บทที่ 150 กระดานซักผ้า
จางซิ่วเอ๋อจึงหมดความกังวลและเอ่ยยิ้ม ๆ “ถ้าอย่างนั้นท่านน้าเล็กซื้อลูกกวาดให้เราห่อหนึ่งนะเจ้าคะ ซานหยาชอบกิน!”
ลึก ๆ แล้วจางซิ่วเอ๋อเป็นผู้ใหญ่ จึงไม่ค่อยชอบกินขนม นางจึงขอขนมให้ซานหยาแทน ส่วนชุนเถาเหรอ? จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าเด็กนี่เสียดายเงิน ไม่กล้าเอาไปซื้อขนมแน่
เวลานี้ให้ชุนเถาพูดว่าอยากกินอะไรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
โจวเหวินไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เขามีรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า “ได้! เช่นนั้นเราไปซื้อกันเลย”
ที่ที่จะไปซื้อลูกกวาดอยู่ไม่ห่างจากอิ๋งเค่อจวี
ซื้อเสร็จแล้วจางซิ่วเอ๋อก็พาทุกคนไป
ตอนนี้นางไม่มีอะไรให้ต้องหลบซ่อน แต่คนที่อิ๋งเค่อจวีไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของนาง ถ้าตอนนี้คนของอิ๋งเค่อจวีเห็นนางอยู่กับน้องสาวและน้าเล็ก อาจจะเป็นการเผยไต๋ได้
อย่างไรเสียท่านน้าเล็กก็อาศัยอยู่ในเมือง สืบนิดหน่อยก็อาจจะรู้แล้วว่าที่บ้านเป็นใคร
จางซิ่วเอ๋อรู้ซึ้งถึงคำว่า ‘ราษฎรไร้ความผิด ผิดที่มีของดี*’ ทีเดียว
*คนธรรมดาที่ไม่มีความผิดกลับต้องกลายเป็นคนผิดเพราะครอบครองของดีที่ผู้มีอำนาจอยากได้
ตอนนี้ดูเหมือนเถ้าแก่เฉียนไม่ได้คิดร้ายอะไร แต่วันหน้าหากคนรู้เรื่องเครื่องเทศเยอะขึ้น ไม่แน่อาจจะมีใครอยากถามเรื่องสูตรเครื่องเทศจากตัวเองก็ได้
ถึงตอนนั้นถ้านางไม่อยากบอก……ก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรตามมาบ้าง
แม้จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ตัวเองจะปิดบังไว้ตลอดไป แต่จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่าการปิดบังฐานะตัวเองทำให้นางรู้สึกปลอดภัยขึ้น เพราะฉะนั้นปิดบังได้นานแค่ไหนก็ให้นานเท่านั้น
และโชคดีที่จางซิ่วเอ๋อไม่ได้เฉียดไปใกล้ ๆ อิ๋งเค่อจวี
เพราะตอนนี้คุณชายฉินที่จางซิ่วเอ๋อพยายามหลบหน้าตลอดได้อยู่ที่อิ๋งเค่อจวี
เรื่องที่คุณชายฉินต้องสะสางนั้นสำเร็จไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว ตอนนี้จึงมากินข้าวที่อิ๋งเค่อจวีเหมือนปกติ
นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายฉินมาที่อิ๋งเค่อจวีหลังจากลับมายังแคว้นชิงสือและมาที่เมือง
คุณชายฉินเป็นลูกค้ารายใหญ่ของอิ๋งเค่อจวี เถ้าแก่เฉียนจึงต้อนรับด้วยตัวเอง
ไม่นานนัก โต๊ะของคุณชายฉินก็มีอาหารวางอยู่เต็ม
เถ้าแก่เฉียนมองคุณชายฉินยกตะเกียบขึ้นอย่างสง่างาม คีบเนื้อปลามากินด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
เถ้าแก่เฉียนนึกในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายฉินกินอาหารที่ใส่เครื่องเทศ
เขาคาดหวังในใจประมาณหนึ่ง แน่นอนว่าเถ้าแก่เฉียนก็กังวลใจประมาณหนึ่งด้วย
เขากังวลว่าอาหารจะถูกปากคุณชายฉินหรือไม่ ถึงอย่างไรท่านเทพคุณชายฉินนั้นเอาใจยากสุด ๆ มาโดยตลอด บวกกับแม่นางเถาฮวาเป็นคนให้เครื่องเทศนี้ ด้วยเมื่อก่อนหน้านั้นแม่นางเถาฮวาเคยล่วงเกินคุณชายฉินไว้….
