ถ้าให้แม่ไก่ตัวหนึ่งฟักไข่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไข่เหล่านั้นจะฟักมาเป็นลูกเจี๊ยบทุกฟอง แต่อาจแยกเป็นไข่ที่ใช้กินได้กับไข่ที่จะโตมาเป็นลูกเจี๊ยบ ซึ่งนั่นก็ไม่สำคัญ แต่ถ้ามันฟักออกมาเป็นตัวก็จะทำกำไรได้

เมื่อใครบางคนได้ยินว่านางอยากได้ลูกเจี๊ยบ แต่เดิมที่ไม่ได้คิดจะให้ไข่ฟักเป็นตัวก็เริ่มเก็บไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์มาฟักให้เป็นตัวแล้ว

เวลาที่แม่ไก่จะฟักไข่นั้นไม่ได้สั้นเลย ต้องใช้เวลาถึง 20 วัน และซูตานหงก็คำนวณเวลาแล้วว่ากว่าที่พวกเขาจะได้เลี้ยงไก่ เธอก็เกือบจะได้ออกจากช่วงอยู่ไฟหลังคลอดแล้ว

ดังนั้นเธอจึงไม่เป็นกังวลเลยว่าลูกเจี๊ยบจะไม่รอด ตราบใดที่เธอสามารถจัดการตรงนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรมาขวางเธอได้

ในวันต่อมา ซูตานหงก็ยังอยู่ในระยะอยู่ไฟหลังคลอดอันน่าเบื่อ เธอเบื่อเสียจนต้องหยิบกระดาษออกมาจดแผนว่าจะทำอะไรบ้างไว้เป็นจำนวนมาก

อย่างเช่นปีหน้าเธอก็จะเปิดสวนสมุนไพรบนภูเขา เพื่อเอาไว้ปลูกพืชสมุนไพรบางอย่างไว้

คราวนี้เธอจะปลูกพืชสมุนไพรมีค่าหลายอย่าง เป็นต้นว่าโสมคน(1) สือหู(2) และฉายหู(3)

เธออยากจะปลูกโสมคนกับฉายหูจริง ๆ ส่วนสือหูนั้นเธอเคยซื้อมาจากร้านขายยาในชาติที่แล้ว ซึ่งสรรพคุณของมันดีมาก แต่ราคาก็แพงลิ่วเหลือเกิน

เธอจึงวางแผนจะปลูกแบบต้นสดไว้บนภูเขาในปีหน้า อยากใช้เมื่อใดก็สามารถไปเก็บมาบริโภคได้เสมอ ช่างดีอะไรอย่างนี้?

นอกจากนี้ที่เธออยากปลูกก็มีต้นป่านหลานเกิน(4) ดอกสายน้ำผึ้ง(5) ต้นต้าหวง(6) และอื่น ๆ ที่สามารถปลูกได้

จี้เจี้ยนอวิ๋นอยากรู้ว่าเธอเขียนแผนอะไรไว้บ้างจึงชะโงกหน้าไปดู เมื่อได้เห็นแล้วก็รู้สึกคาดไม่ถึงจนต้องยิ้มออกมา “ภรรยา คุณวางแผนจะเปิดร้านขายยาหรือไงครับเนี่ย?”

“ฉันไม่ได้วางแผนจะเปิดร้านขายยาหรอกค่ะ แค่อยากจะปลูกไว้ใช้เอง ถ้าฉันไม่ได้ใช้ก็ให้เพื่อนบ้านได้ใช้”ซูตานหงบอก

เธอไม่ได้วางแผนจะปลูกอะไรหลากหลายชนิดนักหรอก แค่เห็นว่าพื้นที่สวนผลไม้บนภูเขายังมีที่ว่างเหลืออยู่บ้าง แถมน้ำวิเศษก็ยังไม่พอใช้มากนักด้วย ตั้งแต่เธอคลอดลูกมันก็เหลืออยู่แค่อึกหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้ยังเหลือที่ดินอีก 1 หมู่ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาที่ดิน 1 หมู่ตรงนั้นไปทำอะไร แต่ในตอนกลางคืนเธอก็ได้ฝันว่าเข้าไปเดินดูรอบ ๆ พื้นที่ตรงนั้นแล้ว

พื้นดินตรงนั้นมีกลิ่นไอดินที่มหัศจรรย์มาก แต่เธอก็ไม่เข้าใจอะไรมากนัก

แต่เป็นเพราะการมีอยู่ของที่ดินตรงนี้นี่เอง จึงทำให้น้ำพุวิเศษเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนเกินกว่าจะใช้หมด มันจึงใช้ไปกับการปลูกพืชสมุนไพรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโสมคน ซึ่งจะปลูกให้ได้โสมคุณภาพดีนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

จี้เจี้ยนอวิ๋นหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น แต่ก็สนับสนุนภรรยาด้วยเช่นกัน “ผมไปหาเมล็ดกับต้นกล้าของพืชพวกนั้นมาให้คุณดีไหมครับ?”