เถ้าแก่เฉียนจึงไม่มั่นใจอยู่นิดหน่อย
คุณชายฉินกินเข้าไปได้หนึ่งคำก็ชะงัก คิ้วขมวด
เถ้าแก่เฉียนเห็นแล้วใจเต้นระทึก กลัวว่าตัวเองจะเอาใจคุณชายฉินผิดกลายเป็นล่วงเกินแทน
จากนั้นปมคิ้วของคุณชายฉินก็ค่อย ๆ คลายออก และเขาก็โบกมือ
เถ้าแก่เฉียนดีใจ รู้ว่าคุณชายฉินให้ตัวเองไปได้แล้ว
นั่นหมายถึงอะไร? นั่นก็หมายถึงคุณชายฉินชอบอาหารจานนี้น่ะสิ จึงอยากกินคนเดียว ไม่อยากให้คนอื่นจ้องอยู่ข้าง ๆ
ผ่านไปราว 15 นาที เด็กติดตามชุดเขียวข้างกายคุณชายฉินก็เรียกเถ้าแก่เฉียนเข้าไป
เถ้าแก่เฉียนกวาดตามองบนโต๊ะ พบว่าปลาที่คุณชายฉินชอบกินถูกกินไปกว่าครึ่ง ก็รู้สึกปลาบปลื้ม ปกติคุณชายฉินไม่เคยกินเยอะขนาดนี้เลย
ครั้งนี้อาหารจานอื่นก็กินไปแล้วไม่น้อย…..
ดูท่าเครื่องเทศนี้จะเกิดผลดีแล้ว
คุณชายฉินถามเสียงเนิบ “รสชาติไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนคนทำรึ?”
เถ้าแก่เฉียนไม่กล้าปิดบัง เขารีบบอก “ยังเป็นคนเดิมขอรับ”
“อร่อยขึ้นตั้งเยอะ เพราะอะไรล่ะ?” คุณชายฉินถามอย่างแปลกใจ
ที่จริงคนที่ทำอาหารอร่อยมีไม่น้อย แต่คุณชายฉินไม่ได้ถามทุกคนแบบนี้ ประเด็นคืออาหารที่ได้กินวันนี้มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ แม้แต่โรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดเขาเองก็ไม่เคยได้กินรสชาติแบบนี้
คุณชายฉินเป็นคนทำการค้า เวลานี้จึงรู้สึกว่าเป็นโอกาสสร้างรายได้
หากอิ๋งเค่อจวีมีคนทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้จริง ๆ อย่างนั้นการที่อิ๋งเค่อจวีมาเปิดที่เมืองเล็ก ๆ แบบนี้ก็ออกจะน่าเสียดาย
เถ้าแก่เฉียนกล่าว “เพราะในอาหารใส่เครื่องเทศพิเศษไว้ขอรับ”
“หืม? เครื่องเทศอะไร?” คุณชายฉินยิ่งเกิดความสนใจเข้าไปใหญ่
เถ้าแก่เฉียนไม่รู้ว่าในเครื่องเทศมีส่วนผสมอะไร ตอนนี้ได้แต่ตอบคลุมเครือ “เป็นเครื่องเทศที่ทำจากสมุนไพรหลายอย่างน่ะขอรับ”
“ใครเป็นคนทำ?” คุณชายฉินถาม
ได้ยินดังนี้ เถ้าแก่เฉียนก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกังวลได้เกิดขึ้นแล้ว คุณชายฉินถามว่าใครทำ ก็หมายความว่าไม่อาจปกปิดเรื่องของแม่นางเถาฮวาได้อีกต่อไป
เขาสูดหายใจเข้าลึก รำพึงในใจขอให้คุณชายฉินเห็นแก่ที่แม่นางเถาฮวาทำเครื่องเทศรสโอชะขนาดนี้ได้ไม่ถือสาเรื่องของนางเมื่อก่อนหน้านี้
แต่เถ้าแก่เฉียนยังรู้สึกหวั่นใจอยู่ จึงก้มหน้าตอบเสียงแผ่ว “แม่….แม่นางเถาฮวาขอรับ”
เถ้าแก่เฉียนไม่เห็นความตะลึงในนัยน์ตาคุณชายฉิน
แต่คุณชายฉินไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากที่รู้ว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นคนทำสิ่งนี้ ไม่รู้เขานึกอะไรขึ้นได้ หลังจากตะลึงไปชั่วครู่ พริบตาเดียวก็กลับมาสงบ
เถ้าแก่เฉียนเห็นคุณชายฉินเงียบไป จึงเงยหน้ามองสีหน้าคุณชายฉินอย่างระมัดระวัง
แต่ตอนนี้คุณชายฉินมีสีหน้าปกติ มองอะไรไม่ออกแล้ว
“เอาของมาให้ข้าดู” คุณชายฉินกล่าว
เถ้าแก่เฉียนรีบสั่งให้เสี่ยวเอ้อไปเอาเครื่องเทศมา
ถ้าจางซิ่วเอ๋ออยู่ต้องด่าเถ้าแก่เฉียนยกใหญ่แน่ ๆ นางไม่กลัวศัตรูระดับเทพหรอก เพียงแต่กลัวสหายที่โง่เหมือนหมูเท่านั้น
เพิ่งจะร่วมงานกันได้ไม่นาน เถ้าแก่เฉียนก็ขายนาง เอาเครื่องเทศที่นางทำไปเอาใจคุณชายฉินเสียแล้ว
ไม่นานนักเสี่ยวเอ้อก็นำห่อกระดาษเครื่องปรุงมา
เด็กติดตามชุดเขียวข้างกายคุณชายฉินรีบรับห่อเครื่องปรุงมา ทันทีที่รับมา เขาก็ได้กลิ่นแสบจมูก จึงเอ่ยขึ้นทันที “นี่มันอะไร? ทำไมแสบจมูกขนาดนี้? เถาฮวาอะไรนั่นไม่ได้เอายาพิษให้พวกท่านใช่ไหม?”
“ถ้าคุณชายของข้ากินแล้วไม่สบายขึ้นมา พวกท่านอย่าหวังว่าจะรอด!” เด็กติดตามชุดเขียวขู่
ต่อให้เป็นแค่เด็กติดตามของคุณชายฉิน เถ้าแก่เฉียนก็ไม่กล้ามีปัญหา
เถ้าแก่เฉียนรีบบอก “ไม่มีทางมีปัญหา ข้าเองเคยกินแล้ว และอาหารแบบนี้ขายมาหลายวันแล้ว……”
เด็กติดตามชุดเขียวไม่ชอบจางซิ่วเอ๋อ พอคิดว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นคนทำก็ยิ่งไม่พอใจเครื่องปรุงนี่ขึ้นมา
คุณชายฉินมองเด็กติดตามชุดเขียวด้วยสายตาตักเตือน เด็กติดตามชุดเขียวจึงไม่กล้าพูดมากอีก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ซวยแล้วซิ่วเอ๋อ ตาคุณชายนี่ตามติดแน่ๆ หาทางตั้งรับไว้เลยค่ะ
ไหหม่า(海馬)