“ค่ะ” ซูตานหงพยักหน้าและยื่นแผนที่เธอเขียนให้กับเขา

ฤดูหนาวนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นยังคงไปเรียนการจัดการสวนกับเหล่าฉิน แต่ล่าช้าไปบ้างเพราะซูตานหงกำลังอยู่ไฟหลังคลอด

20 วันกล่าวได้ว่าจะช้าก็ไม่ช้า จะเร็วก็ไม่เร็ว ไม่นานนักซูตานหงก็จะได้ออกจากการอยู่ไฟหลังคลอดแล้ว

สิ่งแรกที่เธอจะทำก็คือให้จี้เจี้ยนอวิ๋นต้มน้ำ 3 ถังให้เธออาบน้ำสระผมอย่างมีความสุข

หลังได้อาบน้ำแล้วเธอก็ตัวเบาราวกับนกนางแอ่น รู้สึกราวกับจะบินได้

เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วจี้เจี้ยนอวิ๋นก็รู้สึกขบขันและจนใจ เขารีบเข้าไปในบ้านไปหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าผมให้เธอ

ไดร์เป่าผมเครื่องนี้เจินเหมียวหงซื้อมาให้เป็นพิเศษจากเมืองเจียงสุ่ย และเขาก็มอบให้เป็นของขวัญของภรรยา

เมื่อมีไดร์เป่าผมแล้วชีวิตก็สะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่แห้งแล้ว

ในช่วงอยู่ไฟหลังคลอดของซูตานหงกับเหรินเหรินน้อยนี่เอง ไข่ไก่ในหมู่บ้านก็ได้ฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบแล้ว

จี้เจี้ยนอวิ๋นกับคุณแม่จี้ซื้อลูกเจี๊ยบพวกนี้มาด้วยราคาเป็นกันเอง ต่อให้มันจะสภาพไม่ดีนักเขาก็ซื้อมาทั้งหมด เพียงแค่ได้ซื้อถูกลงมา 5 เหมา เพราะถ้าลูกเจี๊ยบมีสภาพอ่อนแอมันจะไม่ค่อยกินอาหาร แต่ชาวบ้านทั้งหลายได้พยายามฟักไข่ให้เขาเป็นพิเศษ ซึ่งเขาก็ขอบคุณพวกเขาในเรื่องนี้

คนในหมู่บ้านจำคำพูดเขาไว้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาเองก็อยากหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตรงนี้ด้วย

มีครอบครัวหนึ่งที่แม่ไก่ 6 ตัวได้ฟักไข่ออกมา และได้ลูกเจี๊ยบทั้งหมด 50 ตัว ลูกเจี๊ยบ 1 ตัวมีราคา 2 เหมา 50 ตัวก็เท่ากับ 10 หยวน!

ครอบครัวนั้นเอ่ยอย่างมีความสุขว่าถ้าต้องการอีกก็สามารถมาคุยได้ในครั้งหน้า พวกเขาจะฟักลูกเจี๊ยบให้

ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้เงินกันไปคนละเล็กละน้อยราว 1 หรือ 2 หยวน และในที่สุดก็มีลูกเจี๊ยบมากกว่า 200 ตัวรวมกัน

มันใช้เงินไปหลายสิบหยวนในการซื้อลูกเจี๊ยบจนคุณแม่จี้รู้สึกท้อแท้ นางบอกว่ายังไม่ทันจะหาเงินได้ก็ต้องจ่ายไปมหาศาลอีกแล้ว

แต่นั่นก็เป็นเพียงคำบ่น เพราะต่อมาคุณแม่จี้ก็ยุ่งมากเช่นกัน นางต้องมาช่วยซูตานหงปรุงอาหารเลี้ยงลูกเจี๊ยบมากกว่า 200 ตัวนี้

เพื่อทำให้ลูกเจี๊ยบมากกว่า 200 ตัวอยู่รอด คุณแม่จี้ก็ให้แม่ไก่ 3 ตัวในบ้านที่สามารถออกไข่ได้ไปอยู่บนภูเขาทำหน้าที่ฟักลูกเจี๊ยบเพิ่ม!

…………………………………

Related

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]นี่ฉันทำกรรมอะไรมานะ? เด็กสาวที่เลือกเฟ้นมาอย่างดีให้อาสามถึงได้พยายามจะก่อเรื่องกินยาตายเพียงเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ นี่ถ้าช่วยเธอไว้ไม่ทัน แม่สะใภ้บ้านซูจะไม่มาหาเรื่องที่บ้านสกุลจี้ของพวกเราตายเหรอ? อาสามกำลังจะกลับมาถึงอยู่แล้ว หรือว่าเขากลับมาครั้งนี้เพื่อจัดงานศพให้เธอกัน?” คุณแม่จี้ที่อยู่ด้านนอกประตูพูดด้วยความรู้สึกขื่นขม “สะใภ้สามทำไมเธอยังไม่ลุกขึ้นมาอีก? ไม่เห็นเหรอว่าคุณแม่โกรธขนาดไหนแล้ว? แค่เพราะคุณแม่ให้โหวหวาจือกินแผ่นไข่ทอด(1)เธอต้องก่อเรื่องถึงขนาดนี้เลยหรือ? ทุก ๆ เดือนน้องสามก็ส่งเงินมาให้เธอตั้งมากเท่าไหร่แล้ว!” เฝิงฟางฟางตะเบ็งเสียงใส่ประตู

Comment

Options

not work with dark mode
Reset